fbpx

พม.นำดารานางแบบ รณรงค์์ สงกรานต้์ ปลอดเหล้า เคารพสิทธิ

สีลม 11 เม.ย.- พม.นำศิลปินดาราและเครือข่าย ร่วมออกรณรงค์ “สงกรานต์ปลอดภัย ปลอดเหล้า เคารพสิทธิ” พร้อมจัดขบวนแฟนซีสะท้อน ‘พฤติกรรมสุดยี้ที่ไม่ควรเกิดขึ้นในช่วงสงกรานต์”


บ่ายวันนี้ (11เม.ย.) ที่อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ถนนสีลม กรุงเทพฯ นายเลิศปัญญา บูรณบัณฑิต อธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ร่วมกับ ดารา นางแบบ จาก The face Thailand พร้อมด้วยนายจะเด็จ เชาวน์วิไล ผู้อำนวยการมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล นายวิษณุ ศรีทะวงศ์ ผู้จัดการแผนนโยบายสาธารณะ สำนักงานเครือค่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) เครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดกิจกรรมเดินรณรงค์ “สงกรานต์ ปลอดภัย เคารพสิทธิ” โดยมีกลุ่มเยาวชนจัดขบวนแฟนซีสะท้อน 5 พฤติกรรมที่เป็นปัจจัยเสี่ยง และไม่ควรเกิดขึ้นในช่วงสงกรานต์ ได้แก่ 1) ลวนลามคุกคามทางเพศ 2) ดื่มเหล้า/เมาขาดสตรี 3) แว๊นซิ่ง/อุบัติเหตุ 4) ทะเลาะวิวาท และ 5) อุปกรณ์เล่นน้ำที่ไม่เหมาะสม/อันตราย)    


นายเลิศปัญญา กล่าวว่ากรมกิจการสตรีฯ ซึ่งมีภารกิจในการคุ้มครองและพิทักษ์สิทธิสตรีและการส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศ ตระหนักถึงภัยคุกคามทางเพศที่จะเกิดขึ้นในช่วงเทศกาลสงกรานต์ จึงร่วมกับมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ และสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า จัดกิจกรรมรณรงค์ฯ มาอย่างต่อเนื่อง 

ในปีนี้ใช้แนวคิด “สงกรานต์ปลอดภัย ปลอดเหล้า เคารพสิทธิ” เพื่อสร้างความตระหนักถึงึคปัญหาการคุกคามทางเพศที่เกิดขึ้นในช่วงสงกรานต์ และรณรงค์ ประชาสัมพันธ์เน้นย้ำให้ทราบว่าการคุกคามทางเพศเป็นเรื่องผิดกฎหมายและมีโทษร้ายแรงสูงสุดจำคุก 10 ปี ปรับถึง 200,000 บาท การเคารพสิทธิซึ่งกันและกัน การไม่ใช้ความรุนแรงในทุกรูปแบบ ที่สำคัญกระตุ้นผู้ประกอบการภาคเอกชนตระหนักถึงผลกระทบการจัดงานที่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึงขอความร่วมมือร้านค้าจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอลตามเวลาที่กฎหมายกำหนด เพื่อให้ทุกคนได้เล่นน้ำสงกรานต์อย่างปลอดภัยในทุกพื้นที่ และได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย หากใครที่โดนลามหรือถูกคุกคามทางเพศ สามารถโทรแจ้งได้ที่สายด่วน 1300 ของหน่วยงาน พม. โดยโทรได้ฟรีตลอด 24 ชม.


สำหรับกิจกรรมเดินรณรงค์วันนี้ มีขบวนแฟนซีจากกลุ่มเยาวชนที่มาสะท้อนถึงพฤติกรรมที่ไม่ควรเกิดในช่วงสงกรานต์ โดยมีเหล่าดารา นางแบบ นำทีมโดย ‘มารีญา พูลเลิศลาภ’  มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2560 ร่วมเดินในครั้งนี้ด้วย โดยเดินรณรงค์แจกสื่อประชาสัมพันธ์ จากบริเวณหน้าโรงแรมดุสิตธานี ไปยังหน้าอาคารสีลมคอมเพล็กซ์

ด้านนายจะเด็จ กล่าวว่า ที่ผ่านมาเวลามีข่าวเรื่องการคุกคามทางเพศ หลายคนมักจะพุ่งเป้าไปที่ผู้หญิงฝ่ายเดียวว่าเป็นเพราะเรื่องการแต่งตัวที่ไม่เหมาะสมหรือแต่งตัวโป๊ เป็นเหตุให้ถูกลวนลามหรือถูกล่วงละเมิดทางเพศ แต่ที่จริงแล้วเรื่องการแต่งตัวมิใช่ปัจจัยชี้ขาด ปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากการที่ผู้ชายมีความคิดแบบชายเป็นใหญ่ ขาดสติยับยั้งชั่งใจ การไม่ถูกปลูกฝังในเรื่องการเคารพในสิทธิเนื้อตัวร่างกายผู้อื่น ใช้สิทธิเสรีภาพแบบผิดเพี้ยน ดังนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันรณรงค์เน้นย้ำในประเด็นสำคัญ 1) การคุกคามทางเพศคือเรื่องผิดกฎหมายทั้งหมด ไม่ว่าจะในเพศไหนก็ตาม 2) การปรับเปลี่ยนทัศนคติว่าการเล่นน้ำสงกรานต์ต้องเคารพสิทธิซึ่งกันและกัน งานสงกรานต์ไม่ใช่เทศกาลฉวยโอกาสหรือเทศกาลคุกคามทางเพศ และ การปรับเปลี่ยนทัศนคติคนในสังคมเรื่องผู้ชายเป็นใหญ่ ควรมีการปลูกฝังตั้งแต่ในโรงเรียน เช่น ในระดับมัธยมศึกษา เพราะเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ที่สำคัญคือการช่วยกันเฝ้าระวังเป็นหูเป็นตา  แจ้งเหตุ และการที่ผู้เสียหายกล้าลุกขึ้นมาปกป้องสิทธิของตัวเอง  ซึ่งกลไกของรัฐต้องพร้อมในการช่วยเหลือที่ทันเวลาด้วย

น.ส.อจิรภา ไมซิงเกอร์ หรือซาบีน่าเดอะเฟส ในฐานะตัวแทนดารานางแบบที่มาร่วมกิจกรรมวันนี้ กล่าวว่า สิ่งที่ต้องตระหนักในเทศกาลสงกรานต์ คือความปลอดภัย โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยง มีการดื่มแอลกอฮอล์ จากประสบการณ์ที่ผ่านมา เคยถูกลวนลามช่วงสงกรานต์ ซึ่งหลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น ทำให้เกิดภาพจำฝังใจ และหยุดเที่ยวเทศกาลสงกรานต์ไปพักใหญ่ แต่ก็ไม่ได้อยากให้ยกเลิกเทศกาลนี้ เพราะเป็นเทศกาลสำคัญเป็นวัฒธรรมของไทย แต่การเล่นน้ำต้องเคารพสิทธิผู้อื่น ไม่ฉวยโอกาส ไม่ลวนลาม ส่วนการกำหนดให้ผู้หญิงแต่งตัวมิดชิดนั้น เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ต้นตอคือผู้ก่อเหตุกลับถูกละเลย ลอยนวล ควรจะหาแนวทางหรือวิธีป้องกันที่ต้นเหตุของปัญหา สำหรับใครที่จะเที่ยวช่วงเทศกาลสงกรานต์ ก็อยากให้มีการเซฟตัวเอง อย่าไปคนเดียว ควรมีเพื่อนไปเป็นกลุ่ม เพราะการไปคนเดียวมันไม่ปลอดภัย และหวังว่ากิจกรรมรณรงค์ครั้งนี้ จะช่วยสร้างความตระหนักได้ 

ทั้งนี้ จากผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนต่อเทศกาลสงกรานต์ ในกลุ่มอายุตั้งแต่ 12-25 ปี จำนวน 2,400 ตัวอย่างในพื้นที่ กรุงเทพฯและปริมณฑล และในต่างจังหวัดทั้ง 4 ภาค โดยเก็บข้อมูลตั้งแต่วันที่ 13 – 27 มี.ค.2562 พบว่าร้อยละ 48.7 เคยถูกลวนลามคุกคามทางเพศในช่วงสงกรานต์ สำหรับพฤติกรรมเสี่ยงและน่าเบื่อหน่าย สร้างปัญหามากในช่วงสงกรานต์ 5 อันดับแรก ได้แก่ 1)เมาขาดสติ 2) ฉวยโอกาสลวนลามคุกคามทางเพศ 3)ทะเลาะวิวาท 4)อนาจารโป๊เปลือย และ 5) แว๊นซิ่ง ส่วนปัญหาอื่นในลำดับถัดมาคือเสียงดังอึกทึก โดนแซวพูดจาไม่ดี ใช้อุปกรณ์อันตรายเช่น แมงลัก น้ำแข็ง  ปืนแรงดันสูง บังคับให้ดื่มแอลกอฮอล์และดักรถเพื่อรีดไถเงินข่มขู่ 

ส่วนสาเหตุที่ทำให้เกิดพฤติกรรมเหล่านี้ คือ ร้อยละ 32.9 มาจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ร้อยละ 20.4 การบังคับใช้กฎหมาย (บทลงโทษน้อย) ร้อยละ 19 คึกคะนอง ร้อยละ 15.3 ค่านิยมผิดๆ และ 12.4 ไม่รู้จักเคารพให้เกียรติผู้อื่น เมื่อถามว่า สงกรานต์ปีนี้จะดื่มเหล้าหรือไม่ กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เกินครึ่ง ร้อยละ 59.1 ระบุว่า ไม่ดื่ม อีกทั้งร้อยละ 89.6 เห็นด้วยว่าควรจัดพื้นที่โซนนิ่งเล่นน้ำปลอดเหล้าและร้อยละ73.5 เห็นด้วยว่าควรงดจำหน่ายสุราในวันที่13 เม.ย.(ที่มา:มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล/สำรวจ มี.ค. 2562).-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

ผลสอบ “ครูเบญ” เบื้องต้นไม่ผ่านเกณฑ์ ส่ง พฐ.ร่วมตรวจพิสูจน์

สพฐ. เผยผลสอบ “ครูเบญ” เบื้องต้นคะแนนไม่ผ่านเกณฑ์ ร้อยละ 60 ทั้งภาค ก. ภาค ข. และไม่ติด 1 ใน 10 ส่งข้อสอบให้ พฐ. ตรวจพิสูจน์เพื่อความโปร่งใส

นายกฯ ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบภัย

“นายกฯ แพทองธาร” ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบอุทกภัย หวัง ศปช.รับมือ-ช่วยเหลือรวดเร็วทันท่วงที รวมถึงการเยียวยาหลังจากนี้

ฟื้นฟูชายแดนแม่สาย-เร่งกู้ตลาดสายลมจอย

เจ้าหน้าที่เร่งฟื้นฟูชุมชนชายแดนแม่สายที่ถูกน้ำท่วมและจมโคลนมานาน 10 วัน รวมทั้งเร่งกู้ตลาดสายลมจอยแหล่งจำหน่ายสินค้าชายแดนที่เสียหายอย่างหนัก

ฆ่ารัดคอขับโบลท์

รวบ “ไอ้แม็ก” ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ พบเคยถูกจับคดีโหด

จับแล้ว “ไอ้แม็ก” เดนคุก ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ ทิ้งร่างอำพราง ริมถนนห้วยพลู จ.นครปฐม ก่อนเอารถไปขาย สอบประวัติ พบเพิ่งพ้นโทษ คดีล่ามโซ่ล่วงละเมิดเด็กวัย 13 ปี นาน 1 สัปดาห์ เมื่อปี 2553