อังกฤษ 12 ก.พ. – ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้ายนัดแรก คืนนี้ คู่บิ๊กแมตช์ ปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จากอังกฤษ จะเปิดโอลด์แทรฟฟอร์ด พบกับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง จากฝรั่งเศส
สำหรับเกมคู่นี้จะเตะกันในเวลา 03.00 น. ซึ่งถือเป็นการพบกันครั้งแรกของทั้งสองทีมในถ้วยใบนี้ โดยเราจะไปดูความพร้อมและข้อมูลที่น่าสนใจของทั้งสองทีมกัน
เริ่มที่ ทีมปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อดีตแชมป์ยุโรป 3 สมัยจากอังกฤษ ภายใต้การคุมทีมของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ฮีโร่ที่ยิงประตูชัยช่วยให้ แมนฯ ยู เฉือนเอาชนะ บาเยิร์น มิวนิค 2-1 คว้าแชมป์รายการนี้เมื่อปี 1999 พาลูกทีมทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่แพ้มา 11 นัดติดต่อกันในทุกรายการ โดยเป็นการเก็บชัยชนะถึง 10 นัด นัดล่าสุดในเกมลีกบุกไปเอาชนะ ฟูแล่ม 3-0
คืนนี้ โซลชา จะไม่มี มาร์กอส โรโฮ, มัตเตโอ ดาร์เมียน และ อันโตนิโอ วาเลนเซีย ผู้เล่นแนวรับที่บาดเจ็บอยู่ก่อนหน้านี้ ส่วนตัวหลักที่ได้พักในเกมพบ ฟูแล่ม ทั้งวิคตอร์ ลินเดอเลิฟ, เจสซี่ ลินการ์ด, แอชลี่ย์ ยัง และ มาร์คัส แรชฟอร์ด จะได้กลับมาลงสนาม โดยแดนกลาง จะเป็นหน้าที่ของสามประสานนำโดย ปอล ป็อกบา เพลย์เมกเกอร์ของทีมที่ซัดไปแล้ว 11 ประตูในพรีเมียร์ลีก ประสานงานกับ เนมานย่า มาติช และ อันเดร์ เอร์เรร่า กองหลัง แอชลีย์ ยัง, วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ, ฟิล โจนส์, ลุค ชอว์ ส่วนแดนหน้า เจสซี่ ลินการ์ด, มาร์คัส แรชฟอร์ด และ อเล็กซิส ซานเชส โดยมี ดาบิด เด เคอา ลงเฝ้าเสาเช่นเดิม
ด้าน โธมัส ทูเคิ่ล กุนซือชาวเยอรมันของปารีส แซงต์-แชร์กแมง วัย 45 ปี ที่นัดล่าสุดในลีก เปิดปาร์ก เดส์ แพร็งซ์ เฉือนเอาชนะ บอร์กโดซ์ 1-0 ทำสถิติชนะ 2 นัดรวด
นัดนี้ ทูเคิ่ล มีปัญหาในการจัดทัพ เนื่องจากปัญหา 3 นักเตะตัวหลักได้รับบาดเจ็บทั้ง เนย์มาร์ ดาวยิงทีมชาติบราซิลวัย 27 ปี, เอดินสัน คาวานี่ ดาวยิงทีมชาติอุรุกวัย และ โธมัส เมอนิเย่ร์ แบ็กขวาทีมชาติเบลเยียม โดยเฉพาะ เนย์มาร์ ที่ต้องพัก 10 สัปดาห์ เนื่องจากบาดเจ็บกระดูกฝ่าเท้าขวา ขณะที่ คาวานี่ บาดเจ็บสะโพกขวา พักอย่างน้อย 1 เดือน และ เมอนิเย่ร์ สมองได้รับการกระทบกระเทือน โดยทูเคิ่ลจะส่ง จานลุยจิ บุฟฟ่อน นายทวารอิตาลีวัย 41 ปี ลงเฝ้าเสา พร้อมกับที่ทีมได้ ฆวน เบร์นาต, มาร์กินโญส, ธีโล เคห์เรอร์, ยูเลี่ยน ดรักซ์เลอร์, อังเคล ดิ มาเรีย ที่ได้พักและไม่ได้ลงสนามนัดล่าสุด จะกลับมาลงตัวจริงทั้งหมด ร่วมกับ ติอาโก้ ซิลวา, ดาเนียล อัลเวส, มาร์โก แวร์รัตติ และ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้
โดยผลงาน 5 นัดหลังสุดรวมทุกรายการของทั้งสองทีม แมนฯยู ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย ชนะ 4 เสมอ 1 เริ่มจาก ชนะ ไบร์ทตัน เกมลีก 2-1, ชนะ อาร์เซนอล 3-1 เกมเอฟเอคัพ, ก่อนเสมอ เบิร์นลี่ย์ 2-2 เกมลีก, ชนะ เลสเตอร์ 1-0 เกมลีก, ชนะ ฟูแล่ม 3-0 เกมลีก ส่วนเปแอสเช ชนะ 4 แพ้ 1 เริ่มจาก ชนะ สตาร์สบูร์ก 2-0 เฟรนช์ คัพ, ชนะ แรนส์ 4-1 ลีกเอิง, แพ้ ลียง 1-2 ลีกเอิง, ชนะ วิลเลฟรองเซ 3-0 เฟรนช์ คัพ, ชนะ บอร์กโดซ์ 1-0 ลีกเอิง
ส่วนดาวเด่นที่จะเป็นตัวตัดสินเกมในคืนนี้ คงต้องยกให้ 2 นักเตะทีมชาติฝรั่งเศสชุดแชมป์โลกล่าสุดของทั้งสองทีม โดยแมนฯยู ต้องยกให้ ปอล ป็อกบา จอมทัพของทีมที่กลับมาทำผลงานได้ดีอีกครั้ง หลังจากการเข้ามาคุมทีมของโซลชา ตอนนี้อายุ 25 ปี ลงเล่นให้ แมนฯ ยู เป็นครั้งที่ 2 ตั้งแต่ปี 2016 หลังจากย้ายกลับมาจากยูเวนตุส ลงเล่นไป 80 นัด ยิง 22 ประตู ส่วนเปแอสเช ที่ไม่มีทั้งเนย์มาร์ และ เอดินสัน คาวานี่ ก็ต้องเป็นหน้าที่ของ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ หัวหอกดาวรุ่งวัย 20 ปี ที่แจ้งเกิดจากศึกฟุตบอลโลกที่ผ่านมา ลงเล่นให้เปแอสเช ตั้งแต่ปี 2017 หลังเปแอสเช ยืมตัวมาจาก โมนาโก แต่ในปี 2018 ลงเล่นไป 17 นัด ยิงไป 18 ประตู
สำหรับทั้งสองทีม ตกรอบน็อกเอาต์ ฤดูกาลที่แล้ว โดยแมนฯ ยู แพ้ เซบีย่า ส่วนเปแอสเช แพ้ เรอัล มาดริด แต่ แมนฯยู มีสถิติที่ดีในการลงเล่นรอบ 16 ทีมสุดท้าย เข้ารอบได้ถึง 6 จาก 7 ครั้ง และมีสถิติลงเล่นรอบน็อกเอาต์ในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด ชนะ 6 เสมอ 1 แพ้ 3 นอกจากนี้ แมนฯ ยู ยังถูกโฉลกกับการพบสโมสรจากฝรั่งเศสในรอบน็อกเอาต์ ชนะได้ถึง 6 จาก 7 ครั้งล่าสุด ส่วนเปแอสเช ชนะ 3 จาก 6 เกมเหย้า-เยือนที่พบทีมจากพรีเมียร์ลีก แต่ล่าสุด แพ้ แมนฯ ซิตี้ รอบ 8 ทีมสุดท้าย ปี 2015-2016 แต่สิ่งที่น่ากังวลของแมนฯยู คือ นัดนี้ อังเคล ดิ มาเรีย จะได้กลับมาเยือนถิ่นเก่าอีกครั้ง ซึ่งนักเตะที่กลับมาพบอดีตต้นสังกัดมักจะทำผลงานได้ดี
สำหรับคืนนี้ต้องมาลุ้นว่า โซลชา จะทำสถิติคุมทีมไม่แพ้ 12 นัดติดต่อกันในทุกรายการได้หรือไม่ ก่อนจะกลับไปเตะนัดที่ 2 ที่ ปาร์ก เดส์ แพร็งซ์ ในวันที่ 6 มีนาคม .- สำนักข่าวไทย