พม.นำดารานางแบบ รณรงค์์ สงกรานต้์ ปลอดเหล้า เคารพสิทธิ

สีลม 11 เม.ย.- พม.นำศิลปินดาราและเครือข่าย ร่วมออกรณรงค์ “สงกรานต์ปลอดภัย ปลอดเหล้า เคารพสิทธิ” พร้อมจัดขบวนแฟนซีสะท้อน ‘พฤติกรรมสุดยี้ที่ไม่ควรเกิดขึ้นในช่วงสงกรานต์”


บ่ายวันนี้ (11เม.ย.) ที่อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ถนนสีลม กรุงเทพฯ นายเลิศปัญญา บูรณบัณฑิต อธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ร่วมกับ ดารา นางแบบ จาก The face Thailand พร้อมด้วยนายจะเด็จ เชาวน์วิไล ผู้อำนวยการมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล นายวิษณุ ศรีทะวงศ์ ผู้จัดการแผนนโยบายสาธารณะ สำนักงานเครือค่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) เครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดกิจกรรมเดินรณรงค์ “สงกรานต์ ปลอดภัย เคารพสิทธิ” โดยมีกลุ่มเยาวชนจัดขบวนแฟนซีสะท้อน 5 พฤติกรรมที่เป็นปัจจัยเสี่ยง และไม่ควรเกิดขึ้นในช่วงสงกรานต์ ได้แก่ 1) ลวนลามคุกคามทางเพศ 2) ดื่มเหล้า/เมาขาดสตรี 3) แว๊นซิ่ง/อุบัติเหตุ 4) ทะเลาะวิวาท และ 5) อุปกรณ์เล่นน้ำที่ไม่เหมาะสม/อันตราย)    


นายเลิศปัญญา กล่าวว่ากรมกิจการสตรีฯ ซึ่งมีภารกิจในการคุ้มครองและพิทักษ์สิทธิสตรีและการส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศ ตระหนักถึงภัยคุกคามทางเพศที่จะเกิดขึ้นในช่วงเทศกาลสงกรานต์ จึงร่วมกับมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ และสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า จัดกิจกรรมรณรงค์ฯ มาอย่างต่อเนื่อง 

ในปีนี้ใช้แนวคิด “สงกรานต์ปลอดภัย ปลอดเหล้า เคารพสิทธิ” เพื่อสร้างความตระหนักถึงึคปัญหาการคุกคามทางเพศที่เกิดขึ้นในช่วงสงกรานต์ และรณรงค์ ประชาสัมพันธ์เน้นย้ำให้ทราบว่าการคุกคามทางเพศเป็นเรื่องผิดกฎหมายและมีโทษร้ายแรงสูงสุดจำคุก 10 ปี ปรับถึง 200,000 บาท การเคารพสิทธิซึ่งกันและกัน การไม่ใช้ความรุนแรงในทุกรูปแบบ ที่สำคัญกระตุ้นผู้ประกอบการภาคเอกชนตระหนักถึงผลกระทบการจัดงานที่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึงขอความร่วมมือร้านค้าจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอลตามเวลาที่กฎหมายกำหนด เพื่อให้ทุกคนได้เล่นน้ำสงกรานต์อย่างปลอดภัยในทุกพื้นที่ และได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย หากใครที่โดนลามหรือถูกคุกคามทางเพศ สามารถโทรแจ้งได้ที่สายด่วน 1300 ของหน่วยงาน พม. โดยโทรได้ฟรีตลอด 24 ชม.


สำหรับกิจกรรมเดินรณรงค์วันนี้ มีขบวนแฟนซีจากกลุ่มเยาวชนที่มาสะท้อนถึงพฤติกรรมที่ไม่ควรเกิดในช่วงสงกรานต์ โดยมีเหล่าดารา นางแบบ นำทีมโดย ‘มารีญา พูลเลิศลาภ’  มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2560 ร่วมเดินในครั้งนี้ด้วย โดยเดินรณรงค์แจกสื่อประชาสัมพันธ์ จากบริเวณหน้าโรงแรมดุสิตธานี ไปยังหน้าอาคารสีลมคอมเพล็กซ์

ด้านนายจะเด็จ กล่าวว่า ที่ผ่านมาเวลามีข่าวเรื่องการคุกคามทางเพศ หลายคนมักจะพุ่งเป้าไปที่ผู้หญิงฝ่ายเดียวว่าเป็นเพราะเรื่องการแต่งตัวที่ไม่เหมาะสมหรือแต่งตัวโป๊ เป็นเหตุให้ถูกลวนลามหรือถูกล่วงละเมิดทางเพศ แต่ที่จริงแล้วเรื่องการแต่งตัวมิใช่ปัจจัยชี้ขาด ปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากการที่ผู้ชายมีความคิดแบบชายเป็นใหญ่ ขาดสติยับยั้งชั่งใจ การไม่ถูกปลูกฝังในเรื่องการเคารพในสิทธิเนื้อตัวร่างกายผู้อื่น ใช้สิทธิเสรีภาพแบบผิดเพี้ยน ดังนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันรณรงค์เน้นย้ำในประเด็นสำคัญ 1) การคุกคามทางเพศคือเรื่องผิดกฎหมายทั้งหมด ไม่ว่าจะในเพศไหนก็ตาม 2) การปรับเปลี่ยนทัศนคติว่าการเล่นน้ำสงกรานต์ต้องเคารพสิทธิซึ่งกันและกัน งานสงกรานต์ไม่ใช่เทศกาลฉวยโอกาสหรือเทศกาลคุกคามทางเพศ และ การปรับเปลี่ยนทัศนคติคนในสังคมเรื่องผู้ชายเป็นใหญ่ ควรมีการปลูกฝังตั้งแต่ในโรงเรียน เช่น ในระดับมัธยมศึกษา เพราะเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ที่สำคัญคือการช่วยกันเฝ้าระวังเป็นหูเป็นตา  แจ้งเหตุ และการที่ผู้เสียหายกล้าลุกขึ้นมาปกป้องสิทธิของตัวเอง  ซึ่งกลไกของรัฐต้องพร้อมในการช่วยเหลือที่ทันเวลาด้วย

น.ส.อจิรภา ไมซิงเกอร์ หรือซาบีน่าเดอะเฟส ในฐานะตัวแทนดารานางแบบที่มาร่วมกิจกรรมวันนี้ กล่าวว่า สิ่งที่ต้องตระหนักในเทศกาลสงกรานต์ คือความปลอดภัย โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยง มีการดื่มแอลกอฮอล์ จากประสบการณ์ที่ผ่านมา เคยถูกลวนลามช่วงสงกรานต์ ซึ่งหลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น ทำให้เกิดภาพจำฝังใจ และหยุดเที่ยวเทศกาลสงกรานต์ไปพักใหญ่ แต่ก็ไม่ได้อยากให้ยกเลิกเทศกาลนี้ เพราะเป็นเทศกาลสำคัญเป็นวัฒธรรมของไทย แต่การเล่นน้ำต้องเคารพสิทธิผู้อื่น ไม่ฉวยโอกาส ไม่ลวนลาม ส่วนการกำหนดให้ผู้หญิงแต่งตัวมิดชิดนั้น เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ต้นตอคือผู้ก่อเหตุกลับถูกละเลย ลอยนวล ควรจะหาแนวทางหรือวิธีป้องกันที่ต้นเหตุของปัญหา สำหรับใครที่จะเที่ยวช่วงเทศกาลสงกรานต์ ก็อยากให้มีการเซฟตัวเอง อย่าไปคนเดียว ควรมีเพื่อนไปเป็นกลุ่ม เพราะการไปคนเดียวมันไม่ปลอดภัย และหวังว่ากิจกรรมรณรงค์ครั้งนี้ จะช่วยสร้างความตระหนักได้ 

ทั้งนี้ จากผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนต่อเทศกาลสงกรานต์ ในกลุ่มอายุตั้งแต่ 12-25 ปี จำนวน 2,400 ตัวอย่างในพื้นที่ กรุงเทพฯและปริมณฑล และในต่างจังหวัดทั้ง 4 ภาค โดยเก็บข้อมูลตั้งแต่วันที่ 13 – 27 มี.ค.2562 พบว่าร้อยละ 48.7 เคยถูกลวนลามคุกคามทางเพศในช่วงสงกรานต์ สำหรับพฤติกรรมเสี่ยงและน่าเบื่อหน่าย สร้างปัญหามากในช่วงสงกรานต์ 5 อันดับแรก ได้แก่ 1)เมาขาดสติ 2) ฉวยโอกาสลวนลามคุกคามทางเพศ 3)ทะเลาะวิวาท 4)อนาจารโป๊เปลือย และ 5) แว๊นซิ่ง ส่วนปัญหาอื่นในลำดับถัดมาคือเสียงดังอึกทึก โดนแซวพูดจาไม่ดี ใช้อุปกรณ์อันตรายเช่น แมงลัก น้ำแข็ง  ปืนแรงดันสูง บังคับให้ดื่มแอลกอฮอล์และดักรถเพื่อรีดไถเงินข่มขู่ 

ส่วนสาเหตุที่ทำให้เกิดพฤติกรรมเหล่านี้ คือ ร้อยละ 32.9 มาจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ร้อยละ 20.4 การบังคับใช้กฎหมาย (บทลงโทษน้อย) ร้อยละ 19 คึกคะนอง ร้อยละ 15.3 ค่านิยมผิดๆ และ 12.4 ไม่รู้จักเคารพให้เกียรติผู้อื่น เมื่อถามว่า สงกรานต์ปีนี้จะดื่มเหล้าหรือไม่ กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เกินครึ่ง ร้อยละ 59.1 ระบุว่า ไม่ดื่ม อีกทั้งร้อยละ 89.6 เห็นด้วยว่าควรจัดพื้นที่โซนนิ่งเล่นน้ำปลอดเหล้าและร้อยละ73.5 เห็นด้วยว่าควรงดจำหน่ายสุราในวันที่13 เม.ย.(ที่มา:มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล/สำรวจ มี.ค. 2562).-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” รายชื่อตรงตามโผ

กทม. 19 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” นั่งนายกฯ ควบมหาดไทย พร้อมตั้ง รองนายกฯ 6 คน รมต.สำนักนายกฯ 4 คน ขณะรายชื่อตรงตามโผ ไม่มีเปลี่ยนแปลง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย. 68) เวลา 09.30 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 7 กันยายนพุทธศักราช 2568 แล้วนั้น บัดนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เลือกผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเก้าแต่งตั้งรัฐมนตรีดังต่อไปนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ […]

“เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง

กรุงเทพฯ 19 ก.ย. – “เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง เชื่อ 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต หลังจากนี้จะใช้ชีวิตของตัวเองอุทิศให้ประชาชนและประเทศชาติ ชี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์บ้านเมืองว่าจะออกมาเคลื่อนไหวอีกหรือไม่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก สื่อมวลชนอาวุโส กล่าวขอบคุณกระบวนการยุติธรรม และศาลด้วยที่ความเมตตากับตนเอง ที่ผ่านมาเราต่อสู้ด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม สำหรับการตัดสินในวันนี้ทำให้รู้สึกโล่งใจ ดีใจทำให้เรารู้ว่าหลังจากนี้เราจะใช้ชีวิตของเราอย่างไรต่อ เพราะถือว่าเป็นคดีสุดท้าย 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต ต่อจากนี้เป็นต้นไปขอทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดชีวิตนี้จะอุทิศให้กับพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ พร้อมบอกว่าเป็นคดีสุดท้ายใน 20 ปี ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เราใช้วิชาชีพของตัวเองใช้ความเชี่ยวชาญของตัวเองรับใช้พี่น้องประชาชน ถือว่าเป็น 20 ปี ที่คุ้มมาก พี่น้องประชาชนให้กำลังใจเราเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะคนที่ร่วมมือกับเราในการแสวงหาข้อมูล เรารู้สึกว่ามีคนรักเรามาก และความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น เรานำเสนอความจริง เมื่อถามว่าที่ผ่านรู้สึกอย่างไรได้มีเตรียมใจไว้หรือไม่ น.ส.อัญชะลี ระบุว่า ทุกอย่างเตรียมความพร้อม ทุกอย่างไม่ต้องแอบทำใจ หากเราสู้จนถึงที่สุดแล้วอะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องเกิด ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เคยช่วยเหลือทั้งในเรื่องเอกสาร หรืออื่นๆ ส่วนเหตุผลที่ศาลพิจารณายกฟ้องในคดีนี้ คือ ศาลเห็นว่าพยานให้การไม่ตรงกันในหลายประเด็นทั้งพยานวัตถุ […]

ศาลฎีกานัดฟังคำพิพากษาคดีม็อบพันธมิตรบุกยึด NBT ปี51

ศาลอาญา 19 ก.ย. – วันนี้ที่ศาลอาญา รัชดา ได้นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา หรือคดีแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือ พธม. นำผู้ชุมนุมบุกยึดสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือ NBT เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2551 หรือเมื่อ 17 ปีก่อน ในช่วงระหว่างการชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ในขณะนั้น ซึ่งศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาในเวลา 10:00 น. โดยคดีดังกล่าวมีจำเลย 4 คน ได้แก่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายภูวดล ทรงประเสริฐ, นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที และนายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล ซึ่งเป็นน้องชายของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำ พธม. ทั้งหมดถูกฟ้องในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป อั้งยี่ซ่องโจร บุกรุก และทำให้เสียทรัพย์ เนื่องจากปรากฏหลักฐานว่า จำเลยทั้งห้าเป็นระดับหัวหน้าและผู้สั่งการให้กระทำความผิด ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ได้มีจำเลยอีก 1 คน คือ นายสมเกียรติ […]

‘มาครง’ เตรียมเสนอหลักฐานยืนยัน ‘บริฌิตต์’ เป็นหญิงไม่ใช่ชาย

ปารีส 19 ก.ย. – ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส และบริฌิตต์ ภริยา เตรียมเสนอหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ต่อศาลสหรัฐเพื่อพิสูจน์ว่าบริฌิตต์เป็นผู้หญิงจริงๆ ไม่ใช่ผู้ชาย ทนายความของประธานาธิบดีมาครงและบริฌิตต์ บอกว่า ทั้งคู่จะยื่นเอกสารเหล่านี้ในคดีหมิ่นประมาทที่ทั้งสองได้ยื่นฟ้อง แคนแดซ โอเวนส์ อินฟลูเอนเซอร์ฝ่ายขวาชาวอเมริกัน ที่เผยแพร่ความเชื่อของตนผ่านทางสื่อและรายการพ็อคแคสต์ของตนเองว่าบริฌิตต์ เกิดมาเป็นผู้ชาย ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เธอเสียใจและไม่สบายใจอย่างมากกับข้อกล่าวหาดังกล่าว และเรื่องนี้รบกวนจิตใจของประธานาธิบดีฝรั่งเศส แม้จะไม่ได้ทำให้มาครงสมาธิหลุดจากภารกิจหน้าที่ของเขาในฐานะผู้นำประเทศ แต่มันก็เป็นเรื่องรบกวนจิตใจของคนที่ต้องรับผิดชอบทั้งเรื่องครอบครัวและเรื่องงาน ซึ่งตัวประธานาธิบดีก็ไม่มีข้อยกเว้น ในส่วนของการยื่นหลักฐานต่อศาลนั้น ทนายความของมาครงและภริยาบอกว่า ทั้งคู่พร้อมที่จะแสดงหลักฐานอย่างชัดเจนทั้งในภาพรวมและในรายละเอียด รวมถึงคำให้การจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะเป็นลักษณะทางวิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์ว่าข้อกล่าวหานั้นเป็นเท็จ แม้จะเป็นกระบวนการที่บริฌิตต์จะต้องเผชิญต่อหน้าสาธารณชนอย่างเปิดเผย แต่เธอก็ยินดีที่จะทำ เธอตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อทำให้เรื่องนี้กระจ่าง สำหรับประเด็นเรื่องบริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ถูกเผยแพร่ครั้งแรกตามสื่อออนไลน์ของฝ่ายขวาและกลุ่มต่อต้านวัคซีนในฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 2021 ต่อมา แคนแดซ โอเวนส์ อดีตนักวิจารณ์ของเดลี่ไวร์ (Daily Wire) สำนักข่าวสายอนุรักษ์นิยมของสหรัฐฯ ซึ่งมีผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียหลายล้านคน ได้เผยแพร่มุมมองของตนเองหลายครั้งว่า บริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ที่มีชื่อว่า ฌอง-มิเชล ทรอกโนซ์ (Jean-Michel Trogneux) ก่อนที่จะแปลงเพศในเวลาต่อมา ถึงขั้นอ้างว่าเธอพร้อมเดิมพันชื่อเสียงในอาชีพทั้งหมดของเธอกับข้อกล่าวหานี้ ส่งผลให้มาครงและภริยายื่นฟ้องต่อศาลสหรัฐฯ […]

ข่าวแนะนำ

เปิดแนวต้านน้ำหล่มสัก ผลักดันแผนแก้น้ำท่วมซ้ำซาก

เพชรบูรณ์ 22 ก.ย. – แม้ว่าน้ำที่ท่วมชุมชนและย่านการค้าในเขตเทศบาลเมืองหล่มสัก ที่เพชรบูรณ์ จะลดลงแล้ว แต่ทิ้งความเสียหายเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะย่านการค้าเก่าแก่ที่เจอน้ำท่วม 2 รอบในช่วง 3 สัปดาห์ เรียกว่ายังไม่ทันได้ฟื้นฟูความเสียหายจากน้ำท่วมรอบแรกเสร็จ ต้องมาเจอน้ำท่วมซ้ำอีก ขณะที่หลายคนกังวลและต้องเตรียมรับมือกับพายุที่คาดว่าจะเข้ามาในช่วงปลายสัปดาห์นี้ พร้อมเรียกร้องให้เร่งป้องกันและหาแนวทาง แก้ปัญหาระยะยาว ไม่ให้หล่มสักกลายเป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก .-สำนักข่าวไทย

ฝนถล่มเชียงใหม่ ประกาศปิดน้ำตกแม่สา ส่วนวัดผาลาด เตือนน้ำป่าหลาก

เชียงใหม่ 22 ก.ย.-ฝนถล่มเชียงใหม่ อุทยานฯ ดอยสุเทพ-ปุย ประกาศปิดน้ำตกแม่สา อ.แม่ริม ชั่วคราว หลังน้ำป่าไหลหลาก ส่วนวัดผาลาด แจ้งเตือนชาวบ้านรับมือน้ำป่าหลากลงน้ำตกผาลาด ช่วงบ่ายวันนี้ ( 22 กันยายน) เกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของจังหวัดเชียงใหม่ เพจเฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ได้โพสต์ข้อความประกาศปิดน้ำตกแม่สา ในอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ชั่วคราว เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว เนื่องจากเกิดเหตุน้ำป่าไหลหลากลงมาจนน้ำมีสีน้ำตาลขุ่น กระแสน้ำไหลแรงและเชี่ยวกราก โดยจะปิดน้ำตกแม่สาตั้งแต่วันนี้จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ ขณะที่พระมหาสง่า ไชยวงค์ เจ้าอาวาสวัดผาลาด ก็ได้โพสต์คลิปภาพวิดีโอ พร้อมข้อความ “มวลน้ำจากยอดดอยกำลังผ่านวัดผาลาด ญาติโยมด้านล่างช่วงนี้ก็เฝ้าไว้เน้อ” ซึ่งทางวัดผาลาดจะมีการแจ้งเตือนชาวบ้านที่อยู่ใกล้ทางน้ำไหลน้ำตกผาลาด และบริเวณเชิงดอยสุเทพในตัวเมืองเชียงใหม่ ให้เฝ้าระวังน้ำป่าที่ไหลผ่านวัดลงสู่ด้านล่างทุกครั้ง สำหรับวัดผาลาดตั้งอยู่บริเวณทางขึ้นดอยสุเทพ และมีน้ำตกผาลาดไหลผ่านพื้นที่วัดช่วงที่เกิดฝนตกหนัก จะมีน้ำป่าไหลหลากจากบนดอยสุเทพผ่านน้ำตกผาลาด ก่อนจะไหลลงสู่พื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่.-สำนักข่าวไทย

กองทัพไทย ย้ำบ้านหนองหญ้าแก้วอยู่เขตแดนไทย ชี้ JBC รับรองแล้ว

กทม. 22 ก.ย.- กองทัพไทย ย้ำบ้านหนองหญ้าแก้วอยู่เขตแดนไทย ไม่ใช่พื้นที่ทับซ้อน ชี้ JBC รับรองแล้ว สอดคล้อง MOU 2543 พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยถึงประเด็นหลักเขตแดนที่ 42 และ 43 ในพื้นที่ อ.โคกสูง จ.สระแก้วว่า หลักเขตแดนที่ 42 ตั้งอยู่ที่บ้านหนองหญ้าแก้ว (บ้านไปรจัน) ต.โคกสูง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว และหลักเขตแดนที่ 43 ตั้งอยู่ที่บ้านโนนหมากมุ่น ต.โคกสูง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว โดยการกำหนดแนวเขตแดนในพื้นที่ดังกล่าวเป็นเส้นตรงจากหลักเขตแดนที่ 41 มายังหลักเขตแดนที่ 42 และต่อเนื่องไปยังหลักเขตแดนที่ 43 จากนั้นแนวเขตแดนจะไปตามคลองระลมระสือจนถึงหลักเขตแดนที่ 44 สำหรับกระบวนการสำรวจ ชุดสำรวจร่วมไทย–กัมพูชาได้ดำเนินการตามขั้นตอนที่ 1 ของ TOR คือ การสำรวจสภาพ และที่ตั้งของหลักเขตแดนทั้งหมด 74 หลัก ตั้งแต่ปี พ.ศ. […]

ทีมทนายวัดนาป่าพง หอบเอกสารเข้าพบกองปราบ

22 ก.ย.- ทีมทนายวัดนาป่าพง หอบเอกสารเข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบ ขณะที่สีกาเยอรมนีเตรียมนั่งเครื่องเข้าพบตำรวจ 2 ต.ค.นี้ หลังจากที่นายนันทน อินทนนท์ ทนายความวัดนาป่าพง จ.ปทุมธานี พร้อมทีมทนายความ ได้มีการตั้งโต๊ะแถลงชี้แจงประเด็นที่ น.ส.ทองใหม่ ขวัญหมื่น หรือ ทนายอุ้ม ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากสีกาจากประเทศเยอรมนี เข้ามาร้องเรียนที่กองบังคับการปราบปราม กล่าวหาว่า พระคึกฤทธิ์ ยักยอกเงินวัด ก่อนนำมาฟอกกับมูลนิธิพุทธวจนที่ประเทศเยอรมนีนั้น ความเคลื่อนไหวล่าสุดวันนี้ (22 ก.ย.68) เวลา 10.00 น. ที่กองบังคับการปราบปราม กองกำกับการ 2 นายนันทน อินทนนท์ ทนายความวัดนาป่าพง จ.ปทุมธานี และทีมทนายความ ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน โดยนำเอกสารเป็นพยานหลักฐานเกี่ยวกับเส้นเงิน เงินบริจาคภายในวัด มามอบให้กับพนักงานสอบสวน เพื่อชี้แจงในประเด็นต่างๆ โดยใช้เวลาในการชี้แจงกับพนักงานสอบสวนไม่ถึง 1 ชั่วโมง ก่อนจะเดินทางกลับทันที และไม่ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนแต่อย่างใด หลังจากนั้นทีมข่าวได้ติดต่อไปที่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการตรวจสอบเส้นทางการเงินของวัดนาป่าพง โดยเฉพาะเงินที่เปิดรับบริจาคทั่วประเทศ หากตรวจสอบแล้วพบว่ามีความผิดจริง […]