สวีเดน 14 ก.พ. – อนาคต เมาริซิโอ ซาร์รี่ กุนซือเชลซี ก่อนพาสิงโตน้ำเงินคราม บุกไปเยือน มัลโม่ ในศึกยูฟ่า ยูโรป้า ลีก คืนนี้
ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก รอบ 32 ทีมสุดท้าย นัดแรกคืนนี้ มี 2 ทีมยักษ์ใหญ่ของอังกฤษลงสนามคือ อาร์เซน่อล กับ เชลซี โดยสิ่งที่น่าติดตามคือ อนาคตของ เมาริซิโอ ซาร์รี่ กุนซือของเชลซี ที่เริ่มไม่แน่นอน หลังจากที่เกมลีกเพิ่งถูก แมนฯ ซิตี้ ถล่มมาถึง 6-0 จะออกไปเยือน มัลโม่ จากสวีเดน ในเวลา 03.00 น.
เมาริซิโอ ซาร์รี่ กุนซือชาวอิตาเลียนวัย 60 ปีของเชลซี พาทีมเข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่ม แอล ด้วยผลงาน ชนะ 5 เสมอ 1 มี 16 คะแนน แต่ผลงานในพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ กลับย่ำแย่ โดยเฉพาะนัดล่าสุดในเกมลีก บุกไปพ่าย แมนฯ ซิตี้ 0-6 ทำให้ถูก อาร์เซน่อล ที่มี 50 คะแนนเท่ากัน แซงขึ้นไปรั้งอันดับ 5 ที่จะได้ไปเตะยูโรป้า ลีก ในฤดูกาลหน้า จนมีกระแสข่าวว่า เชลซี จะตัดสินอนาคต ซาร์รี่ หลังสิ้นเดือนนี้
โดยสภาพทีมของเชลซี นัดนี้ ซาร์รี่ไม่มีปัญหานักเตะบาดเจ็บ หรือติดโทษแบน แต่คาดว่าน่าจะมีการปรับทีมเพื่อเปิดโอกาสให้ตัวสำรองและดาวรุ่งได้ลงสนาม ทั้งอันเดรียส คริสเตนเซ่น, แกรี่ เคฮิลล์, เอธาน แอมพาดู, มาเตโอ โควาซิช และ รูเบน ลอฟตัส-ชีค สำหรับนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม ผู้รักษาประตู เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า กองหลัง เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า, แกรี่ เคฮิลล์, อันเดรียส คริสเตนเซ่น, เอแมร์ซอน ปัลมิเอรี่ กองกลาง เอ็นโกโล่ ก็องเต้, เอธาน แอมพาดู, มาเตโอ โควาซิช, รูเบน ลอฟตัส-ชีค โดยมี วิลเลี่ยน ทำเกมรุกกับ กอนซาโล่ อิกวาอิน
ด้าน อูเว่ รอสเลอร์ กุนซือมัลโม่ จากสวีเดน ที่พาทีมเข้ารอบเป็นอันดับ 2 ของกลุ่มไอ ด้วยผลงานชนะ 2 เสมอ 3 แพ้ 1 มี 9 คะแนน ตามหลังเกงค์ จากเบลเยี่ยม 2 คะแนน
นัดนี้ รอสเลอร์ไม่มีปัญหานักเตะบาดเจ็บ พร้อมส่งทีมชุดดีที่สุดลงสนามนำโดยคู่หัวหอกมาร์คุส โรเซนเบิร์ก และ มาร์คุส อันตันส์สัน ลงล่าตาข่ายร่วมกับ ลาสเซ่ นีลเซ่น, ราสมุส เบงก์ทสสัน, เบห์รัง ซาฟารี , อันเดรียส วินด์ไฮม์ และ อันเดอร์ส คริสเตียนเซ่น
โดยสถิติ 5 นัดหลังสุดของทั้งสองทีม มัลโม่ ทำได้ดีกว่า ชนะ 3 เสมอ 2 เริ่มด้วย เสมอ ซาร์ปสบอร์ก 1-1, ชนะ เอล์ฟส์บอร์ก 2-0, ชนะ ลุนด์ 2-0, เสมอ เกงค์ 2-2, ชนะ เบซิคตัส 1-0 ส่วนเชลซี ชนะ 3 แพ้ 2 เริ่มด้วยดวลจุดโทษชนะ สเปอร์ส 4-2, ชนะ เชฟฟิลด์ เว้นสเดย์ 3-0, แพ้ บอร์นมัธ 0-4 , ชนะ ฮัดเดอส์ฟิลด์ 5-0, แพ้ แมนฯ ซิตี้ 0-6
โดยนับตั้งแต่ โรมัน อบราโมวิช เจ้าของทีมชาวรัสเซีย เข้ามาซื้อทีมเมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2003 ถึงปัจจุบัน ใช้ผู้จัดการทีมไปทั้งหมด 7 คน คว้าไปทั้งหมด 15 แชมป์หลัก ได้แก่ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 1 สมัย, ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก 1 สมัย, พรีเมียร์ลีก 5 สมัย, เอฟเอ คัพ 5 สมัย, ลีก คัพ 3 สมัย
เริ่มด้วยโชเซ่ มูรินโญ่ คุมทีม 2 ช่วงปี 2004-2007, 2013-2015 พาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 3 สมัย, ลีกคัพ 3 สมัย, เอฟเอคัพ และ คอมมิวนิตี้ ชิลด์
กุส ฮิดดิ้งค์ ปี 2009 , 2015-2016 แชมป์เอฟเอคัพ
คาร์โล อันเชล็อตติ ปี 2009-2011 แชมป์พรีเมียร์ลีก, เอฟเอคัพ, คอมมิวนิตี้ ชิลด์
โรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอ ปี 2012 แชมป์เอฟเอคัพ, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
ราฟาเอล เบนิเตซ ปี 2012-2013 แชมป์ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก
อันโตนิโอ คอนเต้ ปี 2016-2018 แชมป์พรีเมียร์ลีก, เอฟเอคัพ
เมาริซิโอ ซาร์รี่ ปี 2018-?
โดยเมาริซิโอ ซาร์รี่ นอกจากได้ลุ้นแชมป์ยูโรป้า ลีก ยังเหลือแชมป์ให้ลุ้นอีก 2 ถ้วยคือเอฟเอคัพ และลีกคัพ โดยเอฟเอคัพ รอบ 16 ทีมสุดท้าย พบ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คืนวันที่ 18 กุมภาพันธ์ เวลา 02.30 น. และลีกคัพ นัดชิงชนะเลิศ พบ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ วันที่ 24 กุมภาพันธ์ เวลา 23.30 น. ซึ่งทั้งสองนัด น่าจะเป็นการชี้ชะตาของซาร์รี่ เพราะหากเชลซี พลาดทั้งสองถ้วย สิ้นเดือนนี้ ซาร์รี่ น่าจะไม่รอดอย่างแน่นอน โดยชื่อของกุนซือคนใหม่หากซาร์รี่ถูกปลดตอนนี้มีชื่อของ ซีเนดีน ซีดาน อดีตกุนซือทีมราชันชุดขาว เรอัล มาดริด .- สำนักข่าวไทย