เกษตรฯ กำชับสำรองน้ำกรณีฝนทิ้งช่วง

กรุงเทพฯ 28 มี.ค. – “กฤษฎา” จี้ทุกหน่วยงานช่วยเกษตรกรทั่วประเทศ ปีนี้เข้าสู่ฤดูฝนช้า เผยนายกฯ ห่วงพื้นที่นอกเขตชลประทาน สั่งกระทรวงเกษตรฯ สนับสนุนน้ำอุปโภค-บริโภค 


นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประชุมทุกหน่วยงานเพื่อประเมินสถานการณ์ภัยแล้งและความคืบหน้ามาตรการช่วยเหลือบรรเทาภัยให้แก่เกษตรกรและประชาชน  โดยกล่าวว่า ได้เร่งติดตามแผนบริหารจัดการน้ำฤดูแล้งทั้งปี 2561/2562 และ ปี2562/63 เนื่องจากการบริหารจัดการน้ำที่เหมาะสมต้องวางแผนต่อเนื่อง 2 ปี สำหรับปีนี้กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่าจะเข้าสู่ฤดูฝนช้า คาดว่าจะเริ่มตกปลายเดือนพฤษภาคม ดังนั้น นายกรัฐมนตรีจึงห่วงใยประชาชน ซึ่งฤดูแล้งยังคงมีระยะเวลาอีก 2 เดือน 

ทั้งนี้ ได้รับรายงานจากอธิบดีกรมชลประทานเกี่ยวกับปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำและแหล่งน้ำธรรมชาติทั่วประเทศ รวมทั้งกำชับให้ทุกหน่วยงานบูรณาการกับส่วนราชการอื่นเพื่อช่วยเหลือประชาชน สำหรับในเขตชลประทานยืนยันว่ามีน้ำเพียงพอสำหรับอุปโภคและบริโภค อีกทั้งจัดสรรน้ำให้พื้นที่เพาะปลูกจนเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ ขณะนี้ปัญหาการปลูกข้าวนาปรังเกินแผนได้ใช้กลไกคณะอนุกรรมการพัฒนาเกษตรและสหกรณ์จังหวัด (อ.พ.ก.) ซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน หัวหน้าหน่วยราชการสังกัดกระทรวงเกษตรฯ เป็นกรรมการ จัดส่งเจ้าหน้าที่ไปทำความเข้าใจกับเกษตรกรไม่ให้ทำนาปรังรอบที่ 2 ซึ่งสามารถลดอัตราการปลูกข้าวต่อเนื่องได้แล้ว ส่วนพื้นที่นอกเขตชลประทาน ผู้ว่าราชการจังหวัดจะเป็นผู้กำหนดแผนป้องกันและบรรเทาภัยแล้ง รวมถึงมาตรการช่วยเหลือประชาชน โดยมอบหมายให้กรมชลประทานสนับสนุนพื้นที่ประสบภัย หากพื้นที่แล้งอยู่ใกล้แหล่งน้ำชลประทาน ทางโครงการชลประทานพื้นที่จะใช้เครื่องมือเครื่องจักรชักน้ำมาให้ กรณีที่มีแหล่งน้ำใต้ดินจะประสานกรมทรัพยากรน้ำบาดาลมาขุดเจาะ แต่หากไม่มีแหล่งน้ำเลยจะใช้รถบรรทุกน้ำขนส่งน้ำไปช่วยเหลือซึ่งกรมชลประทานจัดสรรไปครอบคลุมทุกพื้นทีเสี่ยงแล้ว


ด้านนายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า เฝ้าระวังเขื่อนน้ำน้อยวิกฤติ 6 แห่ง ได้แก่ เขื่อนอุบลรัตน์ เขื่อนแม่มอก เขื่อนทับเสลา เขื่อนกระเสียว เขื่อนลำนางรอง เขื่อนลำพระเพลิง ทั้งนี้ เขื่อนอุบลรัตน์ มีน้ำใช้การได้เหลือร้อยละ 2 ได้มีมตินำน้ำก้นเขื่อนมาใช้ 90 ล้าน ลบ.ม. ตั้งแต่วันที่ 20 เม.ย.ถึง สิ้นเดือน พ.ค. โดยสถานการณ์ปีนี้รุนแรงน้อยกว่าปี 2559 เคยนำน้ำก้นเขื่อนมาใช้ 120-130 ล้าน ลบ.ม. ในส่วนพื้นที่นอกเขตชลประทาน มีปัญหาขาดน้ำอุปโภค บริโภค 7 จังหวัด คือ เชียงใหม่ นครสวรรค์ ชัยภูมิ นครราชสีมา เลย กาญจนบุรี ราชบุรี ได้ประสานกับทางจังหวัด กองทัพ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำบัญชีรายตำบล อำเภอ ปริมาณน้ำบ่อบาดาลในพื้นที่ที่ประสบภัยแล้งซ้ำซาก เตรียมจัดหาน้ำจากแหล่งน้ำใกล้เคียงมาช่วยเหลือและมีรถบรรทุกน้ำที่สามารถเข้าถึงพื้นที่ได้อย่างทันท่วงที 

นายทองเปลว กล่าวว่า จากการประสานข้อมูลกับกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่าฤดูฝนปีนี้มาล่า โดยฝนจะเริ่มตกปลายเดือนพ.ค. แต่ตลอดทั้งปีมีอิทธิพลปรากฏการณ์เอลณิโญ่อ่อน ๆ ส่งผลให้ปริมาณฝนปีนี้ต่ำกว่าเกณฑ์เฉลี่ยร้อยละ10 จากปกติปีละ 1,400 มิลลิเมตร เหลือ 1,200 -1,300 มิลลิเมตร จึงต้องบริหารจัดการน้ำอย่างเข้มงวดเพื่อมีน้ำไว้ใช้ถึงฤดูแล้งปีหน้าด้วย โดยจะต้องสำรองน้ำในเขื่อนไว้ประมาณ 13,000 ล้าน ลบ.ม. 

นายทองเปลว กล่าวเพิ่มเติมว่า ในพื้นที่ชลประทานไม่มีปัญหาขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคและการเกษตรแน่นอน แต่ฤดูกาลเพาะปลูกใหม่ ปกติแล้วให้ใช้น้ำฝนเป็นหลัก จึงขอให้เริ่มเพาะปลูกเมื่อกรมอุตุนิยมวิทยาประกาศเข้าสู่ฤดูฝน แต่หากมีฝนทิ้งช่วงเดือน มิ.ย.- ก.ค.ได้สำรองน้ำไว้เพื่อช่วยเหลือแล้วนอกจากนี้ กรมชลประทานยังพร้อมส่งเครื่องจักร เครื่องมือช่วยเหลือภัยแล้งทั่วประเทศ โดยเตรียมไว้ที่ศูนย์เครื่องจักรกลทุกพื้นที่ได้แก่ ศูนย์ที่ 1 เชียงใหม่ เครื่องสูบน้ำ 165 เครื่อง รถบรรทุกน้ำ 11คัน เครื่องจักรกลอื่นๆไว้สนับสนุน ศูนย์ส่วนกลาง เครื่องสูบน้ำ 419 เครื่องรถบรรทุก 18 คัน และอื่นๆ ศูนย์นนทบุรี เครื่องสูบน้ำ 52 เครื่อง รถบรรทุกน้ำ 12 คัน ศูนย์พระนครศรีอยุธยา เครื่องสูบน้ำ 331 เครื่อง รถบรรทุกน้ำ 16 คัน ศูนย์พิษณุโลก เครื่องสูบน้ำ262 เครื่อง รถบรรทุกน้ำ13คัน ศูนย์ขอนแก่น เครื่องสูบน้ำ 327 เครื่อง รถบรรทุกน้ำ 9คัน ศูนย์นครราชสีมา เครื่องสูบน้ำ 17 เครื่อง รถบรรทุกน้ำ 18คัน ศูนย์สงขลา เครื่องสูบน้ำ 208 เครื่อง รถบรรทุกน้ำ 14 คัน และอื่น ๆ รวม 4,850 ชุด.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อธิบดีกรมวิชาการเกษตร

สั่งย้าย “อธิบดีกรมวิชาการเกษตร” ปมเอื้อแล็บตรวจ BY2 ทุเรียนส่งออก

ปลัดกระทรวงเกษตรฯ ลงนามในคำสั่งย้าย “อธิบดีกรมวิชาการเกษตร” มาช่วยราชการที่กระทรวงเกษตรฯ หลังมีหนังสือร้องเรียนเอื้อเอกชนเรียกรับเงินตรวจสอบสาร BY2 ทุเรียนส่งออก

อธิบดีกรมวิชาการเกษตร

“นฤมล” เผยได้รับหนังสือร้องเรียนอธิบดีกรมวิชาการเกษตรปมแล็บตรวจ BY2

รมว. เกษตรฯ เผยได้รับหนังสือร้องเรียนจากสมาคมผู้ค้าและผู้ส่งออกผลไม้ที่ขอให้ตรวจสอบอธิบดีกรมวิชาการเกษตร ในประเด็นข้อสงสัยเกี่ยวกับการเอื้อประโยชน์แล็บตรวจสาร Basic Yellow 2 (BY2)

ผลตรวจดีเอ็นเอ “ผกก.โจ้” ออกแล้ว ส่งให้ สน.ประชาชื่น

ออกแล้ว ผลตรวจผ้าขนหนู คดี “ผกก.โจ้” ไม่พบดีเอ็นเอของบุคคลอื่น เตรียมส่งผลให้พนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น ดำเนินการต่อ

กระบะตัดหน้ารถไฟ ชนสนั่น ตาย 4 เจ็บ 6

กระบะขนคนงานจับกุ้งกุลาดำ ขับตัดหน้ารถไฟ ก่อนพุ่งชนสนั่น ตายคาที่ 4 ศพ เจ็บระนาวอีก 6 ราย ขณะที่คนขับไร้อาการบาดเจ็บ อ้างไม่ได้ยินเสียงสัญญาณเตือน ตำรวจคุมตัวตรวจพบฉี่ม่วง เจ้าตัวยอมรับเสพยาบ้า ก่อนแจ้ง 2 ข้อหาหนัก

ข่าวแนะนำ

แฟนสาว “ผกก.โจ้” ยืนยันไม่ได้มีปากเสียงทะเลาะกัน

แฟนสาว “อดีต ผกก.โจ้” เปิดใจ ยืนยันไม่ได้มีปากเสียงทะเลาะกันในวันเกิดเหตุ แค่ตะโกนคุย เนื่องจากโทรศัพท์เรือนจำบันทึกเสียง พร้อมแฉเหตุมีเรื่องกับผู้คุม ถูกกลั่นแกล้งตลอดตอนอยู่แดน 5 จนต้องยอมเซ็นยุติข้อร้องเรียน ย้ำ “ผกก.โจ้” ไม่ได้ขอย้ายแดน

“ทักษิณ” ซัดนี่หรือพรรคคนรุ่นใหม่ หลังถูกใส่ชื่อในญัตติ

“ทักษิณ” ซัดนี่หรือพรรคคนรุ่นใหม่ หลังถูกใส่ชื่อในญัตติอภิปราย จนถูกแก้ บอกฝ่ายค้านจะเรียกอะไรก็ได้ แต่ขอให้หล่อ ทิ้งไพ่ยื่นซักฟอก คุยกับผู้ก่อตั้ง “พรรคอนาคตใหม่” หรือยัง พร้อมเปิดปมเลือกตั้งลำพูนใครดูแล

ฟ้องไล่เบี้ย

สภากรรมการ อนุมัติการฟ้อง ไล่เบี้ย “อดีตนายกสมาคมฯ”

14 มี.ค. – มติสภากรรมการ อนุมัติการฟ้อง ไล่เบี้ยอดีตนายกสมาคมฯ พร้อมผุดแคมเปญ “คนไทย รัก บอลไทย” เพื่อช่วยชำระหนี้สมาคมฯ “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เรียกประชุมสภากรรมการ ครั้งที่ 4/2568 แบบเร่งด่วน ณ ห้องประชุมชั้น 2 อาคาร FA Thailand หัวหมาก หลังมีวาระสำคัญที่ต้องนำเข้าสู่สภากรรมการเพื่อพิจารณา โดยเฉพาะในเรื่องของการขออนุมัติการฟ้องไล่เบี้ย อดีตนายกสมาคมฯ และ ผู้บริหารชุดเดิม จากคำพิพากษาศาลฎีกา ในคดีระหว่าง บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) ฟ้อง สมาคมฯ ซึ่งศาลฎีกาได้อ่านคำพิพากษา ออกมาเรียบร้อย เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2568 ให้ สมาคมฯ จ่ายค่าเสียหายให้แก่ บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) จำนวน […]

คนร้ายควงปืนบุกเดี่ยวชิงทอง 13 บาท ย่านลำลูกกา

อุกอาจ! คนร้ายควงปืนบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ร้านทอง ย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี กวาดทองคำ 13 บาท หลบหนี ตำรวจเร่งตรวจสอบวงจรปิดไล่ล่า