กรุงเทพฯ 24 มี.ค. – ศูนย์วิจัยฯ ธ.ก.ส.เผยผลสำรวจหนี้ครัวเรือนเกษตรครึ่งหลังปี 61 เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.3 แต่เมื่อเทียบหนี้ต่อจีดีพีปรับตัวลดลงร้อยละ 4.13 จับตาพฤติกรรมก่อหนี้ใหม่
นายสมเกียรติ กิมาวหา ผู้ช่วยผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่าหนี้สินครัวเรือนเกษตรครึ่งหลังปี 2561 มีสัดส่วนต่อจีดีพีอยู่ที่ร้อยละ 18.12 ปรับตัวลดลงจากปีก่อนร้อยละ 4.13 เนื่องจากการขยายตัวของมูลค่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจประจำปียังคงสูงกว่าการขยายตัวของหนี้ครัวเรือนเกษตรกร โดยประมาณการการขยายตัวของเศรษฐกิจปี 2561 จะอยู่ที่ร้อยละ 4.0 เป็นผลจากกำลังซื้อของภาคครัวเรือนปรับตัวดีขึ้นตามแนวโน้มของรายได้ที่เริ่มฟื้นตัวขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มครัวเรือนที่มีรายได้น้อย อย่างไรก็ตาม แม้สัดส่วนหนี้ครัวเรือนเกษตรจะปรับตัวดีขึ้น แต่ยังคงต้องติดตามพฤติกรรมการก่อหนี้ใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มครัวเรือนเกษตรที่มีรายได้น้อยที่กู้หนี้เต็มวงเงินและมีภาระผูกพันกับหนี้หลายสัญญา ซึ่งอาจมีการก่อหนี้นอกระบบที่จะส่งผลกระทบต่อสัดส่วนหนี้สินครัวเรือนเกษตรและการเติบโตของเศรษฐกิจระยะต่อไป
สำหรับผลการสำรวจหนี้สินครัวเรือนเกษตรครึ่งหลังปี 2561 โดยเก็บข้อมูลจากเกษตรกรลูกค้า ธ.ก.ส.ทั่วประเทศ 980 ราย พบว่า ครัวเรือนเกษตรกรลูกค้า ธ.ก.ส.มีรายได้รวมเฉลี่ย 295,420 บาท/ปี เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 1.9 และมีค่าใช้จ่ายรวมเฉลี่ยต่อครัวเรือน 240,680 บาท/ปี เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 1.1 ส่งผลให้มีสัดส่วนรายได้มากกว่าค่าใช้จ่าย 1.23 เท่า เพิ่มขึ้นจากปีก่อนเล็กน้อยร้อยละ 0.8 และพบว่าครัวเรือนเกษตรกรลูกค้า ธ.ก.ส. ส่วนใหญ่ร้อยละ 66.2 มีการออมเงิน โดยมีสัดส่วนการออมที่ร้อยละ 6.4 ของรายได้ทั้งหมด มีการออมเงินเพิ่มขึ้นตามรายได้เพิ่มขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากการส่งเสริมการออมเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับเกษตรกร ผ่านผลิตภัณฑ์ทางการเงินของ ธ.ก.ส.
ขณะเดียวกันเกษตรกรมีหนี้สินเฉลี่ยต่อครัวเรือน 135,220 บาท/ปี เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 1.3 หนี้ส่วนใหญ่กว่าร้อยละ 89.1 เป็นหนี้ในระบบ ส่วนหนี้นอกระบบมีเพียงร้อยละ 10.9 โดยปริมาณหนี้นอกระบบปรับตัวลดลงจากปีก่อนร้อยละ 18.5 ส่วนภาระหนี้ต่อรายได้เฉลี่ยต่อเดือน คิดเป็นร้อยละ 45.77 ปรับตัวลดลงจากปีก่อนร้อยละ 0.61 แต่ยังคงสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานเสถียรภาพของภาคครัวเรือนที่กำหนดระดับร้อยละ 40 ซึ่งสะท้อนว่าครัวเรือนเกษตรกรลูกค้า ธ.ก.ส. ยังมีโอกาสผิดนัดชำระหนี้เพิ่มขึ้น .-สำนักข่าวไทย