กทม. 20 ก.พ.- ทอท. เดินหน้าโครงการอาคารผู้โดยสารสุวรรณภูมิ เฟส 2 ต่อ แต่ต้องพิจารณาผลกระทบ หลังยกเลิกแบบอาคารที่ถูกวิจารณ์อีกครั้ง
เรื่องงานก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ที่ประเด็นเรื่องนี้ ยืดเยื้อมายาวนาน แล้วเมื่อ 1 เดือนที่ผ่านมา ก็เหมือนจะเป็นประเด็นไปแล้ว ว่าโครงการจะพับแผนไป แต่วันนี้ บอร์ด บมจ.ท่าอากาศยานไทย หรือ ทอท.ได้มีมติ ที่น่าสนใจ แม้ว่าจะมีการยกเลิกการประกวดแบบอาคารผู้โดยสาร 2 ที่ก่อนหน้านี้ กลุ่มดวงฤทธิ์ เป็นบริษัทที่ชนะการประกวด แต่ บอร์ด ทอท. ยืนยันว่า จะเดินหน้าโครงการต่อ โดยจะมีการเสนอความเห็น ไปที่กระทรวงคมนาคม และสภาพัฒน์อีกครั้ง
ที่มาของเรื่องนี้ตั้งแต่เดือนกันยายนปี 2561 ภายหลังจาก ทอท. เปิดโอกาสให้เอกชนได้เข้าร่วมการประมูลการออกแบบอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ซึ่งมีมูลค่าการก่อสร้างราว 42,000 ล้านบาท โดยแบ่งออกเป็นค่าออกแบบราว 329 ล้านบาท ซึ่งกลุ่มดวงฤทธิ์ บุนนาค แม้จะได้คะแนนเป็นลำดับที่ 2 แต่ก็ได้รับการพิจารณาให้เป็นผู้ชนะ เนื่องจากกลุ่ม เอส เอ ที่ได้คะแนนสูงสุด ถูกคณะกรรมการจัดหาพัสดุงานจ้างสำรวจออกแบบโครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ปรับแพ้โดยอัตโนมัติ เนื่องจากขาดการแนบเอกสารสำคัญ หลังจากนั้น กระแสการคัดค้านก็พรั่งพรู จากสภาวิชาชีพ สถาปนิก วิศวกร ไม่ว่าจะเป็นประเด็น การลอกแบบ ความเหมาะสมของวัสดุ จนถึงการกล่าวหาว่า ทอท.ไม่ทำตามแผนแม่บทการพัฒนาสนามบินสุวรรณภูมิ ที่เคยทำไว้และปรับปรุงในอดีต
ซึ่งขณะนั้น บอร์ด ทอท.ยืนยันความจำเป็นต้องเร่งรัดงาน ก่อสร้าง อาคารผู้โดยสารหลังใหม่นี้ ทางด้านทิศตะวันนออก เพื่อแก้ปัญหาความแออัด โดยพื้นที่ดังกล่าวมีความพร้อม และดีกว่าแนวทางที่จะมีการขยายอาคารผู้โดยสารหลักในปัจจุบัน โดยการขยายอาคารต่อเติม ทั้งด้านทิศตะวันวันออกและตะวันตก ทอท.ระบุว่า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ที่เปิดตั้งแต่ปี 2549 มีขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสาร 45 ล้านคนต่อปี แต่ปัจจุบันนี้ มีผู้โดยสารจริง 62 ล้านคนต่อปี ทำให้ ทอท.ได้เร่งเดินหน้างานก่อสร้าง ขยายสนามบินเฟสที่ 2 ที่ดำเนินการอยู่ขณะนี้ การก่อสร้างจะเสร็จปี 2563 ก็จะช่วยให้สุวรรณภูมิ มีขีดความสามารถรองรับผู้โดยสารได้ 60 ล้านคน แต่ในปีนั้น ก็มีการคาดการณ์ว่า สุวรรณภูมิ จะมีผู้โดยสารเดินทาง 70 ล้านคนต่อปี และอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ฝั่งทิศตะวันออกนี้ ซึ่งจะรองรับผู้โดยสารอีก 30 ล้านคนต่อ ซึ่งเดิมทีการก่อสร้างจะแล้วเสร็จ ในปี 2565 ซึ่งปีนั้น สุวรรณภูมิ จะมีผู้โดยสาร 90 ล้านคนต่อปี และขีดความสามารถ ทั้งอาคารผู้โดยสารหลัก และหลังที่ 2 รวมกัน ก็จะรองรับ ผู้โดยสาร 90 ล้านคนต่อปีเช่นกัน จะเป็นครั้งแรกที่ จำนวนผู้โดยสารจริง กับขีดความสามารถสนามบินสุวรรณภูมิใกล้เคียงกัน
อย่างไรก็ตาม เหตุผลต่างๆ ก็ไม่สามารถขับเคลื่อนการยอมรับ กระแสคัดค้าน ยังมีต่อเนื่อง จนเมื่อครั้งหลังสุด ที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีเศรษฐกิจ เดินทางไปตรวจเยี่ยม กระทรวงคมนาคม หลังจากนั้น นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่ากระทรวงคมนาคม พูดชัดเจนว่า ให้ ทอท.ยกเลิกโครงการออกไปตามความเห็นของสภาพัฒน์ และให้ ทอท. กลับไปใช้แผนแม่บท ในปี 2546 ที่ไม่มีการก่อสร้างเทอร์มินอล 2 ในแผน แต่วันนี้ บอร์ด ก็พิจารณาอนุมัติ เดินหน้าโครงการต่ออีกครั้ง
สิ่งที่ต้องต่อไป คือเมื่อมติ บอร์ด ทอท. ให้เดินหน้าโครงการ แต่ยกเลิกผลประกวดแบบเดิม ต้องพิจารณา ใน 2 ประเด็น คือผู้ชนะประกวดแบบครั้งแรก จะดำเนินการทางกฎหมาย ฟ้อง ทอท. หรือไม่ ประเด็นต่อมา ถ้า ทอท.ต้องการเดินหน้าการก่อสร้างเทอร์มินอล 2 ต่อ ก็ต้องประกวดแบบใหม่ ซึ่งต้องดำเนินการภายใต้ พระราชบัญญัติ จัดซื้อจัดจ้าง บริหารงานพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 และ ทอท.ต้องจ่ายเงินค่าออกแบบเพิ่มขึ้นตามกฎหมายใหม่ด้วย.-สำนักข่าวไทย