ภูมิภาค 6 มี.ค. – ปัญหาไฟป่าในหลายจังหวัดของภาคเหนือ ทำให้สภาพอากาศที่ร้อนอยู่แล้ว ร้อนหนักขึ้นอีก
เริ่มต้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ไฟไหม้ป่าในเขตอุทยานแห่งชาติศรีลานนา อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ลุกลามอย่างรุนแรง เนื่องจากมีเศษใบไม้ทับถมกันหนาแน่น ซึ่งถือเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี เจ้าหน้าที่ต้องเดินเท้าพร้อมอุปกรณ์เข้าไปดับไฟ แต่สภาพพื้นที่ป่าเขา มีความลาดชันการดับไฟ จึงเป็นไปด้วยความยากลำบาก สำรวจพบป่าเต็งรังเสียหายกว่า 10 ไร่ และขณะนี้ยังมีพื้นที่ป่าถูกไฟไหม้เพิ่มอีก 2 จุดอยู่บนภูเขาสูงและห่างไกล ยังไม่สามารถเข้าไปดับไฟได้ คาดว่าสาเหตุจากชาวบ้านลักลอบเผาเพื่อหาของป่าและล่าสัตว์ ขณะที่จังหวัดเชียงใหม่ ยังมีการประกาศห้ามเผาทุกชนิด ในที่โล่งแจ้งไปจนถึงวันที่ 30 เมษายน
ที่จังหวัดน่าน ไฟป่า 2 ข้างถนนบริเวณถนนสาย จังหวัดพะเยา-จังหวัดน่าน ลุกลามไปทั่วบริเวณกว่า 10 ไร่ โดยผู้ใช้งานเฟซบุ๊ก Chorfah Dumrong เป็นผู้โพสต์คลิปวิดีโอขณะกำลังขับรถอยู่บนถนนสาย จ.พะเยา-จ.น่าน เขตติดต่ออำเภอเมือง จ.น่าน กับ อ.บ้านหลวง ซึ่งได้พบกับกลุ่มควันไฟที่กำลังคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ จนไม่สามารถขับรถต่อไปได้ เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการดับไฟป่า ทหาร และค่าฝุ่นละอองเช้านี้ ที่สถานีตรวจวัดอากาศ สำนักงานเทศบาลเมือง วัดค่าฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน อยู่ในเกณฑ์ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน
ส่วนจังหวัดพิจิตรไม่ได้เกิดไฟป่า แต่ก็ได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศที่ร้อนขึ้นเช่นกัน นั่นคือปัญหาภัยแล้งโดยปริมาณน้ำในแม่น้ำยมที่ไหลผ่านตำบล ไผ่ท่าโพและตำบลโพธิ์ประทับช้าง อำเภอโพธิ์ประทับช้าง ลดระดับลงจนแห้งขอด ส่งผลกระทบต่อระบบผลิตน้ำประปาหมู่บ้าน ไม่สามารถสูบน้ำขึ้นมาผลิตเป็นน้ำประปาได้
เบื้องต้นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นร่วมกับมณฑลทหารบกที่ 36 นำรถบรรทุกน้ำสะอาดขนาด 6,000 ลิตร จำนวน 2 คันไปซื้อน้ำประปา นำมาใส่ถังน้ำกลางประจำหมู่บ้าน รวมถึงภายในบริเวณวัดและโรงเรียน เพื่อให้ประชาชนมีน้ำสะอาดสำหรับการอุปโภค-บริโภคไว้ใช้ในครัวเรือน เป็นการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำในเบื้องต้น .- สำนักข่าวไทย