เพื่อไทยปราศรัยใหญ่ ครั้งแรกในรอบ 5 ปี

กทม. 15 ก.พ.-พรรคเพื่อไทยเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ครั้งแรกในรอบ 5 ปี ณ ลานคนเมือง ศาลาว่าการ กทม. ระดมขุนพลนักการเมืองรุ่นเก๋า ชูนโยบายแก้ปัญหาเศรษฐกิจ  


บรรยากาศยิ่งดึกยิ่งคึกคัก เหล่าแกนนำรุ่นใหญ่ของพรรครวม 16 คน สลับขึ้นเวทีปราศรัย เรียกเสียงเชียร์จากผู้ที่มาสนับสนุน ต่างโชว์วิสัยทัศน์ ชูนโยบายสร้างรายได้ ขยายโอกาส ปฏิรูปการศึกษาการแก้ปัญหายาเสพติด พร้อมทั้งมั่นใจว่าจะชนะการเลือกตั้ง


พรรคเพื่อไทย จัดปราศรัยใหญ่ในกรุงเทพ ขนแกนนำคนสำคัญของพรรคปราศรัยคับคั่ง โดยทันทีที่ร้อยตำรวจเอกเฉลิม อยู่บำรุง แกนนำพรรคขึ้นเวที ก็เรียกเสียงฮือฮาจากประชาชนที่มาฟังนโยบาย ที่ลานคนเมือง โดยปราศรัยอย่างดุเดือดว่าขอให้เลือกพรรคเพื่อไทย เพื่อคืนอำนาจจากเผด็จการมาเป็นประชาธิปไตย และล้มการสืบทอดอำนาจ พร้อมมั่นใจว่าจะชนะการเลือกตั้ง โดยเชิญชวนให้คนเข้าคูหา เลือกรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง  

ขณะที่นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงปัญหาเศรษฐกิจ ที่ต้องเร่งแก้ปัญหา ลดความเหลื่อมล้ำ กระจายรายได้ให้ทุกภาคส่วนมีความแข็งแรง โดยเฉพาะการผลิตสินค้าในประเทศต้องเข้มแข็ง 


คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทยและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ปราศรัยว่าครั้งสุดท้ายที่ได้ขึ้นปราศรัยคือปี 2548 เป็น 14 ปี และจากการลงพื้นที่ไปพบปะกับประชาชนพบว่า เศรษฐกิจแย่มาก นี่คือความเจ็บปวดจากคนทำงานพรรคเพื่อไทย ประชาชนถูกยึดอำนาจด้วยเหตุผลต่างๆ นานา และรัฐบาล คสช.สัญญาว่าจะคืนความสุขให้ประชาชนและสัญญาว่าขอเวลาอีกไม่นาน เป็นเวลากว่า 5 ปีแล้ว

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่าพรรคเพื่อไทย มีความพร้อมที่จะเข้ามาบริหารประเทศอย่างมืออาชีพ แก้ปัญหาในทุกมิติ วันนี้เพื่อไทยจะกลับมากู้เสียงประเทศให้เวทีโลก หมดเวลาให้รถถังแล้ว และไม่อยากแจกบัตรคนจนแล้ว อยากแจกบัตรคนรวย วันนี้ทุกคนต้องอยู่อย่างมีศักดิ์ศรี จะไม่มีใครจนทุกคนต้องมีรายได้เพิ่มขึ้น

โดยคุณหญิงสุดารัตน์ ได้เปิดเผย 5 มาตรการกอบกู้เศรษฐกิจ โดยจะมีการปรับโครงสร้างหนี้ครั้งใหญ่ ให้นักธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กยืนให้ได้ เนื่องจากในอนาคตอันใกล้เศรษฐกิจจะแย่ โดยเพื่อได้จะให้คนไทยสามารถอยู่รอดในระบบเศรษฐกิจได้, เติมเงินทุนให้ประชาชน ตนเชื่อว่า ทุกคนอยากทำงานไม่อยากจน ไม่ต้องการรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไปตลอดชีวิต ขยายแหล่งทุนให้สามารถเข้าถึงได้จึง ต้องมีธนาคารพัฒนารายได้ในทุกจังหวัด หรือ Finance Company, ชูทั้งโลกเป็นตลาดสินค้า ประชาชนต้องมีที่ขายของ ที่ต้องมีการจัดระเบียบแบบฉลาด พาสินค้าไทยไปบุกตลาดโลกให้สำเร็จ ซึ่งในอดีตทำมาแล้วและจะทำให้สำเร็จ, มาตรการอำนวยความสะดวกใบอนุญาต ลดการขออนุญาตที่ต้องง่ายโปร่งใสรวดเร็ว พร้อมกับชูนโยบายลดภาษีอย่างฉลาด แต่ไม่ใช่การรีดภาษีจากผู้มีรายได้น้อย 

ด้านการเกษตร คุณหญิงสุดารัตน์ เปิดเผยว่าพรรคเพื่อไทยมีนโยบายพักชำระหนี้เกษตรกร 3 ปี ,ภายใน 6 เดือนราคาสินค้าต้องเพิ่มค้น 30 %  ต่อไปนี้เกษตรกรต้องกำหนดราคาการขายสินค้าได้ และเป็นศูนย์กลางอาหารปลอดภัยสินค้าโลก และมีกองทุนการปรับเปลี่ยนหน้าดินและยืนยันว่าจะเป็นรายได้ที่ยั่งยืน

ด้านการท่องเที่ยวจะพัฒนาให้ กทม. เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวโลก โดยตั้งเป้า 2 ปี เพิ่มนักท่องเที่ยว 50 ล้านคน เม็ดเงิน 3 ล้านล้านบาท และสร้างความมั่นใจในความปลอดภัย พร้อมกับสร้างแหล่งท่องเที่ยวใหม่ เตรียมเสนอยกเลิกวีซ่าไทย-จีน เพื่อเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวเป็น 15 ล้านคน พร้อมพัฒนา Street Food เป็นศูนย์กลางดึงดูดนักท่องเที่ยว

พร้อมเสนอ Smart Small Business Center สร้างให้คนรุ่นใหม่มีธุรกิจของตนเอง โดยจะตัดงบประมาณมาจากกระทรวงกลาโหม 10% เนื่องจากจะไม่มีการเกณฑ์ทหาร นำคนรุ่นใหม่มาสร้างนักธุรกิจรุ่นใหม่ พร้อมกับมีกองทุนคนเปลี่ยนงาน บัตรทองสตาร์ทอัพ มีสิทธิพิเศษนอกเหนือเขตอีอีซี 

ส่วนการรักษาพยาบาล จะนำ 30 บาทรักษาทุกโรค ยาดี รักษาดี ไม่ต้องรอคิว มีหมอประจำตัวอยู่ในโทรศัพท์มือถือ

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า หากเพื่อไทยเป็นรัฐบาลจะทวงคืนอากาศดีภายใน 3 ปี จะตั้งศูนย์วอร์รูมต้านฝุ่นพิษ และจะบอกความจริงกับประชาชน พร้อมเร่งนำเข้าหน้ากากและเครื่องฟอกอากาศแบบไม่มีภาษี เพื่อให้ประชาชนมีเครื่องป้องกันตัวเอง และใน 4 ปีจะเปลี่ยนรถเมล์ทั้งหมดให้เป็นระบบไฟฟ้า แทนการซื้อรถถังจากจีน

“โดย 4 ปีที่ผ่านมาของรัฐบาล คสช.ใช้งบประมาณไป 14.4 ล้านล้านบาท ประชาชนมีหนี้สะสมเพิ่มมากขึ้น และเป็นไปตามที่รัฐบาล คสช.สัญญาไว้เมื่อ 2 ปี ก่อนว่าคนจนจะหมดไป แต่ตอนนี้จนทั่วหน้า และการเลือกตั้งในครั้งนี้เลือกตั้งใบเดียวเลือกทั้งคน พรรค และนายกรัฐมนตรี และขอให้จำเพียงโลโก้ของพรรคเพื่อไทย ตนเชื่อว่าทุกคนจำได้เพราะถูกสลักไว้ในใจคนไทยอยู่แล้ว ส่วน ส.ว. จำนวน 250 คนมาจากการคัดเลือกของ คสช. และมีสิทธิ์เลือกนายกรัฐมนตรี พร้อมกับสามารถเลือกนายกรัฐมนตรีได้ถึง 2 สมัย ถือว่าเป็นการร่างรัฐธรรมนูญที่เอาเปรียบมากที่สุด โดยกติกาจะไม่ยิ่งใหญ่ไปกว่าหัวใจประชาชนไทย ซึ่งต้องจับมือกันให้แน่นออกจากทุกข์”

สำหรับการปราศรัยใหญ่ ในกรุงเทพฯ ครั้งนี้ ได้มีการเปิดตัวผู้สมัครกรุงเทพมหานครของพรรคเพื่อไทย ทั้ง 22 เขต โดยแกนนำแต่ละคน เน้นการนำเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ, พัฒนาประเทศ ทำกระบวนการกฎหมายให้ยุติธรรม สร้างคนสร้างชาติด้วยการศึกษา เรียนฟรี 15 ปี และปรับลดดอกเบี้ย กยศ. โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคักผู้สนับสนุนพรรคร่วมร้องเพลง และชูป้ายเชียร์ผู้สมัครพรรคในเขตต่างๆ ตลอดการปราศรัยด้วย .- สำนักข่าวไทย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ฉายาสภาปี67

ฉายาสภาปี 67 สส. “เหลี่ยม(จน)ชิน” ด้าน วุฒิสภา “เนวิ(น)เกเตอร์”

สื่อสภาตั้งฉายาปี 67 สส. “เหลี่ยม(จน)ชิน” ด้านวุฒิสภา “เนวิ(น)เกเตอร์” ส่วน “วันนอร์” รูทีนตีนตุ๊กแก ประธานวุฒิฯ “ล็อกมง” ส่วนผู้นำฝ่ายค้านฯ “เท้งเต้ง”

มติกฤษฎีกา “กิตติรัตน์” คุณสมบัติไม่ผ่านนั่งประธานบอร์ด ธปท.

คณะกรรมการกฤษฎีกา 3 คณะ มีมติไม่ผ่านคุณสมบัติ “กิตติรัตน์ ณ ระนอง” เป็นประธานบอร์ดธนาคารแห่งประเทศไทย