นนทบุรี 13 ก.พ. – พาณิชย์เร่งผลักดันการส่งออกของไทยสู่ตลาดโลก เปิดเวทีจับคู่เจรจาธุรกิจ เชิญผู้ซื้อกว่า 100 ราย เดินทางเยือนไทย พร้อมเดินหน้าทำตลาดอินเดีย จีน แบบเจาะลึก เชื่อทั้งปียังโตร้อยละ 8
น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศจัดกิจกรรมเจรจาจับคู่ธุรกิจครั้งใหญ่แห่งปีภายใต้โครงการจัดคณะผู้แทนการค้าสินค้าอุปโภคบริโภคมาเจรจาการค้าในไทย หรือ Thailand’s Sourcing Forum ในวันอังคารที่ 26 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา 8.30-17.00 น. ห้องวิภาวดีบอลรูม โรงแรมเซ็นทาราเซ็นทรัลลาดพร้าว โดยมีกลุ่มสินค้าเป้าหมาย คือ สินค้าอุปโภคบริโภค อาหาร แฟชั่น เกษตรออร์แกนิค สถาบันด้านการศึกษา แฟรนไชส์ร้านอาหาร และผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อกระตุ้นและขับเคลื่อนการส่งออกของไทยและผลักดันให้สินค้าอุปโภคบริโภคของไทยขยายส่วนแบ่งตลาดในอาเซียน เอเชียตะวันออก โอเชียเนีย เอเชียใต้ ตะวันออกกลาง และแอฟริกา
นอกจากนี้ เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยได้พบปะสร้างเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจ และเจรจาการค้ากับนักธุรกิจเจ้าของกิจการ ผู้นำเข้า ผู้จัดจำหน่าย และ online superstore จากประเทศเป้าหมาย คาดว่าจะมีการจับคู่ธุรกิจไม่น้อยกว่า 600 คู่ เกิดมูลค่าซื้อขายภายในงานมากกว่า 200 ล้านบาท และไม่น้อยกว่า 1,750 ล้านบาทภายใน 1 ปี โดยผู้ประกอบการไทยจะได้พบปะหารือและสร้างเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจกับผู้ซื้อรายสำคัญจากต่างประเทศ ได้เล็งเห็นโอกาสและลู่ทางในการขยายธุรกิจสู่ช่องทางการตลาดใหม่ ๆ สามารถวางแผนทำการตลาดได้ตรงเป้าหมายและเป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น
น.ส.บรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า แม้การขยายตัวของส่งออกจะมีปัจจัยหลายอย่างที่ไม่อาจควบคุมได้ ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจโลก นโยบายเศรษฐกิจและภาวะการเมืองภายในประเทศของประเทศคู่ค้าของไทย แต่ภารกิจหลักของกรมที่มีหน้าที่สนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยสามารถเข้าไปดำเนินธุรกิจและขยายตลาดในต่างประเทศได้อย่างประสบความสำเร็จและยั่งยืน กรมจึงมุ่งเดินหน้าทำแผนขยายการส่งออกเชิงรุก ซึ่งหนึ่งในนั้น คือ การแสวงหาช่องทางการเข้าตลาดใหม่ อาทิ Modern Trade และ On-Line Platform ที่ถือเป็นช่องทางการเลือกซื้อสินค้าของกลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่ที่มีพฤติกรรมในการบริโภคเปลี่ยนแปลงตามสภาพสังคมในปัจจุบันที่ต้องการความสะดวกสบาย และรวดเร็ว ในงาน Sourcing Forum กรมได้เน้นเชิญกลุ่มผู้ซื้อ ผู้นำเข้าต่างประเทศรายสำคัญ โดยเฉพาะในกลุ่มห้างสรรพสินค้า ร้านค้าปลีก อาทิ ห้างต้าชาง, Hangzhou Lianhua, 759 Store, Reliance Retail, Future Retail, Anokhi, Makro, Big C และ On-Line Platform อาทิ Alibaba.com, Herma Fresh, PayTM, JD, NYKAA มาเจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการไทย เพื่อเลือกซื้อสินค้าไทยนำไปจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายและประชาสัมพันธ์ตามสาขาของห้างฯ หรือบน On-line Platform ในต่างประเทศต่อไป
“ขณะนี้กระทรวงพาณิชย์ได้จัดทำแผนการเจาะตลาดแบบรายมณฑล โดยเฉพาะตลาดจีน 10 มณฑล รวมถึงการเจาะตลาดอินเดียแบบเชิงลึกและอีกหลายตลาดทั่วโลก จึงเชื่อว่าจะสามารถชดเชยจากมูลค่าที่ลดลงบ้างจากการที่เงินบาทแข็งค่าขึ้น ซึ่งในเรื่องค่าเงิน ทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีการติดตามอย่างใกล้ชิดและเฝ้าติดตามทุกสถานการณ์อยู่แล้ว” น.ส.บรรจงจิตต์ กล่าว
สำหรับผู้ประกอบการไทยที่สนใจขยายตลาดส่งออกหรือดำเนินธุรกิจในต่างประเทศ สามารถติดตามข่าวสารและกิจกรรมกรมได้ทางเว็บไซต์ https://drive.ditp.go.th หรือสายตรงการค้าระหว่างประเทศ 1169 ได้.- สำนักข่าวไทย