สทท.เผยสถานการณ์ท่องเที่ยวไตรมาสแรกปีนื้ทรงตัว

กทม.28 มี.ค.-สทท.เเถลงสถานการณ์ท่องเที่ยวไตรมาส 1/62 เผยทรงตัว เหตุเศรษฐกิจไทยชะลอตัว ผู้ประกอบการกังวลฝุ่นPM 2.5 เเต่คาดการณ์ไตรมาส 2 นักท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้น โดยรวมทั้งปีจะมีนักท่องเที่ยวราว 40 ล้านคน ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.17 จากปี61 เสนอภาครัฐ พัฒนาระบบขนส่งสาธารณะในเเหล่งท่องเที่ยวลดมลพิษ


นายชัยรัตน์ ไตรรัตนจรัสพร ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเเห่งประเทศไทย (สทท.) เเถลงสถานการณ์ท่องเที่ยวไทยปี 2562 เเละดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการท่องเที่ยวไตรมาสที่ 1/2562 ซึ่งสำรวจในช่วงเดือนมกราคม-มีนาคม พบว่า มีดัชนีเท่ากับ 98 ซึ่งอยู่ในระดับใกล้เคียงกับปกติเเละใกล้เคียงกับที่คาดการณ์ไว้จากไตรมาสก่อน สะท้อนว่าสถานการณ์การท่องเที่ยวค่อนข้างทรงตัว เนื่องจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัวส่งผลให้เศรษฐกิจไทยมีเเนวโน้มชะลอตัวเช่นกัน ขณะที่อัตราแลกเปลี่ยนมีเเนวโน้มเเข็งค่าต่อเนื่องจากปลายปี 2561 อัตราเงินเฟ้อทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ ขณะเดียวกันสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กเกินค่ามาตรฐานPM 2.5 ที่ยังรุนเเรงในบางพื้นที่ ประกอบกับปัจจัยทางเศรษฐกิจเเละกำลังซื้อที่ลดลงร้อยละ 16 เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้ประกอบการกังวลเเละประเมินสถานการณ์ต่ำกว่าปกติ เเต่คาดว่าไม่ได้ส่งผลในระยะสั้น


อย่างไรก็ตามมีผู้ประกอบการบางส่วน ประเมินสถานการณ์ท่องเที่ยวดีขึ้นในไตรมาสนี้ เนื่องจากการเดินทางท่องเที่ยวที่สะดวกง่ายการขยายตัวของสายการบินต้นทุนต่ำเพิ่มขึ้นเเละกิจกรรมการส่งเสริมการท่องเที่ยวใหม่ๆของการท่องเที่ยวเเห่งประเทศไทย ทำให้คาดการณ์ว่าในปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวประมาณ 40.64 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.17 จากปี 2561,มีรายได้เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 2.20 ล้านล้านบาทหรือคิดเป็นร้อยละ 9.36 


ส่วนในไตรมาสที่ 2 หากไม่มีเหตุการณ์ผิดปกติ คาดจะมีนักท่องเที่ยว 9.28 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ4.62 จากไตรมาส 2/2561 โดยเเบ่งเป็นนักท่องเที่ยวในกลุ่มอาเซียน 2.66 ล้านคน ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.31 ,กลุ่มเอเชียตะวันออก 4.03 ล้านคนเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.07 เเละกลุ่มยุโรป 1.15 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.6

ขณะเดียวกันผู้ประกอบการส่วนใหญ่ มองว่าปัญหาที่ควรได้รับเเก้ไขเพื่อทำให้สถานการณ์การท่องเที่ยวดีขึ้น คือผู้ประกอบการในธุรกิจท่องเที่ยวที่ไม่มีใบอนุญาตเเละทักษะภาษา  รวมถึงพัฒนาระบบไอทีให้ทันสมัยเเละสอดคล้องกับการพัฒนาการท่องเที่ยวในระดับพื้นที่เเละระดับโลก การสื่อสารเเบบเชื่อมโยงระหว่างที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวในประเทศเพื่อยกระดับการประชาสัมพันธ์ 

ส่วนนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่สะท้อนตรงกันว่า ควรส่งเสริมให้เกิดผู้ประกอบ การด้านรถสาธารณะในพื้นที่ในรูปแบบต่างๆ รวมถึงส่งเสริมการทำการ ตลาดออนไลน์ให้การท่องเที่ยวในเมืองรอง พัฒนาเเอพพลิเคชั่นเเละระบบฟีดเเบคระหว่างนักท่องเที่ยวเเละผู้ให้บริการ สทท.จึงเสนอให้ภาครัฐหรือรัฐบาลใหม่ พัฒนาระบบขนส่งสาธารณะในเเหล่งท่องเที่ยว สนับสนุนกิจกรรมสร้างการลดฝุ่นละอองในพื้นที่ ท่องเที่ยว เพื่อลดมลพิษเเละรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมกำหนดมาตรการให้สิทธิประโยชน์ทั้งทางภาษีเเละไม่ใช่ภาษีเเละส่งเสริมการประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวกิจกรรม ประเพณีต่างๆเพื่อให้ผู้ประกอบการเเละประชาชนได้วางแผนล่วงหน้า .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย