ทปอ.เสนอรัฐ หนุนนวัตกรรมด้านเกษตร ลดการเผาป่า

ทปอ.5 เม.ย.-ทปอ.เสนอรัฐ สนับสนุนนวัตกรรมด้านการเกษตรเพื่อช่วยชาวบ้านลดการเผาป่า ลดปัญหาฝุ่นพิษ พร้อมให้หาพื้นที่เก็บน้ำเพิ่ม หลังสำรวจพบไม่เพียงพอ พร้อมเปิดบัญชีศูนย์กลางรับบริจาคเงินซื้อหน้ากากอนามัยช่วยเหลือพี่น้องชาวเหนือ


 

นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานที่ประชุมอธิการบดีเเห่งประเทศไทย (ประธาน ทปอ.)เป็นประธานเเถลงข่าวมาตรการการแก้ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ในพื้นที่ภาคเหนือของสถาบันอุดมศึกษา ว่า ทปอ.พร้อมด้วยที่ประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏ (ทปอ.มรภ.) ที่ประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชมงคล (ทปอ.มทร.)เเละสมาคมสถาบันอุดม ศึกษาเอกชน เห็นความสำคัญของปัญหาฝุ่น เพราะส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของนักศึกษาเเละอาจารย์ในสถาบันอุดมศึกษาหลายเเห่ง อาทิ   ม.เชียงใหม่ ม.เชียงราย ม.เเม่ฟ้าหลวง ม.พะเยา ม.เเม่โจ้ มรภ.เชียงใหม่ มรภ.เชียงรายเเละมรภ.ลำปาง มทร.ล้านนา เป็นต้น 


ทั้งนี้ จึงมีมาตรการในการช่วยเหลือและบรรเทาภาวะวิกฤตินี้เป็นการเร่งด่วน นอกจากที่เเต่ละมหาวิทยาลัยได้ดำเนินการแก้ไขไปแล้ว ทั้งการหยุดเรียน ติดตั้งเครื่องกรองอากาศฯลฯ โดยได้เปิดบัญชี สมาคมที่ประชุมอธิการบดีเเห่งประเทศไทย ‘ทปอ.ร่วมใจต้านภัยฝุ่น’ เลขบัญชี 013-0-30079-9 ธนาคารกรุงไทย โดยมีเงินตั้งต้น 1 แสนบาท เป็นบัญชีส่วนกลาง เพื่อระดมเงินเป็นค่าใช้จ่ายจัดหาหน้ากากป้องกันฝุ่นพิษเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าชั่วคราวในระยะสั้น 


ขณะที่ช่วงหลังเทศกาลสงกรานต์ ทปอ.จะลงพื้นที่ติดตามการเเก้ปัญหาเพื่อหามาตรการระยะกลางเเละระยะยาว ซึ่งเบื้องต้นจากการหารือ มีมติเสนอมาตรการให้รัฐบาลสนับสนุนงบประมาณให้มหาวิทยาลัยจัดทำนวัตกรรมด้านการเกษตรสำหรับการถางป่าเพื่อลดปัญหาการเผาป่า อย่าง มหาวิทยาลัยเเม่โจ้ ขณะนี้มีการพัฒนานวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับการเกษตรต่อเนื่อง ขณะเดียวกันเสนอให้เพิ่มพื้นที่เก็บน้ำในภาคเหนือ เพื่อใช้ดับไฟป่าเเละภัยเเล้ง ซึ่งจากการวิจัยของนักวิชาการด้านสิ่งเเวด ล้อม ของ ปทอ.ยังพบว่ามีไม่เพียงพอ

ด้านน.ส.ชยาพร วัฒนศิริ ตัวเเทนมหาวิทยาลัยเเม่ฟ้าหลวง กล่าวว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในภาคเหนือขณะนี้ถือเป็นภัยพิบัติทางอากาศ ซึ่งที่ผ่านมามหาวิทยาลัยช่วยเหลือตนเอง เเจกหน้ากากอนามัยให้นักศึกษา คณาจารย์รวมถึงชุมชนโดยรอบมหาวิทยาลัย เเละเปิดเป็นศูนย์กลางรับบริจาคของเพื่อลดปัญหาดังกล่าว และมีการประกาศหยุดเรียน งดทำกิจกรรมกลางแจ้ง เตรียมห้องเรียนที่เป็น clean room เเละมีพื้นที่ safety zone เพื่อป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็ก ซึ่งขณะนี้เริ่มพบปัญหานักศึกษาเรียนไม่ทัน เเละอาจกระทบกับการจบการศึกษาช้า จึงเปลี่ยนเป็นการปรับพื้นที่ให้ปลอดภัยกับนักเรียนทุกคน เเละเสียงสะท้อนจากนักศึกษายังบอกว่า เเม้หยุดเรียนก็ยังเจอสภาพอากาศที่ไม่ดีอยู่ดี จึงเปิดเรียนตามปกติ ขณะที่พบปัญหาเเผ่นกรองอากาศหรือ hepa fliter ขณะนี้ขาดตลาด จึงฝากผู้ที่เกี่ยวข้องเร่งผลิตหรือให้มีการจำหน่ายเพิ่มขึ้นในภาคเหนือ

ขณะที่มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ยังได้ทำจดหมายเปิดผนึกถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้รัฐบาลแก้ปัญหาหมอกควันในภาคเหนืออย่างเร่งด่วนและจริงใจ เมื่อวันที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยขอให้รัฐบาลดำเนินการดังนี้ 1.ให้ยกระดับความสำคัญของปัญหามลพิษฝุ่นละอองขนาดเล็กให้เป็นปัญหาของอาเซียนและขอให้บรรจุเป็นวาระสำคัญของการประชุมอาเซียนเพื่อหาข้อยุติในการแก้ปัญหาร่วมกัน อย่างเร่งด่วนและเป็นรูปธรรม พร้อมจัดตั้งเครือข่ายความร่วมมือในการป้องกันการเกิดไฟป่าและการเกิดฝุ่นละอองขนาดเล็กในระดับอาเซียน(Regional Network Smog Free)

2.เห็นสมควรจัดตั้งหน่วยประสานงานการแก้ไขปัญหามลพิษฝุ่นละอองขนาดเล็กอย่างถาวรเพื่อการแก้ไขอย่างฉับพลันและยั่งยืน

3.ให้ทุกจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจัดตั้งเครือข่ายในระดับท้องถิ่น ประกอบด้วยผู้นำชุมชนและองค์กรทุกระดับ เพื่อเฝ้าติดตาม เฝ้าระวังสถานการณ์ อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี โดยให้ภาครัฐจัดสรรงบประมาณเพื่อการดำเนินการ 

4.เมื่อเกิดสถานการณ์สถานการณ์มลพิษฝุ่นละอองขนาดเล็กเกินค่ามาตรฐานในประเทศไทย รัฐบาลควรพิจารณาประกาศให้เป็นพื้นที่ภัยพิบัติทางอากาศ พร้อมทั้งมีมาตรการแก้ไขอย่างฉับพลัน 

5.เมื่อเกิดสถานการณ์มลพิษฝุ่นละอองขนาดเล็กเกินค่ามาตรฐาน ให้รัฐบาลเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร เกี่ยวกับการดำเนินการของรัฐ ทั้งในด้านการแก้ปัญหา การป้องกัน การเยียวยา และให้การสนับสนุนการดำเนินการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเต็มที่ 

6.เมื่อเกิดสถานการณ์มลพิษฝุ่นละอองขนาดเล็กเกินค่ามาตรฐานจนเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ให้เป็นนโยบายของสถานพยาบาลรัฐทุกแห่ง เปิดช่องทางพิเศษให้ผู้ได้รับผลกระทบเข้ารับบริการการตรวจ-รักษาฟรี /ทั้งนี้เพื่อให้การดำเนินการดังกล่าวบังเกิดผลในทางปฏิบัติ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงจึงได้จัดตั้งศูนย์การศึกษา วิจัยและปฏิบัติการเพื่อลดปัญหาการเกิดไฟป่าและหมอกควันในประเทศไทยและในภูมิภาค โดยทำหน้าที่เป็นศูนย์ศึกษา วิจัย และเป็นตัวกลางเชื่อมโยงทุกหน่วยงาน ทั้งในระดับประเทศและภูมิภาค

น.ส.ชยาพร กล่าวด้วยว่า มฟล.ขอขอบคุณนายกฯที่รับข้อเสนอต่างๆของมหาวิทยาลัย รวมทั้งผู้ว่าฯเชียงราย ก็รับที่จะดำเนินการตามข้อเสนอของ มฟล.ทันที นอกจากนี้เห็นว่าปัญหาหมอกควันซึ่งเกิดขึ้นทุกปีและรุนแรงขึ้น โดยคาดหวังว่าปีหน้า ปัญหานี้จะต้องลดลง โดยมฟล.ตั้งกองทุนเมืองไทยไร้หมอกควัน โดยมีทุนประเดิมจาก มฟล.2 แสนบาท เงินจากมูลนิธิสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือสมเด็จย่า 2 แสนบาท โดยกองทุนนี้ มุ่งหวังที่จะช่วยเหลือแก้ปัญหาหมอกควันในประเทศไทยทุกภูมิภาค ซึ่งเราพบว่า ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคใต้ รวมทั้งภาคกลาง ก็ประสบปัญหาหมอกควันเช่นเดียวกัน .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปะทะแล้ว บริเวณปราสาทตาเมือน หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง

สุรินทร์ 24 ก.ค.-ทบ.รายงานเหตุการณ์ปะทะบริเวณพื้นที่ปราสาทตาเมือน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง เมื่อเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 07.35 น. หน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนรายงานว่า ได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของฝ่ายกัมพูชาบินวนอยู่บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม แม้ไม่สามารถตรวจพบตัวอากาศยานได้ด้วยสายตา แต่สามารถได้ยินเสียงอย่างชัดเจน ต่อมาฝ่ายกัมพูชาได้นำอาวุธเข้าสู่ที่ตั้งบริเวณด้านหน้าแนวลวดหนาม และพบกำลังพลกัมพูชาจำนวน 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือรวมทั้ง RPG เดินเข้ามาใกล้แนวลวดหนามบริเวณด้านหน้าฐานปฏิบัติการของไทย ฝ่ายไทยได้ใช้การตะโกนเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและยกระดับสถานการณ์ โดยฝ่ายไทยเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 08.20 น. ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงเข้ามาบริเวณตรงข้ามฐานปฏิบัติการทางทิศตะวันออกของปราสาทตาเมือน ในระยะประมาณ 200 เมตร ขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ กำลังพลเจ็บ 2 นาย

กทม. 24 ก.ค.-ด่วน! เหตุปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ ทบ. เผยทหารกัมพูชา เปิดแนวรบเพิ่มที่ ผามออีแดง เขาพระวิหาร ส่วนทหารไทยงัดปืนใหญ่ตอบโต้ กำลังพลเจ็บ 2 นาย เมื่อวันที่ 24 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก ระบุเพิ่มเติมว่า เวลา 0920 น. กองทัพบกพบการปะทะเพิ่มเติมตลอดแนวพื้นที่ผามออีแดง ปราสาทเขาพระวิหาร พบฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากใช้อาวุธทุกชนิดและ BM21 ส่วนฝ่ายไทยเข้าปะทะตามแผนพร้อมตอบโต้ปืนใหญ่สนาม 09.20 น. เจ้าหน้าที่ทหารบาดเจ็บ 2 นาย จากอาวุธยิงสนับสนุน ในพื้นที่บริเวณกลุ่มปราสาทตาเมือน จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพื้นที่ที่มีการปะทะจำนวน 6 พื้นที่ ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย ช่องบก เขาพระวิหาร(ห้วยตามาเรีย/ภูมะเขือ) ช่องอ่านม้า ช่องจอม.-313.-สำนักข่าวไทย

ผบ.ทบ.นำคณะลงช่องอานม้า พรุ่งนี้ จ่อใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ

23 ก.ค.- “ผบ.ทบ.” สั่ง ทภ.2-ทภ.1 เตรียมพร้อม “แผนจักรพงษ์ภูวนาถ” รับมือชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมยกคณะลงพื้นที่บัญชาการ วันที่ 23 ก.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผข.ทบ.) ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่1 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา เตรียมใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ แก้ไขปัญหาพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาหลัง กำลังพลของกองทัพบกไทยจากชุดลาดตระเวน พัน.ร.14 ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พิกัด VA 950911 ซึ่งเป็นพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดน โดยส่งผลให้ จ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญโคราช ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสูญเสียขาขวา และอยู่ระหว่างการส่งตัวรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลน้ำยืน โดยให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันที เมื่อสั่งการ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พลโท ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสธ ทบ. พลโทบุญสินพาดกลาง มทภ.2 […]

“บิ๊กต่าย” อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็น ตร.

ตร. 23 ก.ค. – ผบ.ตร. อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็นตำรวจใต้บังคับบัญชาหลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 12 จังหวัดปราจีนบุรี อ่านคำพิพากษากรณีที่ ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิตปริศนา หลังจากถูกธำรงวินัยโดยรุ่นพี่ทหาร 2 นาย ภายในโรงเรียนเตรียมทหาร เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 ซึ่งหนึ่งในรุ่นพี่ที่เป็นจำเลย ปัจจุบันรับราชการตำรวจในภาคอีสาน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า ตนได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว สิ่งที่อยากจะสื่อสารในประเด็นที่ 1 ตนอยากพบพ่อและแม่ของน้องเมยเป็นการส่วนตัว เพื่อจะได้พูดคุยให้เข้าใจในการปฏิบัติของตำรวจ ซึ่งเป็นประเด็นที่ 2 กรณีที่คู่กรณีเป็นตำรวจ เราต้องมองย้อนไปในขณะที่เกิดเหตุ มองถอยหลังกลับไป คู่กรณีรายดังกล่าวไม่ได้อยู่ในสถานะตำรวจ ฉะนั้นแล้วตามกฎหมาย พ.ร.บ.ตำรวจ ปี 2565 การดำเนินการทางวินัยจะดำเนินได้เฉพาะกับผู้ที่อยู่ในสถานะตำรวจ ซึ่งขณะนั้นคู่กรณีถือว่าอยู่ภายใต้กองบัญชาการกองทัพไทย ส่วนการพิจารณาทางวินัยตำรวจของคู่กรณี ตนได้สั่งให้จเรตำรวจแห่งชาติ นำไปประกอบการพิจารณา เนื่องจากวินัยและอาญาจะสามารถเชื่อมกันได้ในข้อเท็จจริงบางส่วน […]

ข่าวแนะนำ

เข้าสู่วันที่ 2 กัมพูชาเปิดฉากตั้งแต่เช้ามืด ที่ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 25 ก.ค.-เข้าสู่วันที่ 2 เหตุปะทะไทย-กัมพูชา เริ่มเปิดฉากยิงกันตั้งแต่เช้ามืด บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ขณะนี้เสียงยังดังต่อเนื่อง ก่อนขยายการสู้รบไปตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอีสานใต้ อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เป็นพื้นที่แรกที่ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อนด้านปราสาทตาเมือนครับ เช้ามืดวันนี้ ราวตี 5 ครึ่ง ก็เริ่มปะทะกันอีก ขณะนี้ก็มีเสียงดังอย่างต่อเนื่อง เส้นทางจากอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เข้าสู่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ แม้สายแล้ว ก็มีรถสัญจรไปมาค่อนข้างน้อย เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยการสู้รบ โดยอำเภอพนมดงรักเป็นหนึ่งใน 4 อำเภอ ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ประกาศให้ผู้ที่ไม่มีความจำเป็นเข้าพื้นที่ร่วมกับอำเภอกาบเชิง บัวเชดและสังขะ โดยตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ในพื้นที่ตามแนวชายแดนได้ยินเสียงการปะทะด้วยกระสุนปืนใหญ่ดังอย่างต่อเนื่อง ผู้นำหมู่บ้านบันทึกสถิติเฉพาะฝั่งไทยตอบโต้เกินกว่า 100 ลูกแล้ว บ้านหนองแรด ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ที่จรวดหลายลำกล้อง BM 21 ตกเยอะสุด 10 ลูก วานนี้โดยรอบหมู่บ้าน โชคดีไม่ลงบ้านเรือน มีกระจกแตกเล็กน้อยจากแรงอัดลูกจรวดเท่านั้น วันนี้ ยังมีชาวบ้านอยู่นับร้อยคนหลบอยู่ในหลุมหลบภัย จากทั้งหมด […]

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

น้ำท่วมน่านหนักสุดเป็นประวัติการณ์

น่าน 24 ก.ค. – ยังน่าห่วง น้ำท่วมเขตเศรษฐกิจและตัวเมืองน่าน หนักสุดเป็นประวัติการณ์ บางจุดท่วมสูงถึงชั้น 2 ของบ้าน ประชาชนติดอยู่ในบ้านกลางน้ำ ยิ่งค่ำยิ่งลำบาก .-สำนักข่าวไทย

ไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือด “ไทย-กัมพูชา”

24 ก.ค. – ไล่เรียงไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่เกิดขึ้นในวันนี้ (24 ก.ค.) มีที่มาที่ไปอย่างไร พลันที่ชุดลาดตระเวน กองพันทหารราบที่ 14 เหยียบกับระเบิดที่ช่องอานม้า จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อเย็นวานนี้ (23 ก.ค.) ทำให้ทหาร 1 นาย บาดเจ็บสาหัสขาขาด อีก 4 นาย บาดเจ็บ ซ้ำรอยเหตุทหารไทยเหยียบกับระเบิดจนขาขาดในเวลาเพียง 1 สัปดาห์ ทำให้สถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ตึงเครียดถึงขีดสุด พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยกระดับมาตรการตอบโต้สั่งปิดด่าน 4 แห่ง คือ ช่องอานม้า, ช่องสะงำ, ช่องจอม และช่องสายตะกู พร้อมปิดสถานที่ท่องเที่ยว 2 แห่ง คือ ปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควายทันที 07.35 น. วันนี้ (24 ก.ค.) ความรุนแรงเริ่มชัดเจนขึ้น เมื่อทหารหน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม รายงานว่าได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ […]