เพื่อไทยปราศรัยใหญ่ ครั้งแรกในรอบ 5 ปี

กทม. 15 ก.พ.-พรรคเพื่อไทยเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ครั้งแรกในรอบ 5 ปี ณ ลานคนเมือง ศาลาว่าการ กทม. ระดมขุนพลนักการเมืองรุ่นเก๋า ชูนโยบายแก้ปัญหาเศรษฐกิจ  


บรรยากาศยิ่งดึกยิ่งคึกคัก เหล่าแกนนำรุ่นใหญ่ของพรรครวม 16 คน สลับขึ้นเวทีปราศรัย เรียกเสียงเชียร์จากผู้ที่มาสนับสนุน ต่างโชว์วิสัยทัศน์ ชูนโยบายสร้างรายได้ ขยายโอกาส ปฏิรูปการศึกษาการแก้ปัญหายาเสพติด พร้อมทั้งมั่นใจว่าจะชนะการเลือกตั้ง


พรรคเพื่อไทย จัดปราศรัยใหญ่ในกรุงเทพ ขนแกนนำคนสำคัญของพรรคปราศรัยคับคั่ง โดยทันทีที่ร้อยตำรวจเอกเฉลิม อยู่บำรุง แกนนำพรรคขึ้นเวที ก็เรียกเสียงฮือฮาจากประชาชนที่มาฟังนโยบาย ที่ลานคนเมือง โดยปราศรัยอย่างดุเดือดว่าขอให้เลือกพรรคเพื่อไทย เพื่อคืนอำนาจจากเผด็จการมาเป็นประชาธิปไตย และล้มการสืบทอดอำนาจ พร้อมมั่นใจว่าจะชนะการเลือกตั้ง โดยเชิญชวนให้คนเข้าคูหา เลือกรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง  

ขณะที่นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงปัญหาเศรษฐกิจ ที่ต้องเร่งแก้ปัญหา ลดความเหลื่อมล้ำ กระจายรายได้ให้ทุกภาคส่วนมีความแข็งแรง โดยเฉพาะการผลิตสินค้าในประเทศต้องเข้มแข็ง 


คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทยและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ปราศรัยว่าครั้งสุดท้ายที่ได้ขึ้นปราศรัยคือปี 2548 เป็น 14 ปี และจากการลงพื้นที่ไปพบปะกับประชาชนพบว่า เศรษฐกิจแย่มาก นี่คือความเจ็บปวดจากคนทำงานพรรคเพื่อไทย ประชาชนถูกยึดอำนาจด้วยเหตุผลต่างๆ นานา และรัฐบาล คสช.สัญญาว่าจะคืนความสุขให้ประชาชนและสัญญาว่าขอเวลาอีกไม่นาน เป็นเวลากว่า 5 ปีแล้ว

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่าพรรคเพื่อไทย มีความพร้อมที่จะเข้ามาบริหารประเทศอย่างมืออาชีพ แก้ปัญหาในทุกมิติ วันนี้เพื่อไทยจะกลับมากู้เสียงประเทศให้เวทีโลก หมดเวลาให้รถถังแล้ว และไม่อยากแจกบัตรคนจนแล้ว อยากแจกบัตรคนรวย วันนี้ทุกคนต้องอยู่อย่างมีศักดิ์ศรี จะไม่มีใครจนทุกคนต้องมีรายได้เพิ่มขึ้น

โดยคุณหญิงสุดารัตน์ ได้เปิดเผย 5 มาตรการกอบกู้เศรษฐกิจ โดยจะมีการปรับโครงสร้างหนี้ครั้งใหญ่ ให้นักธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กยืนให้ได้ เนื่องจากในอนาคตอันใกล้เศรษฐกิจจะแย่ โดยเพื่อได้จะให้คนไทยสามารถอยู่รอดในระบบเศรษฐกิจได้, เติมเงินทุนให้ประชาชน ตนเชื่อว่า ทุกคนอยากทำงานไม่อยากจน ไม่ต้องการรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไปตลอดชีวิต ขยายแหล่งทุนให้สามารถเข้าถึงได้จึง ต้องมีธนาคารพัฒนารายได้ในทุกจังหวัด หรือ Finance Company, ชูทั้งโลกเป็นตลาดสินค้า ประชาชนต้องมีที่ขายของ ที่ต้องมีการจัดระเบียบแบบฉลาด พาสินค้าไทยไปบุกตลาดโลกให้สำเร็จ ซึ่งในอดีตทำมาแล้วและจะทำให้สำเร็จ, มาตรการอำนวยความสะดวกใบอนุญาต ลดการขออนุญาตที่ต้องง่ายโปร่งใสรวดเร็ว พร้อมกับชูนโยบายลดภาษีอย่างฉลาด แต่ไม่ใช่การรีดภาษีจากผู้มีรายได้น้อย 

ด้านการเกษตร คุณหญิงสุดารัตน์ เปิดเผยว่าพรรคเพื่อไทยมีนโยบายพักชำระหนี้เกษตรกร 3 ปี ,ภายใน 6 เดือนราคาสินค้าต้องเพิ่มค้น 30 %  ต่อไปนี้เกษตรกรต้องกำหนดราคาการขายสินค้าได้ และเป็นศูนย์กลางอาหารปลอดภัยสินค้าโลก และมีกองทุนการปรับเปลี่ยนหน้าดินและยืนยันว่าจะเป็นรายได้ที่ยั่งยืน

ด้านการท่องเที่ยวจะพัฒนาให้ กทม. เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวโลก โดยตั้งเป้า 2 ปี เพิ่มนักท่องเที่ยว 50 ล้านคน เม็ดเงิน 3 ล้านล้านบาท และสร้างความมั่นใจในความปลอดภัย พร้อมกับสร้างแหล่งท่องเที่ยวใหม่ เตรียมเสนอยกเลิกวีซ่าไทย-จีน เพื่อเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวเป็น 15 ล้านคน พร้อมพัฒนา Street Food เป็นศูนย์กลางดึงดูดนักท่องเที่ยว

พร้อมเสนอ Smart Small Business Center สร้างให้คนรุ่นใหม่มีธุรกิจของตนเอง โดยจะตัดงบประมาณมาจากกระทรวงกลาโหม 10% เนื่องจากจะไม่มีการเกณฑ์ทหาร นำคนรุ่นใหม่มาสร้างนักธุรกิจรุ่นใหม่ พร้อมกับมีกองทุนคนเปลี่ยนงาน บัตรทองสตาร์ทอัพ มีสิทธิพิเศษนอกเหนือเขตอีอีซี 

ส่วนการรักษาพยาบาล จะนำ 30 บาทรักษาทุกโรค ยาดี รักษาดี ไม่ต้องรอคิว มีหมอประจำตัวอยู่ในโทรศัพท์มือถือ

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า หากเพื่อไทยเป็นรัฐบาลจะทวงคืนอากาศดีภายใน 3 ปี จะตั้งศูนย์วอร์รูมต้านฝุ่นพิษ และจะบอกความจริงกับประชาชน พร้อมเร่งนำเข้าหน้ากากและเครื่องฟอกอากาศแบบไม่มีภาษี เพื่อให้ประชาชนมีเครื่องป้องกันตัวเอง และใน 4 ปีจะเปลี่ยนรถเมล์ทั้งหมดให้เป็นระบบไฟฟ้า แทนการซื้อรถถังจากจีน

“โดย 4 ปีที่ผ่านมาของรัฐบาล คสช.ใช้งบประมาณไป 14.4 ล้านล้านบาท ประชาชนมีหนี้สะสมเพิ่มมากขึ้น และเป็นไปตามที่รัฐบาล คสช.สัญญาไว้เมื่อ 2 ปี ก่อนว่าคนจนจะหมดไป แต่ตอนนี้จนทั่วหน้า และการเลือกตั้งในครั้งนี้เลือกตั้งใบเดียวเลือกทั้งคน พรรค และนายกรัฐมนตรี และขอให้จำเพียงโลโก้ของพรรคเพื่อไทย ตนเชื่อว่าทุกคนจำได้เพราะถูกสลักไว้ในใจคนไทยอยู่แล้ว ส่วน ส.ว. จำนวน 250 คนมาจากการคัดเลือกของ คสช. และมีสิทธิ์เลือกนายกรัฐมนตรี พร้อมกับสามารถเลือกนายกรัฐมนตรีได้ถึง 2 สมัย ถือว่าเป็นการร่างรัฐธรรมนูญที่เอาเปรียบมากที่สุด โดยกติกาจะไม่ยิ่งใหญ่ไปกว่าหัวใจประชาชนไทย ซึ่งต้องจับมือกันให้แน่นออกจากทุกข์”

สำหรับการปราศรัยใหญ่ ในกรุงเทพฯ ครั้งนี้ ได้มีการเปิดตัวผู้สมัครกรุงเทพมหานครของพรรคเพื่อไทย ทั้ง 22 เขต โดยแกนนำแต่ละคน เน้นการนำเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ, พัฒนาประเทศ ทำกระบวนการกฎหมายให้ยุติธรรม สร้างคนสร้างชาติด้วยการศึกษา เรียนฟรี 15 ปี และปรับลดดอกเบี้ย กยศ. โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคักผู้สนับสนุนพรรคร่วมร้องเพลง และชูป้ายเชียร์ผู้สมัครพรรคในเขตต่างๆ ตลอดการปราศรัยด้วย .- สำนักข่าวไทย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

คนไทยรวมพลังร้องเพลงชาติกึกก้องบ้านหนองจาน

26 ส.ค. – ชาวไทยกว่า 500 คน รวมตัวร้องเพลงชาติ ชูธงไตรรงค์เหนือศีรษะ บริเวณชายแดนบ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว แสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ว่าแผ่นดินนี้คือแผ่นดินไทย เมื่อเวลา 12.30 น. วันนี้ (26 ส.ค.68) ประชาชนไทยกว่า 500 คน มารวมตัวกันบริเวณชายแดนบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ชูธงไตรรงค์เหนือศีรษะ และร่วมกันร้องเพลงชาติไทย จนเสียงดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ เพื่อแสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ว่าแผ่นดินนี้คือแผ่นดินไทย และพร้อมยืนหยัดเคียงข้างกองทัพในการปกป้องอธิปไตย ชาวบ้านยังจัดเตรียมอาหาร น้ำดื่ม และสิ่งของจำเป็น ไปมอบให้ทหาร เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ ส่วนที่บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว พลเอกมนัส จันดี เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย และพลโทวันชนะ สวัสดี นำคณะลงพื้นที่ พบมีชาวกัมพูชาสร้างบ้านเรือนรุกล้ำเขตไทย 18 หลัง ถือเป็นการละเมิดอธิปไตยอย่างชัดเจน ซึ่งกองทัพจะนำปัญหาเข้าสู่ที่ประชุม JBC เพื่อให้รัฐบาลกัมพูชาแก้ไขและรับผิดชอบต่อประชาชนของตนเอง หากไม่ดำเนินการ ไทยมีสิทธิโดยชอบธรรมที่จะขับไล่ผู้บุกรุกออกจากพื้นที่ตามหลักกฎหมายและหลักมนุษยธรรม ก่อนที่ช่วงบ่าย คณะเสนาธิการทหาร ลงพื้นที่บ้านหนองจาน ร่วมกับคณะ […]

“หลวงพ่ออลงกต” ยอมสึกแล้ว หลัง “บิ๊กเต่า” เข้าเจรจา

26 ส.ค. – “หลวงพ่ออลงกต” ยอมสึกเพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการดำเนินคดีตามกฎหมาย หลัง “บิ๊กเต่า” ร่วมสอบปากคำคดียักยอกเงินบริจาควัดพระบาทน้ำพุ ภายหลัง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผบช.ก. เข้าร่วมสอบปากคำ พระอลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ และ หมอบี ล่าสุด มีรายงานว่า หลวงพ่ออลงกต ยินยอมจะขอลาสิกขาจากเพศบรรพชิตแล้ว เพื่อนำเข้าสู่ขั้นตอนการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป โดยอดีตพระอลงกต ถูกจับกุมเมื่อช่วงตี 1 ที่ผ่านมา ตามหมายจับศาลคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ในข้อหายักยอกเงินบริจาคของวัดพระบาทน้ำพุ เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และฟอกเงิน.-สำนักข่าวไทย

ครม.ให้กำลังใจนายกฯ ด้าน “แพทองธาร” หวังกลับมาทำงาน

ทำเนียบ 26 ส.ค.- ครม.ให้กำลังใจนายกฯ ขอ 29 ส.ค.นี้ ได้รับข่าวดี ด้าน “แพทองธาร” หวังได้กลับมาทำงาน ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ (26 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เข้าร่วมประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์เป็นครั้งแรก ซึ่ง น.ส.แพทองธาร ได้เข้าร่วมประชุมตั้งแต่ต้นจนจบ ด้วยสีหน้าสดใส โดยระหว่างการพิจารณาวาระสำคัญ เช่น การพิจารณารายชื่อนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่น 69 ประจำปีการศึกษา 2569 ซึ่งนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่เคยเรียนหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร สำหรับผู้บริหารแห่งอนาคต (วปอ.บอ.) หรือ มินิ วปอ. ได้สอบถามและให้ความคิดเห็นในรายชื่อของนักศึกษาบางคน ทั้งนี้ ก่อนปิดการประชุม ครม. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานที่ประชุมฯ ได้เป็นตัวแทนรัฐมนตรีทุกคนกล่าวให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี และขอให้วันที่ 29 ส.ค.นี้ ได้รับข่าวดี นอกจากนี้ ข้าราชการที่เข้าร่วมประชุม […]

“ณัฐพล” สั่งแจ้งเอาผิดกัมพูชา ทำร้ายร่างกาย-รื้อลวดหนาม

ทำเนียบ 26 ส.ค.- “ณัฐพล” ฮึ่ม สั่งกองทัพ-ปชช.แจ้งความเอาผิดกัมพูชา ทำร้ายร่างกาย-รื้อรั้วลวดหนามที่บ้านหนองจาน ด้าน กต. ทำหนังสือประท้วง ย้ำ เป็นอธิปไตยของไทย เตรียมนำปัญหาทั้งหมดคุยวง GBC ก.ย.นี้ ย้ำหน่วยพื้นที่ยิงตอบโต้ได้ทันที ตามกฎการใช้กำลัง พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงชาวกัมพูชาบุกรื้อรั้วลวดหนามและทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ของไทย บริเวณบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูงจังหวัดสระแก้ว ว่า สาเหตุที่เกิดขึ้นผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว จะมาพบกับประชาชนที่บริเวณพื้นที่บ้านหนองจาน ทำให้เจ้าหน้าที่นำรั้วลวดหนามมาวางเพิ่มเติม เพราะกังวลว่าชาวกัมพูชาจะมารบกวน จึงทำให้ชาวกัมพูชาตั้งใจจะมารื้อในส่วนที่เป็นรั้วเพิ่มเติม ไม่ใช่ส่วนที่วางไว้ตั้งแต่เดิม จึงได้ให้คำแนะนำกับเจ้าหน้าที่ไปว่า เป็นการปักในพื้นที่ประเทศไทย จะมาทำอย่างนี้ไม่ได้เพราะผิดกฎหมาย และจะต้องมีการดำเนินการตามกฎหมายอาญา ซึ่งกองทัพภาคที่หนึ่งหรือกองกำลังบูรพาก็สามารถดำเนินการ แจ้งความข้อหาทำลายทรัพย์สินของทางราชการได้ ซึ่งตนเองได้ย้ำว่าจะต้องไม่มีภาพแบบเมื่อวานเกิดขึ้นอีก เพราะเป็นสิ่งที่ประชาชนรับไม่ได้ พลเอกณัฐพล ยอมรับว่าการนำชาวบ้านมากดดันทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานลำบากมากขึ้น จึงมอบหมายให้ทำหนังสือประท้วงผ่านกระทรวงการต่างประเทศ เพราะเป็นพื้นที่อธิปไตยของไทย ที่ไม่สามารถมาทำเช่นนี้ได้ ส่วนการปฏิบัติการ จะใช้มาตรการเดียวกับการปราบปรามการชุมนุมหรือไม่ พลเอกณัฐพล กล่าวว่า การปฏิบัติการจะเป็นไปตามขั้นตอน ซึ่งขั้นแรกได้ใช้ เครื่องแอลแรท (LRAD) ไปแล้ว เราต้องเตรียมกำลังเพิ่มเติม โดยจะพิจารณาใช้กำลังตำรวจ เพราะหากใช้กำลังทหารจะรุนแรงเกินไป […]