กรุงเทพฯ 27 มี.ค. – เกษตรฯ ระบุราคายางพาราสูงขึ้นต่อเนื่องจากนโยบายรัฐบาล ล่าสุดโอมานสนใจนำยางไปผสมทำถนนในทะเลทราย หากตกลงรับซื้อยางจากไทยจะทำให้ราคามีเสถียรภาพมากขึ้น
นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ราคายางพารายังคงปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยราคายางแผ่นรมควันชั้น 3 ตลาดกลางสงขลาวันนี้สูงสุดที่ 54.10 บาทต่อกิโลกรัม คาดว่าตั้งแต่เดือนเมษายนเป็นต้นไปซึ่งเป็นช่วงเปิดกรีดยางของภาคใต้ราคาจะยังคงรักษาเสถียรภาพไว้ได้ จากนโยบายของรัฐบาลที่จัดทำโครงการ 1 หมู่บ้าน 1 กิโลเมตร โดยการสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) นำน้ำยางพาราไปสร้างถนนดินซีเมนต์ปรับปรุงคุณภาพด้วยยางพาราทั่วประเทศ 75,032 หมู่บ้าน อย่างน้อย 1 กิโลเมตรต่อหมู่บ้าน ไม่ต่ำกว่า 75,032 กิโลเมตร เพื่อส่งเสริมการใช้ยางพาราภายในประเทศมากขึ้น โดยการนำยางพารามาทำถนนนั้นจะใช้น้ำยางสด 1,440,614.4 ตัน หรือคิดเป็นน้ำยางข้น 720,320.2 ตัน
นอกจากนี้ ยังให้กรมส่งเสริมสหกรณ์ผลักดันสหกรณ์ที่มีศักยภาพเป็นผู้ส่งออกยางแปรรูป ตั้งเป้าหมายส่งออกยางพาราไปจีน 100,000 ตัน ระหว่างวันที่ 1 ธันวาคม 2561 – 31 มีนาคม 2562 ซึ่งคัดเลือกสหกรณ์ชาวสวนยาง 18 แห่งมาดำเนินการ โดยเป็นสหกรณ์ที่มีศักยภาพสูงสามารถส่งออก 6 แห่ง อีก 12 แห่งเชื่อมกับผู้ส่งออกเอกชน แปรรูปยางก้อน ยางแท่ง ทั้งนี้ จะรับซื้อยางจากสหกรณ์เครือข่าย 154 สหกรณ์ โดยขอวงเงินกู้จากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) ปล่อยสินเชื่อ 5,000 ล้านบาท เพื่อการรวบรวมยางพาราและจัดหาเครื่องจักรเครื่องมือ ทำให้เสร็จก่อนฤดูปิดกรีดยางเดือนเมษายน 2562 ซึ่งจะสามารถช่วยเหลือสมาชิกสหกรณ์และเกษตรกรชาวสวนยางในพื้นที่ที่สหกรณ์ตั้งอยู่มีรายได้จากการขายยางพาราราคาสูงขึ้นไม่ถูกคนกลางกดราคา ซึ่งจะสำรวจความสามารถสหกรณ์แห่งอื่น ๆ เปิดโอกาสให้สหกรณ์ที่เข้มแข็งเพิ่มการแปรรูปรับซื้อยางจากเกษตรกรมากขึ้น ขณะนี้ตลาดสำคัญ คือ จีน และเตรียมพร้อมเปิดตลาดส่งออกไปประเทศอื่นอีก
นายกฤษฎา กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการที่นายยูซูฟ บิน อลาวี่ บิน อับดุลลาห์ รัฐมนตรีด้านการต่างประเทศ รัฐสุลต่านโอมานเข้าพบและแสดงความสนใจเทคโนโลยีการนำยางพาราไปผสมทำถนนของไทย เนื่องจากเห็นว่าไทยส่งออกยางพารามากที่สุดในโลก อีกทั้งโครงการถนนผสมยางพาราได้รับการรับรองมาตรฐานอุตสาหกรรมระดับชาติ โดยมีความโดดเด่น คือ เพิ่มคุณสมบัติการทนความร้อน มีความยืดหยุ่น ลดการลื่นไถลทำให้การขับขี่ปลอดภัยมากขึ้น อีกทั้งมีความแข็งแรงและมีอายุการใช้งานที่นานกว่าถนนแอสฟัลท์ปกติเหมาะสมกับประเทศในเขตร้อน รัฐสุลต่านโอมานมีสภาพภูมิประเทศเป็นทะเลทรายจึงสนใจ โดยการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ได้นำคณะของรัฐมนตรีต่างประเทศโอมานเดินทางไปศึกษาดูงานถนนยางพาราต้นแบบจังหวัดฉะเชิงเทราทั้งถนนดินซีเมนต์ปรับปรุงคุณภาพด้วยยางพาราและถนนแอสฟัลต์คอนกรีตปรับปรุงคุณภาพด้วยยางพาราได้สั่งซื้อยางพาราไปทดลองทำถนนจำนวนหนึ่งและหากพบว่ามีความเหมาะสมกับสภาพภูมิประเทศและภูมิอากาศจะสั่งซื้อเพิ่มเติมอีก
“ไทยพร้อมสนับสนุนทั้งทางเทคโนโลยีและวัถตุดิบอย่างเต็มที่ ซึ่งเป็นการสร้างโอกาสการค้า การลงทุน และแสดงถึงมาตรฐานนวัตกรรมยางพาราไทยที่ได้รับการยอมระดับนานาชาติ จากมาตรการเพิ่มใช้ยางในประเทศ โดยการทำถนนผสมยางพารา การที่รัฐบาลสนับสนุนงบชดเชยดอกเบี้ยผ่านสหกรณ์ไปรับซื้อยางโดยตรงจากสถาบันเกษตรกรสวนยางนำไปแปรรูปเป็นยางวัตถุดิบส่งออกตลาดต่างประเทศ นโยบายลดพื้นที่ปลูกยางอายุ 25 ปีขึ้นไป 400,000 ไร่ต่อปี รวมถึงมาตรการต่าง ๆ เพิ่มปริมาณการใช้ยางของหน่วยงานรัฐ ทำให้ราคายางปรับตัวมาอยู่ที่กิโลกรัมละ 54 บาท ซึ่งใกล้ถึงเป้าหมายที่วางไว้ คือ ไม่ต่ำกว่า 60 บาทต่อกิโลกรัม” นายกฤษฎา กล่าว.-สำนักข่าวไทย