เตือนคนติดหวาน! เครื่องดื่มสูตรน้ำตาล 0% ก็เสี่ยงอ้วน

สธ.9 เม.ย.-กรมอนามัย เตือนผู้ชอบดื่มน้ำหวาน น้ำอัดลมทั้งแบบธรรมดา และสูตรไม่มีน้ำตาล ในปริมาณมากและเป็นประจำ เสี่ยงโรคอ้วน แนะควบคุมปริมาณ 


พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.)เปิดเผยว่า ช่วงนี้อากาศร้อนขึ้นทำให้ประชาชนส่วนใหญ่เลือกดื่มน้ำหวานและน้ำอัดลมเพื่อดับกระหาย ซึ่งในน้ำอัดลมจะมีส่วนประกอบ คือน้ำ น้ำตาล สารปรุงสี กลิ่นสังเคราะห์และกรดฟอสฟอริก ทำให้น้ำอัดลม มีฟอง มีรสซ่าและมีคาเฟอีน  เพิ่มความตื่นตัวให้กับร่างกาย ลดอาการอ่อนเพลีย หากดื่มน้ำหวานและน้ำอัดลมที่มีน้ำตาลอยู่สูงในปริมาณมากเกินไปจะทำให้ร่างกายเผาผลาญและนำไปใช้ได้ไม่หมด เป็นปัจจัยเสี่ยงทำให้อ้วน 


นอกจากนี้น้ำตาลในเครื่องดื่มเหล่านี้ ยังเป็นสาเหตุที่ทำให้ร่างกายหลั่งอินซูลินออกมามากเกินไป ส่งผลให้ในระยะยาวร่างกายจะผลิตอินซูลินน้อยลงหรือด้อยประสิทธิภาพ จนทำให้เกิดโรคเบาหวานและโรคไม่ติดต่อเรื้อรังตามมา 

ขณะที่น้ำอัดลมสูตรไม่มีน้ำตาล จะมีส่วนประกอบเหมือนน้ำอัดลม สูตรปกติ แต่จะใช้สารให้ความหวานหรือน้ำตาลเทียมทดแทนลงไป ซึ่งสารประเภทนี้ให้รสหวานแต่ไม่ให้พลังงาน สารให้ความหวานเหล่านี้จะกระตุ้นกลไกการทำงานของสมองให้รับรู้ถึงความหวาน ส่งผลให้ร่างกายโหยหาน้ำตาล  มากขึ้น เกิดการติดรสหวาน ต้องการกินอาหารหรือดื่มเครื่องดื่มรสหวานบ่อยขึ้น ร่างกายหิวง่ายขึ้นและกินมากกว่าปกติ 30 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งจะเป็นการกินไปแบบไม่รู้ตัว จึงควรกินหวานให้น้อยลง หรือสั่งหวานน้อยเป็นประจำให้ติดเป็นนิสัย เพื่อสร้างความเคยชินในการรับรสของตนเองและกลายเป็นคนไม่ติดหวาน


ด้าน พญ.สายพิณ โชติวิเชียร ผู้อำนวยการสำนักโภชนาการ กล่าวเสริมว่า เมื่อดื่มน้ำอัดลมสูตรที่ใส่น้ำตาลเทียม ร่วมกับอาหาร จะส่งผลให้ระดับน้ำตาลและอินซูลินในเลือดขึ้นสูงกว่าการกินอาหารกับน้ำเปล่าแม้น้ำตาลเทียมจะไม่ใช่น้ำตาล แต่ก็กระตุ้นการตอบสนองของอินซูลินในร่างกาย อีกทั้งการใช้น้ำตาลเทียม ยังทำหน้าที่หลอกลิ้นว่าหวาน แต่สมองที่ต้องการน้ำตาลจริงไม่ได้รับความหวานตามที่ต้องการ ก็เกิดการกระตุ้นทำให้อยากกินน้ำตาลมากๆ เพื่อให้หายอยากในภายหลังซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้อ้วน 

นอกจากนี้ แม้น้ำอัดลมจะมีสูตรไม่มีน้ำตาล โดยใส่น้ำตาลเทียมทดแทนลงไป แต่สิ่งที่ยังมีอยู่ในน้ำอัดลมคือ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งทำให้เกิดอาการแน่นท้อง ทำให้ท้องอืด จุกเสียดได้ .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”