“บิ๊กแป๊ะ”เข้มมาตรการสกัดยาเสพติดทะลักช่วงสงกรานต์

กรุงเทพฯ 10 เม.ย.- “บิ๊กแป๊ะ”เข้มมาตรการสกัดกั้นยาเสพติดทะลักเข้าพื้นที่ชั้นในช่วงสงกรานต์


พ.ต.อ.กฤษณะ  พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึง มาตรการเฝ้าระวังขบวนการลักลอบขนย้ายยาเสพติด ห้วงหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งคนร้ายอาจฉวยโอกาสกระทำความผิดว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์  ชัยจินดา ผบ.ตร.ได้สั่งการไปยังกองบัญชาการทุกภาคส่วน ให้ยกระดับการปราบปราม แก้ไขปัญหายาเสพติดทุกมิติ  รวมไปถึงเร่งรัด ติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับคดีค้างเก่า โดยให้ กองบัญชาการปราบปรามยาเสพติด , กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน , สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง , กองบังคับการตำรวจทางหลวง บูรณาการทางด้านการข่าว เฝ้าระวัง สกัดกั้นการลักลอบลำเลียงขนส่งยาเสพติดจากพื้นที่ตามแนวชายแดน หรือ พื้นที่ชั้นนอก เพื่อป้องกันไม่ให้มีการฉวยโอกาส ลักลอบ ลำเลียงยาเสพติดและสารตั้งต้นเข้าพื้นที่ ชั้นกลาง ชั้นใน หรือแหล่งชุมชน , เมือง 

พร้อมสั่งการให้ กองบัญชาการนครบาล , ภูธรภาค 1 – 9 มุ่งเน้นการปราบปรามจับกุม ผู้ผลิต ผู้ค้า ผู้ลำเลียงยาเสพติด ทั้งรายใหญ่และรายย่อยในทุกระดับชั้น โดยให้ซักถาม สืบสวนขยายผล ไปถึง แหล่งเงินทุน นายทุน เครือข่ายผู้ร่วมขบวนการ ผู้ที่อยู่เบื้องหลัง มาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด ตลอดจนการบูรณาการกำลัง 3 ฝ่าย ร่วมกันกับ ทหาร ฝ่ายปกครอง ในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม เพิ่มมาตรการตั้งจุดตรวจ จุดสกัด ในเส้นทางหลัก เส้นทางรอง ในการตรวจคัดกรองยานพาหนะต่างๆ บุคคลต้องสงสัยอย่างเข้มงวด ตลอดจนเพิ่มมาตรการ การกวาดล้าง ปราบปราม ยาเสพติด ในแหล่ง หมู่บ้าน ชุมชน โดยความร่วมมือและความเชื่อมั่นของประชาชนในพื้นที่ และเฝ้าระวัง ผู้เสพยาเสพติดในทุกพื้นที่อย่างใกล้ชิด เพื่อส่งต่อกระบวนการบำบัดฟื้นฟู 


ประกอบกับ การสร้างช่องทางการรับรู้ในพื้นที่ชุมชน รวมทั้งสถานศึกษาต่างๆ ถึงโทษและพิษภัยของยาเสพติด โดยให้ตำรวจชุมชนสัมพันธ์ ลงพื้นที่สุ่มเสี่ยง แหล่งที่มีการแพร่ระบาดของยาเสพติด อย่างใกล้ชิด เพื่อการป้องปรามอีกทางหนึ่ง      

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ร่วมบูรณาการกำลังกับทหาร ฝ่ายปกครอง และทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในข้อมูลทางด้านการข่าวข้อมูลยาเสพติด ตลอดจนปัญหาอาชญากรรมต่างๆ  เพื่อสร้างเกราะป้องกัน ในความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน ชุมชน สังคม รวมไปถึงการกระทำต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศ เพื่อช่วยกันแก้ไขปัญหายาเสพติด อาชญากรรมทุรูปแบบอย่างจริงจัง.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง