fbpx

สธ.ห่วงข้าราชการถูกเรียกเงินคืน เร่งตรวจสอบ-เจรจาคลัง

สธ.10มี.ค.-สธ.ห่วงข้าราชการที่ได้รับเงินเกินสิทธิ สั่งตรวจสอบและเจรจา ก.คลัง ขอผ่อนชำระหนี้ระยะยาว 5-10ปีไม่มีดอกเบี้ยเพื่อลดผลกระทบให้ ด้านเครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบ ออกแถลงการณ์ขานรับ 2 ข้อสั่งการ สธ.และเสนอเพิ่ม 3 ข้อ เช่น ขอให้แจ้งผลสอบในการคิดเงินเดือนผิดและแจ้งผลการหารือกับ ก.คลัง  


นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม รองปลัดกระทรวงสาธารณสุขและโฆษกกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ว่า นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รมว.สาธารณสุข และนพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข มีความห่วงใยข้าราชการที่ได้รับผลกระทบจากการได้รับเงินเกินสิทธิ โดยมอบให้ผู้ตรวจราชการทั้ง 12 เขตสุขภาพ และนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ตรวจสอบข้อเท็จจริงในการคิดเงินเดือน 


ทั้งนี้ เพื่อลดผลกระทบให้ข้าราชการกลุ่มนี้ เนื่องจากหลักเกณฑ์การคืนเงินของกระทรวงการคลัง ถ้าไม่เกิน 50,000 บาทต้องชำระภายใน 1 ปีและหักเงินเดือนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 20 ต่อเดือน ซึ่งค่อนข้างมาก ได้เตรียมเจรจากับกระทรวงการคลังขอผ่อนชำระหนี้ระยะยาวขึ้น โดยเงินไม่เกิน 50,000บาท ขอผ่อนชำระภายในเวลา 5ปี และหากจำนวนเงินมากกว่า 50,000 บาท ขอยืดเวลาไปถึง 10ปี หักเท่ากันทุกเดือนไม่มีดอกเบี้ย ซึ่งจะช่วยให้การผ่อนต่อเดือนจำนวนน้อยลง


ขณะที่เฟซบุ๊ก ‘ริซกี สาร๊ะ’ ของนายริซกี สาร๊ะ เลขาธิการชมรมนักวิชาการสาธารณสุข (ประเทศไทย) และเลขาธิการสมาพันธ์บุคลากรสาธารณสุขชายแดนใต้ โพสต์แถลงการณ์ ฉบับที่ 1 กรณีการเรียกเงินเดือนเกินสิทธิของข้าราชการกระทรวงสาธารณสุขหลายร้อยราย โดยระบุว่า

จากกรณีที่กระทรวงสาธารณสุข มีการเรียกเงินเดือนเกินสิทธิคืนหรือได้รับเงินเดือนเกินอัตราคุณวุฒิจริง ในกลุ่มพนักงานราชการและลูกจ้างชั่วคราวที่ได้รับการบรรจุเป็นข้าราชการก่อนวันที่ 11ธันวาคม 2555 โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1ธ.ค.2557 โดยเฉลี่ยคนละประมาณ 30,000-35,000 บาท สูงสุดเกือบ 100,000 บาท ซึ่งมาจากการทำบัญชีเงินเดือนผิดพลาดจนได้รับเงินเดือนเกินสิทธิมาถึง 5 ปี โดยขณะนี้มีการเรียกเงินเดือนเกินสิทธิคืนในหลายพื้นที่จำนวนมากกว่า 300 รายนั้น

เครือข่ายบุคลากรกระทรวงสาธารณสุข เรียกร้องการปฏิรูปค่าตอบแทนที่เป็นธรรม ประกอบด้วยสหภาพพยาบาลแห่งประเทศไทย ชมรมนักวิชาการสาธารณสุข (ประเทศไทย) สมาพันธ์บุคลากรสาธารณสุขชายแดนใต้ สหพันธ์แบคออฟฟิศ กระทรวงสาธารณสุข และชมรม ว.16 ชายแดนใต้ตอบแทนคุณแผ่นดิน หวังอยากเห็นบุคลากรทุกวิชาชีพ ทุกสายงาน ที่เป็นผู้ปฏิบัติงานในการให้บริการดูแลสุขภาพประชาชนในพื้นที่อย่างเข้มแข็ง และทำตามตัวชี้วัดและนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขตลอดมา ‘ได้รับความเป็นธรรมในเรื่องเงินเดือนและค่าตอบแทน เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายของกระทรวงสาธารณสุขที่ว่า ประชาชนสุขภาพดี เจ้าหน้าที่มีความสุข ระบบสุขภาพยั่งยืน’ ด้วย

ทั้งนี้ หลังจากทางเครือข่ายฯ มีการสะท้อนปัญหา และทราบว่าผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขได้สั่งการ 1.มอบให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงในการคิดเงินเดือนผิดมา 5 ปีหลายร้อยรายและ2.กระทรวงสาธารณสุขจึงเตรียมเจรจากับกระทรวงการคลัง ขอผ่อนผันชำระหนี้ระยะยาวขึ้น โดยเงินไม่เกิน 50,000 บาท ขอผ่อนชำระภายในเวลา 5 ปี และหากจำนวนเงินมากกว่า 50,000 บาท ขอยืดเวลาไปถึง 10 ปีหักเท่ากันทุกเดือน ไม่มีดอกเบี้ย ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบให้ข้าราชการกลุ่มนี้มีการผ่อนต่อเดือนจำนวนน้อยลง (เนื่องจากหลักเกณฑ์การคืนเงินของกระทรวงการคลัง ถ้าไม่เกิน 50,000 บาท ต้องชำระภายใน 1 ปี และหักเงินเดือนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 20 ต่อเดือน ซึ่งเป็นภาระต่อผู้คืนเงินเป็นอย่างมาก)

ซึ่งทั้งสองประเด็นที่สั่งการ สอดคล้องตามแนวทางที่เครือข่ายฯเรียกร้องและคาดหวังให้ผู้บริหารลงมาดูแลบุคลากรที่ได้รับผลกระทบเรียกเงินเดือนเกินสิทธิ์คืนด้วย

อย่างไรก็ตามเครือข่ายฯยังมีความกังวลใจเรื่องแนวทางและข้อสรุปที่ชัดเจนหลายประการ จึงข้อเสนอดังนี้ 

1.ขอให้กระทรวงสาธารณสุข มีการแจ้งผลสอบข้อเท็จจริงในการคิดเงินเดือนผิด และแจ้งผลการหารือกับกระทรวงการคลัง และแนวทางการเรียกเงินเดือนเกินสิทธิ์คืน ให้เครือข่ายรับทราบด้วย 

2.ขอให้ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงและกำชับผู้บริหารในพื้นที่ที่มีปัญหา มิให้มีการกล่าวโทษ กล่าวหา กดดัน หรือมีท่าทีบั่นทอนขวัญกำลังใจบุคลากรสาธารณสุขที่ถูกเรียกเงินเดือนเกินสิทธิคืน ทั้งทางวาจา หรือทางสื่อสาธารณะด้วย

3.ขอให้กระทรวงสาธารณสุข วางระบบการตรวจสอบสิทธิเงินเดือนและค่าตอบแทน เพื่อมิให้เกิดความผิดพลาดขึ้นอีกในอนาคต หรือเมื่อเกิดแล้วสามารถตรวจสอบและแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว ตลอดจนแจ้งให้ผู้ได้รับผลกระทบทราบแต่เนิ่นๆได้ .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกตรวจน้ำท่วมเชียงราย

นายกฯ บินเชียงราย ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม

“นายกฯ แพทองธาร” ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม เตรียมมอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ จ.เชียงราย พร้อมตรวจเยี่ยมการลำเลียงสิ่งของช่วยเหลือของกองทัพ

ชิงทองระนอง68บาท

รวบแล้วโจรชิงทอง 68 บาท กลางห้างดังระนอง

รวบแล้ว 2 คนร้ายชายหญิง จี้ชิงทอง 68 บาท ในห้างดังกลางเมืองระนอง ฝ่ายชายรับสารภาพ ชีวิตตกต่ำ ไม่มีรายได้ จึงชวนหลานสาววัย 16 ปี มาร่วมก่อเหตุชิงทอง

น้องชายรัวยิงพี่สาวตายกลางงานศพแม่ อ้างฉุนไม่ให้ร่วมจัดงานศพ

น้องชายชักปืนรัวยิงพี่สาวเสียชีวิตกลางงานศพแม่ ภายหลังน้องชายเข้ามอบตัวกับตำรวจ อ้างเหตุผลฆ่าเพราะโมโห รู้สึกว่าพี่สาวใจดำมากที่กีดกันไม่ให้ตนช่วยจัดงานศพแม่

บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ

เจ้าหน้าที่ อย. ร่วมสืบนครบาล บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ มีเบาะแสต้นตอการทะลักของยาเขียวเหลือง ตะลึงพบซากจิ้งจกตายในหม้อต้ม ขณะที่เจ้าของโรงงานยันประกอบอาชีพโดยสุจริต

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ฝนถล่มหลายจังหวัด

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ภาคเหนือ อีสาน กลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากกับมีลมแรง

ชายแดนแม่สายยังเละจมโคลน จับตาพายุลูกใหม่

แม้จะผ่านน้ำท่วมใหญ่ในรอบร้อยปีมาหลายวันแล้ว แต่ตอนนี้ชายแดนแม่สายยังเต็มไปด้วยความเสียหายและดินโคลนจำนวนมาก ชาวบ้านหลายคนยังไม่สมารถกลับเข้าบ้านได้

นายกฯ ตรวจความพร้อมการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค

นายกฯ ตรวจความพร้อมการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค การซ้อมเป็นรูปขบวนเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา ครั้งที่ 7 ณ โรงเรือพระราชพิธี ท่าวาสุกรี และวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ขณะที่ “เจ้าอาวาสวัดอรุณฯ” ให้กำลังใจทำหน้าที่ได้เต็มที่-ประสบความสำเร็จ

พายุโซนร้อน “ซูลิก” ทำฝนตกหนัก 76 จังหวัด 19-23 ก.ย.

พายุดีเปรสชันบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนทวีกำลังขึ้นเป็นพายุโซนร้อน “ซูลิก” แล้ว คาดขึ้นฝั่งเวียดนามคืนนี้ หัวพายุส่งผลให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออกมีฝนแล้ว ช่วงระหว่างวันที่ 19-23 ก.ย.67 มีพื้นที่เสี่ยงฝนตกหนักถึงหนักมาก 76 จังหวัด