“บิ๊กโจ๊ก”จับ2ชาวสวีเดนอีก1อิตาลีหนีหมายจับคดีฟอกเงินและหลบเลี่ยงภาษีมูลค่ารวมกว่า400ล้านบาท

กรุงเทพฯ 12 ก.พ.- สืบสวน ตม.จับผู้ต้องหาชาวสวีเดน 2 รายและอีก1ชาวอิตาลี หลบหนีหมายจับคดีฟอกเงินและหลบเลี่ยงภาษี มากบดานในไทยโดยเปิดร้านยอาหารบังหน้า รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 400 ล้านบาท


พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล  ผบช.สตม. แถลงว่า ได้รับการประสานจากทางการประเทศสวีเดน ว่านาย ยาน โอลอฟ นอร์แลนด์เดอร์ (Mr.Jan Olof NORLANDER) อายุ ๕๑ ปี และนาย โบคาร์ล โรบิน ลุนโฮล์ม (Mr.Bo Karl Robin LUNDHOLM) อายุ ๓๘ ปี ผู้ต้องหาในคดีฟอกเงินและเป็นที่ต้องการตัวของทางการสวีเดน เป็นขบวนการฟอกเงินที่ได้มาจากอาชญากรรมในประเทศสวีเดนและในต่างประเทศ  หลบหนีมาไทย  ตำรวจสืบสวน สตม. จึงจับกุมตัว นาย โบคาร์ล โรบิน    ลุนโฮล์ม ที่บริเวณปากซอยสุขุมวิท ๓๑  เขตวัฒนา กรุงเทพฯ และได้ส่งตัวกลับไปดำเนินคดีที่ประเทศสวีเดนแล้ว 

ส่วนนาย ยาน โอลอฟ นอร์แลนด์เดอร์ ทราบว่าเพื่อนร่วมขบวนการถูกจับ จึงหนีไปพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์   จากนั้นตำรวจสืบสวน สตม. จึงเข้าจับกุมที่บ้านหลังหนึ่งใน  ต.กันจุ อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ โดยชาวบ้านในพื้นที่แจ้งเบาะแส  


สำหรับพฤติการณ์ของผู้ต้องหาทั้ง ๒ คน คือช่วงเดือนมกราคมปี 59 ถึง เมษายน 61 ได้ร่วมกันฟอกเงิน ที่ได้มาจากอาชญากรรมในประเทศสวีเดนและในต่างประเทศ รวมมูลค่าประมาณ ๖๘,๐๐๐,๐๐๐      โครนาสวีเดน หรือประมาณ ๒๔๘,๔๙๒,๐๐๐ บาท

อีกคดี  ได้รับการประสานงานจากหน่วยงานตำรวจสากล INTERPOL ว่านายโรแบร์โต อูโกลินี (Mr.Roberto Ugolini) อายุ 64 ปี สัญชาติ อิตาลี  เป็นบุคคลตามหมายจับของศาลกรุงโรม สาธารณรัฐอิตาลี ในข้อกล่าวหา “ร่วมกันทุจริตในการล้มละลาย  ฟอกเงิน  ปลอมและใช้ตราประทับทางราชการปลอม  ละเว้นการแจ้งภาษี  ปกปิดหรือทำลายเอกสารทางบัญชี  หลีกเลี่ยงในการจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่ม”   ซึ่งมีมูลค่าความเสียหาย 5.8 ล้านยูโร  หรือประมาณ 210 ล้านบาท   เหตุเกิดช่วงปี 2554 – 2559 หนีคดีมาไทย ประมาณ 3 ปี   และมาประกอบธุรกิจร้านอาหารหรูใจกลางกรุงเทพมหานครและจังหวัดภูเก็ต    ซึ่งทางการอิตาลี  เชื่อว่าได้นำเงินที่ได้มาจากการกระทำความผิดมาลงทุนดำเนินกิจการร้านอาหารในไทย และธุรกิจอื่นๆ ในต่างประเทศ  

ชุด สืบสวน สตม. สืบสวนจนทราบว่า นายโรแบร์โต อูโกลินี  เคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและจังหวัดภูเก็ตจริง  และได้ออกติดตามตัวจนกระทั่งพบตัว นายโรแบร์โต อูโกลินี  ที่ร้านอาหารหรู ในอาคารสูงแห่งหนึ่ง ชั้น 39  ย่านถนนสาทรเหนือ เขตสาทร   จึงได้ควบคุมตัวและเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร  เนื่องจากเป็นคนต่างด้าวที่มีลักษณะต้องห้ามให้เข้ามาอยู่ในราชอาณาจักร เป็นกรณีรัฐบาลต่างประเทศออกหมายจับ  ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 มาตรา 12 อนุ 7  จากนี้จะได้ทำการผลักดันออกไปนอกราชอาณาจักรต่อไป.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เชียงใหม่อากาศแปรปรวน เจอลมหนาว-ฝนตก 3 วันติด

ชาวเชียงใหม่เจอลมหนาวและฝนตกต่อเนื่อง 3 วันติด อุตุฯ ย้ำอากาศแปรปรวน เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน เชียงราย ยังมีฝนตกและลมหนาว แนะรักษาสุขภาพ

“อัจฉริยะ” ยื่นสอบปม “ทนายตั้ม” ปูดข่าวผู้บริหารปลอมเอกสารขยายอายุเกษียณ

“อัจฉริยะ” ยื่นหนังสือตรวจสอบข้าราชการช่วยผู้บริหารรัฐวิสาหกิจปลอมเอกสารขยายอายุเกษียณ คาดอาจมีทนายดังเข้าไปเอี่ยว เสนอตำรวจให้สอบพยานรายสำคัญที่เป็นประโยชน์กับ “มาดามอ้อย”

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊ก บช.ก. สอบปากคำ

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊กสอบสวนกลาง สอบปากคำ นานกว่า 5 ชั่วโมง ขณะที่พนักงานสอบสวนเตรียมเข้าค้น “ษิทรา ลอว์ เฟิร์ม” เช้าพรุ่งนี้ หาหลักฐานเพิ่ม ก่อนฝากขังช่วงบ่าย ค้านประกันตัว

“บิ๊กอ้อ” เผย “ทนายตั้ม-ภรรยา” มีพฤติการณ์หนี-ยุ่งเหยิงพยานฯ

“บิ๊กอ้อ” ชี้ตำรวจต้องออกหมายจับ “ทนายตั้ม” เหตุพบพฤติการณ์เตรียมหลบหนีออกนอกประเทศ และยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน นอกจากนี้ยังมีคดีต่อเนื่อง 3 คดี เตรียมแจ้งข้อหาเพิ่ม

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” อากาศเย็นตอนเช้า-ภาคใต้ฝนหนัก

กรมอุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” อากาศเย็นในตอนเช้า เตือนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง พร้อมอัปเดตเส้นทางพายุ “หยินซิ่ง”

MOU44

MOU 44 ผลประโยชน์ชาติ กับ การเมือง ตอนที่ 1

ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา เรื่องเอ็มโอยู 44 และเส้นแบ่งอาณาเขตทางทะเล หรือเส้นเคลม กลายเป็นปมร้อน ท่ามกลางความกังวลถึงผลประโยชน์ของชาติทางทะเล และสิทธิเหนือเกาะกูด ติดตามความเห็นและมุมมองจากผู้เกี่ยวข้องในรายงาน “ปมร้อน เอ็มโอยู 44 ผลประโยชน์ชาติ กับ การเมือง”

ทนายตั้ม

“ทนายตั้ม” สร้างตัวตนผ่านสื่อ หวังหาผลประโยชน์หรือไม่

หลังจากพนักงานสอบสวนควบคุมตัว “ทนายตั้ม” และภรรยา เข้าเรือนจำไปแล้ว มีคำถามตามมาว่า ทนายคนดังสร้างตัวตนจนโดดเด่นในสังคม เพื่อหาผลประโยชน์จากความน่าเชื่อถือที่สร้างไว้หรือไม่