เกษตรฯ กำชับสำรองน้ำกรณีฝนทิ้งช่วง

กรุงเทพฯ 28 มี.ค. – “กฤษฎา” จี้ทุกหน่วยงานช่วยเกษตรกรทั่วประเทศ ปีนี้เข้าสู่ฤดูฝนช้า เผยนายกฯ ห่วงพื้นที่นอกเขตชลประทาน สั่งกระทรวงเกษตรฯ สนับสนุนน้ำอุปโภค-บริโภค 


นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประชุมทุกหน่วยงานเพื่อประเมินสถานการณ์ภัยแล้งและความคืบหน้ามาตรการช่วยเหลือบรรเทาภัยให้แก่เกษตรกรและประชาชน  โดยกล่าวว่า ได้เร่งติดตามแผนบริหารจัดการน้ำฤดูแล้งทั้งปี 2561/2562 และ ปี2562/63 เนื่องจากการบริหารจัดการน้ำที่เหมาะสมต้องวางแผนต่อเนื่อง 2 ปี สำหรับปีนี้กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่าจะเข้าสู่ฤดูฝนช้า คาดว่าจะเริ่มตกปลายเดือนพฤษภาคม ดังนั้น นายกรัฐมนตรีจึงห่วงใยประชาชน ซึ่งฤดูแล้งยังคงมีระยะเวลาอีก 2 เดือน 

ทั้งนี้ ได้รับรายงานจากอธิบดีกรมชลประทานเกี่ยวกับปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำและแหล่งน้ำธรรมชาติทั่วประเทศ รวมทั้งกำชับให้ทุกหน่วยงานบูรณาการกับส่วนราชการอื่นเพื่อช่วยเหลือประชาชน สำหรับในเขตชลประทานยืนยันว่ามีน้ำเพียงพอสำหรับอุปโภคและบริโภค อีกทั้งจัดสรรน้ำให้พื้นที่เพาะปลูกจนเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ ขณะนี้ปัญหาการปลูกข้าวนาปรังเกินแผนได้ใช้กลไกคณะอนุกรรมการพัฒนาเกษตรและสหกรณ์จังหวัด (อ.พ.ก.) ซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน หัวหน้าหน่วยราชการสังกัดกระทรวงเกษตรฯ เป็นกรรมการ จัดส่งเจ้าหน้าที่ไปทำความเข้าใจกับเกษตรกรไม่ให้ทำนาปรังรอบที่ 2 ซึ่งสามารถลดอัตราการปลูกข้าวต่อเนื่องได้แล้ว ส่วนพื้นที่นอกเขตชลประทาน ผู้ว่าราชการจังหวัดจะเป็นผู้กำหนดแผนป้องกันและบรรเทาภัยแล้ง รวมถึงมาตรการช่วยเหลือประชาชน โดยมอบหมายให้กรมชลประทานสนับสนุนพื้นที่ประสบภัย หากพื้นที่แล้งอยู่ใกล้แหล่งน้ำชลประทาน ทางโครงการชลประทานพื้นที่จะใช้เครื่องมือเครื่องจักรชักน้ำมาให้ กรณีที่มีแหล่งน้ำใต้ดินจะประสานกรมทรัพยากรน้ำบาดาลมาขุดเจาะ แต่หากไม่มีแหล่งน้ำเลยจะใช้รถบรรทุกน้ำขนส่งน้ำไปช่วยเหลือซึ่งกรมชลประทานจัดสรรไปครอบคลุมทุกพื้นทีเสี่ยงแล้ว


ด้านนายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า เฝ้าระวังเขื่อนน้ำน้อยวิกฤติ 6 แห่ง ได้แก่ เขื่อนอุบลรัตน์ เขื่อนแม่มอก เขื่อนทับเสลา เขื่อนกระเสียว เขื่อนลำนางรอง เขื่อนลำพระเพลิง ทั้งนี้ เขื่อนอุบลรัตน์ มีน้ำใช้การได้เหลือร้อยละ 2 ได้มีมตินำน้ำก้นเขื่อนมาใช้ 90 ล้าน ลบ.ม. ตั้งแต่วันที่ 20 เม.ย.ถึง สิ้นเดือน พ.ค. โดยสถานการณ์ปีนี้รุนแรงน้อยกว่าปี 2559 เคยนำน้ำก้นเขื่อนมาใช้ 120-130 ล้าน ลบ.ม. ในส่วนพื้นที่นอกเขตชลประทาน มีปัญหาขาดน้ำอุปโภค บริโภค 7 จังหวัด คือ เชียงใหม่ นครสวรรค์ ชัยภูมิ นครราชสีมา เลย กาญจนบุรี ราชบุรี ได้ประสานกับทางจังหวัด กองทัพ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำบัญชีรายตำบล อำเภอ ปริมาณน้ำบ่อบาดาลในพื้นที่ที่ประสบภัยแล้งซ้ำซาก เตรียมจัดหาน้ำจากแหล่งน้ำใกล้เคียงมาช่วยเหลือและมีรถบรรทุกน้ำที่สามารถเข้าถึงพื้นที่ได้อย่างทันท่วงที 

นายทองเปลว กล่าวว่า จากการประสานข้อมูลกับกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่าฤดูฝนปีนี้มาล่า โดยฝนจะเริ่มตกปลายเดือนพ.ค. แต่ตลอดทั้งปีมีอิทธิพลปรากฏการณ์เอลณิโญ่อ่อน ๆ ส่งผลให้ปริมาณฝนปีนี้ต่ำกว่าเกณฑ์เฉลี่ยร้อยละ10 จากปกติปีละ 1,400 มิลลิเมตร เหลือ 1,200 -1,300 มิลลิเมตร จึงต้องบริหารจัดการน้ำอย่างเข้มงวดเพื่อมีน้ำไว้ใช้ถึงฤดูแล้งปีหน้าด้วย โดยจะต้องสำรองน้ำในเขื่อนไว้ประมาณ 13,000 ล้าน ลบ.ม. 

นายทองเปลว กล่าวเพิ่มเติมว่า ในพื้นที่ชลประทานไม่มีปัญหาขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคและการเกษตรแน่นอน แต่ฤดูกาลเพาะปลูกใหม่ ปกติแล้วให้ใช้น้ำฝนเป็นหลัก จึงขอให้เริ่มเพาะปลูกเมื่อกรมอุตุนิยมวิทยาประกาศเข้าสู่ฤดูฝน แต่หากมีฝนทิ้งช่วงเดือน มิ.ย.- ก.ค.ได้สำรองน้ำไว้เพื่อช่วยเหลือแล้วนอกจากนี้ กรมชลประทานยังพร้อมส่งเครื่องจักร เครื่องมือช่วยเหลือภัยแล้งทั่วประเทศ โดยเตรียมไว้ที่ศูนย์เครื่องจักรกลทุกพื้นที่ได้แก่ ศูนย์ที่ 1 เชียงใหม่ เครื่องสูบน้ำ 165 เครื่อง รถบรรทุกน้ำ 11คัน เครื่องจักรกลอื่นๆไว้สนับสนุน ศูนย์ส่วนกลาง เครื่องสูบน้ำ 419 เครื่องรถบรรทุก 18 คัน และอื่นๆ ศูนย์นนทบุรี เครื่องสูบน้ำ 52 เครื่อง รถบรรทุกน้ำ 12 คัน ศูนย์พระนครศรีอยุธยา เครื่องสูบน้ำ 331 เครื่อง รถบรรทุกน้ำ 16 คัน ศูนย์พิษณุโลก เครื่องสูบน้ำ262 เครื่อง รถบรรทุกน้ำ13คัน ศูนย์ขอนแก่น เครื่องสูบน้ำ 327 เครื่อง รถบรรทุกน้ำ 9คัน ศูนย์นครราชสีมา เครื่องสูบน้ำ 17 เครื่อง รถบรรทุกน้ำ 18คัน ศูนย์สงขลา เครื่องสูบน้ำ 208 เครื่อง รถบรรทุกน้ำ 14 คัน และอื่น ๆ รวม 4,850 ชุด.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

กระดูกเทียมไทเทเนียม นวัตกรรมไทยช่วยทหารกล้าชายแดน

กรุงเทพฯ 16 ส.ค.-สินค้า IP ไทยสุดเลิศ ผลิตกระดูกเทียมและอุปกรณ์ช่วยผ่าตัด ช่วยเหลือทหารแนวหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ต่อยอดส่งออกสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยในระยะยาว นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญา ร่วมกับบริษัท เมติคูลี่ จำกัด ผู้ผลิตกระดูกเทียมและอุปกรณ์ช่วยผู้ป่วยผ่าตัด ช่วยเหลือทหารแนวหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จำนวน 4 ราย ซึ่งรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี และโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าตามลำดับ เพื่อให้ทหารกล้าของไทยฟื้นฟูสภาพร่างกายให้กลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีโดยเร็ว “ความร่วมมือครั้งนี้ เริ่มจากกระทรวงพาณิชย์ลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีเยี่ยมผู้ประสบภัย ชายแดนไทย–กัมพูชา เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2568 จากนั้นได้ประสานกับ เมติคูลี่ ซึ่งได้รับเลือกจากกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ให้เป็น IP Champion ในสาขาสิทธิบัตรการประดิษฐ์ประจำปีนี้ มอบแผ่นปิดกะโหลกเทียมไทเทเนียมออกแบบเฉพาะบุคคล และกระดูก มือเทียมไทเทเนียมเฉพาะบุคคลให้ทางโรงพยาบาลเพื่อให้นายทหารที่ผ่านการผ่าตัดเปิดกะโหลกศีรษะ 3 ราย และผ่าตัดข้อมือ 1 ราย ได้รับการรักษาที่มีความแม่นยำสูง ด้วยการออกแบบกระดูกที่มีขนาดจำเพาะกับสรีระผู้ป่วย ทำให้ผู้ป่วยฟื้นฟูร่างกายได้ดีขึ้น และสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างปกติ โดยกระทรวงฯ ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากกองบัญชาการกองทัพภาคที่ 2” […]

“นราธิวาส” จับยาไอซ์ลอตใหญ่ 900 กก. ซุกรถขนผัก

กทม.16 ส.ค.-“ภูมิธรรม” เผย “นราธิวาส” จับยาไอซ์ลอตใหญ่ 900 กก. ซุกรถขนผัก สั่งการเร่งขยายผลต่อเนื่อง พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ว่าจากการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล ที่มุ่งปราบปรามยาเสพติดอย่างเด็ดขาด ในวันนี้ทางจังหวัดนราธิวาสร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ได้มีการแกะรอย และตรวจค้นรถกระบะที่มีการลักลอบขนส่งยาเสพติด บริเวณอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส สามารถตรวจจับยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ซุกซ่อนอยู่ในรถกระบะขนผัก จำนวน 30 กระสอบ น้ำหนักรวมประมาณ 900 กิโลกรัม และได้ทำการควบคุมตัวตัวผู้ต้องหาไว้ได้แล้ว นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ตนได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม และนายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.มหาดไทย ลงพื้นที่จังหวัดนราธิวาส เพื่อติดตามการดำเนินงานและร่วมแถลงผลการจับกุมในวันที่ 16 ส.ค.นอกจากนี้ยังได้ให้กำลังใจผ่านผู้ว่าราชการจังหวัด ไปยังเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกท่านที่ทำหน้าที่อย่างเข้มข้น ตั้งใจ จนสามารถจับกุมกรณีการลักลอบขนส่งยาเสพติดล็อตใหญ่นี้ได้ และได้ให้ติดตามเพื่อขยายผลการจับกุมต่อไป.-319.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลย้ำเกษตรกรเร่งขึ้นทะเบียน-ปรับปรุงข้อมูลทางทะเบียน รับเงินช่วยเหลือ

ทำเนียบฯ 16 ส.ค. – รัฐบาลย้ำเกษตรกรเร่งขึ้นทะเบียนและปรับปรุงข้อมูลทางทะเบียนปีการผลิต 2568/69 พร้อมรอรับเงินช่วยเหลือตามนโยบายรัฐบาล นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) เห็นชอบโครงการพัฒนาศักยภาพการผลิตข้าวของเกษตรกรปลูกข้าวปีการผลิต 2568/69 และนาปรังปีการผลิต 2568 โดยจะจ่ายเงินช่วยเหลือชาวนา ไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากปัญหาต้นทุนการผลิตสูงและราคาข้าวที่ตกต่ำ ซึ่งเกษตรกรที่ทำนาปรังและนาปี จะได้รับเงินหลังจากลงทะเบียนและตรวจสอบสิทธิแล้วเสร็จ ทั้งนี้ คาดว่าจะเกษตรกรที่ทำนาปรังจะได้รับเงินเร็วที่สุดภายในเดือนกันยายน 2568 ส่วนเกษตรกรที่ทำนาปี จะได้รับในช่วงปลายปีนี้ หรือต้นปีงบประมาณ 2569 รัฐบาลโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ขอเชิญชวนเกษตรกรทั่วประเทศ เร่งดำเนินการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ประจำปีการผลิต 2568/69 โดยเกษตรกรสามารถขึ้นทะเบียนเกษตรกรผ่านช่องทางการบริการของรัฐโดยไม่มีค่าใช้จ่ายดังนี้ วิธีที่ 1 แจ้งกับเจ้าหน้าที่ สำหรับเกษตรกรรายเดิม แปลงเดิม สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอทุกแห่ง หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีความพร้อม และร่วมเป็นหน่วยสนับสนุนที่เกษตรกรมีพื้นที่การเกษตรอยู่ รวมถึงแจ้งข้อมูลผ่านผู้นำชุมชนหรือตัวแทนอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน (อกม.) หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ส่วน เกษตรกรรายใหม่ และรายเดิม แต่เพิ่มแปลงใหม่ […]

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

ทุ่นระเบิดใหม่ตอกย้ำกัมพูชาละเมิดกติกาสากล

ศรีสะเกษ 16 ส.ค. – วันนี้ รมว.ต่างประเทศ นำคณะทูตภาคีอนุสัญญาออตตาวา ลงพื้นที่ดูปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิด บนภูมะเขือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พร้อมเรียกร้องให้ตัดงบช่วยเหลือกัมพูชา หลังใช้เงินผิดวัตถุประสงค์ผู้บริจาค ขณะที่เจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ยืนยันเป็นทุ่นระเบิดใหม่ที่เพิ่งพบช่วงเหตุปะทะล่าสุด.-สำนักข่าวไทย

ผลถก RBC กัมพูชาเมินกู้ทุ่นระเบิด-ปราบสแกมเมอร์

ตราด 16 ส.ค. – กัมพูชายังไม่ให้ความร่วมมือเก็บกู้ทุ่นระเบิด หลังฝ่ายไทยผลักดันในเวที “RBC ไทย-กัมพูชา” พื้นที่ชายแดนจันทบุรี-ตราด พร้อมการแก้ไขปัญหาสแกมเมอร์ แขวนไว้หารือในการประชุมครั้งต่อไป พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ รองโฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า วันนี้ (16 สิงหาคม 2568) พลเรือโท อภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด และพลตรี อุย เฮียง ผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 3 ของกองทัพบกกัมพูชา ตลอดจนคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคของทั้งสองฝ่าย จัดให้มีการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ (Regional Border Committee) หรือ RBC ณ ประเทศไทย ที่บ้านทะเลภูรีสอร์ท อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด เพื่อร่วมกันหารือในการแก้ไขปัญหาต่างๆ เพื่อความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ และการดำเนินชีวิตของประชาชนทั้งสองประเทศด้วยสันติวิธี โดยได้ลงนามใน “บันทึกความตกลงการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) สมัยวิสามัญ ระหว่างกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ราชอาณาจักรไทย กับภูมิภาคที่ 3 […]

วัดเครือวัลย์ ตั้งโต๊ะแจงดำเนินคดีอดีตไวยาวัจกร ยักยอกเงินวัด 56 ล้านบาท

กทม. 16 ส.ค.-ไวยาวัจกรฝ่ายกฎหมายวัดเครือวัลย์ ตั้งโต๊ะชี้แจงการดำเนินคดีกับอดีตไวยาวัจกร ยักยอกเงินวัด 56 ล้านบาท ตรวจสอบประวัติย้อนหลัง 10 ปี พบปลอมลายมือชื่อเจ้าอาวาส 240 ครั้ง ด้านเจ้าอาวาสยอมรับเสียใจ ผิดหวังที่ไว้ใจคนใกล้ตัว ไวยาวัจกรวัดฝ่ายกฎหมาย ตั้งโต๊ะชี้แจง กรณีที่มีบุคคลภายในวัดปลอมลายมือชื่อเจ้าอาวาสวัดเครือวัลย์วรวิหาร ไปถอนเงินออกจากบัญชีวัดกว่า 240 ครั้ง ยักยอกเงินกว่า 56 ล้านบาท ตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายน ปี 67 ที่ผ่านมา ในส่วนการดำเนินการขณะนี้แบ่งเป็น 3 คดี คดีแรก พบการกระทำความผิดคือเมื่อเดือนเมษายน 2567 ทางวัดได้รับบริจาคจากกองทัพเรือเป็นแคชเชียร์เช็ค 1.5 ล้านบาท ลงวันที่ 10 เมษายน 2567 โดยในแคชเชียร์เช็คระบุว่ามอบให้ทางวัด จึงต้องเอาเข้าบัญชีวัด ทางเจ้าอาวาสจึงมีการมอบให้นายกฤษณ์ ที่เป็นไวยาวัจกรวัดในตอนนั้น เอาแคชเชียร์เช็คดังกล่าวไปขึ้นเงินและเอาเข้ายังบัญชีของวัด ต่อมาทางเจ้าอาวาสได้ทวงถามไปยังนายกฤษณ์ เพราะในขณะนั้นจำเป็นจะต้องบูรณะศาสนสถาน แต่นายกฤษณ์ อ้างว่าไม่ว่าง และได้มอบหมายให้นายชัยณรงค์ ซึ่งเป็นผู้ช่วยไวยาวัจกรในตอนนั้นนำเงินไปเข้าธนาคาร ทางเจ้าอาวาสเลยมีการติดต่อไปยังนายชัยณรงค์ เพื่อทวงถามเรื่องเงิน แต่ก็บ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด […]

“มาริษ” นำคณะทูตดูการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบนภูมะเขือ

ศรีสะเกษ 16 ส.ค. – รมว.ต่างประเทศ นำคณะทูต 33 ประเทศ ดูการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบนภูมะเขือ เตรียมพื้นที่บ้านภูมิซรอล หมู่ 13 ที่ถูกกระสุนจรวด BM-21 เสียหายหนัก 2 หลัง ให้คณะทูตแวะตรวจสอบหลังเสร็จสิ้นภารกิจบนภูมะเขือ หลังจากฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในภาพรวมที่โรงเรียนภูมิซรอลวิทยา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้นำคณะทูตประเทศภาคีอนุสัญญาออตตาวา และตัวแทนองค์กรระหว่างประเทศ รวม 33 ประเทศ ขึ้นไปสำรวจพื้นที่และดูการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบนภูมะเขือ ที่อยู่ใกล้แนวปราสาทพระวิหาร เจ้าหน้าที่ขอความร่วมมือสื่อมวลชนที่ขึ้นภูมะเขือ งดถ่ายภาพติดพื้นที่ทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ระหว่างทางขึ้น ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังเตรียมพื้นที่บ้านภูมิซรอล หมู่ 13 ที่ถูกกระสุนจรวด BM-21 เสียหายหนัก 2 หลัง และเพื่อนบ้านใกล้เคียง ถูกสะเก็ดเสียหายอีก 2 หลัง โดยจุดนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 รายด้วย เพื่อให้คณะทูตแวะตรวจสอบหลังเสร็จสิ้นภารกิจบนภูมะเขือ.-สำนักข่าวไทย