ยอดส่งออกอัญมณีไม่รวมทองคำ ม.ค.เพิ่มร้อยละ 3.50

กรุงเทพฯ 17 มี.ค. –  สถาบันอัญมณีฯ เผยยอดส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับไม่รวมทองคำ ม.ค.62 เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.50 เผยตลาดอียูขึ้นอันดับหนึ่งแทนฮ่องกง แนะเพิ่มช่องทางขายออนไลน์


นางดวงกมล เจียมบุตร ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่อประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือจีไอที เปิดเผยว่า การส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับของไทยเดือนมกราคม 2562 มีมูลค่า 807.45 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงร้อยละ 16.56 หากคิดเป็นเงินบาทมีมูลค่า 26,191.12 ล้านบาท ลดลง ร้อยละ 16.62 หากหักทองคำซึ่งเป็นสินค้าที่มีความผันผวนออกการส่งออกมีมูลค่า 504.74 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.50 คิดเป็นเงินบาทมูลค่า 16,372.16 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ  3.42

ทั้งนี้ สาเหตุการส่งออกที่ลดลงมาจากการส่งออกทองคำยังไม่ได้ขึ้นรูปมีสัดส่วนถึงร้อยละ  37.49 ของการส่งออกทั้งหมด มีมูลค่าลดลงถึงร้อยละ 36.94 จึงเป็นตัวฉุดสำคัญทำให้ยอดส่งออกเดือนมกราคม 2562 ปรับตัวลดลง และยังมีการลดลงของสินค้าเครื่องประดับแท้และเพชรที่เป็นสินค้าส่งออกอันดับ 2 และ 4 ลดลงเล็กน้อยร้อยละ 1.92 และ 1.13 ตามลำดับ ถ้าไม่รวมทองคำคิดเฉพาะเครื่องประดับการส่งออกเพิ่มขึ้น สินค้าสำคัญเพิ่มขึ้น เช่น พลอยสีเพิ่มร้อยละ  25.62 เครื่องประดับเทียมเพิ่มร้อยละ  5.23 เป็นต้น


สำหรับตลาดส่งออกขยายตัวสูงสุด ได้แก่ สหภาพยุโรป (อียู) กลับมาเป็นตลาดส่งออกอันดับ 1 ของไทย จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในตลาดอียู เพิ่มขึ้นร้อยละ 16.38 สหรัฐเพิ่มร้อยละ  1.11 ตะวันออกกลาง เพิ่มร้อยละ  20.13 เพราะกำลังซื้อเพิ่มขึ้นจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น ญี่ปุ่น เพิ่มร้อยละ 2.77 อาเซียน เพิ่มร้อยละ 23.03 และประเทศหมู่เกาะแปซิฟิก เพิ่มร้อยละ  1.33 ส่วนฮ่องกงซึ่งเคยเป็นตลาดอันดับ 1 ลดลงร้อยละ  9.74 อินเดีย ลดร้อยละ 19.78 จีน ลดร้อยละ 16.93 รัสเซียและประเทศเครือรัฐเอกราช ลด ร้อยละ 81.08 โดยฮ่องกงและจีนที่ลดลง เพราะได้รับผลกระทบจากความไม่แน่นอนของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน เป็นปัจจัยกดดัน ทำให้ลดการบริโภคสินค้าที่ไม่จำเป็น ส่วนรัสเซียได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนในทะเลดำ ทำให้คนลดการบริโภคลง  

อย่างไรก็ตาม แนวโน้มการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับเดือนต่อไป คาดว่าจะยังขยายตัวได้ดี เพราะคู่ค้าหลายประเทศยังมีความต้องการบริโภค แต่ต้องจับตาปัจจัยที่จะกระทบการส่งออก ทั้งเงินบาทที่แข็งค่า ทำให้กระทบต่อขีดความสามารถในการแข่งขันของสินค้าไทย การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก สงครามการค้า หากเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นจะส่งผลดีต่อการส่งออก หากแย่ลงก็จะส่งผลกระทบ รวมถึงเหตุจลาจลบางประเทศในยุโรป ความขัดแย้งของรัสเซียและยูเครน ที่จะเป็นแรงกดดันต่อการบริโภคอัญมณีและเครื่องประดับ

ทั้งนี้ แม้จะมีความเสี่ยง แต่ก็มีโอกาสส่งออกหลายตลาด ซึ่งผู้ส่งออกจะต้องศึกษาและหาโอกาสเพิ่มยอดขาย โดยเฉพาะตลาดที่มีแนวโน้มเติมโตดี ได้แก่ กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง เช่น กาตาร์ และโอมาน อาเซียน เช่น  กัมพูชา ลาว บรูไน และควรเพิ่มช่องทางการขายผ่านทางออนไลน์มากขึ้น และประชาสัมพันธ์สินค้าผ่านสื่อสังคมออนไลน์ อาทิ Facebook, Twitter, LinkedIn  ซึ่งได้รับการยอมรับในวงกว้างว่าเป็นช่องทางที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงศึกษารูปแบบสินค้าที่กลุ่มเป้าหมายต้องการและจะต้องศึกษาแนวโน้มของสินค้า โดยสินค้าที่มาแรงปี 2562 เช่น เครื่องประดับแบบซ้อนเลเยอร์ และชาร์มที่ใส่สัญลักษณ์หรือตัวอักษรลงบนชิ้นงานได้ ส่วนสีประจำปีนี้ตามประกาศของ Pantone คือ Living Coral ซึ่งผสมผสานสีส้ม สีชมพู และสีแดง ผู้ประกอบการจึงอาจจัดหาสินค้าที่มีรูปแบบหรือสีสันตามเทรนด์ดังกล่าวเพื่อจำหน่ายในตลาด


อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการเพิ่มช่องทางการตลาดและการปรับตัวสถานการณ์โลก สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ เตรียมเปิดอบรมหลักสูตรใหม่ล่าสุด SMART Jewelers กับ 4 หัวข้อเด็ดที่จะช่วยเพิ่มศักยภาพทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบธุรกิจ โดยมีหลักสูตรไว้ คือ  1.หลักสูตรทางรอดธุรกิจอัญมณีและเครื่องประดับด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ 2.หลักสูตรถ่ายภาพเครื่องประดับสำหรับธุรกิจ 3.หลักสูตรสร้างบริหารโลกธุรกิจยุคดิจิตัล 4.หลักสูตรกลยุทธ์การสร้างความสำเร็จในธุรกิจอัญมณีและเครื่องประดับ เริ่มอบรมวันที่ 20 เมษายน – 3 สิงหาคม 2562  (วันเสาร์ – อาทิตย์ เวลา 9.00 – 16.00 น.) ซึ่งเปิดรับสมัครแล้วสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 02-634-4999 ต่อ 301-306, 311-313 ได้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เครื่องบินภูเก็ตมุ่งหน้ามอสโก ขอลงจอดฉุกเฉินที่สุวรรณภูมิ

เที่ยวบิน 777-300ER สายการบิน Aeroflot ขึ้นจากภูเก็ตไปมอสโก เตรียมลงสุวรรณภูมิ หลังบินวนกลางทะเลอันดามันหลายชั่วโมง จากปัญหาระบบลงจอดขัดข้อง

ไข้หวัดใหญ่ระบาด

ไข้หวัดใหญ่ระบาดในสหรัฐ-เสียชีวิตแล้ว 13,000 ราย

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ หรือซีดีซี รายงานว่า พบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ในฤดูกาลนี้อย่างน้อย 24 ล้านคนแล้วทั่วสหรัฐ

ตัดไฟเมียนมา

มาตรการตัดไฟเมียนมาได้ผล กลุ่มเว็บพนันปลดพนักงานแล้วกว่าร้อยคน

มาตรการตัดไฟเมียนมาได้ผล กลุ่มเว็บพนันออนไลน์และกลุ่มสแกมเมอร์ที่จังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ปลดพนักงานแล้วกว่า 100 คน เนื่องจากขาดแคลนกระแสไฟฟ้า ทำให้พนักงานทยอยเดินทางออกจากท่าขี้เหล็ก กลับมาทางด่าน อ.แม่สาย จ.เชียงราย อย่างต่อเนื่อง

ข่าวแนะนำ

ปฏิบัติการกวาดล้าง “คาวบอยบ่อแก้ว” แก๊งยาเสพติดรายใหญ่ภาคเหนือ

เจ้าหน้าที่เปิดปฏิบัติการกวาดล้างเครือข่าย “คาวบอยบ่อแก้ว” แก๊งขนยาเสพติดรายใหญ่ของภาคเหนือ พร้อมยึดทรัพย์สินกว่า 100 ล้านบาท หลังพบช่วง 2 ปีนี้ ขนไอซ์จากชายแดนลงไปภาคกลางไม่ต่ำกว่า 20 ครั้ง เฉพาะที่ถูกจับได้ 3 ครั้ง ยึดไอซ์ได้กว่า 3,000 กิโลกรัม

2 เด็กชาย ปีนหน้าต่างรถตู้หนี ขณะนำตัวส่งสถานพินิจ

ไล่ล่าวุ่น! 2 เด็กชาย ต้องคดีลักทรัพย์-ยาเสพติด กระโดดหน้าต่างรถตู้หลบหนีระหว่างนำส่งสถานพินิจฯ โคราช ก่อนขโมย จยย.ชาวบ้านหลบหนี

“ภูมิใจไทย” มีมติไม่ร่วมแก้ รธน. หวั่นขัดคำวินิจฉัยศาล

“ภูมิใจไทย” มีมติไม่ร่วมสังฆกรรมแก้ รธน. วันพรุ่งนี้ หวั่นขัดคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ยันไม่กระทบความสัมพันธ์พรรคร่วมรัฐบาล ชี้เป็นเรื่องฝ่ายนิติบัญญัติ ไม่สนเป็นแพะรับบาปขวางการแก้ไข บอกแจ้งนายกฯ ให้ทราบแล้ว