ก้าวไกลเปิด 94 ปาร์ตี้ลิสต์ ไร้ชื่อนายทุน-ผู้มีอิทธิพล

กรุงเทพ 2 เม.ย. – พรรคก้าวไกลเปิด 94 ปาร์ตี้ลิสต์ ตอบโจทย์หลากหลาย รอบด้าน เป้าหมายเพื่อความเปลี่ยนแปลง ไร้ชื่อนายทุน-นักการเมืองผู้มีอิทธิพล


นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เปิดเผยว่าพรรคก้าวไกลเป็นพรรคการเมืองเดียว ที่ใช้วิธีการคัดเลือกผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อด้วยวิธีการ “ประกาศรับสมัคร” และนำบัญชีรายชื่อทั้งหมดเข้าสู่คณะกรรมการสรรหา ก่อนให้กรรมการบริหารพรรคเป็นผู้พิจารณาลำดับบัญชีรายชื่อ

ตั้งแต่พรรคอนาคตใหม่ มาจนถึงพรรคก้าวไกล มีหลักการคัดเลือกผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรค ตามจากคุณค่าและเป้าหมายที่พรรคก้าวไกลเชื่อ


ในการเลือกตั้งครั้งนี้ เป้าหมายหลักที่พรรคก้าวไกลยึด คือ “การเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต” ดังนั้น ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อจึงมีส่วนประกอบทั้งนักต่อสู้ทางการเมือง นักสิทธิมนุษยชน นักกฎหมาย คนที่ต่อสู้เพื่อสิทธิชุมชนท้องถิ่น การกระจายอำนาจ นักต่อสู้เพื่อสันติภาพ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ นักรณรงค์ต่อสู้เพื่อสิทธิความหลากหลายทางเพศ ผู้พิการ ชาติพันธุ์ นักต่อสู้เพื่อสิทธิบุคคลพลัดถิ่นและบุคคลไร้สัญชาติ นักต่อสู้เพื่อสิ่งแวดล้อม รัฐสวัสดิการ การต่อสู้เรื่องที่ดินทำกิน สิทธิเด็ก การสนับสุนนโยบายดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายและการตายดี

รวมทั้งมีตัวแทนกลุ่มเศรษฐกิจต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น แรงงาน คนขับแท็กซี่ ฟรีแลนซ์ แม่เลี้ยงเดี่ยว คนที่มีความสามารถเรื่องเศรษฐกิจสร้างสรรค์และเศรษฐกิจดิจิทัล รวมทั้งจะสร้างอนาคตให้กับประเทศได้ ต้องมีผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจเมือง เศรษฐกิจชนบท ผู้เชี่ยวชาญซอฟท์เพาเวอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านข้อมูลและ Big Data ผู้เชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมพลังงานใหม่ๆ นักศึกษาหัวก้าวหน้า ศิลปิน ผู้กำกับ ช่างภาพ นักออกแบบ ผู้เชี่ยวชาญด้านโครงสร้างพื้นฐานและระบบคมนาคมสมัยใหม่

ภาพทั้งหมดคือภาพเป้าหมายของพรรคก้าวไกลที่สะท้อนถึงการคัดเลือกบุคคลเข้ามาอยู่ในบัญชีรายชื่อของพรรคก้าวไกล รายชื่อของคนทั้งหมดมาจากการคัดสรรใหม่ มีทั้งว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ที่เคยทำงาน เครือข่ายพรรค คนทำงานในพรรค ซึ่งจะสะท้อนถึงทั้งปัญหา และโอกาสและความท้าทายของประเทศในปัจจุบัน


“เราเห็นว่าเรื่องเศรษฐกิจสร้างสรรค์และเศรษฐกิจดิจิทัล คือโอกาสของประเทศ นั่นทำให้ในบัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกลมีผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เพราะเราเห็นว่าปัญหาสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจเป็นเรื่องเดียวกัน เราจึงเห็นผู้เชี่ยวชาญด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการจัดการขยะอยู่ในนั้น เพราะเราเห็นว่าการศึกษากับการเรียนรู้คือโจทย์ที่ไม่เหมือนกัน เราถึงมีบัญชีรายชื่อด้านการศึกษาอยู่ในนั้น รวมทั้งปัญหาใหม่ๆ เช่น สังคมสูงวัย โรคอุบัติใหม่ และความท้าทายของประเทศอื่นๆ ทั้งหมดสะท้อนอยู่ในบัญชีรายชื่อของพรรคก้าวไกล” นายพิธา กล่าว

ทั้งนี้ รายชื่อ ส.ส.พรรคก้าวไกล 30 อันดับแรก ประกอบด้วย ส่วนผสมทั้งคนเก่า-คนใหม่ รายชื่อ 3 อันดับแรก คือ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ตามมาด้วย ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค และ ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ฝ่ายนโยบาย ส่วนอันดับ 4 และ 5 เป็นคนใหม่ ได้แก่ “เซีย จำปาทอง” อดีตสหภาพแรงงานสิ่งทอที่เคลื่อนไหวเรื่องสิทธิแรงงานมาอย่างยาวนาน และ “อภิสิทธิ์ ไล่สัตรูไกล” อดีต ผอ.ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC) และสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (CEA)

นอกจากนี้ พรรคก้าวไกลยังมีรายชื่อของ “คนใหม่” ที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น สิทธิพล วิบูลย์ธนากุล หรือ “ดร.ชาย” กูรูเศรษฐกิจธุรกิจ, พริษฐ์ วัชรสินธุ ผู้จัดการการรณรงค์สื่อสารนโยบาย พรรคก้าวไกล, รอมฎอน ปันจอร์ นักสิทธิมนุษยชน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้, กรุณพล เทียนสุวรรณ รองโฆษกพรรค, ชัยวัฒน์ สถาวรวิจิตร นักยุทธศาสตร์ข้อมูล, พูนศักดิ์ จันทร์จำปี วิศวกรสิ่งแวดล้อม, ปารมี ไวจงเจริญ หรือ “ครูจวง” ครูสอนวิชาสังคมชื่อดังที่ต้องการเข้ามาผลักดันนโยบายการศึกษา

สำหรับรายชื่อปาร์ตี้ลิสต์หน้าใหม่ทางการเมืองที่น่าสนใจของพรรคก้าวไกล เช่น

เซีย จำปาทอง ในฐานะตัวแทนปีกแรงงาน พรรคก้าวไกล มีประสบการณ์ต่อสู้เพื่อผู้ใช้แรงงานมายาวนานตั้งแต่การต่อสู้เพื่อสิทธิลาคลอด-ประกันสังคม ทั้งนี้ เซียเคยมีประสบการณ์ในฐานะสหภาพแรงงานสิ่งทอ เคยเป็นประธานสหภาพแรงงานกิจการปั่น-ทอแห่งประเทศไทย (พิพัฒนสัมพันธ์) และประธานสหพันธ์แรงงานอุตสาหกรรมสิ่งทอการตัดเย็บเสื้อผ้าและผลิตภัณฑ์หนังแห่งประเทศไทย ปัจจุบันเป็นที่ปรึกษาด้านแรงงานสัมพันธ์

อภิสิทธิ์ ไล่สัตรูไกล มีประสบการณ์ในฐานะผู้บริหารองค์กรด้านการส่งเสริมอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ เคยดำรงตำแหน่งผู้บริหารองค์การมหาชนหลายแห่ง เช่น ผู้อำนวยการศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC) สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (CEA) ประธานคณะกรรมการสำนักการตลาด กรุงเทพมหานคร

ดร.สิทธิพล วิบูลย์ธนากุล จบปริญญาเอกเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยยอร์ค ประเทศอังกฤษ มีประสบการณ์เป็นกรรมการบริษัทเอกชนสินค้าไลฟ์สไตล์แบรนด์ไทย Moshi Moshi เป็นอาจารย์พิเศษ เป็นคอลัมนิสต์ด้านธุรกิจและเศรษฐกิจ และอดีตผู้พิพากษาสมทบในศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ

รอมฎอน ปันจอร์ เป็นภาคประชาสังคมที่ทำงานด้านสันติภาพ 3 จังหวัดชายแดนใต้มายาวนาน ประสบการณ์ล่าสุดทำงานร่วมกับศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ (Deep South Watch) รอมฎอนเชื่อว่าประชาธิปไตยที่ควรตั้งมั่นสัมพันธ์กับสันติภาพยั่งยืน นโยบายรัฐบาลไทยจำเป็นต้องได้รับการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงให้ก้าวหน้าและเปิดกว้างมากกว่านี้

ดร.ชัยวัฒน์ สถาวรวิจิตร ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีการเงินและยุทธศาสตร์ข้อมูล จบปริญญาเอกวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ มีประสบการณ์ทำงานพัฒนาภาคการเงินการธนาคารด้วยเทคโนโลยีและข้อมูลในช่วงที่ทำงานให้กับธนาคารแห่งประเทศไทย โดยตำแหน่งสุดท้ายเป็นรองผู้อำนวยการ กลุ่มงานยุทธศาสตร์องค์กร ผลงานที่สำคัญคือโครงการพัฒนาเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง (CBDC) สำหรับชำระเงินระหว่างประเทศ และโครงการพัฒนามาตรฐานข้อมูลการเงินที่ปลดล็อกให้ประชาชนใช้ประโยชน์จากข้อมูลของตนเองได้ดียิ่งขึ้น

พูนศักดิ์ จันทร์จำปี วิศวกรสิ่งแวดล้อม ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการขยะและมลพิษ เคยมีประสบการณ์ในคณะทำงานร่วมในการร่างกฎหมายการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ สภาอุตสาหกรรม, คณะทำงานร่วมในการร่างกฎหมายการจัดการซากรถยนต์ ร่วมกับกรมควบคุมมลพิษ บริษัทโตโยต้า มอเตอร์ส (ประเทศไทย), กรมโรงงานอุตสาหกรรม และการนิคมอุตสาหกรรม, กรรมการบริษัทด้านการจัดการสิ่งแวดล้อมหลายแห่ง เช่น บริษัท เวสท์ แมเนจเม้นท์สยาม จำกัด, บริษัท อีสเทิร์นซีบอร์ด เอนไวรอนเมนทอล คอมเพล็กซ์ จำกัด

ศุภโชติ ไชยสัจ ผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายพลังงานรุ่นใหม่ ที่ปรึกษาทางด้านตลาดพลังงาน AFRY Management Consulting

ดร.ศนิวาร บัวบาน นักสิ่งแวดล้อม ผู้เชี่ยวชาญด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ นักวิจัยและที่ปรึกษาโครงการความร่วมมือระหว่างประเทศด้านสิ่งแวดล้อม

ปารมี ไวจงเจริญ หรือครูจวง ครูสอนสังคมศึกษาชื่อดัง มีประสบการณ์บรรยายสอนสังคมศึกษาแนวใหม่ในโรงเรียนหลายแห่ง ผลักดันเรื่องการปรับหลักสูตรสู่หลักสูตรฐานสมรรถนะและนโยบายการศึกษา

เล่าฟั้ง บัณฑิตเทอดสกุล นักกฎหมายชาวม้ง ต่อสู้เรื่องที่ดินและสิทธิของพี่น้องชาติพันธุ์และชนเผ่าพื้นเมือง

เอกภพ สิทธิวรรณธนะ นักเขียนอิสระ ผลักดันประเด็นนโยบายเรื่องการตายดี มีประสบการณ์เป็นผู้จัดการโครงการความตายพูดได้ แผนงานเผชิญความตายอย่างสงบ เครือข่ายพุทธิกา, ผู้ประสานงานโครงการชุมชนกรุณาเพื่อการอยู่และตายดี กลุ่ม Peaceful Death และเลขาธิการมูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาชุมชนกรุณา มีความสามารถพิเศษคือการวาดภาพการ์ตูน

ญาวีร์ บุตรกระวี นักสิทธิมนุษยชน ผู้จัดการโครงการสิทธิดิจิทัลในภูมิภาคแม่โขง, ผู้ประสานงานโครงการสิทธิมนุษยชนและองค์กรระหว่างประเทศ อดีตผู้สื่อข่าวต่างประเทศ

ฐิติพงศ์ พิมลเวชกุล ครีเอทีฟและผู้กำกับภาพยนตร์

รสิตา ซุ่ยยัง อดีตคนไร้สัญชาติ ทำงานภาคประชาสังคมด้านคนไทยพลัดถิ่นและกลุ่มชาติพันธุ์ แกนนำเครือข่ายคนไทยพลัดถิ่น ผลักดันกฎหมายว่าด้วยการคืนสัญชาติ

คณาสิต พ่วงอำไพ นักรณรงค์เพื่อสิทธิทางเพศ ผู้ก่อตั้งกลุ่มนอนไบนารี่แห่งประเทศไทย

จตุรงค์ หิรัญกาญจน์ อาจารย์หน่อง ช่างภาพชื่อดังและอาจารย์พิเศษสอนวิชาการถ่ายภาพ เปิดอบรมวิชาห้องมืดเบื้องต้นสำหรับบุคคลทั่วไป “โรงเรียนลำยูรโฟโต้”

ศดิศ ใจเที่ยง นายกสมาคมแท็กซี่สาธารณะไทย ตัวแทนคนขับแท็กซี่ที่เชื่อในการต่อสู้เพื่อให้คนเท่ากัน

ดูประวัติ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ, ผู้สมัคร ส.ส.เขต, และนโยบายของพรรคก้าวไกลทั้งหมดของพรรคก้าวไกลได้ที่ https://election66.moveforwardparty.org/

รายชื่อผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกลทั้ง 97 คน (เรียงลำดับ) ประกอบด้วย

  • 1. พิธา ลิ้มเจริญรัตน์
  • 2. ชัยธวัช ตุลาธน
  • 3. ศิริกัญญา ตันสกุล
  • 4. เซีย จำปาทอง
  • 5. อภิสิทธิ์ ไล่สัตรูไกล
  • 6. อภิชาติ ศิริสุนทร
  • 7. วิโรจน์ ลักขณาอดิศร
  • 8. รังสิมันต์ โรม
  • 9. สิทธิพล วิบูลย์ธนากุล
  • 10. สุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ
  • 11. พริษฐ์ วัชรสินธุ
  • 12. ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ
  • 13. ณัฐวุฒิ บัวประทุม
  • 14. เบญจา แสงจันทร์
  • 15. ชัยวัฒน์ สถาวรวิจิตร
  • 16. ธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์
  • 17. วาโย อัศวรุ่งเรือง
  • 18. ประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร
  • 19. มานพ คีรีภูวดล
  • 20. รอมฎอน ปันจอร์
  • 21. กรุณพล เทียนสุวรรณ
  • 22. ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล
  • 23. พูนศักดิ์ จันทร์จำปี
  • 24. ศุภโชติ ไชยสัจ
  • 25. ศนิวาร บัวบาน
  • 26. นิติพล ผิวเหมาะ
  • 27. ณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์
  • 28. ปารมี ไวจงเจริญ
  • 29. วรภพ วิริยะโรจน์
  • 30. สุรวาท ทองบุ
  • 31. คำพอง เทพาคำ
  • 32. วรรณวิภา ไม้สน
  • 33. เลาฟั้ง บัณฑิตเทอดสกุล
  • 34. องค์การ ชัยบุตร
  • 35. ชุติมา คชพันธ์
  • 36. จุลพงศ์ อยู่เกษ
  • 37. กัลยพัชร รจิตโรจน์
  • 38. ณรงเดช อุฬารกุล
  • 39. ภคมน หนุนอนันต์
  • 40. สุเทพ อู่อ้น
  • 41. กัญจน์พงศ์ จงสุทธนามณี
  • 42. เอกภพ สิทธิวรรณธนะ
  • 43. ธัญธร ณัฐธัมม์
  • 44. กิตติศักดิ์ ปานฝึกดี
  • 45. ญาวีร์ บุตรกระวี
  • 46. ชวลิต เลาหอุดมพันธ์
  • 47. อำนาจ ชุณหะนันท์
  • 48. ฐิติพงศ์ พิมลเวชกุล
  • 49. ปริญญา ช่วยเกตุ คีรีรัตน์
  • 50. ทองแดง เบ็ญจะปัก
  • 51. รสิตา ซุ่ยยัง
  • 52. พงศธร ศรเพชรนรินทร์
  • 53. นายิกา ศรีเนียน
  • 54. วีระชัย นพปราชญ์
  • 55. คณาสิต พ่วงอำไพ
  • 56. รัชนี โล่วณิชเกียรติกุล
  • 57. นันทพงศ์ ปานมาศ
  • 58. ไพบูลย์ กิจวรวุฒิ
  • 59. สาวิตรี สันติพิริยพร
  • 60. จตุรงค์ หิรัญกาญจน์
  • 61. นิธิ ละเอียดดี
  • 62. สุทัศน์ เมืองมนประเสริฐ
  • 63. ไพศาล ปันแดน
  • 64. ฆนัท นาคถนอมทรัพย์
  • 65. ศดิศ ใจเที่ยง
  • 66. เนติพล สกุลชาห์
  • 67. ณภัทร สิทธิอัฐกร
  • 68. ประพนธ์ สิงห์แก้ว
  • 69. พุฒิพงศ์ ภู่เพียนเลิศ
  • 70. ภูมินทร์ หน่อคำ
  • 71. วรภัทร พึ่งพงศ์
  • 72. ณัฐพัชร์ ธีรนันทนิตย์
  • 73. โจเซฟ เฮสดาร์ซัน
  • 74. พลากร วงค์ประเสริฐ
  • 75. ปริวรรตน์ จิรพุฒิรัศมิ์
  • 76. ธนะกฤษฏิ์ อธิเจริญลักษณ์
  • 77. ธีรภัทร เหลืองพงศ์รัตน์
  • 78. สัมภาษณ์ คำผุย
  • 79. ชวิน กสิกิจพงศ์พันธ์
  • 80. ปุณณเมธ อ้นอารี
  • 81. พรพิพัฒน์ วัดอักษร
  • 82. รวิสรา มาวงศ์
  • 83. อรทัย คุณะดิลก
  • 84. นพณัฐ แก้วเกตุ
  • 85. ชลธิชา กุลดิลก
  • 86. สมโชติ มีชนะ
  • 87. อุสมาน นูรุลอาดิล
  • 88. สุพรรณิกา ตันติเวชกุล
  • 89. ณภัทร ศิริจรัสตระกูล
  • 90. นภัสสร คุปตเสรี
  • 91. ธนากร ชินอุดมพร
  • 92. ทินกร ปิยะวงษ์ณรัตน์
  • 93. ณัฐพงษ์ พานิชศิริ
  • 94. กัณฑ์อเนก ศรีอนุชา
ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” รายชื่อตรงตามโผ

กทม. 19 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” นั่งนายกฯ ควบมหาดไทย พร้อมตั้ง รองนายกฯ 6 คน รมต.สำนักนายกฯ 4 คน ขณะรายชื่อตรงตามโผ ไม่มีเปลี่ยนแปลง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย. 68) เวลา 09.30 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 7 กันยายนพุทธศักราช 2568 แล้วนั้น บัดนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เลือกผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเก้าแต่งตั้งรัฐมนตรีดังต่อไปนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ […]

“เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง

กรุงเทพฯ 19 ก.ย. – “เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง เชื่อ 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต หลังจากนี้จะใช้ชีวิตของตัวเองอุทิศให้ประชาชนและประเทศชาติ ชี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์บ้านเมืองว่าจะออกมาเคลื่อนไหวอีกหรือไม่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก สื่อมวลชนอาวุโส กล่าวขอบคุณกระบวนการยุติธรรม และศาลด้วยที่ความเมตตากับตนเอง ที่ผ่านมาเราต่อสู้ด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม สำหรับการตัดสินในวันนี้ทำให้รู้สึกโล่งใจ ดีใจทำให้เรารู้ว่าหลังจากนี้เราจะใช้ชีวิตของเราอย่างไรต่อ เพราะถือว่าเป็นคดีสุดท้าย 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต ต่อจากนี้เป็นต้นไปขอทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดชีวิตนี้จะอุทิศให้กับพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ พร้อมบอกว่าเป็นคดีสุดท้ายใน 20 ปี ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เราใช้วิชาชีพของตัวเองใช้ความเชี่ยวชาญของตัวเองรับใช้พี่น้องประชาชน ถือว่าเป็น 20 ปี ที่คุ้มมาก พี่น้องประชาชนให้กำลังใจเราเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะคนที่ร่วมมือกับเราในการแสวงหาข้อมูล เรารู้สึกว่ามีคนรักเรามาก และความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น เรานำเสนอความจริง เมื่อถามว่าที่ผ่านรู้สึกอย่างไรได้มีเตรียมใจไว้หรือไม่ น.ส.อัญชะลี ระบุว่า ทุกอย่างเตรียมความพร้อม ทุกอย่างไม่ต้องแอบทำใจ หากเราสู้จนถึงที่สุดแล้วอะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องเกิด ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เคยช่วยเหลือทั้งในเรื่องเอกสาร หรืออื่นๆ ส่วนเหตุผลที่ศาลพิจารณายกฟ้องในคดีนี้ คือ ศาลเห็นว่าพยานให้การไม่ตรงกันในหลายประเด็นทั้งพยานวัตถุ […]

ศาลฎีกานัดฟังคำพิพากษาคดีม็อบพันธมิตรบุกยึด NBT ปี51

ศาลอาญา 19 ก.ย. – วันนี้ที่ศาลอาญา รัชดา ได้นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา หรือคดีแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือ พธม. นำผู้ชุมนุมบุกยึดสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือ NBT เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2551 หรือเมื่อ 17 ปีก่อน ในช่วงระหว่างการชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ในขณะนั้น ซึ่งศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาในเวลา 10:00 น. โดยคดีดังกล่าวมีจำเลย 4 คน ได้แก่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายภูวดล ทรงประเสริฐ, นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที และนายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล ซึ่งเป็นน้องชายของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำ พธม. ทั้งหมดถูกฟ้องในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป อั้งยี่ซ่องโจร บุกรุก และทำให้เสียทรัพย์ เนื่องจากปรากฏหลักฐานว่า จำเลยทั้งห้าเป็นระดับหัวหน้าและผู้สั่งการให้กระทำความผิด ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ได้มีจำเลยอีก 1 คน คือ นายสมเกียรติ […]

‘มาครง’ เตรียมเสนอหลักฐานยืนยัน ‘บริฌิตต์’ เป็นหญิงไม่ใช่ชาย

ปารีส 19 ก.ย. – ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส และบริฌิตต์ ภริยา เตรียมเสนอหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ต่อศาลสหรัฐเพื่อพิสูจน์ว่าบริฌิตต์เป็นผู้หญิงจริงๆ ไม่ใช่ผู้ชาย ทนายความของประธานาธิบดีมาครงและบริฌิตต์ บอกว่า ทั้งคู่จะยื่นเอกสารเหล่านี้ในคดีหมิ่นประมาทที่ทั้งสองได้ยื่นฟ้อง แคนแดซ โอเวนส์ อินฟลูเอนเซอร์ฝ่ายขวาชาวอเมริกัน ที่เผยแพร่ความเชื่อของตนผ่านทางสื่อและรายการพ็อคแคสต์ของตนเองว่าบริฌิตต์ เกิดมาเป็นผู้ชาย ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เธอเสียใจและไม่สบายใจอย่างมากกับข้อกล่าวหาดังกล่าว และเรื่องนี้รบกวนจิตใจของประธานาธิบดีฝรั่งเศส แม้จะไม่ได้ทำให้มาครงสมาธิหลุดจากภารกิจหน้าที่ของเขาในฐานะผู้นำประเทศ แต่มันก็เป็นเรื่องรบกวนจิตใจของคนที่ต้องรับผิดชอบทั้งเรื่องครอบครัวและเรื่องงาน ซึ่งตัวประธานาธิบดีก็ไม่มีข้อยกเว้น ในส่วนของการยื่นหลักฐานต่อศาลนั้น ทนายความของมาครงและภริยาบอกว่า ทั้งคู่พร้อมที่จะแสดงหลักฐานอย่างชัดเจนทั้งในภาพรวมและในรายละเอียด รวมถึงคำให้การจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะเป็นลักษณะทางวิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์ว่าข้อกล่าวหานั้นเป็นเท็จ แม้จะเป็นกระบวนการที่บริฌิตต์จะต้องเผชิญต่อหน้าสาธารณชนอย่างเปิดเผย แต่เธอก็ยินดีที่จะทำ เธอตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อทำให้เรื่องนี้กระจ่าง สำหรับประเด็นเรื่องบริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ถูกเผยแพร่ครั้งแรกตามสื่อออนไลน์ของฝ่ายขวาและกลุ่มต่อต้านวัคซีนในฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 2021 ต่อมา แคนแดซ โอเวนส์ อดีตนักวิจารณ์ของเดลี่ไวร์ (Daily Wire) สำนักข่าวสายอนุรักษ์นิยมของสหรัฐฯ ซึ่งมีผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียหลายล้านคน ได้เผยแพร่มุมมองของตนเองหลายครั้งว่า บริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ที่มีชื่อว่า ฌอง-มิเชล ทรอกโนซ์ (Jean-Michel Trogneux) ก่อนที่จะแปลงเพศในเวลาต่อมา ถึงขั้นอ้างว่าเธอพร้อมเดิมพันชื่อเสียงในอาชีพทั้งหมดของเธอกับข้อกล่าวหานี้ ส่งผลให้มาครงและภริยายื่นฟ้องต่อศาลสหรัฐฯ […]

ข่าวแนะนำ

อุดพนังกั้นน้ำสำเร็จ น้ำท่วมหล่มสักเริ่มคลี่คลาย

เพชรบูรณ์ 21 ก.ย.-น้ำท่วมตัวอำเภอหล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ รวมทั้งย่านการค้า เริ่มลดลงแล้ว หลังเจ้าหน้าที่อุดพนังกั้นน้ำที่พังลงมาได้สำเร็จ และน้ำในแม่น้ำป่าสักลดลง จุดที่พนังกั้นน้ำริมแม่น้ำป่าสักแตกยาวกว่า 10 เมตร ทำให้น้ำทะลักเข้าท่วมเขตเศรษฐกิจ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ เจ้าหน้าที่สามารถปิดพนังกั้นน้ำที่พังลงมาได้แล้ว แม้จะยังไม่ 100% ทำให้ยังมีน้ำรั่วซึมเข้ามาบ้าง แต่ช่วยลดปริมาณน้ำจากแม่น้ำป่าสักที่ทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนและอาคารร้านค้าหลายร้อยหลังในย่านการค้าของหล่มสักลงได้ ส่งผลให้น้ำที่ท่วมหลายจุดตั้งแต่เมื่อวานลดลง บางจุดเริ่มเห็นผิวถนนแล้ว และคาดว่าจะลดลงต่อเนื่อง หลังระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักที่ไหลผ่านตัวอำเภอหล่มสัก ลดลงเฉลี่ยชั่วโมงละ 10 เซนติเมตร จนต่ำกว่าพนังที่ทางเทศบาลเสริมขึ้นมาแล้ว แต่ยังมีบ้านเรือนตามชุมชนที่อยู่ริมน้ำใกล้จุดพนังแตก ถูกน้ำท่วมขังอยู่บ้าง ขณะที่ชาวบ้านหลายครอบครัวเร่งนำข้าวของเครื่องใช้ที่ถูกน้ำท่วมเสียหายออกมาล้างทำความสะอาด เร่งล้างคราบโคลนภายในบ้านกันบ้างแล้ว หลังต้องเจอน้ำท่วมหนักถึง 2 รอบ ในช่วง 3 สัปดาห์ และกว่าจะอุดพนังกั้นน้ำที่พังลงมาได้สำเร็จไม่ใช่เรื่องง่าย เจ้าหน้าที่ต้องใช้ความพยายามตลอดทั้งคืน ระดมกำลังคนและเครื่องจักรหนักเข้ากู้สถานการณ์ อุดรอยรั่วซ่อมพนังกั้นน้ำ ตรงข้ามสวนดงตาล ที่พังลงมายาวกว่า 10 เมตร โดยใช้แบริเออร์ กระสอบทรายบิ๊กแบ็ก วางอุดรอยรั่วได้สำเร็จ แม้ตอนนี้ยังคงมีน้ำรั่วซึมเข้ามาจากจุดพนังแตกอยู่บ้าง แต่หากระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักลดลงอย่างต่อเนื่องแบบนี้ คาดว่าสถานการณ์น้ำท่วมในเขตเทศบาลเมืองหล่มสักจะลดลงต่อเนื่อง.-สำนักข่าวไทย

ทบ.ชี้แจงปมกัมพูชาประท้วงไทย ย้ำพื้นที่อยู่ในเขตไทย

กทม. 21 ก.ย.-กองทัพบก ชี้แจงปมกัมพูชาประท้วงไทย ย้ำพื้นที่อยู่ในเขตไทย ไม่ใช่พื้นที่พิพาท กรณีกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา ออกแถลงการณ์เมื่อ 20 ก.ย.68 ระบุว่า “กัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงและคัดค้านอย่างเป็นทางการต่อรัฐบาลไทย เกี่ยวกับเจตนาที่จะใช้กฎหมายภายในประเทศของไทยกับพลเมืองกัมพูชาในหมู่บ้านโจกเจย และหมู่บ้านไปรจัน ตำบลโอเบยเจือน อำเภอโอโจรว จังหวัดบันเตียเมียนเจย โดยมีรายละเอียดกล่าวหาฝ่ายไทยว่า ฝ่ายไทยอ้างสิทธิ์ใช้กฎหมายภายในประเทศกับพลเมืองกัมพูชาในพื้นที่พิพาท โดยการอ้างสิทธิ์ดังกล่าวของไทยละเมิดพันธกรณีตามกฎบัตรสหประชาชาติ (มาตรา 2(3) และ 2(4)) เป็นการละเมิดบันทึกความเข้าใจ MOU 2000 ว่าด้วยการสำรวจและปักปันเขตแดนทางบก ขัดต่ออำนาจหน้าที่ของคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม ขอเรียกร้องให้ไทยยุติกิจกรรมที่บ่อนทำลายความพยายามลดความตึงเครียด ตามข้อตกลงหยุดยิง พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้ชี้แจงต่อกรณีนี้ว่า ฝ่ายไทยมีสิทธิและหน้าที่ในการบังคับใช้กฎหมายภายในประเทศกับบุคคลที่อยู่ในเขตดินแดนของไทย ซึ่งเป็นหลักการสากลที่ทุกประเทศยอมรับ และขอยืนยันว่า พื้นที่ที่ฝ่ายไทยอาจจำเป็นต้องดำเนินการก่อนนั้น ไม่ได้อยู่ในเขตของพื้นที่ที่ต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิ์ อย่างที่ฝ่ายกัมพูชาพยายามบิดเบือน แต่อยู่ในเขตอธิปไตยของประเทศไทยอย่างชัดเจน ซึ่งทำให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปอย่างถูกต้องตามหลักอธิปไตยของรัฐ ส่วนเรื่องพันธกรณีตามกฎบัตรสหประชาชาติ ในมาตรา 2(3) ที่ได้ระบุไว้ว่า “รัฐสมาชิกต้องระงับข้อพิพาทระหว่างประเทศด้วยวิธีสันติ เพื่อไม่ให้สันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศตกอยู่ในอันตราย” นั้น ในความเป็นจริงกลับพบว่า ฝ่ายกัมพูชามักจะเป็นผู้ละเมิด อย่างกรณีการปลุกปั่น จัดฉาก […]

จับตาปลาย ก.ย. พายุถี่ขึ้น ลุ้นเคลื่อนเข้าไทย

กรุงเทพฯ 21 ก.ย.- กรมอุตุฯ เผยแนวโน้มเกิดพายุถี่ขึ้นช่วงปลายเดือน ก.ย. ทั้งในมหาสมุทรแปซิฟิกและทะเลจีนใต้ ขณะที่พายุไต้ฝุ่น “รากาซา” แม้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยโดยตรง แต่ส่งอิทธิพลต่อร่องมรสุมและมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ทำให้หลายพื้นที่มีฝนเพิ่มขึ้น ต้องเฝ้าระวังฝนตกหนักและฝนตกสะสม นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ช่วงปลายเดือนกันยายนนี้มีแนวโน้มเกิดพายุถี่ขึ้นบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกและทะเลจีนใต้ โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 26–27 กันยายน มีโอกาสเกิดพายุลูกใหม่เพิ่มอีก แม้ขณะนี้ยังไม่มีทิศทางชัดเจนว่าจะเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยหรือไม่ แต่ต้องจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ปัจจุบัน พายุไต้ฝุ่น “รากาซา” (RAGASA) ยังคงเคลื่อนตัวอยู่บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตก แม้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ไทยโดยตรง แต่ส่งอิทธิพลต่อสภาพอากาศในประเทศ ทำให้ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ขณะเดียวกันมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยก็มีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้หลายพื้นที่มีฝนเพิ่มขึ้น และบางแห่งมีฝนตกหนักถึงหนักมาก โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 21–27 กันยายน 2568 พื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังฝนตกหนักและฝนตกสะสม ได้แก่ กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก เช่น จันทบุรี ตราด รวมถึงภาคเหนือตอนล่าง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง เช่น แม่ฮ่องสอน […]

ไทยตอนบนฝนตกหนักบางแห่ง

กทม. 21 ก.ย.-กรมอุตุฯ ไทยตอนบนฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะ จ.แม่ฮ่องสอน ตาก จันทบุรี และตราด ทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร กรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 60% ของพื้นที่ กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน ตาก จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06.00 น. วันนี้ ถึง 06.00 น. วันพรุ่งนี้ ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ […]