ทปอ.เสนอรัฐ หนุนนวัตกรรมด้านเกษตร ลดการเผาป่า

ทปอ.5 เม.ย.-ทปอ.เสนอรัฐ สนับสนุนนวัตกรรมด้านการเกษตรเพื่อช่วยชาวบ้านลดการเผาป่า ลดปัญหาฝุ่นพิษ พร้อมให้หาพื้นที่เก็บน้ำเพิ่ม หลังสำรวจพบไม่เพียงพอ พร้อมเปิดบัญชีศูนย์กลางรับบริจาคเงินซื้อหน้ากากอนามัยช่วยเหลือพี่น้องชาวเหนือ


 

นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานที่ประชุมอธิการบดีเเห่งประเทศไทย (ประธาน ทปอ.)เป็นประธานเเถลงข่าวมาตรการการแก้ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ในพื้นที่ภาคเหนือของสถาบันอุดมศึกษา ว่า ทปอ.พร้อมด้วยที่ประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏ (ทปอ.มรภ.) ที่ประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชมงคล (ทปอ.มทร.)เเละสมาคมสถาบันอุดม ศึกษาเอกชน เห็นความสำคัญของปัญหาฝุ่น เพราะส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของนักศึกษาเเละอาจารย์ในสถาบันอุดมศึกษาหลายเเห่ง อาทิ   ม.เชียงใหม่ ม.เชียงราย ม.เเม่ฟ้าหลวง ม.พะเยา ม.เเม่โจ้ มรภ.เชียงใหม่ มรภ.เชียงรายเเละมรภ.ลำปาง มทร.ล้านนา เป็นต้น 


ทั้งนี้ จึงมีมาตรการในการช่วยเหลือและบรรเทาภาวะวิกฤตินี้เป็นการเร่งด่วน นอกจากที่เเต่ละมหาวิทยาลัยได้ดำเนินการแก้ไขไปแล้ว ทั้งการหยุดเรียน ติดตั้งเครื่องกรองอากาศฯลฯ โดยได้เปิดบัญชี สมาคมที่ประชุมอธิการบดีเเห่งประเทศไทย ‘ทปอ.ร่วมใจต้านภัยฝุ่น’ เลขบัญชี 013-0-30079-9 ธนาคารกรุงไทย โดยมีเงินตั้งต้น 1 แสนบาท เป็นบัญชีส่วนกลาง เพื่อระดมเงินเป็นค่าใช้จ่ายจัดหาหน้ากากป้องกันฝุ่นพิษเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าชั่วคราวในระยะสั้น 


ขณะที่ช่วงหลังเทศกาลสงกรานต์ ทปอ.จะลงพื้นที่ติดตามการเเก้ปัญหาเพื่อหามาตรการระยะกลางเเละระยะยาว ซึ่งเบื้องต้นจากการหารือ มีมติเสนอมาตรการให้รัฐบาลสนับสนุนงบประมาณให้มหาวิทยาลัยจัดทำนวัตกรรมด้านการเกษตรสำหรับการถางป่าเพื่อลดปัญหาการเผาป่า อย่าง มหาวิทยาลัยเเม่โจ้ ขณะนี้มีการพัฒนานวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับการเกษตรต่อเนื่อง ขณะเดียวกันเสนอให้เพิ่มพื้นที่เก็บน้ำในภาคเหนือ เพื่อใช้ดับไฟป่าเเละภัยเเล้ง ซึ่งจากการวิจัยของนักวิชาการด้านสิ่งเเวด ล้อม ของ ปทอ.ยังพบว่ามีไม่เพียงพอ

ด้านน.ส.ชยาพร วัฒนศิริ ตัวเเทนมหาวิทยาลัยเเม่ฟ้าหลวง กล่าวว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในภาคเหนือขณะนี้ถือเป็นภัยพิบัติทางอากาศ ซึ่งที่ผ่านมามหาวิทยาลัยช่วยเหลือตนเอง เเจกหน้ากากอนามัยให้นักศึกษา คณาจารย์รวมถึงชุมชนโดยรอบมหาวิทยาลัย เเละเปิดเป็นศูนย์กลางรับบริจาคของเพื่อลดปัญหาดังกล่าว และมีการประกาศหยุดเรียน งดทำกิจกรรมกลางแจ้ง เตรียมห้องเรียนที่เป็น clean room เเละมีพื้นที่ safety zone เพื่อป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็ก ซึ่งขณะนี้เริ่มพบปัญหานักศึกษาเรียนไม่ทัน เเละอาจกระทบกับการจบการศึกษาช้า จึงเปลี่ยนเป็นการปรับพื้นที่ให้ปลอดภัยกับนักเรียนทุกคน เเละเสียงสะท้อนจากนักศึกษายังบอกว่า เเม้หยุดเรียนก็ยังเจอสภาพอากาศที่ไม่ดีอยู่ดี จึงเปิดเรียนตามปกติ ขณะที่พบปัญหาเเผ่นกรองอากาศหรือ hepa fliter ขณะนี้ขาดตลาด จึงฝากผู้ที่เกี่ยวข้องเร่งผลิตหรือให้มีการจำหน่ายเพิ่มขึ้นในภาคเหนือ

ขณะที่มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ยังได้ทำจดหมายเปิดผนึกถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้รัฐบาลแก้ปัญหาหมอกควันในภาคเหนืออย่างเร่งด่วนและจริงใจ เมื่อวันที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยขอให้รัฐบาลดำเนินการดังนี้ 1.ให้ยกระดับความสำคัญของปัญหามลพิษฝุ่นละอองขนาดเล็กให้เป็นปัญหาของอาเซียนและขอให้บรรจุเป็นวาระสำคัญของการประชุมอาเซียนเพื่อหาข้อยุติในการแก้ปัญหาร่วมกัน อย่างเร่งด่วนและเป็นรูปธรรม พร้อมจัดตั้งเครือข่ายความร่วมมือในการป้องกันการเกิดไฟป่าและการเกิดฝุ่นละอองขนาดเล็กในระดับอาเซียน(Regional Network Smog Free)

2.เห็นสมควรจัดตั้งหน่วยประสานงานการแก้ไขปัญหามลพิษฝุ่นละอองขนาดเล็กอย่างถาวรเพื่อการแก้ไขอย่างฉับพลันและยั่งยืน

3.ให้ทุกจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจัดตั้งเครือข่ายในระดับท้องถิ่น ประกอบด้วยผู้นำชุมชนและองค์กรทุกระดับ เพื่อเฝ้าติดตาม เฝ้าระวังสถานการณ์ อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี โดยให้ภาครัฐจัดสรรงบประมาณเพื่อการดำเนินการ 

4.เมื่อเกิดสถานการณ์สถานการณ์มลพิษฝุ่นละอองขนาดเล็กเกินค่ามาตรฐานในประเทศไทย รัฐบาลควรพิจารณาประกาศให้เป็นพื้นที่ภัยพิบัติทางอากาศ พร้อมทั้งมีมาตรการแก้ไขอย่างฉับพลัน 

5.เมื่อเกิดสถานการณ์มลพิษฝุ่นละอองขนาดเล็กเกินค่ามาตรฐาน ให้รัฐบาลเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร เกี่ยวกับการดำเนินการของรัฐ ทั้งในด้านการแก้ปัญหา การป้องกัน การเยียวยา และให้การสนับสนุนการดำเนินการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเต็มที่ 

6.เมื่อเกิดสถานการณ์มลพิษฝุ่นละอองขนาดเล็กเกินค่ามาตรฐานจนเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ให้เป็นนโยบายของสถานพยาบาลรัฐทุกแห่ง เปิดช่องทางพิเศษให้ผู้ได้รับผลกระทบเข้ารับบริการการตรวจ-รักษาฟรี /ทั้งนี้เพื่อให้การดำเนินการดังกล่าวบังเกิดผลในทางปฏิบัติ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงจึงได้จัดตั้งศูนย์การศึกษา วิจัยและปฏิบัติการเพื่อลดปัญหาการเกิดไฟป่าและหมอกควันในประเทศไทยและในภูมิภาค โดยทำหน้าที่เป็นศูนย์ศึกษา วิจัย และเป็นตัวกลางเชื่อมโยงทุกหน่วยงาน ทั้งในระดับประเทศและภูมิภาค

น.ส.ชยาพร กล่าวด้วยว่า มฟล.ขอขอบคุณนายกฯที่รับข้อเสนอต่างๆของมหาวิทยาลัย รวมทั้งผู้ว่าฯเชียงราย ก็รับที่จะดำเนินการตามข้อเสนอของ มฟล.ทันที นอกจากนี้เห็นว่าปัญหาหมอกควันซึ่งเกิดขึ้นทุกปีและรุนแรงขึ้น โดยคาดหวังว่าปีหน้า ปัญหานี้จะต้องลดลง โดยมฟล.ตั้งกองทุนเมืองไทยไร้หมอกควัน โดยมีทุนประเดิมจาก มฟล.2 แสนบาท เงินจากมูลนิธิสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือสมเด็จย่า 2 แสนบาท โดยกองทุนนี้ มุ่งหวังที่จะช่วยเหลือแก้ปัญหาหมอกควันในประเทศไทยทุกภูมิภาค ซึ่งเราพบว่า ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคใต้ รวมทั้งภาคกลาง ก็ประสบปัญหาหมอกควันเช่นเดียวกัน .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

PEA ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา 5 จุด

เริ่มแล้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รับนโยบาย สมช.สั่งตัดไฟฟ้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียนมา 5 จุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้

บุกจับกำนันหญิงแหนบทองคำ ฉ้อโกง 41 ล้าน

ตำรวจพิษณุโลกเปิดปฏิบัติการ “หักขาไก่” นำ 10 หมายจับ รวบตัว “กำนันหญิงแหนบทองคำ” ประธานกองทุนหมู่บ้าน กับคณะกรรมการกองทุนฯ ร่วมฉ้อโกงประชาชน หลังชาวบ้าน 140 ราย แจ้งความ มูลค่าความเสียหาย 41 ล้านบาท

ชาวเมียวดีหวั่นถูกตัดไฟฟ้า เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์

ชาวบ้านเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้ามชายแดนแม่สอด จ.ตาก หวั่นไทยตัดไฟฟ้า กระทบวงกว้าง เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์-เครื่องปั่นไฟ รับมือ ด้าน PEA ชี้ตัดไฟเมียนมาอาจสูญเปล่า หากไม่พิจารณาให้ครบถ้วน

ข่าวแนะนำ

นายกฯพบสีจิ้นผิง

นายกฯ เข้าเยี่ยมคารวะ “สี จิ้นผิง”

นายกฯ เข้าเยี่ยมคารวะ “สี จิ้นผิง” ย้ำความสัมพันธ์ทางการทูตและหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ ด้านจีนหนุนไทยมีบทบาทในเวที ระดับโลกและภูมิภาค

ศาลตัดสินพิรงรอง

“พิรงรอง” รับกังวลใจ วันนี้ศาลตัดสิน คดีทรูฟ้องหลุดเก้าอี้ กสทช.

“พิรงรอง” ถึงศาล รับกังวลใจ คดีทรูฟ้องหลุดเก้าอี้ กสทช. ปมส่งใบเตือนทีวีดิจิทัลมีโฆษณาแทรก ยืนยันทำหน้าที่อย่างถูกต้อง

รวบแล้วนักโทษหนีเรือนจำนนทบุรี จนมุมที่ จ.ชลบุรี

จับได้แล้วนักโทษชายหนีเรือนจำจังหวัดนนทบุรี ระหว่างออกกองงานภายนอก จนมุมที่หน้าโรงแรมแห่งหนึ่งย่านบางแสน จ.ชลบุรี ก่อนนำตัวมาสอบสวนและดำเนินคดีที่ สภ.เมืองนนทบุรี

ตัดไฟ 5 จุดชายแดนเมียนมา วันแรก กระทบชาวบ้านหลายหมื่นคน

หลังทางการไทยตัดไฟฟ้าที่เชื่อมโยงไปยังเมืองเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก ส่งผลชาวบ้านแห่กักตุนน้ำมัน โรงพยาบาลเมียวดีได้รับผลกระทบในการเก็บเวชภัณฑ์ที่ต้องใช้ตู้แช่