สุโขทัย 25 ก.พ.-เพื่อไทย ย้ำไม่ยกเลิกสวัสดิการประชาชนที่เคยได้รับ แต่จะทำให้ดีขึ้น ประกาศนโยบายแก้ราคาข้าวให้ดีขึ้น ทบทวนการใช้ใบยาสูบในประเทศ
ผู้สื่ข่าวรายงานว่า พรรคเพื่อไทยเปิดเวทีปราศรัยที่อำเภอศรีสำโรง จังหวัดสุโขทัย ช่วยผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคทั้ง 3 เขตหาเสียง โดยมีคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ และนายชัชชาติ สิทธิพันธ์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ปราศรัยพบปะประชาชน
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ตลอด 4-5 ปีที่ผ่านสภาพความเป็นอยู่ของเกษตรกรมีแต่แย่ลง เศรษฐกิจตกต่ำ เป็นผลจากการค้าขายไม่ดี พืชผลการเกษตรราคาต่ำ ซึ่งพรรคเพื่อไทยมีนโยบายที่จะดูแลให้ทุกคนมีรายได้ที่มากขึ้น เพราะเกษตรกรคือกำลังซื้อที่สำคัญของประเทศ ถ้าเกษตรกรจน เศรษฐกิจประเทศจะพังหมด และขอยืนยันว่า สิทธิสวัสดิการต่างๆที่เคยได้รับเช่นบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและเบี้ยอาสาสมัครสาธารณะสุขประจำหมู่บ้านพรรคเพื่อไทยจะไม่ยกเลิก แต่จะต่อยอดให้มีคุณภาพมากขึ้น ขณะที่เรื่องข้าวจะพักชำระหนี้เกษตรทั้งหมด 3 ปี โดยไม่ได้ยกให้ฟรี เพื่อให้เกษตรมีโอกาสลุกขึ้นยืนได้ และจะมอบเงินช่วยเหลือเพื่อพัฒนาการผลิตเกวียนละ 5,000 บาท สูงสุด 15 เกวียน ครัวเรือนละ 75,000 บาท ขณะที่ชาวนารายย่อยผลผลิตไม่เกิน 7 เกวียน ได้รับอุดหนุน เท่ากัน 36,000 บาท ข้าวเปลือกเจ้าร้อยละ 5 ราคาหมื่นบาท จะทำให้ผลิตข้าวน้อยลงราคาแพงขึ้นด้วยการทำเกษตรอินทรีย์ ซึ่งพรรคจะหาตลาดจากต่างประเทศมารับซื้อ โดยมีกองทุนปรับหน้าดินมาช่วยหนุน ซึ่งทั้งหมดพรรคเพื่อไทยคิดอย่างเป็นระบบ และสามารถทำได้จริง
“เราจะไม่แจกบัตรคนจน คนจนมากขึ้นถือเป็นผลงานตรงไหน พรรคเพื่อไทยเราไม่คิดแบบนี้ต่อไปนี้เราจะแจกบัตรคนจนเราจะแจกบัตรคนรวยแทน เมื่อก่อนทำนาขายข้าว เดี่ยวนี้ทำนาขายนา เมื่อก่อนปลูกอ้อยขายอ้อย แต่เดี่ยวนี้ปลูกอ้อยขายรถ เพื่อไทยจะไม่ทำแบบนั้น และจะมีการการเดินหน้าโครงการ 30 บาทจะทำอย่างมีคุณภาพ ทั้งการรักษาที่มีคุณภาพ ยามีคุณภาพ ไม่ต้องรอคิว ผู้สูงอายุจะต้องแข็งแรงก่อนป่วย “คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวอีกว่ากติกาการเลืิอกตั้งเปลี่ยนไปจากเดิม มีกลไกส.ว. 250 คนมาจากการคัดสรรของคสช.มีวาระการทำงาน 5 ปี สามารถเลือกนายกรัฐมนตรีได้ 2 สมัย 8 ปี ถ้าไม่อยากมีชีวิตเหมือนเดิม รวยกระจุย จนกระจาย ให้เลือกพรรคเพื่อไทยอย่างถล่มทลาย จากนั้นจะเป็นตนที่จะทำให้ทุกคนพ้นจากความยากจน
ผูู้สื่อข่าวรายงานว่านายประเสริฐ สงวนทรัพย์ อุปนายกสมาคมชาวไร่ยาสูบ ได้ยื่นหนังสือถึงคุณหญิงสุดารัตน์ ขอให้ช่วยเหลือแก้ปัญหาของเกษตรกรชาวไร่ยาสูบ ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการขึ้นภาษีบุหรี่ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะการขึ้นภาษีรอบใหม่ในวันที่ 1 ตุลาคม 2562 ที่ต้องเสียภาษีสรรพสามิตในอัตราตามมูลค่าร้อยละ 40 ของราคาขายปลีก ที่จะทำให้การใช้ใบยาสูบในประเทศลดลงมีการประกาศเลิกการรับซื้อใบยาปี 2562-2563 ซึ่งจะทำให้เกิดความเสียหาย 2 พันล้านบาทต่อปี โดยจังหวัดสุโขทัยเป็นแหล่งปลูกยาสูบสายพันธุ์เบอร์เล่ย์ที่สำคัญของประเทศ ซึ่งคุณหญิงสุดารัตน์ได้รับเรื่องไว้ พร้อมนำไปศึกษาแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ ทบทวนเกี่ยวกับภาษีสรรพสามิต เพื่อให้ใบยาสูบในประเทศมีราคาดีขึ้น.-สำนักข่าวไทย