อสมท กับการปรับตัวยุค Digital

กทม. 9 เม.ย. – 67 ปี อสมท ผ่านเหตุการณ์บ้านเมืองต่างๆ มามากมาย และเปลี่ยนผ่านจากยุค Analog สู่ยุค Digital ที่ผู้ชมสามารถจะชมรายการต่างๆ ที่ไหนก็ได้ อันเป็นความสะดวกสบายจากการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี ซึ่ง อสมท เป็นทั้งเจ้าของช่องและผู้ผลิตรายการโทรทัศน์ และวิทยุ จึงต้องปรับตัวมาตลอด เพื่อสนองต่อความต้องการของผู้ชม 


องค์กรสื่อสารมวลชนขนาดใหญ่อย่าง อสมท เป็นหนึ่งในองค์กรสื่อที่ต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์สื่อครั้งใหญ่เมื่อ 4-5 ปีที่ผ่านมา หลังอินเทอร์เน็ตเข้ามามีบทบาทต่อโลกของการสื่อสารในปัจจุบันมากยิ่งขึ้น จนต้องปรับตัวหลายครั้งเพื่อให้ทันกับพฤติกรรมการบริโภคสื่อที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว จนส่งผลต่อสื่อเก่าที่มีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นโทรทัศน์ หรือวิทยุ


นายเขมทัตต์ พลเดช กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.อสมท บอกว่า ในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา ผู้ชมสามารถดูรายการต่างๆ ที่ไหนก็ได้ผ่านเทคโนโลยีสมัยใหม่ สมาร์ทโฟนที่ถืออยู่ในมือ นั่นทำให้ อสมท ซึ่งเป็นเจ้าของช่องรายการทั้งวิทยุและโทรทัศน์ต้องปรับตัวมาตลอด และในฐานะที่เป็นผู้ผลิตรายการโทรทัศน์ วิทยุ หรือคอนเทนต์โปรไวเดอร์ด้วย จึงต้องไม่ยึดติดกับแพลตฟอร์มทีวี หรือวิทยุแบบเดิม แต่มุ่งไปยังแพลตฟอร์มออนไลน์ที่เติบโตขึ้นอย่างมาก เช่น ยูทูบ เฟซบุ๊ก ซึ่งนอกจากนำเนื้อหารายการต่างๆ หรือคอนเทนต์ไปออกในแพลตฟอร์มเหล่านี้แล้ว ยังต้องพัฒนาคอนเทนต์ให้เหมาะกับแพลตฟอร์มนั้นๆ ด้วย


สุทธิชัย หยุ่น ผู้ก่อตั้งสื่อเครือเนชั่น บอกว่า ปัจจุบันทุกสื่อเผชิญกับความปั่นป่วนดิสรัปชัน หรือสภาวะเปลี่ยนแปลงจากเทคโนโลยี เพราะเทคโนโลยีทำให้ทุกคนเป็นนักข่าวได้ แต่ท้ายที่สุด สื่อมืออาชีพยังมีความสำคัญ เห็นว่า อสมท ปรับตัวอยู่แล้ว และยังต้องปรับไปเรื่อยๆ ตามความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น แต่ที่ไม่ควรเปลี่ยนไปคือความคาดหวังของสังคมที่สื่อจะต้องมีจริยธรรม มีมาตรฐานทางวิชาชีพ จุดนี้จะทำให้ อสมท สามารถยืนหยัดท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงได้ เพราะยิ่งมีโซเชียลมีเดียมาก ยิ่งต้องการคนเฝ้าประตูมาช่วยตรวจสอบ

บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) สื่อสารมวลชนที่ผ่านเหตุการณ์ต่างๆ ของบ้านเมืองมานานถึง 67 ปี ตั้งแต่ยุค Analog จนเปลี่ยนผ่านสู่ยุค Digital จากแพลตฟอร์มที่มีเพียงวิทยุ โทรทัศน์ ทุกวันนี้ผลิตคอนเทนต์สู่แพลตฟอร์มออนไลน์ที่หลากหลายขึ้น ทั้งยังเตรียมพัฒนาแอปลิเคชันและแพลตฟอร์มออนไลน์ของ อสมท เอง เพื่อเป็นอีกช่องทางที่ไม่ว่าผู้ชมผู้ฟังอยู่ที่ไหนก็สามารถติดตามได้ตลอดเวลา . – สำนักข่าวไทย 

 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย