เสนอขยายเวลารับฟัง พ.ร.บ.ข้าว

ทีดีอาร์ไอ 11 ก.พ. –  ทีดีอาร์ไอจับมือชาวนา-โรงสี-ผู้ส่งออก ค้านร่าง พ.ร.บ.ข้าว หวั่นกระทบชาวนาปรับปรุงเมล็ดพันธุ์ข้าวไม่ได้ โทษสูงคล้ายก่ออาชญากรรม เสนอขยายเวลารับฟังความเห็นจากทุกฝ่าย


สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีอีอาร์ไอ) จัดสัมมนา “ร่าง พ.ร.บ.ข้าว พ.ศ. … : ทำอย่างไรให้เกิดประโยชน์อย่างแท้จริง”  โดยเชิญสมาคมผู้รวบรวมและจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ข้าว  สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย สมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย สมาคมโรงสีข้าวไทย รวมถึงนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญด้านข้าวเข้าร่วมให้ความเห็น

ในการเสวนาระบุว่าร่างแก้ไข พ.ร.บ.ข้าวนั้น คณะกรรมาธิการวิสามัญเตรียมสรุปเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณาวาระ 2 และวาระ 3 เร็ว ๆ นี้ เห็นว่าร่างแก้ไขดังกล่าวยังมีประเด็นน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะเรื่องการพัฒนาและการค้าเมล็ดพันธุ์ ตามมาตรา 27 กฎหมายให้อำนาจเฉพาะการค้าเมล็ดพันธุ์ที่ได้รับการรับรองจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทำให้ชาวนาที่เก็บเมล็ดพันธุ์หรือข้าวปลูกใช้เองแบบในอดีตจะไม่สามารถทำได้ รวมถึงศูนย์ข้าวชุมชน ซึ่งชาวนารวมกลุ่มกันพัฒนาสายพันธุ์และจำหน่ายเมล็ดพันธุ์จะดำเนินการไม่ได้ เนื่องจากมีบทบัญญัติอัตราโทษสูงถึงจำคุก 1 ปี หรือปรับ 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ


ทั้งนี้ ทางนักวิชาการทีดีอาร์ไอและผู้แทนสมาคมต่าง ๆ ขอให้ สนช.ยืดเวลาออกไปก่อน เพื่อเปิดกระบวนการรับฟังความเห็นจากทุกฝ่ายแก้ไขมาตราสำคัญที่จะก่อให้เกิดความเสียหายต่อวงการข้าว หากพิจารณาไม่ทันสมควรให้รัฐบาลใหม่มาดำเนินการ

นายนิพนธ์ พัวพงศกร นักวิชาการเกียรติคุณทีดีอาร์ไอ กล่าวว่า ตั้งแต่อดีตชาวนาเก็บพันธุ์ข้าวใช้เองคัดเลือกที่มีคุณภาพ ซึ่งเป็นการพัฒนาสายพันธุ์อย่างค่อยเป็นค่อยไปให้เกิดพันธุ์ดี  เช่น ข้าวเสาไห้ ข้าวสังข์หยด ต่างจากการพัฒนาโดยบริษัทผลิตเมล็ดพันธุ์ซึ่งมีเทคโนโลยีต่าง ๆ ดังนั้น หากกำหนดให้ต้องขึ้นทะเบียนรับรองจะส่งผลให้การพัฒนาสายพันธุ์โดยชาวนาไม่สามารถทำได้ต่อไปต้องซื้อจากบริษัทผลิตเมล็ดพันธุ์เท่านั้น

ในวงเสวนายังห่วงใยมาตรา 34 ภายใต้บทเฉพาะกาลที่โอนอำนาจการรับรองพันธุ์ใหม่ให้กรมการข้าว เป็นประเด็นที่มีผลประโยชน์ทับซ้อน เพราะกรมการข้าวเป็นผู้คุมเงินงบประมาณ เป็นผู้วิจัย และเป็นผู้รับรองตัวเอง รวมถึงการกำหนดให้ผู้ประกอบการโรงสี ต้องออกใบรับรองข้าวเปลือก หากพบว่าออกใบรับรองเป็นเท็จจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้อำนาจเจ้าหน้าที่จากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์สามารถเข้าไปตรวจสอบโรงสี โดยไม่ต้องแจ้งล่วงหน้า ทั้งที่หน้าที่นี้ควรเป็นของกรมการค้าภายในและการให้อำนาจนี้เสี่ยงต่อประเด็นการเรียกรับผลประโยชน์ของเจ้าหน้าที่ อีกทั้งอัตราโทษเสมือนเป็นการก่ออาชญากรรรม สำหรับองค์ประกอบของคณะอนุกรรมการด้านการผลิตและคณะอนุกรรมการด้านการตลาดนั้น เห็นว่ามีแต่ข้าราชการโดยตำแหน่ง ขาดในส่วนของผู้เชี่ยวชาญจากสมาคมโรงสี/ผู้ส่งออก อีกทั้งในกระบวนการทำงานยังขาดการบูรณาการด้านงบประมาณ และไม่ได้กำหนดรูปแบบการตรวจสอบติดตามการทำงานเลย


นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า เห็นด้วยกับหลักการตามร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ที่ระบุว่าข้าวเป็นพืชสำคัญของประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม และความมั่นคง แต่ปัจจุบันการทำนากำลังประสบปัญหาทั้งระบบจากการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของ เศรษฐกิจ สังคม เทคโนโลยี สิ่งแวดล้อม มีความเสี่ยงต่อการขาดทุน ปัจจัยการผลิตสูงขึ้น ประสิทธิภาพ และคุณภาพผลผลิตมีแนวโน้มลดลง ส่งผลให้ชาวนามีรายได้ไม่เพียงพอต่อการดำรงชีวิต จึงสมควรปรับปรุง และพัฒนา เพื่อให้กระบวนการผลิตข้าวตลอดห่วงโซ่การผลิตมีความมั่นคง ยั่งยืนอย่างบูรณาการ และเป็นเอกภาพในการบริหารจัดการ ตลอดจนสนับสนุนการรวมกลุ่มของชาวนาเพื่อสร้างความเข้มแข็งตามยุทธศาสตร์ชาติ มีกลไกควบคุมการผลิต และการจำหน่ายข้าวอย่างเป็นระบบ สร้างความเป็นธรรมระหว่างชาวนาและผู้รับซื้อ มีคณะกรรมการข้าวที่มีองค์ประกอบจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันกำหนดนโยบายและยุทธศาสตร์ข้าวของประเทศ เพื่อให้มีการนำไปสู่การปฏิบัติที่มีประสิทธิภาพ ตลอดจนมีระบบที่ให้ความคุ้มครองชาวนาให้ได้รับการปฏิบัติที่เป็นธรรม และรักษาความเป็นอันดับหนึ่งของประเทศที่ส่งออกข้าวมากที่สุดในโลก 

นายกฤษฎา กล่าวเพิ่มเติมถึงข้อกำหนดในร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้ที่ให้ผู้จำหน่ายพันธุ์ข้าวได้ต้องจดทะเบียนนั้น เป็นการจำกัดสิทธิ์ในการขยายพันธุ์ข้าวของชาวนา ซึ่งตามวิถีการทำนามาตั้งแต่ในอดีต ชาวนาจะเก็บเมล็ดพันธุ์ไว้ทั้งใช้เองและจำหน่าย นอกจากนี้ จะเป็นข้อจำกัดการแข่งขันตลาดข้าวในต่างประเทศ เนื่องจากหากมีการพัฒนาสายพันธุ์ข้าวให้หลากหลายโอกาสที่จะได้ข้าวสายพันธุ์ดีเกิดขึ้นใหม่จะมีอย่างต่อเนื่อง จึงควรปล่อยเป็นธรรมชาติ แต่ถ้ามีการหลอกลวงขายเมล็ดพันธุ์ข้าว หรือปลอมปนเมล็ดพันธุ์ข้าว ปัจจุบันมีทั้ง พ.ร.บ. พันธุ์พืช พ.ศ. 2518 ที่กำกับโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมทั้ง พ.ร.บ. ค้าข้าว พ.ศ. 2489 ที่กำกับโดยกระทรวงพาณิชย์ควบคุมดูแลอยู่แล้ว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย

ทำเนียบ 10 มิ.ย.-นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย มอบ รมว.อุตสาหกรรม แก้ปัญหาราคา ก่อนประชุม ครม. ไม่ตอบคำถามสื่อปมเอกสาร รทสช.ขอปรับรัฐมนตรี จับตา ครม. ถกข้อพิพาทไทย-กัมพูชา ก่อนประชุม JBC 14 มิ.ย.นี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีประจำสัปดาห์ โดยก่อนการประชุม ประธานสมาพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย และคณะ เข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อแสดงความขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ให้การสนับสนุนช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อย โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐมนตรีติดตามการแก้ไขปัญหาของเกษตรกรมาโดยตลอด และมารายงานเรื่องนี้อย่างละเอียดอยู่ตลอด ตนทราบปัญหา ทางเกษตรกรจึงเน้นย้ำว่า ปัญหาจะแก้ไขได้ก็ต้องเป็นไปภายใต้การสนับสนุนจากนายกรัฐมนตรี “อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร” นายกรัฐมนตรี จึงไหว้รับขอบคุณ พร้อมกับกล่าวต่อว่า อะไรที่เกิดประโยชน์ต่อประชาชน ก็พร้อมที่จะแก้ไขในทุกเรื่องอยู่แล้ว จึงอยากให้จัดระบบให้ดี เพื่อให้เกิดประโยชน์กับคนทุกกลุ่ม ขณะเดียวกันเกษตรกรยังฝากรัฐบาลให้ไปดูแลในการรับซื้อใบอ้อย เนื่องจากเกษตรกรให้ความร่วมมือในการตัดอ้อยสด ทำให้นายกรัฐมนตรีถึงกับกล่าวแซว โห นี่จริงๆ ทำไมไม่ไปเป็นนักการเมือง ในสภาน่าจะเก่งเรื่องนี้ ทำให้เกษตรกรคนดังกล่าวกล่าวว่าลูกชายของตนเป็นนายก 6 สมัยรวด ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะกล่าวขอบคุณ และขอให้ทุกคน”รวยๆ […]

พญ. สังกัด รพ.ตำรวจ แอบสั่งยาเสียสาว ขายนอกระบบ

กทม. 10 มิ.ย. – ตำรวจ และ อย. ร่วมกันตรวจค้นแฟลตตำรวจ พร้อมคุมตัวแพทย์หญิงสังกัด รพ.ตำรวจ หลังพบหลักฐานสั่งซื้อยาเสียสาว มาขายนอกระบบ ตั้งแต่ปี 65 อ้างชื่อ 11 คลินิก เงินหมุนเวียนกว่า 80 ล้านบาท เตรียมขยายผลต่อถึงผู้เกี่ยวข้อง นายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา, กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ลงพื้นที่แฟลตตำรวจแห่งหนึ่งย่านอารีย์ เขตพญาไท กรุงเทพ โดยได้รับรายงานจากนายแพทย์วิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ว่าพบความผิดปกติในการสั่งซื้อยาอัลปราโซแลม หรือยานอนหลับ หรือ ยาเสียสาวที่ทำให้หลับและเคลิ้มไป ในทางสืบสวนสอบสวน พบว่า หมอคนนี้ สั่งซื้อยาจาก อย. ตั้งแต่ปี 2565-2568 15 ล้านบาท ทาง อย. เห็นความผิดปกติ จึงพูดคุยกับตำรวจและตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบมีการแอบอ้าง 11 คลินิกในการสั่งซื้อยา […]

สามียิงภรรยาดับคารถ ซอยเพชรเกษม 67

กทม. 10 มิ.ย. – ตำรวจปิดล้อมจับกุมสามีวัย 40 ยิงภรรยาวัย 36 เสียชีวิตคารถ ก่อนหนีไปหลบในบ้าน ซอยเพชรเกษม 67 ตรวจค้นที่เกิดเหตุพบอาวุธปืน 3 กระบอก ตำรวจ สน.เพชรเกษม รับแจ้งเหตุ พบศพภายในรถเก๋ง HRV ทะเบียนกรุงเทพมหานคร จอดอยู่ภายในซอยเพชรเกษม 67 แยก 8 เบื้องต้น ทราบชื่อผู้ก่อเหตุ คือ นายมีพาพัฒน์ อายุ 40 ปี สามี ส่วนผู้เสียชีวิต น.ส.นันทิชา อายุ 36 ปี ภรรยา ตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่า ผู้ก่อเหตุยังอยู่ภายในบ้านพัก จึงตรึงกำลังปิดล้อมบ้านพักซึ่งลักษณะเป็นทาวน์เฮาส์ ระหว่างนั้นญาติของผู้ตายได้เดินทางมาเพื่อสอบถามเหตุ ทันทีที่รับรายงานจากตำรวจ ญาติก็มีสีหน้าเครียด น้ำตาคลอ ให้ข้อมูลว่านายมีพาพัฒน์ คบหากับผู้เสียชีวิตมาเป็นเวลาหลาย 10 ปี มีลูกด้วยกัน 3 คน ตำรวจปิดล้อมพื้นที่นานกว่า […]

ตั้งค่าหัว 1 แสน ไล่ล่าอดีตสามีโหดฆ่า 2 ศพ

เชียงราย 9 มิ.ย. – ญาติสุดแค้น ตั้งค่าหัว 100,000 บาท ล่าอดีตสามีโหดฆ่า 2 ศพ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังค้นหายังไร้ร่องรอย เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 32 (ตชด.32) นำ “โทมี่” สุนัขตำรวจ K9 พันธุ์ลาบราดอร์ เข้าร่วมภารกิจติดตามจับกุมนายซ้งปอ อายุ 55 ปี คนร้ายก่อเหตุฆ่าโหดอดีตภรรยาและน้องชายอดีตภรรยาเสียชีวิต ในพื้นที่บ้านร่มฟ้าผาหม่น หมู่ 15 ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 และ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา ก่อนหลบหนีเข้าป่าดอยผาหม่น ซึ่งเป็นภูเขาสูงชันและเต็มไปด้วยถ้ำและซอกเขา ทำให้ภารกิจไล่ล่ายากลำบาก แม้ใช้โดรนตรวจจับความร้อนทั้งกลางวันและกลางคืนก็ยังไม่พบตัว นายสุรชัย ผู้ใหญ่บ้านร่มฟ้าผาหม่น เปิดเผยว่า นายซ้งปอเป็นคนพื้นที่และมีความชำนาญเส้นทางป่า เคยหลบซ่อนตัวในป่านานถึง 2 เดือน โดยไม่มีใครเจอ และเป็นบุคคลอันตรายต่อเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปค้นหา ก่อนหน้านี้นายซ้งปอเคยขู่ฆ่าผู้นำชุมชนและชาวบ้านที่เคยมีส่วนไกล่เกลี่ยให้แยกทางกับภรรยา สร้างความหวาดผวาให้กับชาวบ้านในพื้นที่ ขณะนี้เหลือประชาชนอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเพียง 20-30% ส่วนที่เหลือพากันอพยพไปอยู่กับญาติในหมู่บ้านข้างเคียง เพื่อความปลอดภัย […]

ข่าวแนะนำ

เปิดภาพความจริง! อดีต-ปัจจุบันชายแดนช่องบก

11 มิ.ย. – ‘กองทัพไทย’ เปิดภาพถ่ายแผนที่ทางอากาศ ชายแดนช่องบก อุบลราชธานี เปรียบเทียบอดีต-ปัจจุบัน พบการทำกิจกรรมทางทหาร-ขุดคูเลต-ทำถนนส่งกำลังบำรุง ก่อนเหตุปะทะช่องบก 28 พ.ค.2568 ทีมโฆษกกองทัพไทย เปิดข้อมูลแผนที่ทางอากาศ จัดทำโดยกองบัญชาการกองทัพไทย จากกรณีไทย และกัมพูชา มีข้อสังเกตหลายประเด็นที่ปรากฏในภาพถ่ายทางอากาศตรงจุดปะทะ โดยภาพถ่ายทางอากาศ เริ่มตั้งแต่ปี 2497 ช่วงแรกถ่ายไว้จนถึงปี 2520, 2527 และมีการถ่ายภาพทางอากาศอย่างต่อเนื่อง ส่วนกรณีที่อ้างถึงการยึดครอง และใช้ชีวิตในพื้นที่ที่มีปัญหานานมากแล้วนั้น หากมองตามภาพถ่ายทางอากาศ จะยืนยันได้ว่า ไม่มีการเข้าไปใช้พื้นที่อย่างที่อ้าง ข้อมูลของกองทัพไทย ยังได้เปรียบเทียบเส้นสีแดงในแผนที่ เป็นเส้นแนวที่ไทยยึดถือ ใช้แบ่งแนวเขตระหว่างไทย กัมพูชา และลาว ส่วนจุดปะทะที่เกิดขึ้นนั้น เป็นพื้นที่ที่เข้ามาทางฝั่งไทย ทั้งนี้ กองทัพไทยยังมีการถ่ายทางอากาศต่อเนื่องยาวมาถึงปี 2539, 2546, 2553 และ 2561 เป็นที่สังเกตได้ว่า ช่วง 70 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2497 ไม่มีใครเข้ามาถือครอง และใช้ชีวิตในพื้นที่นั้น หากมองถึงกิจกรรมของประเทศเพื่อนบ้านที่ประเด็นในปัจจุบันนั้น เห็นได้อย่างชัดเจนตามภาพถ่ายทางอากาศว่า มีการเคลื่อนไหวทางการทหารที่แตกต่าง […]

Los Angeles mayor issues curfew for downtown Los Angeles

นายกฯ เล็กแอลเอประกาศเคอร์ฟิว

ลอสแอนเจลิส 11 มิ.ย.- นางแคเรน แบสส์ นายกเทศมนตรีนครลอสแอนเจลิส (LA) ประกาศมาตรการห้ามออกนอกเคหสถานหรือเคอร์ฟิว ย่านใจกลางเมือง หลังจากมีการทำลายทรัพย์สินในวงกว้างจากเหตุประท้วงต่อต้านเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง นางแบสส์แถลงว่า เคอร์ฟิวจะมีผลครอบคลุมพื้นที่ในรัศมี 1 ตารางไมล์หรือราว 2.6 ตารางกิโลเมตรจากย่านใจกลางเมือง ตั้งแต่เวลา 20.00 น.วันที่ 10 มิถุนายนจนถึงเวลา 06.00 น.วันที่ 11 มิถุนายนตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งช้ากว่าไทย 14 ชั่วโมง  ก่อนหน้านี้เธอย้ำระหว่างการแถลงข่าวว่า เหตุไม่สงบเกิดขึ้นอย่างจำกัดในบางพื้นที่เท่านั้น ผู้ชุมนุมส่วนใหญ่ประท้วงอย่างสันติ มีเพียงกลุ่มปลุกปั่นกลุ่มเล็ก ๆ เท่านั้นที่ก่อเหตุรุนแรงและฉกชิงทรัพย์สิน การประท้วงในแอลเอเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 6 มิถุนายน เมื่อเจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรของสหรัฐหรือไอซ์ (ICE) กวาดจับผู้อพยพลอบเข้าเมือง กระทรวงความมั่นคงมาตุภูมิแจ้งเมื่อวันที่ 9 มิถุนายนว่า ไอซ์จับกุมผู้ลอบเข้าเมืองได้วันละ 2,000 คน มากกว่าสมัยรัฐบาลโจ ไบเดนที่จับกุมเฉลี่ยวันละ 311 คนในปีงบประมาณ 2567 ตำรวจแจ้งว่า เมื่อวานนี้จับกุมผู้ชุมนุม 197 คน […]

นายกฯ ลงพื้นที่ จ.สุรินทร์ ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา

ดอนเมือง 11 มิ.ย.- นายกฯ ลงพื้นที่ จ.สุรินทร์ ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมให้กำลังใจกำลังพล กองกำลังสุรนารี และพบปะประชาชนที่ด่านช่องจอม นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม, นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และพลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปยังท่าอากาศยานบุรีรัมย์ ตำบลร่อนทอง อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อลงพื้นที่ตรวจราชการที่จังหวัดสุรินทร์ ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา จากนั้น เวลา 11.05 น. นายกรัฐมนตรี เดินทางต่อไปเป็นประธานประชุมติดตามสถานการณ์การคลี่คลายปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา และมาตรการสนับสนุนและช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ 7 จังหวัดชายแดน ณ ห้องประชุมอัมพรพิมาน โรงพยาบาลกาบเชิง อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ก่อนที่ นายกรัฐมนตรี […]

เปิดปมสามียิงภรรยาดับคารถ ปัญหาเรื่องเงิน

กทม. 11 มิ.ย. – เปิดปมเหตุสามียิงภรรยาดับคารถ พี่ชายกับเพื่อนรุ่นน้องเผยว่าผู้ก่อเหตุมีปัญหาเรื่องเงิน พบช่วง 4-5 เดือนที่ผ่านมา พฤติกรรมเริ่มเปลี่ยนไป จากกรณีนายมีนาพัฒน์ อายุ 40 ปี ก่อเหตุยิงนางสาวนันทิชา อายุ 36 ปี ภรรยาของตัวเอง แล้วทิ้งศพไว้ในรถ ในซอยเพชรเกษม 67 แยก 8 เขตบางแค และหลังก่อเหตุปิดล็อกประตูเงียบอยู่ในบ้านพัก เจ้าหน้าที่ล้อมจับนาน 4 ชั่วโมง จนยอมมอบตัวเมื่อคืนวานนี้ (10 มิ.ย.) ต่อมาพี่ชายของนายมีนาพัฒน์ มาเยี่ยมผู้ก่อเหตุที่ สน.เพชรเกษม เปิดใจยอมรับว่าสาเหตุส่วนใหญ่มาจากปัญหาเรื่องเงิน เมื่อช่วงเดือนเมษายน น้องสะใภ้ (ผู้ตาย) บอกว่า น้องชายนำบ้านที่แม่ยกให้เป็นมรดกไปเข้าธนาคาร 2 ล้านกว่าบาท ซึ่งผิดจากปกติที่น้องไม่เคยมีปัญหาเรื่องเงินมาก่อน เพราะแม่ยกสมบัติให้เยอะมาก ครั้งสุดท้ายที่คุยกับน้องชายคือเมื่อวานนี้ช่วง 19.30 น. น่าหลังจากก่อเหตุฆ่าภรรยาแล้ว คุยกันประมาณครึ่งชั่วโมงสังเกตได้ว่าน้องชายมีอาการสับสน พูดไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่มีบางประโยคที่น้องชายพูดออกมาแล้วรู้สึกหงุดหงิดใจ เรื่องบ้านที่แม่ยกให้เป็นมรดก บอกว่า “บ้านหลังนี้ครอบครัวเราจะต้องได้อยู่” […]