กทม. 12 มี.ค. – โฆษกบอร์ดสำนักงานสลากฯ ยอมรับ ยังพบการขายสลากเกินราคา หากสถานการณ์ยังไม่ดีเมื่อทดลองทำสลากชุดขายเองครบ 3 เดือน เตรียมจัดชุดสลากคละเลขขายเองทั้งหมด 90 ล้านใบ
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ในฐานะโฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล ระบุว่า หลังจากสำนักงานสลากฯ ได้ออกหวยชุดแบบคละเลข ให้ผู้ค้ารายย่อยที่จองผ่านระบบออนไลน์ 57 ล้านฉบับ แบบชุดละ 2 ใบ 2 ชุดเลขไม่เหมือนกันและแบบคละเลขอีก 1 ชุด รวม 5 ชุดต่อคน เพื่อแก้ปัญหาสลากราคาแพง เริ่มตั้งแต่งวดวันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา หลังจากสำนักงานสลากฯส่งผู้ตรวจลงสำรวจ พบว่า จำนวนผู้ขายหวยจองมีจำนวนน้อยลง เพราะส่วนหนึ่งไม่ใช่ผู้ค้าจริงและดึงผู้ค้าตัวจริงเข้าสู่ระบบมากขึ้น ขณะที่ปริมาณการรวมหวยชุดใหญ่ จำนวน 5-10 ใบ มีจำนวนลดลง เนื่องจากยี่ปั๊วรวมชุดได้ยากขึ้นและมีเวลารวมชุดน้อยลง
อย่างไรก็ตาม ราคาหวย ยอมรับว่า ยังมีการขายเกินราคาอยู่ สาเหตุหลักมาจากเลขดังในงวดนั้นๆ และกลุ่มของนิติบุคคล องค์กรการกุศล เป็นผู้ที่ได้รับการจัดสรรโควต้าจำนวน 33 ล้านใบ ยังรวมชุดหวย 5-10 ใบ แม้จะเป็นสัดส่วนที่น้อยลง ซึ่งสำนักงานสลากฯจะเพิ่มการตรวจจับการขายหวยเข้มข้นขึ้น หากพบผู้ค้ารายย่อยที่ได้หวยชุด 2 ใบจากสำนักงานสลากฯ ไปขาย แต่ขายเกินราคาจะตัดสิทธิ์การเป็นผู้ค้าทันที และเตรียมจะประเมินผลจากมาตรการทำสลากรวมชุดแบบคละเลข หลังครบกำหนด 3 เดือน หากราคาหวยยังเกินราคา ก็พร้อมจะเสนอคณะกรรมการสลากฯ จัดทำหวยรวมชุดคละเลขขายเองทั้งระบบ 90 ล้านใบ
สำหรับหวยที่สำนักงานพิมพ์ในปัจจุบัน งวดละประมาณ 90 ล้านใบ เป็นแบบจองซื้อผ่านระบบออนไลน์ 57 ล้านใบและระบบโควต้า องค์กรการกุศลและนิติบุคคลอีก 33 ล้านใบ
ส่วนการจะเพิ่มสลากประเภทอื่นๆ เช่น หวยออนไลน์ ล็อตโต จำหน่ายผ่านแอพพลิเคชั่น หรือระบบอินเทอร์เน็ต เพื่อแก้ปัญหาสลากแพง โฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลยืนยันว่า ขณะนี้ตาม พ.ร.บ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลที่แก้ไขแล้วสามารถทำได้ แต่ในทางปฏิบัติจะต้องมีการทำประชาพิจารณ์ในภาคสังคมเพื่อให้เกิดการยอมรับและดำเนินการอย่างเหมาะสมก่อน
ตัวอย่าง หวยราคาแพงที่ยังเห็นอยู่อย่างกรณีที่เชียงใหม่ ผู้ค้าในตัวเมืองเชียงใหม่บอกว่า ไปซื้อหวยชุดมาจากยี่ปั๊วหน้าสำนักงานสลาก ชุด 3 ใบขึ้นไปขายราคาใบละ 90 บาท นำมาขายต่อใบละ 100 บาท หรือชุด 3 ใบ นำมาขายต่อราคา 300 บาท หรือชุด 5 ใบ ขายราคา 500 บาท หากเป็นชุด 10 ใบ ซื้อมาราคา 1,100 บาท นำมาขายต่อในราคา 1,200 บาท และบอกว่า ยังมีชุดใหญ่สุด มากถึง 30 ใบ ราคาจะยิ่งแพงมากหรือร้านบางแห่ง ขายใบละ 150 บาท แต่ต้องมีคนสั่งซื้อจึงจะนำมาขายให้ หากซื้อมาจากยี่ปั๊วต้องขายใบละ 100 บาท ยิ่งชุดใหญ่ยิ่งราคาสูงขึ้นไปอีกและอยากให้เอาจริงกับยี่ปั๊วที่ขายแพง ส่วนสลากที่เอามาจากศาลากลางจังหวัดขายราคาใบละ 80 บาท แต่ได้มาน้อยรวมทั้งโควต้า ที่กดเอาจากระบบออนไลน์จะได้ไม่เกิน 5 เล่ม แต่ขายราคา 80 บาทมีกำไรแค่ 4,500 บาทต่องวด ไม่พอใช้จ่าย ต้องไปขอซื้อสลากชุดจากยี่ปั๊ว ซึ่งแพงยังไงก็ต้องซื้อ มาขายต่อ จึงจะอยู่ได้ ที่สำคัญคือมีคนซื้อ
ขณะเดียวกัน สำนักงานสลากฯ ยังจัดทำบัตรประจำตัวให้กับผู้ซื้อ-จองล่วงหน้าสลาก กว่า 100,000 ราย เพื่อใช้ในการแสดงตนว่าเป็นผู้ซื้อ-จองสลากกินแบ่งรัฐบาลนำมาจำหน่ายให้กับประชาชน ภายในบัตรจะระบุข้อมูล ชื่อ นามสกุล พร้อมรหัสคิวอาร์โค้ด
ทั้งนี้ ผู้ซื้อ-จองล่วงหน้าฯ จะต้องแสดงบัตรให้เห็นขณะที่จำหน่ายสลาก เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถตรวจสอบได้ก่อนซื้อ และให้เจ้าหน้าที่ของสำนักงานฯ ตรวจสอบการจำหน่าย ตลอดจนใช้แสดงตนเมื่อไปรับสลาก ณ ที่ทำการไปรษณีย์ เพื่อจัดระเบียบ และเก็บข้อมูลผู้ซื้อ-จองล่วงหน้าฯ ไม่ว่าจะเป็นปริมาณการซื้อ-ขายสลากในระบบซื้อ-จองล่วงหน้าฯ แต่ละงวด สถานที่ขาย ตลอดจนตรวจสอบการขายเกินราคา เพื่อนำข้อมูลไปตัดสิทธิ์และยกเลิกการลงทะเบียน
บัตรดังกล่าวจะมีอายุถึงวันที่ 1 ธันวาคม 2562 หลังจากนั้นสำนักงานฯ จะออกบัตรใหม่ให้อีกครั้ง ซึ่งจะมีการเพิ่มภาพถ่ายเจ้าของบัตรและรายละเอียดต่างๆ ซึ่งจะกำหนดภายหลัง โดยเริ่มทำบัตรส่งไปในกล่องสลาก สำหรับผู้ทำรายการจองสลากงวดวันที่ 16 มีนาคม 2562 ไปแล้ว .- สำนักข่าวไทย
