fbpx

NIA ปรับแนวทางส่งเสริมสตาร์ทอัพไทย

กรุงเทพฯ 11 ก.พ. – สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA ปรับแนวทางสนับสนุนผู้ประกอบการและสตาร์ทอัพไทยด้วย “Groom Grant Growth” มั่นใจยกระดับผู้ประกอบการและสตาร์ทอัพไทยแข็งแกร่งขึ้น


นายพันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแหงชาติ (องค์การมหาชน) เปิดเผยว่า NIA ตระหนักดีว่าการกลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพเป็นกลุ่มที่มีบทบาทสำคัญต่อการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจของประเทศ รวมทั้งช่วยสร้างและพัฒนารูปแบบบริการและผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่ศักยภาพทางการแข่งขันที่ยั่งยืนในอนาคตในปีนี้ NIA จึงได้เร่งปรับแผนงานและแนวทางสนับสนุนให้สอดคล้องกับความต้องการในปัจจุบัน และเป็นการเพิ่มโอกาสการเข้าถึงการสนับสนุนในกลุ่มผู้ประกอบการและสตาร์ทอัพอีกด้วย โดยขณะนี้ถือว่ามีความพร้อมทั้งในด้านบุคลากร โครงการ และปัจจัยที่จำเป็นสำหรับการสนับสนุนครบทุกมิติ ถือเป็นอีกหนึ่งโอกาสสำคัญที่จะช่วยให้ความสามารถทางนวัตกรรมของผู้ประกอบการและสตาร์ทอัพไปถึงเป้าหมายได้รวดเร็วขึ้น

อย่างไรก็ตาม การพัฒนารูปแบบการส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจนวัตกรรมด้านเศรษฐกิจ ผู้ประกอบการและสตาร์ทอัพที่จะเข้ามาขอรับการสนับสนุนจะต้องผ่านการอบรมบ่มเพาะ (Groom) ในโปรแกรมนวัตกรรมสำหรับผู้ประกอบการหรือสตาร์ทอัพ เพื่อติวเข้มเรียนรู้และเข้าใจมุมมองด้านนวัตกรรมพร้อมเทคนิคแนวทางการเขียนข้อเสนอโครงการนวัตกรรมเพื่อขอรับการสนับสนุนด้านเงินทุน (Grant) ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ 1.ธุรกิจนวัตกรรมมุ่งเป้าในวงเงินสูงสุดไม่เกิน 5 ล้านบาท ผ่าน 6 สาขา ได้แก่ ธุรกิจนวัตกรรมการดูแลสุขภาพ ธุรกิจนวัตกรรมอาหารออกแบบสำหรับโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ธุรกิจนวัตกรรมสมุนไพรเพื่อกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ธุรกิจนวัตกรรมอุตสาหกรรมป้องกันประเทศเพื่อความมั่นคงและกิจการพลเรือน ธุรกิจนวัตกรรมท่องเที่ยว และธุรกิจนวัตกรรม Smart Logistic/อุตสาหกรรมการผลิตที่ใช้เทคโนโลยี IoT ซึ่งกำลังเปิดรับข้อเสนอโครงการตั้งแต่วันนี้จนถึง 31 มีนาคม 2562 


2. ธุรกิจนวัตกรรมแบบเปิด ในวงเงินสูงสุดไม่เกิน 1.5 ล้านบาท ผ่าน 3 สาขา ได้แก่ เศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจการผลิตและการหมุนเวียน และเศรษฐกิจบริการและแบ่งปัน โดยมุ่งพัฒนาธุรกิจนวัตกรรมในพื้นที่ส่วนกลางและระดับภูมิภาค ตั้งแต่พื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคใต้ และภาคใต้ชายแดน ทั้งผู้ประกอบการกลุ่มธุรกิจนวัตกรรม และสตาร์ทอัพ เน้นการพัฒนาธุรกิจนวัตกรรมที่สอดรับกับไลฟ์สไตล์ใหม่ๆ ผ่านการเชื่อมโยงเครือข่ายในด้านเทคโนโลยีและการเงิน สำหรับผู้ประกอบการหรือสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพในการขยายผลจะส่งต่อผ่านการพัฒนาธุรกิจนวัตกรรมผ่านเครือข่ายความร่วมมือระหว่างประเทศ (Growth) เช่น โครงการพัฒนาศักยภาพวิสาหกิจเริ่มต้นสู่การลงทุน การพัฒนาความร่วมมือด้านนวัตกรรมกับหน่วยงานต่างประเทศ โครงการพัฒนาการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐสำหรับวิสาหกิจ (GPT) และกลไกการสนับสนุนด้านการเสริมสร้างศักยภาพด้านนวัตกรรม (Mind Credit)

ทั้งนี้ การส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจนวัตกรรมเพื่อสังคม จะมีการดำเนินการสนับสนุนในลักษณะเดียวกับการพัฒนาธุรกิจนวัตกรรมด้านเศรษฐกิจ แต่จะมีการอบรมบ่มเพาะผู้ประกอบการผ่านเครือข่ายที่เรียกว่า “หน่วยขับเคลื่อนนวัตกรรมเพื่อสังคม (Social Innovation Driving Unit)” ที่กระจายอยู่ใน 5 ภูมิภาค ทั้งภาคเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือ กลาง ตะวันออก และใต้ เพื่อส่งต่อมายังส่วนการสนับสนุนด้านเงินทุน โดยแบ่งเป็น 1.ธุรกิจนวัตกรรมเพื่อสังคมแบบมุ่งเป้า ในวงเงินสูงสุดไม่เกิน 1.5 ล้านบาท จะเน้นการแก้ปัญหาด้านสังคมปัญหาใดปัญหาหนึ่ง โดยนำนวัตกรรมรูปแบบต่างๆ ที่มีการพัฒนาต้นแบบหรือโมเดลที่สำเร็จแล้วให้สามารถกระจายสู่ชุมชน หรือองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น มุ่งเน้นให้เกิดการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำในจังหวัดยากจนของประเทศ หรือพื้นที่เป้าหมายนำร่อง ซึ่งองค์กรที่ได้รับคัดเลือกจะได้รับเงินสนับสนุนเพื่อนำไปดำเนินการจริงในพื้นที่ โดยมีโจทย์ที่สำคัญ ได้แก่ โครงการหมู่บ้านนวัตกรรมเพื่อสังคม หรือ Social Innovation Village ที่มุ่งแก้ไขปัญหา 3 พื้นที่เป้าหมาย ได้แก่ ชุมชนเมืองจัง อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน ชุมชนอุ้มผาง อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก และชุมชนหนองมะโมง อำเภอหนองมะโมง จังหวัดชัยนาท 

นอกจากนี้ ยังมีการเปิดรับข้อเสนอโครงการนวัตกรรมสำหรับเมืองและชุมชนตั้งแต่วันนี้ถึง 30 เมษายน 2562 ในหัวข้อนวัตกรรมการจัดการความเสี่ยงภัยพิบัติ นวัตกรรมบริการสาธารณะ และการยกระดับคุณภาพชีวิตของกลุ่มเปราะบาง ซึ่งนับว่าเป็นการพัฒนาโครงการนวัตกรรมเพื่อสังคมแบบมุ่งเป้าอีกรูปแบบหนึ่งที่เน้นแก้ปัญหาสังคมเมืองและชุมชนในหัวข้อที่เป็นประเด็นสำคัญในแต่ละปี และ 2.ธุรกิจนวัตกรรมเพื่อสังคมแบบเปิด ในวงเงินสูงสุดไม่เกิน 1.5 ล้านบาท ผ่าน 9 ด้าน ได้แก่ ด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ด้านความเชื่อมโยงระหว่าง อาหาร น้ำ และพลังงาน ด้านภาครัฐและการศึกษา ด้านการเงิน การจ้างงาน และสวัสดิการสังคม ด้านเกษตรกรรมยั่งยืน ด้านความเป็นเมือง ด้านสุขภาพ ด้านการท่องเที่ยวและวัฒนธรรม และ ด้านการจัดการภัยพิบัติ ส่วนธุรกิจ 


อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันไทยมีกลุ่มผู้ประกอบการและสตาร์ทอัพที่เข้าระบบ 750 ราย แต่ยังไม่ได้เข้าระบบมากกว่า 8,000 ราย ที่ยังไม่มีความพร้อมมากนัก แต่ทางสำนักงาน ก็จะพยายามส่งเสริมและดึงกลุ่มเหล่านี้ให้มาเป็นผู้ประกอบการและสตาร์ทอัพมากขึ้นในอนาคต และทางสำนักงานคาดหวังภายใน 10 ปีนี้จะมีกลุ่มผู้ประกอบการและสตาร์ทอัพเข้ามาร่วมเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 3,000 รายและเชื่อว่าจะเพิ่มมากขึ้นได้แน่นอน โดยยอมรับว่า สาเหตุที่ผู้ประกอบการและสตาร์ทอัพยังเข้าระบบน้อยและไม่ค่อยผ่านเมื่อเข้ามาสมัคร คือ มักไม่ค่อยจัดทำรูปแบบของกิจการตนเองแบบมีรายละเอียดจึงไม่ค่อยจะเข้าเกณฑ์ของสำนักงานเท่าที่ควร ดังนั้น เชื่อว่ากิจกรรมที่สถาบันปรับแนวทางครั้งนี้จะเป็นประโยนช์อย่างมาก โดยผู้ที่สนใจรายละเอียด สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) โทรศัพท์ 02-0175555 เว็บไซต์ www.nia.or.th หรือ facebook.com/niathailand

น.ส.กมณฑกร แก้ววิเศษ กรรมการผู้จัดการ บริษัทไบโอเวิลด์ จำกัด ผู้ผลิตยาทาแผลเบาหวานจากตำรับยาสมุนไพรไทย กล่าวว่าทางบริษัทได้เข้าร่วมกับทางสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติมา 2-3 ปีแล้ว และผลิตภัณฑ์ของบริษัทได้รับการตอบรับจากกลุ่มที่เป็นเบาหวานไม่น้อย ดังนั้น คาดว่า กรณีที่สำนักงานฯมีหลักเกณฑ์ให้สินเชื่อเพิ่มในครั้งนี้จะเป็นการต่อยอดได้ และคาดหวังอยากให้ภาครัฐเพิ่มแนวทางการส่งเสริมให้กับกลุ่มผู้ประกอบการและสตาร์ทอัพอย่างต่อเนื่อง

น.ส.ณิรุบล เสถียววรากรณ์ ผู้บริหารบริษัทเบลส์ โพรดักส์ ออฟ เอเชีย จำกัด ผู้ผลิตเวชสำอางออร์แกนิคจากสะเดา สำหรับผู้ที่มีอาการแพ้ทางผิวหนัง กล่าวว่า ตัวผลิตภัณฑ์ที่บริษัทจัดทำขึ้นมาจากทางบ้านเป็นคนไข้มาก่อน แต่เมื่อคิดค้นสูตรและได้ออกผลิตภัณฑ์มาแล้วโดยเป็นการสกัดจากออร์แกนนิกไม่ใช้สารเคมีใดๆทำให้สินค้าเป็นที่ยอมรับของคนไทยและต่างชาติต่อเนื่อง จึงได้เข้ามาร่วมเป็นสตาร์ทอัพกับทางสำนักงานฯแล้ว 2-3 ปีที่ผ่านมาและเชื่อว่าโอกาสที่ผลิตภัฌฑ์ของบริษัทจะเติบโตได้มาก แต่ยอมรับว่าการขยายกิจการจำเป็นต้องมีทุนสนับสนุน จึงเป็นโอกาสที่ทางสำนักงานมีโครงการต่อยอดสินค้าและอยากให้หน่วยงานภาครัฐมีแนวทางสนับสนุนต่อเนื่องเพื่อให้สินค้าไทยเป็นยอมรับของตลาดทั่วโลกได้ต่อไป . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พายุฤดูร้อนถล่ม 31 จังหวัด ฝนฟ้าคะนอง-ลมแรง

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 5 ฝนฟ้าคะนอง-ลมกระโชกแรง วันนี้ (3 พ.ค.) ได้รับผลกระทบ 31 จังหวัด ในภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง

เศร้ารับวันแรงงาน! โรงงานประกาศปิดกิจการกะทันหัน

พนักงานโรงงานผลิตกระจกเก่าแก่ใน อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ ยื่นคำร้องต่อสำนักงานสวัสดิการฯ จ.สมุทรปราการ ให้นายจ้างจ่ายชดเชยตามกฎหมาย หลังโรงงานติดประกาศปิดกิจการและเลิกจ้างพนักงานทั้งหมด

ข่าวแนะนำ

รมต.ใหม่ถ่ายภาพทำบัตร ก่อนเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ฯ

ทำเนียบคึกคัก รมต.ใหม่ถ่ายภาพทำบัตร ก่อนเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ ขณะที่นายกฯ ลงมาทักทาย “ครม.เศรษฐา 1/2” เตรียมถ่ายรูปหมู่หน้าตึกไทยฯ ก่อนประชุม ครม.ชุดใหม่ นัดแรก 7 พ.ค.นี้

อดีตตำนานหงส์แดงยินดีช่วยพีอาร์ไทยผ่านฟุตบอล

3 อดีตตำนานหงส์แดง เข้าพบนายกฯ ประทับใจประเทศไทย ยินดีเป็นส่วนหนึ่งในการประชาสัมพันธ์ไทยสู่สายตาชาวโลกผ่านกีฬาฟุตบอล

ไฟไหม้โกดังพื้นที่ภาชี คุมเพลิงได้แล้ว 100%

เหตุไฟไหม้โกดังเก็บสารเคมี อ.ภาชี ผู้ว่าฯ อยุธยา ยืนยันคุมเพลิงได้ 100% แล้ว จ่อตรวจสอบชนิดของสารเคมี หาสาเหตุเพลิงไหม้ ด้าน รพ.ภาชี ยังปิดต่อเนื่อง รอให้แน่ใจไฟไม่ปะทุซ้ำ