ธนาธร ระบุอดีตสมาชิกทษช.รณรงค์เทคะแนนพรรคอื่นไม่ผิด

กรุงเทพฯ 14 มี.ค.- ธนาธร ลงพื้นที่กทม.ฝั่งตะวันออก ช่วยผู้สมัครหาเสียง คุยกระแสตอบรับดีในทุกพื้นที่   ระบุ อดีตและสมาชิกไทยรักษาชาติจะรณรงค์ให้ประชาชนเทคะแนนให้กับพรรคการเมืองอื่น ไม่ผิดเพราะเป็นสิทธิ์ ย้ำจุดยืนไม่ร่วมงานพลังประชารัฐ


ที่ตลาดอินทรลักษณ์ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ลงพื้นที่พร้อมด้วย นายศุภชัย กุลโชควณิช ผู้สมัคร ส.ส.กรุงเทพมหานคร เขต 14  ลงพื้นที่หาเสียงพบปะประชาชน ที่ตลาดอินทรลักษณ์ เขตบึงกุ่ม โดยทักทายพ่อค้าแม่ค้าและผู้ที่มาจับจ่ายใช้สอยภายในตลาดอย่างเป็นกันเอง และมีประชาชนมาขอถ่ายเซลฟี่กับนายธนาธรจำนวนมาก โดยตลอดทางมีแม่ค้านำอาหาร อาทิ กระเพาะปลา บะหมี่แห้ง ข้าวเกรียบปากหม้อมาให้นายธนาธร ลองชิม 

นายธนาธร กล่าวว่า ขอโอกาสศึกษานโยบายของพรรค ซึ่งตนรับรองว่าจะทำให้ได้ทำตามฝัน ทั้งนี้ระหว่างการลงพื้นที่มีประชาชน มาให้กำลังใจกับนายธนาธร พร้อมกล่าวว่าตั้งใจจะเลือกพรรคนี้ แต่ก็กลัวว่าเลือกไปแล้วพรรคจะถูกยุบ โดยนายธนาธร ได้ให้คำมั่นว่า ที่ผ่านมาเป็นคดีเล็กน้อย ส่วนใหญ่เป็นเรื่องที่ถูกกลั่นแกล้งมากกว่า ไม่ถึงขั้นทำให้พรรคถูกยุบแน่นอน ทั้งนี้เราซาบซึ้งใจกับดอกไม้ทุกดอก กำลังใจทุกกำลังใจ ที่เป็นกำลังใจให้เรา อย่างไรก็ตามในระหว่างการเดินตลาดมีประชาชนตะโกนบอกนายธนาธร ขอให้แก้รัฐธรรมนูญด้วยเพื่อถอนรากถอนโค่นเผด็จการ และมอบช่อดอกไม้ เสื้อ ภาพสเก็ตช์เป็นรูปนายธนาธร


จากนั้นนายธนาธรและทีมงาน เดินทางไปยังตลาดลาดพร้าวสะพาน 2 เพื่อช่วยนายธนเดช เพ็งสุข ผู้สมัครเขต 8 ลาดพร้าว วังทองหลาง หาเสียง ก่อนจะเดินทางต่อไปยังตลาดถนอมมิตร เพื่อช่วย นายนิกม์ แสงศิรินาวิน ผู้สมัคร เขต11 สายไหม และ นายเอราวัณ วานิชย์หานนท์ ผู้สมัคร ส.ส. เขต 12 บางเขน  หาเสียง

นายธนาธร ให้สัมภาษณ์ ถึงกรณีที่กรรมการการเลือกตั้งจะตั้งคณะกรรมการตรวจสอบอดีตสมาชิก และอดีตผู้สมัคร พรรคไทยรักษาชาติ รณรงค์ให้ประชาชนเทคะแนนให้กับพรรคการเมืองอื่น ว่า ขณะนี้อดีตผู้สมัครพรรคไทยรักษาชาติและสมาชิกกลายเป็นบุคคลธรรมดาเพราะถูกยุบพรรคการเมืองไปแล้ว จึงเห็นว่าคนธรรมดาจะไปรณรงค์ให้คนลงคะแนนให้พรรคการเมืองใด ไม่เป็นความผิด และขอขอบคุณคนที่ให้กำลังใจ หรือรณรงค์ให้เลือกพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งคงจะห้ามไม่ให้ใครมาเชียร์หรือสนับสนุนพรรคอนาคตใหม่ไม่ได้ 

นายธนาธร กล่าวว่า ไม่กังวลจะเสี่ยงมีความผิดไปด้วย เพราะไม่สามารถบังคับใครให้มาเชียร์ได้ เป็นสิทธิ์ของประชาชนทุกคน อีกทั้งที่ผ่านมาพรรคอนาคตใหม่ก็ขอให้ประชาชนทุกคนเทคะแนนให้อยู่แล้ว และควรมองการเลือกตั้งให้เป็นเรื่องปกติทุกพรรคคือคู่แข่งกัน ที่จะเอาชนะหัวใจของประชาชน ส่วนปัจจัยภายนอกใครจะสนับสนุนเป็นเรื่องที่ห้ามไม่ได้ ซึ่งตอนนี้ก็จะใช้วันเวลาที่เหลือก่อนการเลือกตั้งทำให้เต็มที่  


ส่วนตอนนี้มีอดีตสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ ติดต่อขอเป็นสมาชิก หรือช่วยพรรคอนาคตใหม่หาเสียงหรือไม่ นายธนาธร กล่าว ยังไม่ทราบข้อมูลจากนายทะเบียนพรรค ซึ่งพรรคอนาคตใหม่ไม่สามารถห้ามใครมาสมัครสมาชิกพรรคได้ และพรรคก็มีขบวนการคัดสรรคุณสมบัติคนที่จะสมัครเป็นสมาชิก

นายธนาธร ยังกล่าวถึงกระแสการจับขั้วพรรคการเมือง ว่า ภารกิจของพรรคอนาคตใหม่ ในการเลือกตั้งครั้งนี้คือการยุติเผด็จการสืบทอดอำนาจของคสช. พรรคไหนที่มีอุดมการณ์เหมือนกันเราพร้อมร่วมงาน และก้าวต่อไปคือการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2560 ล้มล้างผลพวงรัฐประหาร เราพร้อมร่วมทุกพรรคยกเว้น พลังประชารัฐ  ซึ่งตั้งขึ้นมาเพื่อสืบทอดอำนาจให้กับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สืบทอดอำนาจให้กับเผด็จการ เราคิดว่าถึงเวลาที่ประเทศไทยต้องเปลี่ยน ไม่ใช่แค่ไม่เอาพล.อ.ประยุทธ์กลับมา แต่ต้องปฏิเสธการร่วมมือกับพรรคพลังประชารัฐทุกรูปแบบ

นายธนาธร กล่าวอีกว่า การเลือกตั้งครั้งนี้มีความสำคัญมากเนื่องจากเป็นการเลือกตั้งครั้งแรกในรอบ 8 ปี และเป็นการเลือกตั้งครั้งแรกหลังรัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ประชาชนได้สิทธิเสรีภาพของตัวเองขึ้นมา ตนจึงอยากขอเชิญชวนทุกคนกำหนดอนาคตของประเทศว่าจะอยู่อย่างไรต่อไป จะอยู่กับเผด็จการหรือประชาธิปไตย เราสามารถเลือกอนาคตและกำหนดอนาคตของประเทศได้ในวันที่ 24 มีนาคมนี้ 

หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า ตนไม่สามารถคาดเดาคะแนนเสียงส.ส.เขตในแต่ละพื้นที่ได้ เนื่องจากมีตัวแปรจำนวนมากขอให้รออีก 10 วันก็จะรู้ เราจะใช้เวลาที่เหลือให้เต็มที่เพื่อผลักดันให้คนรู้จักเรามากขึ้น เข้าใจความฝันของเรา เข้าใจแนวอุดมการนโยบายของเราให้มากที่สุด แต่เราเห็นประชาชนที่มาสนับสนุนเข้ามาให้กำลังใจเป็นกระแสตอบรับที่ดีในทุกพื้นที่ ซึ่งตนเห็นว่า เมื่อใกล้เลือกตั้งประชาชนให้ความสนใจการเมืองมากขึ้น และจากเดิมคนที่ไม่เคยรู้จัก พรรคอนาคตใหม่ก็เริ่มสนใจหาตัวเลือกในการใช้สิทธิของตนเอง และเมื่อเจอพรรคอนาคตใหม่ ก็รู้สึกชอบและอยากสนับสนุน กระแสการสนับสนุนพรรคจึงสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด .-สำนักข่าวไทย                 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“สุชาติ” จ่อลาออก สส. ให้สภามี สส.ทำงาน

ทำเนียบ 7 ก.ค.-“สุชาติ” เผยเตรียมลาออก สส. เพื่อให้บัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้ขึ้นมา มองให้สภามี สส.ทำงาน นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงธรรมเนียมปฏิบัติของคนที่เป็น สส.ระบบบัญชีรายชื่อ จะลาออกเมื่อเป็นรัฐมนตรี หรือไม่ว่า ที่ผ่านมายังไม่มีการลาออกแต่โดยธรรมเนียมก็ควรจะลาออก เพราะการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีก็เต็มเวลาอยู่แล้ว ไม่มีเวลาที่จะไปช่วยงานสภา ซึ่งขณะนี้สภาเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งตนมีความตั้งใจที่จะลาออกจาก สส ระบบบัญชีรายชื่ออยู่แล้ว เพื่อให้ สส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้เลื่อนขึ้นมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส. ลำดับถัดไปที่จะขึ้นมาเป็น สส.แทนนายสุชาติ คือ นายเอกพร รักความสุข บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 38.-316.-สำนักข่าวไทย

พม.ร้องเอาผิด “จอนนี่ มือปราบ” สร้างรีสอร์ทรุกล้ำที่ส่วนกลาง

บก.ปทส. 7 ก.ค. – จนท.กรมพัฒนาสังคมฯ ร้องตำรวจป่าไม้ตรวจสอบปมรีสอร์ทของ “จอนนี่มือปราบ” อินฟลูชื่อดัง บุกรุกพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ในอุบลราชธานี และถูกข่มขู่ไม่ให้เข้าพื้นที่ นายวัชระ โกเสนตอ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ ได้รับมอบอำนาจจากนายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำหลักฐานเอกสารเข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ด.ต.ยุทธพล หรือ “จอนนี่ มือปราบ” อดีตตำรวจที่ผันตัวลาออกจากราชการมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ กรณีสร้างรีสอร์ทรุกเข้าไปในเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี นายวัชระ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาสังคมฯ รับแจ้งจากนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ว่ามีผู้เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยส่วนที่รุกล้ำเข้ามาเป็นพื้นที่ที่นิคมกันไว้เป็นป่าไม้ส่วนกลาง 20% รุกล้ำเข้ามาประมาณ 1 ไร่ และเริ่มก่อสร้างรีสอร์ทเมื่อปี 2564 เป็นต้นมา และทางกรมฯ ก็ได้ลงบันทึกประจำวันและมีหนังสือให้ระงับการดำเนินการรีสอร์ทมาตั้งแต่ปี 2565 แต่เจ้าของรีสอร์ทไม่ให้ความร่วมมือ และยังมาโวยวายที่นิคมฯ ข่มขู่เจ้าหน้าที่ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปที่รีสอร์ท ทั้งนี้นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย มีพื้นที่ตามแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองฯ ชัดเจน เนื้อที่ […]

Camp Mystic after Texas floods

เปิดภาพความเสียหายน้ำท่วมแคมป์ในเท็กซัส

เท็กซัส 6 ก.ค.- ทีมกู้ภัย อาสาสมัครและตำรวจ ช่วยกันรื้อถอนเศษซากความเสียหายและซากต้นไม้กิ่งไม้ใกล้ที่ตั้งแคมป์ในรัฐเท็กซัสของสหรัฐ ซึ่งมีนักเรียนหญิง 27 คน สูญหายจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นเมื่อเช้ามืดวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น   ค่ายมิสติก (Camp Mystic) เป็นค่ายกิจกรรมนักเรียนหญิงล้วน มีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมในค่าย 700 คน ในช่วงที่เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันครั้งใหญ่ในเทศมณฑลเคอร์ ทางตอนกลางของรัฐเท็กซัส แคมป์แห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกัวดาลูปในแถบหุบเขาตอนกลางรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่เกิดน้ำท่วม ก่อตั้งโดยโค้ชฟุตบอลมหาวิทยาลัยเท็กซัส เมื่อเกือบหนึ่งร้อยปีก่อนในปี 2469 เพื่อให้เยาวชนหญิงได้สัมผัสบรรยากาศแบบคริสเตียนในการพัฒนาตนเอง.-820(814).-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือน 4 ภาครับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 6 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง เตือน “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” รับมือฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “ดานัส” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ไต้หวัน ในช่วงวันที่ 6–7 กรกฎาคม 2568 โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย แต่จะทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

คุมได้แล้ว! เพลิงไหม้โรงงานผลิตยาง จ.สมุทรสาคร

สมุทรสาคร 7 ก.ค. – คุมได้แล้ว! ไฟไหม้โรงงานผลิตยาง จ.สมุทรสาคร พบต้นเพลิงเกิดขึ้นบริเวณท่อส่งน้ำมัน หวั่นอาคารพังถล่ม หลังโหมไหม้รุนแรง ภาพจากมุมสูงจะเห็นอาคารที่เกิดเหตุมีขนาดใหญ่เนื้อที่ราวๆ 3-4 ไร่ ต.บ้านเกาะ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ของบริษัทประกอบกิจการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ทำจากยาง เจ้าหน้าที่ต้องระดมรถน้ำของ อบต.บ้านเกาะ และพื้นที่ใกล้เคียงกว่า 20 คัน ฉีดน้ำสกัดเพลิงที่โหมลุกไหม้อย่างรุนแรง ควันสีดำพวยพุ่งขึ้นท้องฟ้า มีเสียงระเบิดดังขึ้นเป็นระยะ จุดต้นเพลิงเกิดขึ้นบริเวณท่อส่งน้ำมันที่ใช้ในกระบวนการผลิตภายในโรงงาน เนื่องจากมีเชื้อเพลิงไวไฟ ประกอบกับภายในมีสินค้าประเภทยางที่ผลิตแล้วเป็นจำนวนมาก ทำให้เพลิงลุกลามอย่างรวดเร็วจนอาคารเริ่มทรุดตัว มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 2 คน เป็นเจ้าหน้าที่ของโรงงาน 1 คน และเจ้าหน้าที่ดับเพลิง 1 คน เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง จึงควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดได้ แต่ไฟยังดับไม่สนิท เนื่องจากภายในมีทั้งเครื่องจักรที่ใช้ในกระบวนการผลิต วัตถุดิบไวไฟ และสินค้ายางยืดที่ผลิตเสร็จแล้วจำนวนมาก ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี จึงต้องฉีดน้ำหล่อเลี้ยงไปเรื่อยๆ พร้อมกับให้เจ้าหน้าที่ชุดผจญเพลิงนำอุปกรณ์เข้าไปดับไฟด้านใน ทั้งนี้ ต้องเฝ้าระวังความปลอดภัยจากตัวอาคารที่อาจพังถล่มลงมาได้ เนื่องจากถูกไฟลุกไหม้อย่างรุนแรงจนเสียหายเกือบทั้งหมด คนงานเล่าว่าเพลิงลุกที่ท่อส่งน้ำมันที่ส่งไปยังเครื่องจักร ซึ่งใช้ในกระบวนการผลิตสินค้าประเภทยาง แต่ไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร […]

หนุ่มวัย 24 สารภาพผลักลูกเลี้ยงหัวฟาดพื้นดับ คุมทำแผนฯ

นนทบุรี 7 ก.ค. – ตำรวจคุมตัวพ่อเลี้ยงโหด ผลักลูกเลี้ยงวัย 2 ขวบ ล้มศีรษะฟาดพื้นเสียชีวิต ทำแผนฯ หลังเค้นสอบกว่า 6 ชั่วโมง จนยอมรับ อ้างโมโหเด็กส่งเสียงดังรบกวน ตำรวจ สภ.บางบัวทอง คุมตัวนายธนวัฒน์ อายุ 24 ปี ทำแผนประกอบคำรับสารภาพทำร้ายร่างกาย “น้องขงเบ้ง” อายุ 2 ขวบ 5 เดือน ลูกเลี้ยง จนเสียชีวิตภายในบ้านพัก ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี พร้อมให้การว่า เด็กส่งเสียงดังรบกวนจึงเกิดความโมโหผลักจนล้ม ทำให้บริเวณท้ายทอยกระแทกกับพื้น กระทั่งแน่นิ่งไป เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 18.00-20.00 น. เมื่อวานนี้ (6 ก.ค.) ส่วนบาดแผลรอยจ้ำตามร่างกายและบาดแผลอื่นๆ นายธนวัฒน์ยังไม่รับสารภาพ ต้องรอผลการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ประกอบอีกครั้ง แม่ของเด็ก อายุ 25 ปี เล่าว่า ตนออกไปทำงานทุกวัน เวลา 4 โมงเย็น […]

“บิ๊กเต่า” เผย “สีกา ก.” ให้ข้อมูลเป็นประโยชน์ เลือกเหยื่อรวย-เข้าถึงง่าย

7 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” เรียกประชุมแบ่งภารกิจให้กองใต้สังกัด สืบสวนสอบสวนหาข้อมูลเพิ่ม เผยคืบหน้ากรณี “ทิดอาชว์” และนางสาว ก. เจ้าตัวยอมรับเลือกแต่คนรวย-เข้าถึงง่าย อ้างสำนึกผิด ยอมร่วมมือกับตำรวจ พร้อมจี้สำนักพุทธฯ ทำงานให้มากกว่านี้ เพื่อเรียกศรัทธาวงการสงฆ์กลับมา ความคืบหน้าในประเด็น อดีตพระเทพวชิรปาโมกข์ หรือ ทิดอาชว์ เจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพ เจ้าคณะภาค 14-15 สายธรรมยุต มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับนางสาว ก. จนถูกแบล็กเมล์รีดไถ่เงิน 7.3 ล้านบาท ล่าสุดวันนี้ เวลา 14.00 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. และ พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. ได้เรียกคณะทำงานเข้าประชุมวางแผนการทำงานในกรณีของทิดอาชว์และนางสาว ก. ซึ่งใช้เวลาประมาณกว่า 3 ชั่วโมง โดย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ได้ออกมาเผยความคืบหน้าว่า วันนี้เป็นการเรียกประชุมกองงานต่าง ๆ เพื่อแบ่งสายงานมอบหมายภารกิจให้แต่ละกองไปสืบสวนสอบสวนหาข้อมูลมาเพิ่มเติม ภายหลังจากที่ทำการสอบสวนนางสาว ก. และได้ข้อมูลมามากพอสมควร […]

Cambodia strongly rejects Thailand’s baseless claim over Ta Krabei Temple

กัมพูชาโต้ไทยอ้างปราสาทตาควายอยู่ในไทย

พนมเปญ 7 ก.ค.- กัมพูชาคัดค้านอย่างหนักว่า ไทยอ้างโดยไร้มูลว่า ปราสาทตาควายอยู่ในดินแดนไทย และตำหนิไทยว่าห้ามชาวกัมพูชาคล้องผ้าขาวม้าขึ้นปราสาทตาควาย เว็บไซตขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานว่า กระทรวงกลาโหมแห่งชาติของกัมพูชาได้ออกแถลงการณ์แสดงความคัดค้านอย่างหนักต่อการกล่าวอ้างอย่างไร้มูลและโอหังของสื่อไทย เจ้าหน้าที่ทหารไทย และพลเรือนชาวไทยบางกลุ่มที่ว่า ปราสาทตาควายตั้งอยู่ในดินแดนอธิปไตยของไทย แถลงการณ์ของกัมพูชาระบุว่า การกล่างอ้างดังกล่าวเป็นการบิดเบือนความจริงอย่างสิ้นเชิง เพราะไทยอ้างแผนที่ฝ่ายเดียวที่ไม่มีคุณค่าทางกฎหมายตามหลักการกฎหมายสากล กัมพูชายืนยันว่า ในทางภูมิศาสตร์แล้วปราสาทตาควายตั้งอยู่ในเทือกเขาดงรัก อำเภอบันเตียอัมปึล จังหวัดอุดรเมียนเจยหรืออุดรมีชัย ซึ่งทั้งหมดอยู่ในดินแดนและอธิปไตยของกัมพูชา โดยเป็นไปตามกฎหมายที่ได้รับการรับรองจากสากล แถลงการณ์ของกระทรวงกลาโหมกัมพูชายังระบุว่า ทหารไทยห้ามนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชาคล้องผ้ากรอมาหรือผ้าขาวม้าติดธงชาติกัมพูชาขึ้นปราสาทตาควาย แต่กลับอนุญาตให้นักท่องเที่ยวชาวไทยสวมเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับติดธงชาติไทย ถือเป็นการละเมิดข้อตกลงทวิภาคีที่เคยตกลงกันไว้.-814.-สำนักข่าวไทย