อังกฤษ 13 มี.ค.- แมนฯ ซิตี้ เก็บชัยชนะในบ้าน 10 เกมติดต่อกันในปีนี้ หลังเปิดบ้านถล่มชาลเก้ 7-0 ขณะที่ คริสเตียนโน โรนัลโด้ ยิงแฮตทริก ช่วยให้ทีมยูเวนตุส ชนะ แอต.มาดริด พร้อมทำสถิติยิงแฮตทริกในแชมเปียนส์ลีกส์ เป็นครั้งที่ 8
ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัด 2 เมื่อคืนที่ผ่านมา “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมแชมป์จากอังกฤษ เปิดสนามเอติฮัด สเตเดียม ถล่ม “ราชันสีน้ำเงิน” ชาลเก้ จากเยอรมนี ขาดลอย 7-0 โดยเจ้าถิ่นได้ประตูจาก เซร์คิโอ อเกวโร ในนาที 35 และ 38, เลรอย ซาเน นาที 42, ราฮีม สเตอร์ลิง นาที 56, แบร์นาร์โด ซิลวา นาที 71, ฟิล โฟเดน นาที 78, กาเบรียล เฆซุส นาที 84 รวมผล 2 นัด แมนฯ ซิตี้ ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายด้วยประตูรวม 10-2 ซึ่งจากชัยชนะทำให้แมนฯ ซิตี้ ชนะ 10 จาก 10 เกมที่ลงเตะในบ้านตัวเอง ในปี 2019 รวมทุกรายการ โดยทำได้ถึง 46 ประตู เฉลี่ยทำประตูได้ทุกๆ 19.6 นาที และเสียแค่ 3 ประตูเท่านั้น และ “เรือใบสีฟ้า” ยังทำ 26 ประตูในถ้วยแชมเปียนส์ ลีก ฤดูกาลนี้ ส่วนทีมชาลเก้ ถือเป็นการพ่ายแพ้ที่มากที่สุด 0-7 ของสโมสรจากเยอรมนีในถ้วยแชมเปียนส์ ลีก
ส่วนอีกคู่ “ม้าลาย” ยูเวนตุส ทีมแชมป์ 7 สมัยจากอิตาลี ที่นัดแรกบุกไปแพ้ “ตราหมี” แอตเลติโก มาดริด มาก่อน 0-2 ทำให้เกมนี้พวกเขาจำเป็นต้องเอาชนะด้วยสกอร์ 3-0 หากต้องการผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย โดยเกมนี้ คริสเตียนโน โรนัลโด้ ยิงแฮตทริก นาที 27, 49 และ 86 จากจุดโทษ รวมผล 2 นัด ยูเวนตุส ผ่านเข้ารอบ ด้วยประตูรวม 3-2 ซึ่งทำให้ คริสเตียโน โรนัลโด้ ทำแฮตทริก ครั้งที่ 8 ในศึกแชมเปียนส์ ลีก ซึ่งเทียบเท่ากับ ลิโอเนล เมสซี ของบาร์เซโลนา และแฮตทริกครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 ที่ยิง แอต.มาดริด แถมยังยิงประตูรวมในการพบกับ แอต.มาดริด ไป 25 ประตู นอกจากนั้นโรนัลโด้ ยังทำ 63 ประตูในรอบน็อกเอาต์ แชมเปียนส์ ลีก ซึ่งเป็นจำนวนมากกว่าที่ทำได้ในรอบแบ่งกลุ่ม ที่ทำไป 61 ประตู และโรนัลโด้ ยังผ่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศเป็นอย่างน้อยนับตั้งแต่ปี 2010.-สำนักข่าวไทย