กรุงเทพฯ 28 ส.ค. – รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ปัดตอบข้อเสนอ ให้ “พล.อ.ประยุทธ์” ตั้งพรรคการเมือง และลงเลือกตั้ง ระบุเร็วเกินไปที่จะให้ความเห็น ด้าน “สุริยะใส” ชี้เป็นข้อเสนอหลงโลก เตือนอย่าเคลิ้มกับกระแสนิยม
นายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฎ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงข้อเสนอที่ให้พล.อ.ประยุทธ์ ตั้งพรรคการเมืองและลงสมัครรับเลือกตั้ง ว่า ยังเร็วเกินไปที่จะให้ความเห็นเรื่องนี้ เพราะใครจะมาเป็นรัฐบาล ฝ่ายค้าน หรือนายกรัฐมนตรี จะต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ และขึ้นอยู่กับผลการเลือกตั้ง ดังนั้นตอนนี้เร็วเกินไปที่จะมาพูดกัน ส่วนกรณีที่มีความกังวลว่าถ้านายทหารมาตั้งพรรคการเมือง อาจจะได้เปรียบเพราะรัฐบาลทหารเป็นผู้ควบคุมดูแลการเลือกตั้ง นาย จุรินทร์ กล่าวว่า ทุกอย่างต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญและกฎหมาย เมื่อรัฐธรรมนูญมีผลบังคับใช้ ก็ต้องมีการยกร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ซึ่งจะเป็นตัวกำกับให้ทุกฝ่ายปฏิบัติตามจึงไม่น่ากังวล
รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า สำหรับการเตรียมให้ข้อมูลกับกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ เกี่ยวกับกฎหมายการเลือกตั้ง ทางพรรคจะขอนับหนึ่งเมื่อเห็นต้นร่างของกฎหมายทั้ง 4 ฉบับแล้วก่อน ว่ามีรายละเอียดอย่างไร และเมื่อถึงตอนนั้น กรธ.ต้องการรับฟังความเห็นจากพรรคการเมืองหรืออดีต ส.ส.ก็ยินดีให้ความร่วมมือ ในรูปแบบที่แล้วแต่ กรธ.จะสะดวก จึงไม่มีความเห็นเรื่องเซ็ต ซีโร่ ระบบสมาชิก เพราะในต้นร่างอาจจะไม่มีก็ได้
ด้านนายสุริยะใส กตะศิลา รองคณบดีฯ วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม ม.รังสิต และ ผอ.สถาบันปฏิรูปประเทศไทย (สปท.) กล่าวถึงกรณีที่นักการเมืองทั้งพรรคประชาธิปัตย์และพรรคเพื่อไทยเสนอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตั้งพรรคการเมืองและลงเลือกตั้งว่า เป็นข้อเสนอหลงโลก ไม่เป็นประโยชน์และไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ เป็นเพียงโวหารเก่า ๆ จากการเมืองเก่า ๆ ที่ติดอยู่กับลัทธิเลือกตั้งซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเมืองที่ล้มเหลวและตนก็หวังว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะไม่ลุ่มหลงกับโวหารเช่นนี้เพราะเป็นกับดักทางการเมืองที่ ฆ่านายพลมาแล้วหลายคน สิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ ควรตระหนักที่สุดในขณะนี้คือต้องกล้าวิจารณ์ตนเองและทบทวนว่า 2 ปีกว่าที่ผ่านมาและอีกปีกว่าก่อนเลือกตั้ง คสช.ได้ทำให้สังคมการเมืองเข้าสู่การปฏิรูปได้จริงหรือไม่ และมีหลักประกันได้หรือไม่ว่าการเมืองไทยจะไม่วนกลับไปสู่ความแตกแยกขัดแย้งอีก
นายสุริยะใส กล่าวว่า ในขณะนี้เริ่มเห็นบรรดานักการเมืองเคลื่อนไหวแสดงตนกันมากขึ้น โดยที่ยังไม่เห็นพรรคการเมืองใดปฏิรูปตัวเองเลย ยังเถียงกันอยู่ในประเด็นนายกรัฐมนตรีคนในหรือคนนอก ยิ่งน่าเป็นห่วงว่าการเมืองไทยจะก้าวไม่พ้นความแตกแยก ซึ่งการออกแบบกฎหมายพรรคการเมืองต้องวางกลไกปฏิรูปพรรคการเมืองให้ชัดเจนด้วย ซึ่งในขณะนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กำลังถูกกลุ่มก้อนการเมืองหลายกลุ่มรุมล้อมและอาจถูกฉุดกระชากไปอยู่ในวงโคจรของการเมือง ที่ไม่ได้แก้ปัญหาประเทศ จนทำให้ความคาดหวังของประชาชนหดหายและไม่มีอะไรเป็นรูปธรรม ซึ่งต้องระวังและควรใช้ต้นทุนที่มีในขณะนี้ เป็นผู้นำในการปฏิรูปในเรื่องใหญ่ ๆ ให้เสร็จก่อนเลือกตั้ง
“ความนิยมของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ยังอยู่ในระดับสูงกว่านักการเมืองในขณะนี้ เป็นเพียงกระแสฉาบฉวยมาแล้วก็หาย และไม่มีใครอยู่ยั่งยืนได้ด้วยกระแส แต่ผลงานที่เป็นวีรกรรมต่างหากที่ทำให้คนกลายเป็นรัฐบุรุษและถูกบันทึกในประวัติศาสตร์”นายสุริยะใส กล่าว.-สำนักข่าวไทย