พาณิชย์งยันไม่มีไอ้โม่งรับซื้อปาล์ม

นนทบุรี 9 เม.ย. – กระทรวงพาณิชย์ชี้แจงมาตรการใช้น้ำมันปาล์มดิบผลิตไฟฟ้า 160,000 ตัน  ขอให้มั่นใจทุกอย่างโปร่งใส  ไม่มีไอ้โม่งได้รับประโยชน์


นางสาวชุติมา บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตามที่ได้ปรากฎข่าวนโยบายการเร่งดูดซับน้ำมันปาล์มดิบเพื่อยกระดับราคาผลปาล์มน้ำมันให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมัน 160,000 ตัน เพื่อใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้ากับมาตรการล่าสุดที่ ปตท.จะรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบ 100,000 ตัน ไปใช้ในการผลิตไบโอดีเซล มีไอ้โม่งได้รับผลประโยชน์นั้น

กระทรวงพาณิชย์ขอชี้แจงว่ามาตรการใช้น้ำมันปาล์มดิบ 160,000 ตัน เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าซึ่งคณะรัฐมนตรีเห็นชอบเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2561 มอบหน้าที่ให้กระทรวงพาณิชย์ร่วมกับกระทรวงพลังงานในการจัดหาน้ำมันปาล์มดิบให้แก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เพื่อนำไปใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้าที่โรงไฟฟ้าบางปะกง 160,000 ตัน และคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการบริหารและกำกับดูแลมาตรการปรับสมดุลน้ำมันปาล์มในประเทศ (เฉพาะกิจ) เพื่อทำหน้าที่ขับเคลื่อนการดำเนินการตามมาตรการ โดยมีอธิบดีกรมการค้าภายในเป็นประธานอนุกรรมการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายหน่วยงานร่วมเป็นอนุกรรมการ กำหนดหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีดำเนินการเพื่อเป็นกรอบแนวทางดำเนินมาตรการที่ชัดเจน รวมทั้งแต่งตั้งคณะทำงานกำกับดูแลการจำหน่ายน้ำมันปาล์มดิบให้แก่ กฟผ. เพื่อทำหน้าที่คัดเลือกผู้มีสิทธิ์จำหน่ายน้ำมันปาล์มดิบให้แก่ กฟผ. และกำกับดูแลการดำเนินการในระดับพื้นที่ เพื่อให้เกษตรกรได้รับประโยชน์


ทั้งนี้ กระทรวงพลังงานได้เสนอคณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้ กฟผ. รับซื้อน้ำมันปาล์มดิบกิโลกรัมละ 18 บาท ณ ท่าเทียบเรือโรงไฟฟ้าบางปะกง โดยให้ผู้ขายน้ำมันปาล์มดิบเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด รวมทั้งกำหนดเงื่อนไขให้ผู้ขายน้ำมันปาล์มดิบต้องรับซื้อผลปาล์มน้ำมันจากเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมันกิโลกรัมละ 3.20 บาท ซึ่งสูงกว่าราคาตลาด โดยในทางปฏิบัติคณะทำงานฯ ระดับภาคจะเป็นผู้ติดตามกำกับดูแลการดำเนินการตามเงื่อนไขดังกล่าว ซึ่งหากพบว่าไม่มีการปฏิบัติตามเงื่อนไข กฟผ. ก็จะไม่จ่ายเงินค่าน้ำมันปาล์มดิบร้อยละ 10 ของค่าน้ำมันปาล์มดิบที่ส่งมอบ อย่างไรก็ตาม มาตรการนี้จะมีผลต่อเกษตรกรที่ขายผลปาล์มน้ำมันให้กับโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มที่เข้าร่วมโครงการเท่านั้น ซึ่งในระยะแรกมีโรงงานสกัดฯ สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการน้อยราย จึงต้องขยายเวลารับสมัครถึง 5 ครั้ง จนถึงเดือนมีนาคม 2562

เนื่องจากน้ำมันปาล์มดิบ 160,000 ตัน ต้องทยอยขนส่งไปยังโรงไฟฟ้าบางปะกงซึ่งมีคลังเก็บได้ไม่มาก กฟผ. จึงรับน้ำมันได้เพียงวันละ 2,000 ตัน และรับได้เพียงวันเว้นวัน จึงมีผลให้ราคาตลาดไม่สามารถขยับขึ้นได้ เพราะยังมีน้ำมันในสตอกของโรงสกัดฯ และปริมาณผลปาล์มน้ำมันที่ออกมากกว่าปกติ กระทรวงพาณิชย์จึงเสนอที่ประชุม กนป. เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2562 โดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2562 ให้ กฟผ.เพิ่มอัตราการใช้น้ำมันปาล์มดิบในการผลิตกระแสไฟฟ้าจากเดิมวันละ 1,000 ตัน เป็นวันละ 1,500 ตัน และให้ กฟผ.รับมอบน้ำมันปาล์มดิบตามสัญญาซื้อขายน้ำมันปาล์มดิบส่วนที่เหลือทั้งหมดจัดเก็บที่คลังรับฝากจังหวัดสุราษฎร์ธานีและฉะเชิงเทรา จากกำหนดเดิมเดือนกรกฎาคม 2562 ให้เสร็จภายในวันที่ 20 เมษายน 2562 เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของรัฐบาลที่ต้องการดูดซับน้ำมันปาล์มดิบส่วนเกินออกไปให้เร็วที่สุดเพื่อช่วยยกระดับราคาผลปาล์มน้ำมันให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมัน ซึ่งปัจจุบัน กฟผ.ได้รับมอบน้ำมันปาล์มดิบ 68,000 ตัน คงเหลืออีก  92,000 ตัน โดยค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในการขนส่งไปยังท่าเรือโรงไฟฟ้าบางปะกง และการจัดเก็บรอในคลัง ผู้ขายน้ำมันปาล์มดิบจะเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด

สำหรับผู้ที่ทำหน้าที่ขนส่งน้ำมันปาล์มดิบและคลังจัดเก็บที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีมี 2 ราย คือ พี.เค.มารีน อ. เมือง และโกบอลอินเตอร์ อ. ดอนสัก กรมการค้าภายในสอบถามราคาค่าขนส่งปรากฎว่าบริษัท พี.เค.มารีนเสนอราคาหลังต่อรองแล้วถูกกว่าอีกบริษัทมากและมีความพร้อมเพราะมีเรือขนส่งจำนวนมากกว่า ซึ่งราคาที่เกษตรกรได้รับที่ 3.20 บาท คำนวณจากการหักค่าขนส่งจากราคารับซื้อน้ำมันปาล์มดิบของ กฟผ.กิโลกรัมละ 18 บาท 


“จะเห็นว่ากระบวนการทำงานของกระทรวงพาณิชย์คำนึงถึงความถูกต้อง โปร่งใส และให้เกษตรกรได้รับประโยชน์สูงสุด ไม่มีไอ้โม่งในกระบวนการรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบจำนวน 160,000 ตัน ที่ได้รับผลประโยชน์แน่นอน” นางสาวชุติมา กล่าว

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงพาณิชย์ให้ความสำคัญกับนโยบายขับเคลื่อนการทำงานด้วยความโปร่งใส เป็นธรรม รวมทั้งมีการรณรงค์เรื่อง Zero Corruption ที่จริงจังต่อเนื่อง และมอบนโยบายให้หน่วยงานในสังกัดถือปฏิบัติและดำเนินการอย่างเคร่งครัด จึงขอให้ประชาชนมั่นใจการดำเนินงาน  นอกจากนี้ ปัจจุบันการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารของประชาชนเป็นไปอย่างรวดเร็วและสามารถพิสูจน์ข้อเท็จจริงได้ กรณีของการนำเสนอข่าวว่ามีผู้ที่มีเจตนาไม่สุจริตแอบซ่อนเร้นรับผลประโยชน์จากนโยบาย/มาตรการของภาครัฐก็เช่นเดียวกัน หากทุกฝ่ายช่วยกันติดตามสอดส่องพฤติกรรมดังกล่าวและพบว่ามีเบาะแสที่สามารถพิสูจน์ได้ ก็ควรแจ้งต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมทั้งกระทรวงพาณิชย์เพื่อให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินการตามกระบวนการเพื่อให้เกิดความถูกต้องต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

วัยรุ่นซิ่งเบนซ์เสียหลักพุ่งเหินฟ้าคารถ 6 ล้อ

รอดตายปาฏิหาริย์! วัยรุ่นซิ่งเบนซ์เสียหลัก ก่อนพุ่งเหินฟ้าติดคาบนรถ 6 ล้อ พลเมืองดีเข้าช่วยเหลือออกมาจากรถ ปลอดภัย

กกต.สั่งเอาผิดอาญา “ชวาล” สส.ปชน. ยื่นบัญชีใช้จ่ายเท็จ

กกต.สั่งดำเนินคดีอาญา “ชวาล” สส.ปชน. ยื่นบัญชีค่าใช้จ่ายเลือกตั้งไม่ตรงความเป็นจริง โทษหนักทั้งจำคุก-ตัดสิทธิ 5 ปี

ข่าวแนะนำ

ฉายารัฐบาลปี67

สื่อทำเนียบฯ ตั้งฉายา ปี 67 “รัฐบาล(พ่อ)เลี้ยง”

สื่อทำเนียบฯ ตั้งฉายา ปี67 “รัฐบาล(พ่อ)เลี้ยง” ฉายานายกฯ “แพทองโพย” ด้าน 7 รัฐมนตรีติดโผ “บิ๊กอ้วน-อนุทิน-ทวี” พ่วง 3 รัฐมนตรีโลกลืม ส่วนวาทะแห่งปี “สามีเป็นคนใต้”

เลือกตั้ง อบจ.อุบลฯ

“กานต์ กัลป์ตินันท์” ชนะเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ

“กานต์ กัลป์ตินันท์” ชนะเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี พร้อมขอบคุณคนเสื้อแดง และนายทักษิณ ชินวัตร ที่ช่วยผลักดัน

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน