คดีเสือดำศาลตัดสินจำคุก “เปรมชัย” ข้อหาอาวุธปืน-สนับสนุนล่าสัตว์ป่า

กาญจนบุรี 19 มี.ค.- ศาลจังหวัดทองผาภูมิพิพากษาจำคุก “เปรมชัย” 16 เดือน ไม่รอลงอาญาในข้อหา พ.ร.บ.อาวุธปืน และสนับสนุนให้ผู้อื่นล่าสัตว์ป่า ยกฟ้องคดีครอบครองซากเสือดำ นอกจากนี้ ศาลสั่งให้ชดใช้ความเสียหายแก่กรมอุทยานฯ 


เมื่อเวลา 09.00 น. (19 มี.ค.) นายวิเชียร ชินวงศ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฝั่งตะวันตก จ.กาญจนบุรี และนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 10 (อุบลราชธานี) อดีตหัวหน้าชุดพญาเสือ  เดินทางมายังศาลจังหวัดทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เพื่อรับฟังการอ่านคำพิพากษาของศาลชั้นต้นในคดีที่อัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายเปรมชัย กรรณสูต จำเลยที่ 1 กับพวกอีก 3 คน ในคดีอาญา 6 ข้อหา ประกอบด้วย 1. ฐานร่วมกันพกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต  2. ฐานร่วมกันล่าสัตว์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต 3. ฐานร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต  4. ฐานร่วมกันมีไว้ครอบครองซึ่งซากสัตว์ป่าคุ้มครองโดยที่ไม่ได้รับอนุญาต 5. ฐานร่วมกันช่วยซ่อนเร้นช่วยพาเอาไปเสียหรือรับไว้ซึ่งซากสัตว์ป่าอันได้มาโดยกระทำความผิดกฎหมาย และ 6. ฐานร่วมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต

เมื่อเดินทางมาถึงศาล นายวิเชียร และนายชัยวัฒน์ ได้ยิ้มทักทายให้กับผู้มาให้กำลังใจก่อนเดินเข้าไปในห้องพิจารณาคดี ท่ามกลางสื่อมวลชนจากหลายสำนักมาเฝ้าติดตามความคืบหน้า


นายวิเชียร กล่าวภายหลังฟังคำพิพากษาว่า วันนี้พอใจในผลของคดีในระดับหนึ่ง และมีความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม ส่วนจะอุทธรณ์อย่างไรต่อไปขอปรึกษาหารือกับผู้บังคับบัญชาระดับสูงและอัยการก่อน

“วันนี้เราสามารถคงความยุติธรรมให้กับเสือดำที่ตายไป ขอฝากบอกถึงพี่น้องประชาชนชาวไทยทุกคนที่ติดตามคดีนี้ วันนี้ได้พิสูจน์ให้กระจ่างแล้ว” นายวิเชียร กล่าว

ด้านนายชัยวัฒน์ กล่าวว่า พอใจในคำพิพากษาเช่นกัน และอยากฝากถึงประชาชนว่าทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่าถูกทำลายมามาก คำพิพากษาในวันนี้ถือเป็นบทเรียนให้กับผู้กระทำผิด ไม่ว่าจะเป็นคดีหมีขอรวมถึงคดีเก่าในอดีตที่มีข้าราชการไปเกี่ยวข้องกับการล่าสัตว์ป่า ขอขอบคุณกำลังใจจากทุกคนที่มีให้กับเจ้าหน้าที่ผู้พิทักษ์ผืนป่า


ทั้งนี้ ศาลจังหวัดทองผาภูมิมีคำพิพากษาคดีในความผิดและบทลงโทษของจำเลยแต่ละคน

จำเลยที่ 1 (นายเปรมชัย) ถูกลงโทษข้อหาร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาต จำคุก 6 เดือน ข้อหาเป็นผู้สนับสนุนให้ผู้อื่นล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า จำคุก 8 เดือน ข้อหาร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง (ไก่ฟ้าหลังเทา) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 2 เดือน รวมจำคุก 16 เดือน  ไม่รอลงอาญา ยกฟ้องข้อหาร่วมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ข้อหาร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง (เสือดำ)

จำเลยที่ 2 (นายยงค์ โดดเครือ) ถูกลงโทษข้อหาร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต จำคุก 3 เดือน ข้อหาร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาต จำคุก 6 เดือน ข้อหาร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง (เสือดำ) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้อนุญาต จำคุก 4 เดือน รวมจำคุก 13 เดือน ยกฟ้องข้อหาร่วมกันล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ข้อหาร่วมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติ

จำเลยที่ 3 (นางนที เรียมแสน) ถูกลงโทษข้อหาร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง (เสือดำ) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 4 เดือน และปรับ 10,000 บาท โทษจำคุกให้รอดการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี ยกฟ้องข้อหาร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต ข้อหาร่วมกันพาอาวุธปนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาต ข้อหาร่วมกันพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุสมควร

จำเลยที่ 4 (นายธานี ทุมมาศ) ถูกลงโทษข้อหาร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต จำคุก 3 เดือน ข้อหาร่วมกันมีซกสัตว์ป่าคุ้มครอง (เสือดำ) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 4 เดือน ข้อหาร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาต จำคุก 6 เดือน ข้อหาพยายามล่าสัตว์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า จำคุก 4 เดือน ข้อหาล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า จำคุก 1 ปี ข้อหาเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติ จำคุก 1 ปี รวมจำคุก 2 ปี 17 เดือน ไม่มีข้อหาโดยยกฟ้อง

ส่วนค่าเสียหายทางแพ่งให้จำเลยที่ 1 และที่ 4 ร่วมกันชำระค่าเสียหายจำนวน 2 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2561 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่ผู้ร้อง (กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช).-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

นายกฯ วางพานพุ่มดอกไม้ถวายราชสักการะ เนื่องในวันที่ระลึกมหาจักรีบรมราชวงศ์

นายกรัฐมนตรี วางพานพุ่มดอกไม้ถวายราชสักการะพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เนื่องในวันพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และวันที่ระลึกมหาจักรีบรมราชวงศ์ พุทธศักราช 2568 ณ ปฐมบรมราชานุสรณ์ สะพานพระพุทธยอดฟ้า

เครื่องจักรหนักทำงานต่อ เน้นรื้อถอนซากอาคาร โซน D

ช่วงบ่ายวันนี้ เครื่องจักรหนักเริ่มทำงานต่อ เน้นเคลียร์รื้อถอนซากอาคาร โซน D พร้อมเจาะหาโพรงเข้าหาผู้สูญหายเพิ่ม

ผู้ว่าฯ ชัชชาติ คาดโซน C พบผู้เสียชีวิตมากสุด

เข้าสู่วันที่ 10 ค้นหาผู้ประสบภัยในซากตึก สตง.ถล่ม “ผู้ว่าฯ ชัชชาติ” คาดโซน C น่าจะพบผู้เสียชีวิตมากที่สุด เบื้องต้นพบผู้เสียชีวิตบริเวณนี้ประมาณ 10-20 ร่าง ด้าน “ช่างเบิร์ด” ที่ทำงานวางระบบไฟฟ้า เผยเจรจากับบริษัทผู้จ้างมาแล้ว 3 ครั้ง แต่จนถึงวันนี้ยังไม่ได้รับเงินที่ค้างอยู่