“อสมท” เผยผลประกอบการปี 61 ดีกว่า 2 ปีที่ผ่านมา

กรุงเทพ ฯ 27 ก.พ.  – อสมท รายงานงบการเงินปี 61 ขาดทุนลดลงจากปี 60 คิดเป็นร้อยละ 85 มีรายได้ 2,562 ล้านบาท เดินหน้าสร้างช่องทางหารายได้เพิ่มขึ้น พัฒนาที่ดินย่านรัชดา-พระราม 9 ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ขณะที่โครงการจากภาครัฐสร้างรายได้เพิ่มถึงร้อยละ 60


นายเขมทัตต์ พลเดช  กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า อสมท รายงานงบการเงิน ปี 2561 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2561 ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย  โดยมีรายได้รวมทั้งสิ้นจำนวน 2,562 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 6 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนค่าใช้จ่ายรวมของ อสมท ในปี 2561 มีจำนวน 2,892 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 48 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2560  เนื่องจากในปี 2560 บริษัทบันทึกการด้อยค่าใบอนุญาตดิจิทัล อุปกรณ์โครงข่าย และสิ่งอำนวยความสะดวก จำนวน 2,087 ล้านบาท ซึ่งหากไม่รวมค่าใช้จ่ายดังกล่าว ค่าใช้จ่ายรวมในปี 2561 ยังคงต่ำกว่าค่าใช้จ่ายกรณีไม่รวมการบันทึกด้อยค่าสินทรัพย์ฯ ของปี 2560 คิดเป็นร้อยละ 17 ทำให้ อสมท มีผลการดำเนินงานปี 2561 ขาดทุนสุทธิ 378 ล้านบาทซึ่งมีอัตราขาดทุนลดลงจากปีก่อนถึงร้อยละ 85  

ในปี 2561 ธุรกิจโทรทัศน์ และ ธุรกิจวิทยุ ยังคงเป็นธุรกิจหลักที่สามารถสร้างรายได้ให้ บมจ.อสมท มากที่สุด ด้วยร้อยละ 30 และร้อยละ 29 ตามลำดับ โครงสร้างธุรกิจร่วมดำเนินกิจการ (สัมปทาน) ร้อยละ 17 รายได้จากการให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์ภาคพื้นดินระบบดิจิตอล (BNO) ร้อยละ 17ธุรกิจสื่อใหม่ (สื่อออนไลน์ต่าง ๆ ของ อสมท และโทรทัศน์ดาวเทียม MCOT Satellite Network) ร้อยละ 4 รายได้อื่นๆ  ร้อยละ 3


สำหรับช่อง 9 MCOT HD หมายเลข 30 ในเดือนมีนาคมนี้ จะเห็นการเปลี่ยนของผังรายการใหม่ นับเป็นครั้งแรกที่ได้นำรายการระดับพรีเมียมจาก BBC First และ Discovery Science มาออกอากาศ อาทิ Luther นักสืบพันธุ์ดุ,Race to Escape รหัสลับ รหัสรอด, CryWolf ไขปริศนาซ่อนเงื่อน สร้างจากคดีจริง พร้อมเตรียมปรับ Positioning ผังรายการของช่อง 14 MCOT Family ที่มุ่งให้ความสำคัญกับกลุ่มผู้ชมที่เป็นครอบครัวและผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น โดยนำเสนอรายการรูปแบบใหม่ๆ ที่สอดคล้องกับความต้องการและเป็นที่สนใจของผู้สูงอายุ รวมทั้งสามารถเชื่อมโยงให้เกิดกิจกรรมระหว่างครอบครัวได้  

ธุรกิจวิทยุ มีรายได้จำนวน 741 ล้านบาท รายได้ลดลงจากปี 2560 เพียงเล็กน้อย โดยรายได้หลักมาจากรายได้การขายโฆษณาจากวิทยุในส่วนกลางทั้ง 6 คลื่น สำหรับคลื่นวิทยุที่มีผลงานโดดเด่น มีอัตราการเติบโตของรายได้สูงสุดในปี 2561 ได้แก่ MET 107 MHz ซึ่งมีอัตราเติบโตร้อยละ 43 เมื่อเทียบกับปี 2560 แต่คลื่นที่สร้างรายได้สูงสุด ได้แก่ คลื่นลูกทุ่งมหานคร FM 95 MHz ตามด้วย MET 107 MHz, คลื่น FM 100.5 MHz News Network, คลื่นความคิด FM 96.5 MHz, Active radio FM 99 MHz และ Mellow 97.5 MHz ตามลำดับ คลื่นลูกทุ่งมหานคร FM 95 MHz ยังครองความนิยมอันดับหนึ่งของเพลงลูกทุ่งอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายปี ส่วนคลื่นอื่นๆ ยังคงติดอันดับความนิยมในลำดับต้นๆ ของแต่ละ Segment 

สำหรับแผนงานในปี 2562 ทางบริษัทฯ จะมุ่งเน้นธุรกิจใหม่ๆ ผ่านยุทธศาสตร์ 3 ด้านคือ ยุทธศาสตร์ที่ 1 การพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการภายในองค์กร ยุทธศาสตร์ที่ 2 บริหารจัดการเสถียรภาพทางการเงิน และยุทธศาสตร์ที่ 3 การสร้างมูลค่าและรายได้จากธุรกิจใหม่


นอกจากนี้ อสมท ได้เร่งรัดสร้างมูลค่าเพิ่มจากที่ดินที่มีอยู่ โดยเฉพาะที่ดิน 50 ไร่ และที่ดินที่เป็นที่ตั้งสำนักงานปัจจุบันของ อสมท 20 ไร่ ที่มีศักยภาพในย่านถนนรัชดา-พระราม 9 ซึ่งใกล้เคียงกับสถานที่สำคัญๆ อาทิ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลพลาซา แกรนด์ พระราม 9, ศูนย์วัฒนธรรม, สถานทูตจีนและเกาหลี, ธนาคารอาคารสงเคราะห์ที่สามารถลงทุนและต่อยอดทางธุรกิจได้ โดยเฉพาะศักยภาพของที่ดิน 50 ไร่ ที่อยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าสายสีส้มและสายสีน้ำเงิน ซึ่งสะดวกสบายต่อการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ และขณะนี้ได้ผ่านการทำ Market Sounding กับกลุ่มนักลงทุนชั้นนำ และเปิดรับฟังความคิดเห็นจากหัวหน้าส่วนราชการ บุคลากรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในแต่ละธุรกิจ (Public Hearing ครั้งที่ 1) ถึงความเหมาะสมและความเป็นไปได้ในการพัฒนาที่ดินทั้งสองแปลง เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ และ 18 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา 

อสมท จะมุ่งเน้นทำโครงการร่วมกับภาครัฐเพิ่มขึ้น เพื่อสร้างรายได้ให้กับองค์กร ดังจะเห็นได้จากธุรกิจโทรทัศน์ไตรมาสสุดท้ายที่มีรายได้จากโครงการภาครัฐเพิ่มขึ้น รวมถึงการปรับหน่วยธุรกิจภายใน จาก  in-house production เป็น Content Provider ด้วยการจับมือกับพันธมิตรใหม่ทั้งไทยและต่างประเทศ ในการผลิตรายการ การบริหารกิจกรรมพิเศษ(Event & Organizer) ซึ่งไนน์เอ็นเตอร์เทน ได้สร้างปรากฎการณ์ด้วยการจับมือผลิตรายการบันเทิง “วันเอ็นเตอร์เทน” ให้กับสถานีโทรทัศน์ช่องวันสามสิบเอ็ด ซึ่งเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่สามารถสร้างรายได้ให้แก่องค์กร.- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” ยกทีมไปมาเลเซีย ย้ำกัมพูชาต้องจริงใจหยุดยิง

กทม. 28 ก.ค.-“ภูมิธรรม” ยกทีมไปมาเลเซีย คุย “ฮุน มาเนต” หยุดยิงเป็นเรื่องแรก และต้องแสดงให้เห็นว่าจริงใจ ยันไม่มีเรื่องแผนที่ 1 : 200,000 พร้อมยึดหลักอธิปไตยและทรัพย์สินของประชาชนเป็นที่ตั้ง และก่อนไปหารือกองทัพแล้ว นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะประกอบด้วย นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน. 6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปยังท่าอากาศยานนานาชาติกรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย เพื่อเข้าร่วมการประชุมหารือแนวทางสันติภาพในภูมิภาค ณ ทำเนียบนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย นายภูมิธรรม กล่าวว่าวันนี้จะพบกันในเวลาประมาณ 15.00 น. จะมีการคุยกับนายฮุนมาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ซึ่งเป็นการยกระดับการคุยในระดับผู้นำประเทศในระดับนายกรัฐมนตรี โดยมาเลเซียในฐานะประธานอาเซียนจะเป็นโฮส มีผู้เสนอตัวเข้ามาเป็นผู้สังเกตการณ์2 ประเทศคือสหรัฐอเมริกาและสาธารณรัฐประชาชนจีน […]

มทภ.2 ลั่น “ผมยังอยู่” หลังกัมพูชาปล่อยเฟกนิวส์

กทม. 28 ก.ค.-มทภ.2 ลั่น “ผมยังอยู่” หลังกัมพูชาปล่อยเฟกนิวส์ ทหารถือรูปภาพ ข้อความ RIP หวังทำลายขวัญกำลังใจ ยันจะต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ลูกน้อง ดูแลความปลอดภัยประชาชน ในการปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อวันที่ 28 ก.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ระบุว่า ภายหลังกัมพูชามีการรายงานและเผยแพร่รูปทหารถือภาพของตนเอง พร้อมข้อความ RIP ว่า เป็นข่าวปลอม หวังทำลายขวัญกำลังใจทหารแนวหน้าและคนไทย ยืนยันว่า ปัจจุบันนี้ตนยังต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่เจ้าหน้าที่ทหารทุกคนในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อดูแลความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ รวมถึงการปกป้องอธิปไตยของไทยต่อเนื่อง จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย และประชาชนมีความปลอดภัยอย่างแท้จริง พล.ท.บุญสิน ระบุต่อว่า ที่ผ่านมา ฝ่ายกัมพูชาพยายามบิดเบือนข้อมูล โดยการปล่อยข่าวเท็จ สร้างความสับสนในหมู่ของคนไทย ดังนั้น อยากให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารจากหน่วยงานที่เชื่อถือได้.-313.-สำนักข่าวไทย

จ.แพร่ น้ำป่าทะลักเร่งอพยพชาวบ้านกลางดึก

แพร่ 28 ก.ค.-จ.แพร่ น้ำป่าไหลหลากในช่วงกลางดึก พื้นที่ ม.9 และ ม.1 ต.ไผ่โทน อ.ร้องกวาง เจ้าหน้าที่ต้องเร่งอพยพประชาชน แต่ในระหว่างอพยพ กระแสน้ำไหลเชี่ยว ทำให้ชาวบ้านที่กำลังข้ามน้ำถูกพัดออกไปติดอยู่อีกฝั่ง โชคดีชาวบ้านโยนเชือกช่วยเหลือไว้ได้ทัน ขณะน้ำเมื่อคืนไหลแรงมาก ชาวบ้านเก็บของไม่ทัน มีรถยนต์ ของใช้ที่ได้ถูกน้ำท่วมเสียหายเป็นจำนวนมาก แต่ยังไม่ได้รับรายงานผู้บาดเจ็บ หรือเสียชีวิต สำหรับฝนที่ตกลงมาใน จ.แพร่ โดยเฉพาะในพื้นที่ตำบลห้วยโรง และตำบลไผ่โทน เมื่อเวลา 20.00 น. มีปริมาณฝนสะสม 24 ชม. สูงสุด 130 มม. สำหรับแม่น้ำยมเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ที่บริเวณ Y20 สถานีวัดระดับน้ำบ้านห้วยสักวัดได้ 7.58 เมตร จากระดับตลิ่ง 9.00 ม. เมื่อตอนเวลา 22.00 น. หากฝนยังคงตกต่อเนื่องทำให้ปริมาณน้ำยมสูง อาจส่งผลให้น้ำท่วมระลอกที่ 2 ได้.-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” นำตักบาตรถวายพระราชกุศลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

สนามหลวง 28 ก.ค.-“ภูมิธรรม” รักษาราชการแทนนายกฯ และภริยา เป็นประธานพิธีทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2568 เวลา 07.00 น. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนางอภิญญา เวชยชัย ภริยา เป็นประธานในพิธีทำบุญตักบาตร ถวายเครื่องไทยธรรมและผ้าไตรแด่สมเด็จพระราชาคณะ พระราชาคณะ จำนวน 10 รูป ก่อนจะตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแด่พระสงฆ์และสามเณร 174 รูป เพื่อถวายพระราชกุศล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 28 กรกฎาคม 2568 บริเวณมณฑลพิธีท้องสนามหลวง โดยมีคณะองคมนตรีและภริยา ประธานวุฒิสภา (ผู้แทนประธานรัฐสภา) ประธานศาลฎีกา ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญและภริยา คณะรัฐมนตรีและคู่สมรส เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และหน่วยราชการในพระองค์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมภริยา หัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวงหรือเทียบเท่า ร่วมพิธีทำบุญตักบาตรในครั้งนี้ด้วย จากนั้น เวลา 08.00 น. รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี […]