พรรคเพื่อไทย 29 มี.ค.-“ภูมิธรรม” เรียกร้อง กกต.เปิดเผยคะแนนดิบทั้งหมด เพื่อให้เกิดความชัดเจน หลังชี้แจง 2 รอบ ตัวเลขแตกต่างกัน ทำให้เกิดความสับสน ชี้กรณีหลายฝ่ายเตรียมร้องเอาผิด กกต.จัดเลือกตั้งมีปัญหา จนทำให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ กกต.ต้องเป็นผู้รับผิดชอบ
นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แถลงผลการเลือกตั้งครบ 100 เปอร์เซ็นต์อย่างไม่เป็นทางการ ว่ามีบางประเด็นที่ยังน่าสงสัยและไม่ชัดเจนเกี่ยวกับตัวเลข ทำให้เกิดความสับสน โดยเฉพาะตัวเลขของผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ แต่ในการชี้แจง 2 รอบ กลับมีความแตกต่างกันถึง 3-4 หมื่นคน ทั้งนี้ขอเรียกร้องให้ กกต.เปิดเผยคะแนนดิบทั้งหมดเป็นรายเขต เพื่อให้เกิดความชัดเจน เมื่อประชาชนคลายความสงสัย ก็จะทำให้การเลือกตั้งเป็นที่ยอมรับได้
“กกต.ควรจะเปิดคะแนน อย่างหน่วยที่ 1 มีผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 100 คน มีผู้มาใช้สิทธิเท่าไหร่ สมมติบัตรดี 80 บัตรเสีย 20 ในส่วนของบัตรดีเลือกแต่ละพรรคการเมืองคะแนนเสียงเท่าไหร่ หากทำอย่างนี้ได้และนำเข้าระบบคอมพิวเตอร์ เมื่อคนทราบ ทุกอย่างมีความชัดเจน ทุกอย่างก็จบ แต่วันนี้ตัวเลขที่แถลงยังไม่นิ่ง ยังเปลี่ยนแปลงได้ จำนวน ส.ส.ก็ยังขยับได้อยู่ ทั้งนี้ได้คุยกับนักการเมืองหลายคนก็ยังอึมครึม เพราะการเลือกตั้งคราวนี้ใช้งบประมาณเยอะ และใช้เวลานานกว่าจะประกาศผลได้ ซึ่งควรมีประสิทธิภาพมากกว่านี้ หากคนรู้ไม่โปร่งใส ไม่สบายใจ ก็จะส่งผลต่อความเชื่อมั่น อย่างกรณีคำว่าบัตรเขย่ง ตั้งแต่เป็นนักการเมืองมา ก็เพิ่งเคยได้ยินครั้งแรก ดังนั้นอยากให้ กกต.ทั้งหมดออกมาแถลงชี้แจง ไม่ใช่ให้เจ้าหน้าที่ออกมาชี้แจงรายวัน จนทำให้เกิดความสับสน” นายภูมิธรรม กล่าว
นายภูมิธรรม กล่าวถึงการที่มีหลายฝ่ายเตรียมเอาผิด กกต. ตามประมวลกฎหมายอาญา 157 กรณีจัดการเลือกตั้งมีปัญหา ว่า ในส่วนของพรรคเพื่อไทยยังไม่ได้มองไปไกลถึงขนาดนั้น เพราะต้องการเห็นความชัดเจนในการทำงานของ กกต. และอยากเห็นเลขคะแนนดิบอยู่ จึงต้องการให้ กกต.รีบเปิดเผย ส่วนการร้องเอาผิด กกต.จะทำให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะหรือไม่นั้น อยู่ที่ความเป็นจริง ถ้าการเลือกตั้งมีปัญหา จนทำให้การเลือกตั้งโมฆะ ทุกฝ่ายก็ต้องยอมรับ และ กกต.ต้องเป็นผู้รับผิดชอบ
เมื่อถามถึงกรณีนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เรียกร้องให้พรรคเพื่อไทยหยุดใช้วาทกรรมพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย นายภูมิธรรม กล่าวว่า ขณะที่ 7 พรรคการเมืองร่วมลงสัตยาบันมีจุดประสงค์ต่อต้านการสืบอำนาจและรักษาไว้ซึ่งอำนาจประชาธิปไตย มีจุดยืนชัดเจนในการทำงาน ดังนั้นเชื่อว่าประชาชนจะเข้าใจว่าสิ่งที่เราพูดคืออะไร ทั้งนี้มั่นใจว่า 7 พรรคการเมืองยังคงจับมืออย่างเหนียวแน่นเช่นเดิม แต่พรรคการเมืองอื่น ขณะนี้อยากอยู่ให้นิ่งที่สุดและไม่แสดงจุดยืนของตนเอง เพราะต้องรอความชัดเจนจาก กกต.ก่อน.-สำนักข่าวไทย