fbpx

ถนนสายเอเชียรับรถจากภาคเหนือเข้า กทม. ยิ่งค่ำยิ่งหนาแน่น

อยุธยา 16 เม.ย.-ยิ่งเข้าสู่ช่วงค่ำ ปริมาณรถกลับเข้า กทม.ที่ผ่านทาง จ.พระนครศรีอยุธยา ยิ่งหนาแน่นมากขึ้น โดยเฉพาะสายเอเชีย ที่รับรถจากภาคเหนือ เจ้าหน้าที่คาดเวลาประมาณ 22.00 น.น่าจะระบายรถได้หมด


ผู้สื่อข่าวรายงานจาก กม.ที่ 0 ของถนนสายเอเชีย รับรถจากภาคเหนือ มุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ ซึ่งเป็นจุดที่จะมีปัญหาจราจรมากที่สุดในทุกปีช่วงเทศกาล ด้านหลังที่เห็นคือรถที่มาจากสายเหนือ ถ้าเลยมาอีกหน่อยจะมีทางแยกไปทางปทุมธานีได้ แต่ผู้ใช้รถส่วนใหญ่ไม่ทราบ ก็พยายามที่จะหลีก เตรียมที่จะแยกตั้งแต่ก่อนถึงทางแยกข้างหน้า เมื่อเบียดเข้ามาก็ทำให้บริเวณนี้รถจะชะลอตัว และอีกเหตุผลที่ทำให้การจราจรชะลอตัวคือ แนวเส้นทึบ ผู้ใช้รถเมื่อเห็นแนวเส้นทึบ ก็จะไม่กล้าเข้ามา แม้เจ้าหน้าที่จะพยายามเปิดพื้นที่เพื่อระบายรถ 


สภาพปัญหาที่เกิดขึ้น พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่เดินทางมาตรวจสอบสภาพปัญหา และหารือถึงความเป็นไปได้ในการแก้ปัญหา เพื่อช่วยเร่งระบายรถ โดยกล่าวว่า สภาพจราจรล่าสุด ถนนสายเอเชียขาเข้า รถชะลอตัวอยู่ที่ กม.ที่ 5 พอเลยไป ใช้ความเร็วได้ถึง 100 กม./ชม. แต่จาก กม.ที่ 5 มาถึง กม.ที่ 0 ความเร็วจะอยู่ที่ 20-40 กม./ชม. ตามจังหวะรถ ปัญหาเกิดจากประชาชนยังไม่เข้าใจว่า รถที่จะเลี้ยวซ้ายเข้ามอเตอร์เวย์ สามารถเลี้ยวซ้ายได้ 3-4 ช่องทาง แต่ส่วนใหญ่เข้าใจว่าต้องทางซ้ายอย่างเดียว จึงทำให้เกิดการชะลอตัว เพราะผู้ใช้รถตบซ้ายออกหมด ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็พยายามโบกให้ผู้ใช้รถใช้ช่องทางขวามากขึ้น ส่วนรถที่เข้ากรุงเทพฯ ไม่มีปัญหาเลย หลังจากเลย กม.ที่ 0 


สำหรับบริเวณ ถ.พหลโยธิน ขาเข้า ตำรวจทางหลวงเปิดรีเวิร์สเลนในช่วง กม.ที่ 99 จ.สระบุรี แล้วเบี่ยงเข้าที่ กม.ที่ 74 อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ช่วง กม.ที่ 74-78 จะเป็นช่วงรถเข้าคิวเพื่อที่จะเข้าช่องทางปกติ จึงทำให้มีรถสะสมเล็กน้อย แต่เนื่องจากตำรวจทางหลวงและพระนครศรีอยุธยาเข้าจุดเร็วมาเร่งระบายรถเพื่อรับรถ ทำให้การจราจรช่วงนี้ไม่เป็นปัญหา แต่อาจมีการชะลอตัวบ้าง ความเร็วที่วิ่งได้อยู่ที่ประมาณ 60-70 กม./ชม

พล.ต.ต.โชคชัย ยอมรับวันนี้รถมากกว่าเมื่อวาน แต่ก็มีการวางแผนจัดการจราจร นอกจากการเปิดรีเวิร์สเลน ยังมีการปิดห้ามเลี้ยวในเส้นทางรองแยกบางแยก เพื่ออำนวยความสะดวกเส้นทางหลัก คาดว่าการจราจรภาพรวมน่าเป็นปกติช่วงเวลาประมาณ 22.00 น. และยังจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังอุบัติเหตุเข้าช่วยเหลือทันที หากพบรถเสีย รถจอด รวมทั้งจุดที่เลี้ยวซ้ายไปมอเตอร์เวย์ จัดตำรวจประจำปั๊มน้ำมัน เพื่อดูแลการจราจรอีกด้วย.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” ลุยเชียงใหม่ร่วมบิ๊กคลีนนิ่ง ฟื้นฟูหลังน้ำลด

“อนุทิน” ลงพื้นที่เชียงใหม่ ร่วมทีม จนท.-กู้ภัย-อาสาสมัคร “บิ๊กคลีนนิ่ง” ฟื้นฟูเมืองหลังน้ำลด เร่งจ่ายเยียวยาผู้ประสบภัย