กทม. 2 เม.ย.- มีข่าวดีสำหรับคนบริโภคผลไม้ เพราะปีนี้ผลผลิตมาก ราคาจะถูกลง แต่เป็นข่าวร้ายสำหรับชาวสวนผลไม้ ขณะที่กระทรวงพาณิชย์วางแผนรับมือปัญหาแล้ว
สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร หรือ สศก. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เผยข้อมูลปริมาณผลไม้ 4 ชนิดได้แก่ ทุเรียน มังคุด เงาะ และลองกอง ในแหล่งปลูกสำคัญ 3 จังหวัดภาคตะวันออก จันทบุรี ระยองและตราดในปีนี้ พบว่า เนื้อที่ให้ผลของผลไม้ทั้ง 4 ชนิดมีกว่า 626,000 ไร่เพิ่มขึ้นจากปี 2561 ร้อยละ 1.82 ขณะที่ผลผลิตรวมทั้ง 4 สินค้ามีจำนวน 886,535 ตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2561 ถึง 219,510 ตัน หรือ ร้อยละ 32.91 โดยผลผลิตจะออกมากช่วงกลางเดือนเมษายนต่อเนื่องถึงกลางเดือนพฤษภาคม ซึ่งมังคุดเพิ่มขึ้นมากที่สุดร้อยละ 144.11 เนื่องจากสภาพอากาศเอื้ออำนวย ต้นมังคุดมีเวลาพักสะสมอาหารนานจึงออกดอกติดผลได้มากในปีนี้ รองลงมาได้แก่ ลองกอง เพิ่มขึ้นร้อยละ 24.35 ทุเรียน เพิ่มขึ้นร้อยละ 22.69 และเงาะ เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.31 และปีนี้ผลไม้ในภาคตะวันออกจะเก็บเกี่ยวผลผลิตได้เร็วขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา
เมื่อผลผลิตของผลไม้ออกสู่ตลาดมาก และพบว่า ที่ผ่านมาทางการจีนได้เข้มงวดการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ และได้ทำหนังสือแจ้งเตือนประเทศไทยหลายครั้งให้ดำเนินการแก้ไขเรื่องการตรวจพบศัตรูพืชในผลไม้ที่นำเข้าจากไทย ทำให้เกิดผลกระทบตามมาคือราคาตกต่ำล่าสุดที่ชัดเจนแล้ว คือ ราคามังคุด ซึ่งปีนี้มังคุดภาคตะวันออกมีปริมาณผลผลิตมากและมีหลายรุ่น ซึ่งเริ่มทยอยสุกและเก็บเกี่ยวตั้งแต่กลางเดือนมีนาคม และผู้ประกอบการบางรายเตรียมแรงงานไว้สำหรับคัดแยกมังคุดไม่เพียงพอ ประกอบกับมีการกวดขันจับกุมแรงงานผิดกฎหมายทำให้โรงคัดบรรจุขาดแคลนแรงงาน และช่วงเดือนเมษายนนี้คาดว่าจะมีมังคุดและทุเรียนออกมาจำนวนมาก
มีราคามังคุดในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา จากข้อมูลของตลาดไท ซึ่งเป็นตลาดผัก ผลไม้ใหญ่ของประเทศ จากกราฟ จะเห็นว่า ราคาของมังคุดมันผลใหญ่ เปลี่ยนแปลงขยับขึ้น-ลงแต่ช่วงเวลาไม่เหมือนกัน แล้วแต่ปริมาณผลผลิตที่ออกสู่ตลาด ซึ่งในรอบปีที่ผ่านมา ช่วงที่ราคามังคุดขึ้นไปสูงสุดคือ 30 เมษายน 2561 อยู่ที่กิโลกรัมละ 220 บาท ขณะที่ช่วงราคามังคุด ลดต่ำลงมากที่สุด เป็นช่วงวันที่ 30 กรกฎาคม 2561 ราคากิโลกรัมละ 25 บาท ส่วนราคาล่าสุดที่ประกาศออกมาวันที่ 1 เมษายน 2562 อยู่ที่ 50 บาทต่อกิโลกรัม
นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า มังคุด ซึ่งปีนี้ให้ผลผลิตเพิ่มขึ้นมาก และคาดผลผลิตช่วง 2 เดือนจากนี้ จะมีปริมาณ 180,000 ตัน สูงกว่าปี 2561 ที่มีฝนชุก และมีผลผลิตประมาณ 90,000 ตัน และยังมากกว่าปี 2560 ที่มีผลผลิตรวม 150,000 ตัน จึงมีผลต่อราคามังคุดต้นฤดูลดลงร้อยละ 10 หรือเฉลี่ยมีราคา 30-40 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งกรมการค้าภายในได้เตรียมรับมือแล้วโดยหารือห้างค้าปลีก เครือข่ายร้านธงฟ้า ตลาดสด สหกรณ์ เพื่อเชื่อมโยงและรับซื้อเพิ่มเพื่อกระจายผลผลิต และหารือกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมจัดกิจกรรมโปรโมทบริโภคมังคุด
สำหรับผลไม้ชนิดอื่น ที่กำลังมีผลผลิตออกสู่ตลาด เช่น ทุเรียน เงาะ อธิบดีกรมการค้าภายในบอกว่าราคายังใกล้เคียงปีก่อนๆ แต่หลายหน่วยงานมีการติดตามสถานการณ์ไว้บ้างแล้วและพร้อมจะหามาตรการเข้าไปดูแล
ส่วนราคาผักที่แพงขึ้นช่วงนี้ อธิบดีกรมการค้าภายใน บอกว่า ปัญหาภัยแล้งรุนแรงในหลายพื้นที่ส่งต่อผักสดบางชนิดเสียหาย ผลผลิตลดลง ราคาเริ่มสูงขึ้น เช่น มะนาว คะน้า ซึ่งในส่วนของมะนาว จะประสานขอความร่วมมือสหกรณ์ต่างๆ ที่มีการแปรรูปผลผลิตไว้ให้นำออกสู่ตลาดเพื่อลดผลกระทบจากราคามะนาวในบางพื้นที่ปรับสูงขึ้น และมองในแง่ดีว่า เดือนพฤษภาคม ภัยแล้งน่าจะคลี่คลายลง ราคาน่าลดลง ซึ่งผักบางชนิดใช้เวลาไม่ถึง 20 วันผลผลิตก็ออกสู่ตลาดได้แล้ว ช่วยบรรเทาผลกระทบเรื่องราคาแพงไปได้บ้าง.-สำนักข่าวไทย