กรุงเทพฯ 29 มี.ค.- หลังพาทีมชาติไทยชุดใหญ่ ได้รองแชมป์ฟุตบอลสี่เส้า “ไชน่า คัพ 2019” ที่ประเทศจีน ไปดูเส้นทางอนาคตของ “โค้ชโต่ย” ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย ติดตามจากรายงาน
“โค้ชโต่ย” ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย ได้รับแต่งตั้งเป็นกุนซือชั่วคราวของทีมฟุตบอลชายทีมชาติไทยชุดใหญ่แบบฉุกเฉิน และกะทันหัน ระหว่างการแข่งขันฟุตบอลเอเชียนคัพ 2019 ที่สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ หลังจากที่นัดแรกในรายการนี้ ทีมช้างศึกแพ้ให้กับอินเดีย 1-4 นำไปสู่การปลด มิโลวาน ราเยวัช อดีตกุนซือชาวเซิร์บ
โดยหลังจากโค้ชโต่ยรับงานในฐานะเฮดโค้ชชั่วคราว มีผลงานชนะ 2 แพ้ 2 เสมอ 1 ซึ่งเส้นทางระหว่างนั้น โค้ชโต่ยได้โอกาสพานักเตะช้างศึก และพาตัวเองไปพบกับประสบการณ์ในการฟาดแข้งกับทีมของกุนซือชื่อดังระดับโลก ทั้ง อัลแบร์โต้ ซัคเคโรนี ของยูเออี, มาเซลโล ลิปปี้ และฟาบิโอ คันนาวาโร ของจีน รวมถึง ออสก้า ตาบาเรซ ของอุรุกวัย
กุนซือทีมชาติไทยชุดรองแชมป์ไชน่า คัพ 2019 กล่าวถึงการได้ประลองกับโค้ชระดับปรมาจารย์ เป็นสิ่งที่ต้องจำไปทั้งชีวิต ทั้งโดยประสบการณ์ และการเรียนรู้ที่ได้ทั้งหมด ได้จดบันทึกไว้ทั้งรูปแบบเอกสาร และบันทึกไว้ในความทรงจำ
โค้ชโต่ย กล่าวอีกว่า ทีมชุดไชน่า คัพ 2019 พัฒนาขึ้นจากเอเชียนคัพ โดยเฉพาะ 3 นักเตะที่ได้ไปเล่นในเจลีก ทั้ง “เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์, “นิว” ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ และ “อุ้ม” ธีราทร บุญมาทัน ต่างช่วยยกระดับทีม ทำให้ทีมชาติไทยแกร่งขึ้น ซึ่งนอกเหนือจากทั้ง 3 คน คนอื่นๆ ที่ติดทีมชุดไชน่า คัพ จะกลายเป็นกำลังสำคัญของการคัดฟุตบอลโลก 2022 ที่จะเริ่มช่วงปลายปีนี้
ส่วนอนาคตในการทำงานกับทีมช้างศึกชุดใหญ่ โค้ชโต่ย กล่าวว่า ได้หารือกับ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฟุตบอลฯ แล้ว การเป็นหัวหน้าโค้ชทีมชาติชุดใหญ่ในเกมระดับนานาชาติ ต้องมีประกาศนียบัตรฟุตบอลระดับ “โปร ไลเซนส์” ซึ่งตอนนี้ตนกำลังเรียนอยู่ อย่างไรก็ตาม จะทำหน้าที่ผู้ช่วยโค้ชทีมชาติไทย ร่วมกับ “โค้ชโชค” โชคทวี พรหมรัตน์ ต่อไป เพราะถือเป็นความภาคภูมิใจ และตนเองก็ยังมีสัญญาอยู่กับสมาคมอีกด้วย
ขณะที่การคุมทีมระดับสโมสร โค้ชโต่ยยืนยันว่า ไม่ได้สนใจในเวลานี้ เพราะอยากทำเพื่อชาติมากกว่า.-สำนักข่าวไทย