กรุงเทพฯ 13 มี.ค. – เผยผลสอบเครื่องบินฝนหลวง เกิดจากระบบไฟฟ้าขัดข้องกลางอากาศ สวิทช์ควบคุมการจ่ายไฟไม่ทำงาน ทำให้ไม่มีไฟฟ้าเลี้ยงระบบต่าง ๆ ทั้งลำ ล่าสุดซ่อมเสร็จส่งไปเสริมฐานปฏิบัติการฝนหลวงอุดรธานี
นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดเผยผลการตรวจสอบเครื่องบินฝนหลวง รุ่น CN 235 เกิดขัดข้องกลางอากาศ ขณะนำเครื่องลงจอดจังหวัดนครสวรรค์ ว่า คณะกรรมการนิรภัยการบินตรวจพบสาเหตุจาก Selector Switch Mode ไม่ทำงาน ซึ่งเป็นสวิทช์ที่ควบคุมการจ่ายไฟของเครื่องกำเนิดไฟฟ้า (Generater) ที่จะส่งกระแสไฟฟ้าไปเลี้ยงระบบต่าง ๆ อีกทั้งกระแสไฟฟ้าไม่เข้าไปเก็บแบตเตอรี่ เครื่องบินจึงใช้ไฟฟ้าสำรองอยู่ในแบตเตอรี่จนหมด จึงจำเป็นต้องนำเครื่องลงฉุกเฉิน โดยไม่มีระบบช่วยบินที่ทำงานด้วยไฟฟ้า
ทั้งนี้ นักบินไม่ทราบมาก่อนว่าระบบไฟฟ้าขัดข้องเนื่องจาก Selector Switch Mode ไม่ทำงานยังส่งผลให้การแจ้งเตือนของระบบต่าง ๆ ไม่ส่งสัญญาณเตือน นักบินทราบต่อเมื่อกำลังจะนำเครื่องลง สัญญาณแจ้งเตือนการกางล้อได้ดับลง อีกทั้งไม่สามารถติดต่อกับหอบังคับการบินทางวิทยุได้ จึงบินลงต่ำเพื่อส่งสัญญาณให้เจ้าหน้าที่หอบังคับการบินและเจ้าหน้าที่ภาคพื้นทราบว่าเครื่องมีปัญหา จากนั้นจึงติดต่อกันทางโทรศัพท์บินวนรอบที่ 2 เพื่อให้เจ้าหน้าที่หอบังคับการบินและเจ้าหน้าที่ภาคพื้นดูด้วยสายตาว่าฐานล้อกางสมบูรณ์หรือไม่ เมื่อได้รับคำยืนยันว่าฐานล้อกางเรียบร้อย จึงบินวนเป็นรอบที่ 3 เพื่อนำเครื่องลง แต่ไฟฟ้าดับหมดทั้งลำ ทำให้ระบบแอนตี้เซอร์กิตควบคุมระบบเบรคของเครื่องบินไม่ทำงาน จึงต้องใช้ระบบเบรคฉุกเฉิน ส่งผลให้ล้อตายยางล้อเฉือนกับพื้นรันเวย์แตก 1 ล้อ แต่สามารถนำเครื่องลงจอดได้ ซึ่งผู้โดยสารปลอดภัยทั้งหมด ขณะนี้ได้เปลี่ยน Selector Switch Mode แล้ว การจ่ายกระแสไฟฟ้าเป็นปกติ รวมถึงเปลี่ยนยางล้อเรียบร้อยแล้ว
นายสุรสีห์ กล่าวว่า ได้รายงานผลสอบให้นายกฤษฎารับทราบแล้ว พร้อมกำชับให้ตรวจสอบและซ่อมบำรุงเครื่องบินให้มีสภาพสมบูรณ์และปลอดภัย โดยกรมฝนหลวงได้ส่งเครื่องบินลำนี้ไปเสริมที่ฐานปฏิบัติการฝนหลวงอุดรธานี เนื่องจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือประสบภัยแล้งหลายพื้นที่ อีกทั้งต้องเร่งทำฝนเติมน้ำเขื่อนอุบลรัตน์ เขื่อนห้วยหลวง นอกจากนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์ว่าจะมีพายุฤดูร้อนอาจทำให้มีลูกเห็บตก สร้างความเสียหายแก่บ้านเรือนและพืชผลทางบการเกษตร จึงต้องเตรียมปฏิบัติการทำฝนหลวงยับยั้งลูกเห็บที่คาดว่าจะเริ่มเกิดขึ้นในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตั้งแต่วันที่ 14 มีนาคมเป็นต้นไป.-สำนักข่าวไทย