ทำเนียบรัฐบาล 18 เม.ย.-รองโฆษกรัฐบาลเผยนายกฯ เตรียมร่วมการประชุมเวทีข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทางที่ปักกิ่ง 26-27 เม.ย.นี้ เน้นย้ำบทบาทไทยฐานะประธานอาเซียน ผลักดันความร่วมมือทุกมิติ
พล.ท.วีรชน สุคนธปฎิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) พร้อมคณะประกอบด้วย นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม มีกำหนดการเข้าร่วมการประชุมเวทีข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทาง (Belt and Road Forum for International Cooperation – BRF) ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 26 – 27 เมษายน 2562 ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หัวข้อหลักของการประชุม BRF ครั้งที่ 2 คือ Belt and Road Cooperation: Shaping a Brighter Shared Future ซึ่งจะมีผู้นำจาก 38 ประเทศเข้าร่วม และจะรับรองแถลงการณ์ร่วมของการประชุมผู้นำโต๊ะกลม (Leaders Roundtable) เพื่อแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นของประเทศที่อยู่ในเส้นทางสายไหมในการส่งเสริมความร่วมมือด้านความเชื่อมโยงทุกมิติ รวมทั้งการเชื่อมโยงนโยบายการพัฒนาร่วมกัน เพื่อกระชับความสัมพันธ์และความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนาอย่างยั่งยืนระหว่างประเทศที่อยู่ในเส้นทางสายไหมให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
“สำหรับประเด็นที่นายกรัฐมนตรีจะผลักดันในที่ประชุม คือการเน้นย้ำบทบาทไทยในฐานะประธานอาเซียนในการส่งเสริมความเชื่อมโยงในทุกมิติ และแสดงความพร้อมที่จะร่วมมือกับจีน เพื่อส่งเสริมความเชื่อมโยงในอนุภูมิภาคและภูมิภาค การขยายความร่วมมือเพื่อส่งเสริมนโยบายประเทศไทย 4.0 นโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่จะเชื่อมต่อกับระเบียงเศรษฐกิจในอนุภูมิภาค และการยกระดับสถานะไทยสู่การเป็นศูนย์กลางทางโลจิสติกส์ คมนาคมของอาเซียน การผลักดันให้จีนใช้ประโยชน์จากศักยภาพของ ACMECS ในการเป็นตัวเชื่อมจีนและอาเซียน และส่งเสริมความเชื่อมโยงอย่างไร้รอยต่อระหว่างกรอบความร่วมมือระหว่างมณฑลกวางตุ้ง – ฮ่องกง – มาเก๊า และกรอบความร่วมมือพื้นทีสามเหลี่ยมลุ่มแม่น้ำจูเจียง กับ EEC” พล.ท.คงชีพ กล่าว
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในโอกาสนี้นายกรัฐมนตรีจะพบปะหารือกับผู้นำระดับสูงของจีน ได้แก่ ประธานาธิบดี สี จิ้น ผิง นายหลี่ เค่อ เฉียง นายกรัฐมนตรี โดยจะหารือแนวทางการกระชับความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ การสานต่อและผลักดันความร่วมมือทวิภาคี โดยเฉพาะความเชื่อมโยง ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและดิจิทัล การพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม รวมถึงความร่วมมือจีน ญี่ปุ่นในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) การส่งเสริมความร่วมมือระหว่างไทยกับจีนในอนุภูมิภาคและภูมิภาค พร้อมย้ำความสำคัญของบทบาทที่สร้างสรรค์ของจีนในภูมิภาค และการดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนของประเทศไทยด้วย.-สำนักข่าวไทย
