กรุงเทพฯ 14 ก.พ.- บอรด์กองทุนอนุรักษ์พลังงาน สร้างมิติใหม่กันงบกองทุนฯ62 ส่วนเพิ่ม 2.5 พันล้านบาท ให้ มท.กำจัดขยะชุมชน หลังมีผู้ขอใช้งบ 3.8 หมื่นล้านบาท แต่เห็นชอบอนุมัติเพียง 6.8 พันล้านบาท ด้านโครงการผลิตไฟฟ้าจากปาล์มส่งผลราคาปาล์มเริ่มขยับแล้ว
นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการกองทุนส่งเสริมเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน ซี่งมี พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ในวันนี้ (14 ก.พ.) ได้เห็นชอบงบกองทุนฯปี 62 เพิ่มเติม 6,800 ล้านบาทจากงบฯที่เหลืออยู่ราว 9,300 ล้านบาท โดยมีผู้เสนอขอใช้งบส่วนนี้ราวกว่า 3.8 หมื่นล้านบาท โดยงบ 62 ที่เหลืออีก 2,500 ล้านบาทนั้น ที่ประชุมเห็นชอบให้นำไปดำเนินโครงการจัดการขยะชุมชน ซึ่งเป็นวาระแห่งชาติ โดยให้ องค์การบริหารส่วนท้องถิ่นเป็นผู้ใช้งบนี้ ผ่านการพิจารณาของกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงพลังงาน พิจารณาให้เสร็จสิ้นภายใน วันที่ 1 เมษายน นี้ รูปแบบการจัดการขยะชุมชนจะต้องดำเนินการเพื่อการผลิตเป็นเชื้อเพลิง ที่สามารถนำไปใช้ได้ทั้ง ภาคอุตสาหกรรม ,การเผาในโรงงานปูนซีเมนต์ และการนำไปผลิตกระแสไฟฟ้า
ในวันนี้ รมว.พลังงาน ยังได้เป็นประธานในพิธีลงนามสัญญาซื้อขายน้ำมันปาล์มดิบระหว่างการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กับผู้จำหน่ายน้ำมันปาล์มดิบ จำนวน 22 ราย ในปริมาณรวม 83,000 ตัน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินการตามมาตรการปรับสมดุลน้ำมันปาล์มในประเทศของรัฐบาล เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรแก้ไขปัญหาราคาปาล์มน้ำมันตกต่ำ โดยให้ กฟผ. รับซื้อน้ำมันปาล์มดิบจำนวน 160,000 ตัน ในราคากิโลกรัมละ 18 บาท เพื่อใช้ใน การผลิตกระแสไฟฟ้าสำหรับโรงไฟฟ้าพลังความร้อนบางปะกง หน่วยที่ 3 
นายวิบูลย์ ฤกษ์ศิระทัย ผู้ว่าการ กฟผ. กล่าวว่า ผู้จำหน่ายน้ำมันปาล์มดิบทั้ง 22 ราย เป็นผู้ที่ผ่านการคัดเลือกจากกรมการค้าภายในว่า มีคุณสมบัติครบถ้วนตามหลักเกณฑ์ที่คณะอนุกรรมการบริหารและกำกับดูแลมาตรการปรับสมดุลน้ำมันปาล์มในประเทศกำหนด คือ ต้องมีสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบขั้นต่ำไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของปริมาณที่เสนอจำหน่าย และเป็นผู้มีความสามารถในการขนส่ง เก็บรักษา และส่งมอบน้ำมันปาล์มดิบให้กับ กฟผ. โดยผู้ที่มีสิทธิ์เสนอจำหน่ายน้ำมันปาล์มดิบได้เสนอราคารับซื้อผลปาล์มน้ำมันจากเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนไว้กับกรมส่งเสริมการเกษตร ตั้งแต่กิโลกรัมละ 3.10 – 3.25 บาท ซึ่งสามารถช่วยพยุงราคาผลปาล์มน้ำมันให้สูงกว่า 3 บาทต่อกิโลกรัม 
ทั้งนี้ กรมการค้าภายในได้ขยายเวลารับสมัครผู้ประสงค์จำหน่ายน้ำมันปาล์มดิบให้ กฟผ. ไปจนถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2562 พร้อมปรับปรุงเงื่อนไขให้เป็นผู้มีที่สต๊อกน้ำมันปาล์มดิบไม่น้อยกว่า 25 ของปริมาณที่เสนอจำหน่ายเพื่อให้ได้น้ำมันปาล์มดิบครบตามเป้าหมาย 160,000 ตัน ซึ่งการนำน้ำมันปาล์มดิบมาใช้ในการผลิตไฟฟ้าจะไม่กระทบกับค่าไฟฟ้าของประชาชนแต่อย่างใด -สำนักข่าวไทย
