กทม. 2 เม.ย.- ตำรวจ สตม.จับหนุ่มญี่ปุ่นหนีคดีคอบเซ็นเตอร์หลอกหญิงชราถอนเงินจากธนาคารมามอบให้เมื่อปี 56 แล้วมากบดานในไทย
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. แถลงว่าได้รับการประสานข้อมูลจากสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ว่ามีคนร้ายสัญชาติญี่ปุ่นหนีหมายจับมาอาศัยอยู่ในประเทศไทย โดยสืบสวนติดตามตัวตั้งแต่ปี 2556 ก่อเหตุลักษณะคอลเซ็นเตอร์ อ้างเป็นตำรวจไปหลอกเงินเหยื่อ ชุดสืบสวน สตม. สืบสวนจนพบและเข้าจับกุมนายคาซึยะ ฮาชิโมโตะ (Mr.Kazuya HASHIMOTO) อายุ 39 ปี ในซอยเอกมัย 5 เขตวัฒนา ข้อหา “เป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด” (Over Stay)
สอบสวนรับสารภาพว่า เป็นบุคคลตามหมายจับศาลเมืองนารา ประเทศญี่ปุ่น ข้อหาฉ้อโกง โดยก่อเหตุเมื่อ 23 ก.ค.2556 กับเพื่อนร่วมขบวนการอีก 6 คน ซึ่งบางคนถูกจับกุมแล้วที่ประเทศญี่ปุ่น หลอกลวงผู้เสียหาย หญิงชรา อายุ 75 ปี ที่จังหวัดนารา โดนนาย คาซึยะ ฮาชิโมโตะ ผู้ต้องหา ทำหน้าที่โทรศัพท์ไปที่บ้านผู้เสียหายอ้างว่าเป็นตำรวจ ขู่ว่าบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้เสียหายมีธุรกรรมทางการเงินที่น่าสงสัยผิดกฎหมาย จะต้องถูกตรวจสอบ แต่มีทางที่พอจะช่วยเหลือได้ โดยต้องถอนเงินในบัญชีทั้งหมด ไปฝากกับบัญชีพิเศษของสมาคมธนาคารซึ่งไม่มีอยู่จริง โดยให้ถอนเงินสดออกมาเตรียมไว้ และเจ้าหน้าที่ของสมาคมธนาคารจะไปรับเงินสดที่บ้านผู้เสียหายเพื่อนำไปเข้าบัญชีพิเศษ จากนั้นผู้ต้องหาไปที่บ้านของผู้เสียหาย และรับเงินจำนวน 8 ล้านเยน หรือประมาณ 2.4 ล้านบาท จากผู้เสียหายและได้หลบหนีไป
จากการสอบสวนผู้ต้องหากลุ่มนี้ พบหลักฐานว่ามีพฤติการณ์หลอกลวงผู้เสียหายรายอื่นในรูปแบบเดียวกันอีก 4 คดี รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 28 ล้านเยน หรือประมาณ 8 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลทางการญี่ปุ่น นายคาซึยะ เป็นหัวหน้าระดับปฏิบัติการ โดยกำลังหาความเชื่อมโยงกับแก๊งยากูซ่า ขบวนการนี้ ยังมีหัวหน้าเป็นชาวจีน อยู่ระหว่างตามจับกุมตัวอีก 1 คน
ส่วนความคืบหน้าการจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวญี่ปุ่น 15 คน ที่ จ.ชลบุรี วันนี้ ได้คุมตัวผู้ต้องหามาแถลงข่าวพร้อมของกลางโทรศัพท์ และอุปกรณ์ที่ใช้กระทำผิด พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง ผบก.ตม.3 กล่าวว่า ผบ.ตร.ญี่ปุ่น โทรศัพท์สอบถามข้อมูล พร้อมขอบคุณ สตม. ส่วนการขยายผลคาดมีผู้ร่วมขบวนการทำผิดอีก 3-4 คน จากการตรวจสอบขบวนการคอลเซ็นเตอร์ญี่ปุ่นที่จับในชลบุรี เบื้องต้นไม่พบหลักฐานเชื่อมโยงกับนายคาซิยะ ฮาชิโมโตะ.-สำนักข่าวไทย