ตั้งกรรมการสอบตร.หนองปรือและอาสาใช้ไม้ฟาดพ่อขี่รถจยย.หนีด่านพลาดถูกชายวัย2ขวบเจ็บ

กรุงเทพฯ 27 มี.ค.- ผกก.สภ.หนองปรือ สั่งตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงกรณีแม่ร้องโซเชียล ขับรถหนีด่าน ถูกอาสาตำรวจ ดักซุ่มใช้ไม้ฟาดพลาดถูกลูกชายวัย 2 ขวบบาดเจ็บสาหัส  ยันให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย


พ.ต.อ.กฤษณะ  พัฒนเจริญ  รอง โฆษก ตร.  เปิดเผยถึงกรณีตามที่สื่อสังคมออนไลน์ได้นำเสนอข่าวเกี่ยวกับ กรณี มีผู้ขับขับขี่รถจักรยานยนต์มากับครอบครัวแล้วเจอจุดตรวจจุดสกัดของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในพื้นที่ของ  สภ.หนองปรือ จว.ชลบุรี  จากนั้นผู้ขับขี่ได้กลับรถหลบหนีเพื่อไม่ผ่านเข้ามายังบริเวณจุดตรวจจุดสกัด แล้วมีเจ้าหน้าที่ตำรวจอาสามาทำการดักสกัด ทำให้มีเด็กที่นั่งซ้อนท้ายรถ จยย.มาด้วย ได้รับบาดเจ็บ  จนเป็นที่วิพากษ์ วิจารณ์กันอย่างแพร่หลายในโลกโซเชียล ว่า  

เมื่อวันที่ 26 มี.ค.62 เวลาประมาณ 21.35 น.  เจ้าหน้าที่ตำรวจงานป้องกันปราบปราม ได้เรียกกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ ตำรวจอาสา เพื่อตั้งจุดตรวจจุดสกัด ในการป้องกันเหตุและอาชญากรรม บริเวณซอยเขาตาโล 9 ม.10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี   ต่อมาในระหว่างที่กำลังจะตั้งจุดตรวจจุดสกัดอยู่นั้น   ได้มี นายศิวา นิลขำ อายุ 28 ปี ขับขี่รถจักรยานยนต์มาถึงบริเวณจุดตรวจจุดสกัด โดยมี น.ส.กัลยา ตมกลาง อายุ 25 ปี และด.ช.ศิลา นิลขำ บุตรชายวัย 2 ขวบ นั่งโดยสารมาด้วย เมื่อนายศิวาฯ เห็นจุดตรวจจุดสกัด ได้เลี้ยวรถกลับ เพื่อที่จะหลบหนี ซึ่งมี นายจักรภพ บุญรอด อายุ 23 ปี (ตร.อาสา สภ.หนองปรือ) ยืนอยู่บริเวณดังกล่าว จึงได้เรียกให้หยุด แต่นายศิวาฯ ไม่ยอมหยุดและเร่งความเร็วเพื่อหลบหนี นายจักรภพฯ จึงได้หยิบไม้ที่วางอยู่บริเวณข้างทางออกมาเพื่อกันไว้ แต่นายศิวาฯ ผู้ขับขี่ได้ก้มตัวหลบ เป็นเหตุให้ไม้ตวัดไปโดนศรีษะ ด.ช.ศิลาฯ ซึ่งนั่งอยู่ตรงกลางระหว่างผู้ขับขี่และผู้ซ้อนท้าย ได้รับบาดเจ็บเป็นแผลแตกบริเวณหางคิ้วขวา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รีบพาตัวด.ช.ศิลาฯ ซึ่งได้รับบาดเจ็บ พร้อมด้วย น.ส.กัลยาฯ นำส่ง โรงพยาบาลบางละมุง เพื่อเข้ารับบการรักษาจากแพทย์


หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พา ด.ช.ศิลาฯ ไปทำการรักษาที่โรงพยาบาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พา น.ส.กัลยาฯ มารดา  มาพบพนักงานสอบสวนในกรณีที่บุตรชายได้รับบาดเจ็บ  โดยพนักงานสอบสวนได้รับคำร้องทุกข์และดำเนินตามขั้นตอนของกฎหมายแล้ว     อีกทั้งในส่วนของนายศิวาฯผู้ขับขี่รถ จยย. นั้น  เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดต่อเพื่อให้มาพบแต่นายศิวาฯ บ่ายเบี่ยงไม่ยอมมาพบแต่อย่างใด   โดยในวันนี้(27 มี.ค.62) พนักงานสอบสวนได้นัดหมายเพื่อมาทำการสอบสวนปากคำเพื่อประกอบคดีต่อไป

โดยขณะนี้ พ.ต.อ.ชิตเดชา  สองห้อง  ผกก.สภ.หนองปรือ  ได้สั่งการให้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีที่เกิดขึ้นแล้ว  โดยให้คณะกรรมการดำเนินการด้วยความรวดเร็ว  และเกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย หากพบว่ามีความผิดก็จะดำเนินการทั้งทางวินัยและอาญาตามกฎหมายต่อไป  ส่วนคดีที่เด็กชายศิวาฯ ได้รับบาดเจ็บ พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน  รอผลตรวจจากแพทย์ และที่เกี่ยวข้องมาประกอบคดี โดยจะดำเนินการสืบสวนสอบด้วยความรวดเร็ว  โปร่งใส และเป็นธรรมกับทุกฝ่าย  

 รอง โฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า  จากการตรวจสอบในเบื้องต้นนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการตั้งจุดตรวจจุดสกัดตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา เป็นไปตามแผนการปฏิบัติและวงรอบเพื่อป้องกันเหตุและอาชญากรรมในพื้นที่  อีกทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจอาสานั้นก็ได้รับการแต่งตั้งและมีใบอนุญาตจาก สภ.หนองปรือ   แต่อย่างไรก็ตามเพื่อให้เกิดความโปร่งใสและตอบคำถามสังคมได้นั้น   สภ.หนองปรือ ก็มีการตั้งคณะกรรมสืบสวนตรวจสอบขึ้นแล้ว   หากผลการสืบสวนตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่ามีข้อบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่หรือเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ ก็จะดำเนินการทั้งทางอาญาและทางวินัยอย่างเด็ดขาดอยู่แล้ว    ในส่วนของคดีที่มารดาของเด็กที่ได้รับความเสียหายนั้น  พนักงานสอบสวนเองก็จะเร่งรัดรวบรวมพยานหลักฐานและนำผลการตรวจจากแพทย์มาประกอบคดี  สอบสวนปากคำพยานที่เกี่ยวข้อง  และจะทำการสวนสอบสวนด้วยความโปร่งใส รวดเร็ว และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย   


ทั้งนี้  พล.ต.อ.จักรทิพย์  ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้กำชับกองบัญชาการทุกภาคส่วนมาโดยตลอด ให้กำกับ ดูแล ผู้ใต้บังคับบัญชาในการปฏิบัติหน้าที่ให้คำนึงถึงหลักยุทธวิธีและความปลอดภัย    ทั้งของตัวเจ้าหน้าที่เอง และประชาชนผู้ที่สัญจรผ่านมาบริเวณจุดตรวจจุดสกัด  สถานที่   ไฟส่องสว่างในเวลากลางคืน  อุปกรณ์สะท้อนแสง   พร้อมให้ผู้บังคับบัญชา คอยสอดส่อง ดูแล การปฏิบัติหน้าที่ของผู้ใต้บังคับบัญชา ไม่ประพฤติปฏิบัติตนเหลื่อมล้ำกับกฎหมาย  โดยหากพบว่าตำรวจ หรือผู้ช่วยเจ้าพนักงานของตำรวจ เป็นผู้กระทำความผิดเสียเองและสร้างความเดือดร้อนแก่พี่น้องประชาชน ท่าน ผบ.ตร.ยอมรับไม่ได้ ต้องเอาผิดให้ถึงที่สุดทั้งทางวินัยและทางอาญา อย่างเด็ดขาด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชนในการอำนวยความยุติธรรมให้กับประชาชนอย่างแท้จริง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“โรม” ตั้งกระทู้ถามปมคุณสมบัติ ปธ.กสทช.

“โรม” ตั้งกระทู้ถาม ปม คุณสมบัติ ปธ.กสทช. ปูดคนรัฐบาลมีความสัมพันธ์กับ กสทช. เรื่องจึงไม่ขยับ ด้าน “ประเสริฐ” ปัดดองเรื่อง ขณะนี้ยื่นศาลรธน.ตีความแล้ว รอคำวินิจฉัย ยืนยันรัฐบาลแยกแยะเรื่องส่วนตัวจากการทำงาน ยึดประโยชน์ประชาชน

“อนุทิน” สั่งยกระดับเข้มงวดเข้าออกจุดผ่านแดนไทย

“อนุทิน” สั่งยกระดับความเข้มงวดในการเข้าออกจุดผ่านแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ป้องกัน ปราบปราม ยาเสพติด อาชญากรรมทุกประเภท ภายใต้ปฏิบัติการ “Seal Stop Safe” ตามนโยบายนายกรัฐมนตรี

จับเว็บพนัน

ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง มีนักแสดงตัวประกอบเอี่ยวด้วย

ตำรวจไซเบอร์ ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง พบเงินหมุนเวียนเดือนละ 100 ล้าน มีนักแสดงตัวประกอบร่วมขบวนการ

เปิดใจผู้รอดชีวิตจากรถบัสมรณะ 18 ศพ

โศกนาฏกรรมรถบัสมรณะ 18 ศพ สร้างความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ให้กับชาว อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ วันนี้ทีมข่าวสำนักข่าวได้สัมภาษณ์เปิดใจผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ราวกับปาฏิหาริย์

ข่าวแนะนำ

เตรียมฌาปนกิจเหยื่อรถบัสมรณะ บ่ายวันนี้

บรรยากาศ วัดป่าวิเวกธรรมคุณ จ.บึงกาฬ ญาติผู้เสียชีวิตทยอยร่วมพิธีเช้า ก่อนฌาปนกิจเหยื่อรถบัสมรณะ 13 ราย ช่วงบ่ายวันนี้ ส่วนที่วัดวิเวกพัฒนาราม ก็จะมีพิธีฌาปนกิจเหยื่ออีก 4 ราย ช่วงบ่ายเช่นกัน

“ทรัมป์-เซเลนสกี” ปะทะคารมเดือดระหว่างหารือที่ทำเนียบขาว

วอชิงตัน 1 มี.ค. – การหารือระหว่างประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ที่ทำเนียบขาว ในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น จบลงอย่างล้มเหลวสิ้นเชิง หลังจากทั้งสองปะทะคารมกันอย่างดุเดือดต่อหน้าสื่อเกี่ยวกับสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน

“กุ้ง สุธิราช” เศร้า ทีมขนอุปกรณ์คณะลิเกถูกรถชนตกสะพานดับ

“กุ้ง สุธิราช” เศร้า ทีมขนอุปกรณ์คณะลิเกถูกรถชนตกสะพานเสียชีวิต ขณะยืนโบกรถที่จอดเสียบริเวณเชิงสะพานทางขึ้นต่างระดับฉิมพลี

นายกฯ รับรายงานเช้านี้ ยันไม่มีละเมิดสิทธิชาวอุยกูร์

นายกฯ รับรายงานเช้านี้ จากคณะผู้แทนไทยส่งชาวอุยกูร์ 40 คนกลับบ้าน ยันไม่มีการละเมิดสิทธิ ไม่ดำเนินคดีชาวอุยกูร์ที่ถูกส่งกลับจากไทย ขณะเลขาฯ สมช. ชุดใหญ่ประกบส่งถึงบ้าน เผยนับจากนี้ 15-30 วัน จะกลับไปดูอีกครั้ง ชี้ทุกคนมีความสุขหลัง 11 ปี บ้านเกิดในมณฑลซินเจียงเปลี่ยนไป