“ปรีชาพล” ปรากฏตัวครั้งแรก น้อมรับพระราชโองการไว้เหนือเกล้าฯ

ไทยรักษาชาติ 12 ก.พ. 62  – “ปรีชาพล” ปรากฏตัวครั้งแรก  น้อมรับพระราชโองการไว้เหนือเกล้าฯ   ยอมรับมติ กกต.ไม่ประกาศชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค  ยืนยัน มีความตั้งใจดี  เรียกประชุม กก.บห. ประกาศเดินหน้าสู้ต่อในสนามเลือกตั้ง


ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ ช่วงบ่ายวันนี้ (12 ก.พ.) จากพรรคไทยรักษาชาติ ว่า คณะกรรมการบริหารพรรค และสมาชิกพรรค เริ่มทยอยเดินทางเข้าพรรค ตั้งแต่ช่วงเที่ยง โดยมีสื่อฯ จำนวนมาก มารอติดตามข่าวตั้งแต่ช่วงเช้า จนกระทั่งเวลา 13.15 น.  ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรค เดินทางมาพร้อมกับ น.ส.ชยิกา วงศ์นภาจันทร์ นายทะเบียนพรรค  และนายฤภพ ชินวัตร กรรมการบริหารพรรค มี นายพงศ์เกษม  สัตยาประเสริฐ  โฆษกพรรค มารอต้อนรับ ถือเป็นการปรากฎตัวครั้งแรกของ ร.ท.ปรีชาพล หลังจากการยื่นบัญชีรายชื่อแกคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ท่ามกลางกระแสข่าวการหลบหนีออกนอกประเทศ 


ร.ท.ปรีชาพล กล่าวว่า คณะกรรมการบริหารพรรคไทยรักษาชาติ ขอน้อมรับพระราชโองการไว้เหนือเกล้าฯ  ด้วยความจงรักภักดีต่อสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระราชวงศ์ทุกพระองค์ และยอมรับมติของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ไม่ประกาศชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค   จะไม่โต้แย้งใดๆ  เพราะเราได้แถลงน้อมรับพระราชโองการแล้ว  หลังจากนี้ไปจะต้องเดินหน้าสู่สนามเลือกตั้ง หาเสียง  และวันนี้ ได้เรียกประชุมกรรมการบริหารพรรค เพื่อวางแผนและกำหนดท่าทีในการหาเสียง 

“ในฐานะพรรคการเมือง มีภาระหน้าที่สำคัญต่อประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อสมาชิกและผู้สมัครของพรรค การทำงานวันนี้ไม่สามารถหยุดนิ่งได้ เราต้องเดินหน้า เพื่อไปสื่อสารนโยบายและขออาสารับใช้ประชาชนในการเลือกตั้งที่จะถึงนี้” ร.ท.ปรีชาพล กล่าว พร้อมย้ำว่า สิ่งที่พรรคไทยรักษาชาติได้ดำเนินการไปทุกสิ่ง เป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ใจ ความตั้งใจดี ต้องการเห็นบ้านเมืองไปในทิศทางดี มีอนาคตที่ดีให้กับพี่น้องประชาชน 

ต่อข้อถามว่า กังวลหรือไม่ที่ กกต.จะพิจารณายุบพรรคไทยรักษาชาติ   ร.ท.ปรีชาพล กล่าวว่า ส่วนตัวไม่ได้รู้สึกกังวล เพราะเราได้ทำตามระเบียบและขั้นตอน ข้อบังคับของกฎหมาย ตรงไปตรงมา ส่วนผู้มีอำนาจหน้าที่ในการตรวจสอบอย่าง กกต.  ถ้าเห็นว่ามีอะไรน่าสงสัย ก็ต้องดำเนินการ  และส่วนตัวพร้อมเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบ  


สำหรับการลาออกของกรรมการบริหารพรรคไทยรักษาชาติบางคน ร.ท.ปรีชาพล กล่าวว่า เท่าที่ทราบเป็นปัญหาส่วนตัว เรื่องครอบครัว ไม่มีปัญหา เราเป็นองค์กร ยังมีสมาชิก  กำลังใจ และความพร้อมเต็มที่ในการเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง 

ส่วนที่มีเสียงเรียกร้องให้คณะกรรมการบริหารพรรคลาออก แต่ไม่ลาออกเพราะเหตุใด ร.ท.ปรีชาพล กล่าวว่า เราตั้งใจดี เราปรารถนาดี เชื่อว่าคนไทยทุกคนรักประเทศ และเราคิดว่านี่เป็นทางออกของประเทศ       ..- สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง