“นิพนธ์” ป้อง “ลูกเพชญ” บอกไม่รู้เรื่อง มีชื่อโยงตั้งพรรคร่วม “ดร.เอ้”

กรุงเทพฯ 4 ก.ค.-“นิพนธ์” ป้อง “ลูกเพชญ” บอกไม่รู้เรื่อง มีชื่อโยงตั้งพรรคร่วม “ดร.เอ้” เผยถาม “คุณหญิงกัลยา-สาธิต” ทั้งคู่ยันยังไม่คิดตั้งพรรคการเมืองใหม่เช่นกัน เชื่อข่าวปล่อย โยนหินถามทาง ลั่นหากคิดตั้งพรรคใหม่ ต้องทำทันที ฟันธง 45-60 วันนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้

นายนิพนธ์ บุญญามณี อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวปฏิเสธถึงกรณีมีกระแสข่าวว่า ตนจะไปตั้งพรรคไทยก้าวใหม่ ร่วมกับนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หรือ ดร.เอ้ และคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ว่า เรื่องนี้ไม่ได้มีการพูดคุยกัน ตนไม่ทราบที่มาของข่าวและตนไม่ได้พูดคุยกันกับนายสุชัชวีร์ ที่จะไปตั้งพรรคการเมืองใหม่ ซึ่งตนได้สอบถามไปยังคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช อดีตรองหัวหน้าพรรคที่มีชื่อ ว่าร่วมตั้งพรรคดังกล่าวด้วย ซึ่งคุณหญิงกัลยา บอกว่าท่านยังไม่ได้คิดที่จะตั้งพรรคใหม่ ขณะนี้ท่านยังเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์อยู่ แต่อนาคตจะเป็นอย่างไรนั้น ท่านยังพิจารณาอยู่เป็นระยะๆ ซึ่งคงอยู่ในสภาพเดียวกันกับอีกหลายคนที่อยู่ในสภาวะอึดอัดกับบรรยากาศที่เป็นอยู่ในขณะนี้ ทุกคนยอมรับว่าอึดอัดแต่ถึงขนาดไปตั้งพรรคใหม่หรือไม่นั้น ยังไม่ถึงขนาดนั้น


“ผมคิดว่าข่าวที่มีชื่อผมหรือชื่อของ สส.สรรเพชญ บุญญามณี สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ไปร่วมด้วยนั้น ผมยืนยันได้ว่า สส.สรรเพชญ ก็ไม่รู้เรื่องนี้เพราะเท่าที่พูดคุยกัน ก็ไม่เห็นมีใครมาพูดคุยอะไร เพราะหลายคนคงเข้าใจว่า ถ้าจะพูดคุยกับผมต้องมั่นใจพอสมควร” นายนิพนธ์ กล่าว

นายนิพนธ์ กล่าวต่อว่า ส่วนที่มีชื่อนายสาธิต ปิตุเตชะ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ร่วมอยู่ด้วยนั้น ตนก็ได้คุยกับนายสาธิต แล้วเช่นกัน โดยเมื่อวันที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมา นายสาธิต ได้โทรศัพท์มาหาตนสอบถามเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งตนบอกไปว่าตนไม่รู้เรื่อง และเมื่อก่อนเที่ยงของวันนี้ (4 ก.ค.) ตนได้คุยกับนายสาธิต อีกครั้ง นายสาธิต ยังยืนยันว่า เขาเองก็ไม่รู้เรื่อง ที่มีชื่ออยู่ในข่าวว่า จะร่วมตั้งพรรคใหม่เช่นกัน


“จากการที่ผมประเมินข่าวทั้งหมด ผมคิดว่า ข่าวนี้ไม่มีแหล่งที่มาที่ไปว่าใครเป็นคนให้สัมภาษณ์ ดังนั้นเมื่อถึงขนาดนี้ยืนยันได้ว่าผมไม่ได้มีส่วนเข้าไปเกี่ยวข้องกับข่าวดังกล่าวแต่อย่างใด” นายนิพนธ์​ กล่าว

เมื่อถามว่าข่าวที่ออกมามีวัตถุประสงค์อะไรนายนิพนธ์ กล่าวว่าตนไม่สามารถวิเคราะห์ได้ว่าข่าวมาจากไหน แต่สำหรับตนและนายสรรเพชญ หรือนายสาธิต แม้กระทั่งคุณหญิงกัลยา เท่าที่ตนคุยด้วยไม่มีเรื่องการตั้งพรรคการเมืองใหม่ในขณะนี้ ส่วนใครจะคิดตั้งพรรคใหม่ในอนาคตอะไรก็เกิดขึ้นได้ กับสภาวะการเมืองไทยที่เป็นอยู่อย่างปัจจุบัน ตนเชื่อว่าหลายคนอยากหาทางออกให้กับประเทศ เพราะอยู่ในภาวะอย่างนี้บ้านเมืองมันเดินไปต่อไม่ได้ เมื่อทุกคนอยากหาทางออก ทุกคนจะจะลองขายความคิดของตัวเอง

“ผมเข้าใจว่า อาจเป็นการโยนหินถามทาง หรือโยนความผิดออกไป หรือโยนความคิดออกไปว่ามีกระแสขานรับหรือไม่ เคสเกิดขึ้นนี้เข้าใจว่า ใช้การศึกษาเป็นตัวนำอย่างนั้นมากกว่า คงทดสอบตลาดหรือกระแสสังคมว่าเห็นด้วยหรือไม่ มาถึงนาทีนี้ผมยืนยันได้อย่างเดียวว่า ผมยังไม่มีการพูดคุยกับใครเรื่องตั้งพรรคการเมืองใหม่ หากจะตั้งพรรคใหม่ก็ต้องตั้งเลย เพราะสถานการณ์การเมืองอาจจะเกิดการยุบสภาขึ้นได้ และคิดว่าช่วงนี้จะมีข่าวอย่างนี้บ่อยช่วงนี้ขึ้น ส่วนตัวคิดว่าการเมืองไทยมาถึงจุดที่เดินต่อไปข้างหน้าได้ยากแล้ว 45 – 60 วันนี้คงจะเกิดอะไรขึ้นในทางการเมืองก็ต้องตัดสินใจกัน” นายนิพนธ์ ​กล่าว.-312.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปะทะแล้ว บริเวณปราสาทตาเมือน หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง

สุรินทร์ 24 ก.ค.-ทบ.รายงานเหตุการณ์ปะทะบริเวณพื้นที่ปราสาทตาเมือน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง เมื่อเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 07.35 น. หน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนรายงานว่า ได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของฝ่ายกัมพูชาบินวนอยู่บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม แม้ไม่สามารถตรวจพบตัวอากาศยานได้ด้วยสายตา แต่สามารถได้ยินเสียงอย่างชัดเจน ต่อมาฝ่ายกัมพูชาได้นำอาวุธเข้าสู่ที่ตั้งบริเวณด้านหน้าแนวลวดหนาม และพบกำลังพลกัมพูชาจำนวน 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือรวมทั้ง RPG เดินเข้ามาใกล้แนวลวดหนามบริเวณด้านหน้าฐานปฏิบัติการของไทย ฝ่ายไทยได้ใช้การตะโกนเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและยกระดับสถานการณ์ โดยฝ่ายไทยเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 08.20 น. ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงเข้ามาบริเวณตรงข้ามฐานปฏิบัติการทางทิศตะวันออกของปราสาทตาเมือน ในระยะประมาณ 200 เมตร ขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ กำลังพลเจ็บ 2 นาย

กทม. 24 ก.ค.-ด่วน! เหตุปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ ทบ. เผยทหารกัมพูชา เปิดแนวรบเพิ่มที่ ผามออีแดง เขาพระวิหาร ส่วนทหารไทยงัดปืนใหญ่ตอบโต้ กำลังพลเจ็บ 2 นาย เมื่อวันที่ 24 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก ระบุเพิ่มเติมว่า เวลา 0920 น. กองทัพบกพบการปะทะเพิ่มเติมตลอดแนวพื้นที่ผามออีแดง ปราสาทเขาพระวิหาร พบฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากใช้อาวุธทุกชนิดและ BM21 ส่วนฝ่ายไทยเข้าปะทะตามแผนพร้อมตอบโต้ปืนใหญ่สนาม 09.20 น. เจ้าหน้าที่ทหารบาดเจ็บ 2 นาย จากอาวุธยิงสนับสนุน ในพื้นที่บริเวณกลุ่มปราสาทตาเมือน จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพื้นที่ที่มีการปะทะจำนวน 6 พื้นที่ ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย ช่องบก เขาพระวิหาร(ห้วยตามาเรีย/ภูมะเขือ) ช่องอ่านม้า ช่องจอม.-313.-สำนักข่าวไทย

ผบ.ทบ.นำคณะลงช่องอานม้า พรุ่งนี้ จ่อใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ

23 ก.ค.- “ผบ.ทบ.” สั่ง ทภ.2-ทภ.1 เตรียมพร้อม “แผนจักรพงษ์ภูวนาถ” รับมือชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมยกคณะลงพื้นที่บัญชาการ วันที่ 23 ก.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผข.ทบ.) ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่1 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา เตรียมใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ แก้ไขปัญหาพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาหลัง กำลังพลของกองทัพบกไทยจากชุดลาดตระเวน พัน.ร.14 ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พิกัด VA 950911 ซึ่งเป็นพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดน โดยส่งผลให้ จ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญโคราช ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสูญเสียขาขวา และอยู่ระหว่างการส่งตัวรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลน้ำยืน โดยให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันที เมื่อสั่งการ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พลโท ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสธ ทบ. พลโทบุญสินพาดกลาง มทภ.2 […]

“บิ๊กต่าย” อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็น ตร.

ตร. 23 ก.ค. – ผบ.ตร. อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็นตำรวจใต้บังคับบัญชาหลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 12 จังหวัดปราจีนบุรี อ่านคำพิพากษากรณีที่ ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิตปริศนา หลังจากถูกธำรงวินัยโดยรุ่นพี่ทหาร 2 นาย ภายในโรงเรียนเตรียมทหาร เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 ซึ่งหนึ่งในรุ่นพี่ที่เป็นจำเลย ปัจจุบันรับราชการตำรวจในภาคอีสาน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า ตนได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว สิ่งที่อยากจะสื่อสารในประเด็นที่ 1 ตนอยากพบพ่อและแม่ของน้องเมยเป็นการส่วนตัว เพื่อจะได้พูดคุยให้เข้าใจในการปฏิบัติของตำรวจ ซึ่งเป็นประเด็นที่ 2 กรณีที่คู่กรณีเป็นตำรวจ เราต้องมองย้อนไปในขณะที่เกิดเหตุ มองถอยหลังกลับไป คู่กรณีรายดังกล่าวไม่ได้อยู่ในสถานะตำรวจ ฉะนั้นแล้วตามกฎหมาย พ.ร.บ.ตำรวจ ปี 2565 การดำเนินการทางวินัยจะดำเนินได้เฉพาะกับผู้ที่อยู่ในสถานะตำรวจ ซึ่งขณะนั้นคู่กรณีถือว่าอยู่ภายใต้กองบัญชาการกองทัพไทย ส่วนการพิจารณาทางวินัยตำรวจของคู่กรณี ตนได้สั่งให้จเรตำรวจแห่งชาติ นำไปประกอบการพิจารณา เนื่องจากวินัยและอาญาจะสามารถเชื่อมกันได้ในข้อเท็จจริงบางส่วน […]

ข่าวแนะนำ

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

น้ำท่วมน่านหนักสุดเป็นประวัติการณ์

น่าน 24 ก.ค. – ยังน่าห่วง น้ำท่วมเขตเศรษฐกิจและตัวเมืองน่าน หนักสุดเป็นประวัติการณ์ บางจุดท่วมสูงถึงชั้น 2 ของบ้าน ประชาชนติดอยู่ในบ้านกลางน้ำ ยิ่งค่ำยิ่งลำบาก .-สำนักข่าวไทย

ไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือด “ไทย-กัมพูชา”

24 ก.ค. – ไล่เรียงไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่เกิดขึ้นในวันนี้ (24 ก.ค.) มีที่มาที่ไปอย่างไร พลันที่ชุดลาดตระเวน กองพันทหารราบที่ 14 เหยียบกับระเบิดที่ช่องอานม้า จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อเย็นวานนี้ (23 ก.ค.) ทำให้ทหาร 1 นาย บาดเจ็บสาหัสขาขาด อีก 4 นาย บาดเจ็บ ซ้ำรอยเหตุทหารไทยเหยียบกับระเบิดจนขาขาดในเวลาเพียง 1 สัปดาห์ ทำให้สถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ตึงเครียดถึงขีดสุด พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยกระดับมาตรการตอบโต้สั่งปิดด่าน 4 แห่ง คือ ช่องอานม้า, ช่องสะงำ, ช่องจอม และช่องสายตะกู พร้อมปิดสถานที่ท่องเที่ยว 2 แห่ง คือ ปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควายทันที 07.35 น. วันนี้ (24 ก.ค.) ความรุนแรงเริ่มชัดเจนขึ้น เมื่อทหารหน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม รายงานว่าได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ […]

ไม่พลาดเป้า! เอฟ-16 ทิ้งบอมบ์รอบ 2 กลับฐานปลอดภัย

24 ก.ค.- ทอ.เปิดปฏิบัติการ ส่งเอฟ-16 ทิ้งบอมบ์ฝั่งกัมพูชาไม่พลาดเป้า กลับฐานแล้วอย่างปลอดภัย เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 24 ก.ค.68 กองทัพอากาศ เปิดปฏิบัติการ ส่ง F-16 รอบ 2 ของวันนี้ 4 เครื่อง ในการโจมตีทางอากาศตอบโต้กองทัพกัมพูชา ในจุดสำคัญ ทางทิศใต้ของปราสาทตาเมือนธม ไม่พลาดเป้า โดยล่าสุด 17.00 น. F-16 ทั้ง 4 เครื่อง กลับฐานบิน ปลอดภัย หลังสนับสนุน เปิดปฏิบัติการ “ยุทธบดินทร์” -สำนักข่าวไทย