เอกชนไม่หวั่นสงครามการค้า แต่ห่วงบาทแข็ง

นนทบุรี 25 ก.พ. – พาณิชย์หารือเอกชนปรับส่งออกใหม่ ระบุส่งออก ม.ค.ติดลบอย่าตกใจ มั่นใจดีขึ้นไตรมาส 2-3 ไม่หวั่นสงครามการค้าสหรัฐและจีน แต่ห่วงเงินบาทแข็ง


น.ส.บรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวภายหลังเชิญผู้ส่งออกกลุ่มสินค้าสำคัญ 10 ลำดับแรกของไทยเข้าร่วมหารือรับมือสถานการณ์การส่งออกที่ติดลบมากถึงร้อยละ 5.6 เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยเห็นว่าเป็นการลดลงตามฤดูกาลไม่อยากให้ทุกฝ่ายตกใจมากเกินไป เพราะข้อมูลย้อนหลัง 3 ปีการส่งออกไตรมาสแรกจะไม่ค่อยดีนัก แต่ทุกอย่างจะปรับตัวดีขึ้นในช่วงไตรมาส 2 และ 3 เป็นหลัก

อย่างไรก็ตาม กรมฯ จะนำข้อเสนอของภาคเอกชนทุกกลุ่มไปปรับให้เข้ากับแผนส่งเสริมการส่งออกของกรมในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ ซึ่งการเจาะลึกลงไปในรายอุตสาหกรรม ทำให้ทราบจุดแข็ง-จุดอ่อนเป็นรายสินค้าสามารถจะกำหนดแผนกระตุ้นโดยเฉพาะเป็นรายสินค้าในการบุกแต่ละตลาดได้ เชื่อว่าจะได้ผลมากกว่าแผนเดิมที่ทำเป็นภาพรวม เช่น สิ่งทอ ต้องให้ความสำคัญกับวัตถุดิบใหม่ ๆ ขณะที่อัญมณีและเครื่องประดับ สามารถใช้การค้าออนไลน์เข้ามาช่วยรุกตลาดได้ ส่วนสินค้าเกษตรและกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ อาจต้องใช้มาตรการรัฐเข้ามาช่วยสนับสนุน ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะนำไปหารือร่วมกับกระทรวงอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องโดยเร็ว 


“ตัวเลขส่งออกเดือนมกราคมจะติดลบ แต่ก็เป็นไปตามฤดูกาล ซึ่งคำสั่งซื้อมักชะลอช่วงวันหยุดเทศกาลปีใหม่ หลังจากนี้ก็จะดีขึ้น และหลายสินค้ายังไปได้ดี เช่น อาหาร สิ่งทอ และอัญมณีและเครื่องประดับ เป็นต้น จึงมั่นใจว่าภาพรวมการส่งออกทั้งปีจะยังเป็นบวก ดังนั้น กระทรวงพาณิชย์จึงยืนยันเป้าหมายส่งออกร้อยละ 8 ไว้ตามเดิม แม้ว่าจะไม่ง่าย แต่จะพยายามทำให้เต็มที่ เพื่อให้ตัวเลขการส่งออกไทยขยายตัวได้ดี” น.ส.บรรจงจิตต์ กล่าว

นายสนั่น อังอุบลกุล รองประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย มองว่า การส่งออกไทยปีนี้มีโอกาสขยายตัวได้ร้อยละ 3-5 แม้เดือนแรกของปีจะติดลบ แต่เชื่อว่าหลังจากนี้จะดีขึ้น ซึ่งเมื่อปี 2561 เอกชนมองว่าส่งออกจะโตร้อยละ 5 ขณะที่กระทรวงพาณิชย์ตั้งเป้าไว้ที่ร้อยละ 8 ท้ายที่สุดก็จบลงที่บวกร้อยละ 6.7 เชื่อว่าปี 2562 ถ้ารัฐกับเอกชนทำงานใกล้ชิดกันมากขึ้นการส่งออกน่าจะไปได้ดีเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยลบหลายด้านที่น่าห่วง โดยเฉพาะอัตราแลกเปลี่ยน เพราะเงินบาทแข็งค่ามากกว่าสกุลเงินอื่น ๆ กระทบรายได้จากการส่งออกในภาพรวม ซึ่งคาดว่าการส่งออกสินค้าเกษตรน่าจะเติบโตได้เพียงร้อยละ 1.4 เท่านั้น ส่วนสินค้าอุตสาหกรรมคาดว่าบวกร้อยละ 3 นอกจากนี้ ยังมีปัญหาสงครามการค้าและการพิจารณาปรับขึ้นค่าจ้างแรงงานที่กดดันให้ต้นทุนผู้ประกอบการสูงขึ้น และเท่าที่ได้พูดคุยกับภาคเอกชนในแต่ละกลุ่มมั่นใจว่าปัญหาของสงครามการค้าสหรัฐกับจีนจะไม่กระทบต่อการค้าไทยมากนัก แต่จะเป็นการเสริมให้สินค้าไทยมีตลาดมากขึ้น แต่สิ่งที่กังวลอย่างมาก คือ ความผันผวนของค่าเงินบาทไทยที่อยากให้หน่วยงานภาครัฐที่กำกับดูแลไม่ควรให้ค่าเงินบาทแข็งค่ามากเกินไป.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

รวบหนุ่มจีนพร้อมสาวไทย เอี่ยวฟอกเงินหลอกลงทุนคริปโต

ตำรวจไซเบอร์รวบหนุ่มจีนพร้อมสาวไทย กินหรูอยู่สบาย เอี่ยวฟอกเงินขบวนการหลอกลงทุนคริปโต พบเกี่ยวพันอีก 28 คดี มูลค่าความเสียหายกว่า 30 ล้านบาท

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ