กรมอนามัย 17 ก.พ.-กรมอนามัยแนะโรงทานปรุงอาหารงานบุญในช่วงวันมาฆบูชาเลี่ยงปรุงอาหารสุกๆ ดิบๆ และไม่ใช้โฟมบรรจุอาหาร เพื่อป้องกันโรคอาหารเป็นพิษและรักษ์สิ่งแวดล้อม
พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า วันมาฆบูชาซึ่งถือเป็นวันพระใหญ่หลายวัดในหลายพื้นที่อาจจะมีงานบุญโดยใช้โรงทานทำอาหารแจกจ่ายคนในงาน ซึ่งในงานบุญส่วนใหญ่มีการจัดเตรียมอาหารล่วงหน้าในปริมาณมาก โดยเฉพาะภาคเหนือและอีสานที่นิยมอาหารสุกๆ ดิบๆ เช่น พล่า ยำ ลาบ ก้อย และเน้นรสชาติที่เผ็ดจัดหรือเปรี้ยวจัดเมื่อเก็บไว้นาน 2-4 ชั่วโมงไม่ได้อุ่นก่อนรับประทาน ทำให้มีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคอุจจาระร่วงและอาหารเป็นพิษได้ การป้องกันที่ดีจึงควรปรุงอาหารให้สุกอย่างทั่วถึงด้วยความร้อนโดยล้างวัตถุดิบให้สะอาดทุกครั้งก่อนปรุง ผู้ปรุงประกอบอาหารต้องมีสุขวิทยาส่วนบุคคลที่ดีสวมผ้ากันเปื้อนใส่หมวกคลุมผม เล็บสั้นใช้ถุงมือ หรือภาชนะอุปกรณ์ในการหยิบจับอาหาร หากมีบาดแผลต้องปิดพลาสเตอร์ให้มิดชิด ส่วนอาหารที่ปรุงเสร็จต้องใส่ในภาชนะบรรจุที่สะอาด มีการปกปิดมิดชิดวางสูงจากพื้นอย่างน้อย 60 เซนติเมตร
พญ.พรรณพิมล กล่าวต่อว่า หากพบมีลักษณะที่เปลี่ยนไป เช่น มีฟอง อากาศ กลิ่นเหม็นบูด สีและรสชาติเปลี่ยนไปจากเดิม ไม่ควรนำมารับ ประทาน หลีกเลี่ยงการใช้โฟมบรรจุอาหาร เพราะส่งผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ควรเลือกใช้ภาชนะที่ทำจากวัสดุธรรมชาติ เช่น ชานอ้อย หรือกล่องกระดาษ (Foodgrade) แทนจะเหมาะสมกว่า
ส่วนน้ำดื่มหากเป็นน้ำประปาควรมีคลอรีนหลงเหลืออยู่สังเกตง่ายๆ โดยจะได้กลิ่นคลอรีนในน้ำประปา หากไม่ชอบกลิ่นคลอรีนอาจจะใส่ภาชนะทิ้งไว้ 30 นาที ให้กลิ่นคลอรีนหายไป หรือกรองผ่านเครื่องกรองที่มีถ่านกัมมันต์เป็นสารกรอง เพื่อดูดซับเอาคลอรีนออก และถ้าน้ำประปาไม่มีคลอรีนหลงเหลืออยู่อาจจะนำไปต้มให้เดือดก่อนนำมาบริโภค หากเป็นน้ำดื่มบรรจุขวดปิดสนิทและน้ำแข็งต้องมีเลขสารบบอาหาร (อย.) ซึ่งมั่นใจได้ว่ามีมาตรฐานรับรองสำหรับการบริโภค และที่สำคัญเมื่อรับประทานอาหารร่วมกันควรใช้ช้อนกลาง ล้างมือก่อนรับประทานอาหารให้สะอาดทุกครั้ง เพื่อลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคติดต่อจากอาหารและน้ำ.-สำนักข่าวไทย