อนาคตใหม่ แถลงเรียกร้องนายกรัฐมนตรี ลาออกจากตำแหน่ง

อาคารไทยซัมมิททาวเวอร์ 8 ก.พ.-พรรคอนาคตใหม่แถลงการณ์ เรียกร้อง นายกรัฐมนตรี ลาออกจากตำแหน่ง เหตุมีผลประโยชน์ทับซ้อน


นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค พร้อมด้วยแกนนำพรรค ร่วมแถลงจุดยืนของพรรคอนาคตใหม่ จากกรณีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐและพรรคไทยรักษาชาติ ณ ที่ทำการพรรคอนาคตใหม่ ชั้น 7 อาคารไทยซัมมิททาวเวอร์


นายธนาธร กล่าวว่า พรรคได้ประชุมกันเพื่อหาทางเลือกในการแถลงจุดยืนที่ดีที่สุดแล้วในวันนี้ ด้านนายปิยบุตร อ่านแถลงการณ์ว่า เรียกร้องให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ลาออกจากตำแหน่ง ด้วยเหตุผลการดำรงตำแหน่งทั้งสองตำแหน่งไม่สามารถเทียบได้กับบรรทัดฐานสากล เนื่องจากรัฐธรรมนูญฉบับ คสช. ยังคงให้มีอำนาจเต็ม และใช้ ม.44 ไม่ใช่รัฐบาลเฉพาะกาลที่มีอำนาจจำกัด นอกจากนี้หัวหน้า คสช. ยังมีอำนาจต่อรัฐสภา แต่งตั้ง ส.ว. ที่ส่งผลต่อการลงคะแนนเลือกนายกรัฐมนตรี ในรัฐสภาหลังการเลือกตั้ง จึงมองว่า พลเอกประยุทธ์ มีผลประโยชน์ทับซ้อน ทำให้การเลือกตั้งไม่สามารถดำเนินไปได้อย่างเสรีและเป็นธรรม

2. พรรคอนาคตใหม่ ยืนยันเสนอชื่อ นายธนาธร หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เป็นบัญชีรายชื่ออันดับที่ 1 ของพรรคเพื่อเป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อหยุดการสืบทอดอำนาจ คสช., แก้รัฐธรรมนูญปี 2560, ลบล้างผลพวงจากอำนาจรัฐประหาร และพรรคอนาคตใหม่เชื่อว่าการเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบอบประชาธิปไตย และบรรลุข้อเสนอทั้ง 3 ข้อ จะเป็นไปได้โดยแนวทางที่มั่นคงในหลักการประชาธิปไตยที่ประชาชนต้องถูกรวมเข้าไปในกระบวนการตัดสินใจทางการเมือง, ผลประโยชน์ของประชาชนจะต้องไม่ถูกลืมและสิทธิเสรีภาพของประชาชนต้องได้รับการค้ำประกัน ซึ่งจากประสบการณ์ที่ผ่านมา พิสูจน์แล้วว่าการตกลงรอมชอมกันเองระหว่างชนชั้นนำ ไม่สามารถแก้ไขปัญหาทางการเมืองได้

3. ผลพวงของการทำรัฐประหารเป็นการ ปูทางไปสู่การ สืบทอดอำนาจของคณะของคณะรัฐประหารผ่านรัฐธรรมนูญปี 2560 ที่เปิดช่องให้พรรคการเมือง สามารถเสนอชื่อบุคคลที่ไม่ได้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นนายกรัฐมนตรีได้ พรรคอนาคตใหม่เห็นว่าพรรคการเมืองที่ยืนหยัดกับหลักการประชาธิปไตยจะต้องยึดถือหลักการนายกรัฐมนตรีต้องเป็น ส.ส.


4. การเลือกตั้งครั้งนี้จะต้องดำเนินไปอย่างเสรี เป็นธรรมและแข่งขันกันอย่างเสมอภาคเท่าเทียม ทั้งบุคคล สื่อมวลชน ผู้สมัครการเลือกตั้งและพรรคการเมืองทุกพรรค ต้องมีเสรีภาพในการแสดงออก ซึ่งความคิดเห็นอย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องเผชิญกับอุปสรรคขัดขวางในทางกฎหมายและในทางประเพณี ค่านิยม เพื่อให้การเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นกระบวนการสำคัญในการเปลี่ยนผ่านไปสู่ประชาธิปไตย 

5. พรรคอนาคตใหม่ มีความพร้อมกับการเลือกตั้งวันที่ 24 มีนาคม 2562 ทั้งในด้านบุคคลที่เหมาะสมเป็นนายกรัฐมนตรี, บุคคลที่เหมาะสมเป็นรัฐมนตรีผู้สมัคร ส.ส. ตลอดจนนโยบายของพรรค ที่มุ่งแก้ปัญหาโครงสร้างทั้งระบบ เรายืนยันว่า หากพรรคอนาคตใหม่ได้เสียงข้างมากเพียงพอ พร้อมจะเป็นรัฐบาล และนายธนาธร ก็พร้อมเป็นนายกรัฐมนตรี แต่หากเกิดกรณีจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติที่รวบรวมทุกพรรคการเมืองเข้าด้วยกันพรรคอนาคตใหม่ก็พร้อมเป็นฝ่ายค้านไม่ใช่เพียงเพราะว่ารัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 106 บังคับให้ต้องมีผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรเท่านั้น แต่ประชาธิปไตยในระบบรัฐสภา จำเป็นต้องมีฝ่ายค้านที่คอยตรวจสอบการใช้อำนาจของรัฐบาลด้วย

จากนั้นเป็นช่วงตอบคำถามของสื่อมวลชน เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีหากเสียงทั้งสองฝ่ายสูสีกัน พรรคอนาคตใหม่ต้องเลือกระหว่างพรรคไทยรักษาชาติ และพรรคพลังประชารัฐ จะร่วมงานกับพรรคใด นายปิยบุตร กล่าวว่า พรรคขอยืนยันในจุดยืนทั้ง 3 ข้อ ที่จะเป็นปัจจัยหลักในการจะร่วมรัฐบาลกับพรรคใดในอนาคต

“หลักการคือยุติการสืบทอดอำนาจ คสช.และการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ลบล้างผลพวงรัฐประหาร หลักการนี้อยู่ในแถลงการณ์จะเป็นการตัดสินใจในอนาคต โดยยึดหลัก จาก 3 ข้อนี้ และเรายังมั่นใจว่าเราจะได้เสียงในสภามากเพียงพอ” นายปิยบุตร กล่าว

เมื่อถามถึงการเสนอชื่อแคนดิเดตของพรรคไทยรักษาชาติ จะแสดงถึงมีความไม่เสมอภาคในการแข่งขันหรือไม่ นายปิยบุตร กล่าวย้ำว่า ได้ยืนยันในแถลงการณ์ไปแล้วว่าการแข่งขันต้องเท่าเทียม เสรีและเสมอภาค บุคคลที่เข้าสู่แวดวงทางการเมือง ก็จะถูกอภิปราย มีการโต้เถียงโต้แย้งและถกเถียงกันได้ในสภาตามระบอบประชาธิปไตย ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่ายินดี ที่ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯ เขียนในไอจี ว่า ไม่นิยมชมชอบระบบอภิสิทธิ์ ซึ่งถือว่าเป็นการแสดงให้เห็นว่าจะเป็นการแข่งขันที่เสรีและเป็นธรรม ทุกคนต้องถูกวิพากษ์วิจารณ์ เมื่อเข้าสู่การแข่งขันที่เป็นระบอบประชาธิปไตย เมื่อถามว่าสามารถร่วมงานกับพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ นายปิยบุตร กล่าวอย่ากังวลในส่วนของพรรค แต่มองว่าพรรคประชาธิปัตย์จะสามารถร่วมงานกับพรรคอนาคตใหม่ได้หรือไม่

เมื่อถามว่าจะสามารถร่วมงานกับพรรคที่มีการเสนอคนนอกมาเป็นนายกรัฐมนตรีได้หรือไม่ นายปิยบุตร กล่าวว่า พรรคอนาคตใหม่ จะยืนอยู่บนหลักทั้ง 3 ข้อ มั่นใจจะได้เสียงในสภา และเสนอหัวหน้าพรรคเป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมยืนยันว่านายกรัฐมนตรีจะต้องเป็นส.ส.

เมื่อถามว่ากรณีแคนดิเดตไทยรักษาชาติ เสนอนายกรัฐมนตรีคนนอก จะสามารถร่วมงานกันได้หรือไม่ นายปิยบุตร กล่าวว่าคำตอบของคำถามนี้ง่ายมาก คือเลือกพรรคอนาคตใหม่

เมื่อถามว่ามองอย่างไรที่ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯ ตอบรับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี ถือเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่หรือไม่ นายธนาธร กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในเช้าวันนี้ คือการเซตซีโร่ และการแบ่งสีเสื้อในอดีต ไม่สามารถอธิบายถึงความขัดแย้งได้อีกต่อไปแล้ว 

การเซตซีโร่ คือ การเปิดโอกาสให้ประชาชนได้เลือกการเมืองใหม่ๆ ส่วนการเซตซีโร่จะนำไปสู่การปรองดองได้หรือไม่นั้น ตนไม่เชื่อว่า ประชาธิปไตย จะสามารถสร้างได้โดยการพูดคุยเจรจาต่อรองกันระหว่างชนชั้นนำ แต่เชื่อว่าประชาธิปไตยที่เข้มแข็งและยังยืนต้องมีประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม ร่วมกันออกแบบ จะสามารถหาทางออกให้กับประเทศไทยได้

นายธนาธร ยังกล่าวยืนยันว่า ตนไม่ทราบว่า จณะนี้มีการต่อรองเรื่องผลประโยชน์กันระหว่างกลุ่มคนชั้นนำหรือไม่ แต่พรรคยืนยันว่าไม่เคยมีการเจรจาต่อรองใดๆ กับพลเอกประยุทธ์ นายทักษิณ คุณหญิงสุดารัตน์ และนายสุริยะ แต่อย่างใด ส่วนคนอื่นตนไม่สามารถรู้ได้ว่ามีการหารือกันหรือไม่ เมื่อถามถึงการหาเสียงหลังจากนี้ นายปิยะบุตร กล่าวเสริมว่า พรรคได้แถลงจุดยืนไปแล้ว มองว่า แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ควรเสมอภาคกัน ทั้งต่อหน้ากฎหมาย ควรเสมอภาคกันต่อประชาชน และขอให้มองแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ให้เป็นเรื่องปกติ ที่ทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎกติกาเดียวกันในการเลือกตั้ง ซึ่งเชื่อว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะทำให้ประเทศเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตย ในสภาวะปกติ 

ทั้งนี้มองว่าทุกคนไม่ควรพูดถึงเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลในตอนนี้ เพราะจะเป็นการดูถูกประชาชน ขอให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจ และในส่วนของพรรคมั่นใจว่าจะได้เสียงสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบแล้วบ้าน “พระอลงกต” ที่ขอนแก่น ชาวบ้านเผยเป็นคนใจดี

ขอนแก่น 25 ส.ค. – พบแล้วบ้านของ “พระอลงกต” ใน อ.เมือง จ.ขอนแก่น ตรวจสอบพบเป็นบ้านพักข้าราชการของกรมทางหลวง ชาวบ้านเผย “พระอลงกต” เป็นคนใจดี กลับมาแจกเงินทุกปี พอเห็นข่าวรู้สึกตกใจและสงสาร เพราะเที่เคยสัมผัสเป็นคนใจดี ทีมข่าวตรวจสอบข้อมูลเพื่อตามหาบ้านของพระอลงกต รู้ว่าเป็นคน จ.ขอนแก่น ตั้งแต่กำเนิด สืบค้นที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน พบระบุว่าบ้านเกิดของหลวงพ่ออลงกต อยู่ใน อ.เมือง จ.ขอนแก่น ตรวจสอบพบว่าเป็นบ้านพักข้าราชการของกรมทางหลวง และไปพบบ้านของพ่อเฉย พ่อของพระอลงกต ซึ่งทุกคนไม่ได้เรียกว่าพระอลงกต แต่จะคุ้นเคยเรียกกันว่าพระจอร์จ และนิสัยของพระพระอลงกตมีแต่เรื่องราวดีๆ มอบให้กับสังคม พระอลงกตจะแวะเวียนมาบอกบุญเสมอปีละครั้ง ในช่วงวันเกิดที่โรงเรียนแก่นนคร ที่พระอลงกตเคยศึกษา อย่างช่วงที่พ่อเฉย พ่อของพระอลงกต ยังมีชีวิต พ่อเฉยจะทำว่าวให้เด็กๆ ละแวกนี้เล่น เป็นที่รักของคนในชุมชนเช่นกัน พี่สาวของพระอลงกต ขายข้าวแกงอยู่ตรงข้ามบ้านพักข้าราชการ ซึ่งบ้านของครอบครัวพระอลงกต จะอยู่ติดกับรั้วของสำนักงานทางหลวง แต่พอครอบครัวพระอลงกตเกษียณก็พากันย้ายออกไปอยู่ที่อื่น บ้านพักปัจจุบันนี้ไม่มีใครอยู่ และบ้านส่วนตัวก็ไม่มีใครอยู่อาศัยเช่นกัน พระอลงกตออกจากบ้านไปช่วงปี 2527 แต่พระอลงกตจะกลับมาที่บ้านส่วนตัวทุกปี หลังจากเป็นเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ เพื่อมาทำบุญวันเกิดโรงเรียนแก่นนคร มอบทุนการศึกษาให้กับเด็กๆ เสมอ […]

ตำรวจแจ้งข้อหาเมาแล้วขับ “มารี เบรินเนอร์”

กทม. 24 ส.ค.-ตำรวจแจ้งข้อหาเมาแล้วขับ “มารี เบรินเนอร์” ขับรถหรูเจอด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์แล้วไม่ยอมเป่า ส่วนเพื่อนชายที่มาด้วยโวยวายและขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ คาดน่าจะเกิดจากมึนเมา กรณีนักแสดงสาว “มารี เบรินเนอร์” ขับรถหรูเจอด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์แล้วไม่ยอมเป่าวัด ส่วนเพื่อนชายที่มาด้วยได้ลงจากรถมาโวยวายขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ ทาง พ.ต.อ.เจษฎา ยางนอก ผกก.สน.วังทองหลาง เผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ตำรวจ สน.วังทองหลาง ได้ตั้งด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ ที่ถนนประดิษฐ์มนูธรรม ช่วงเวลาประมาณ 02.00-04.00 น. ได้ขอตรวจรถยนต์ยี่ห้อปอร์เช่ สีเขียว ปรากฏว่ามี น.ส.มารี เบรินเนอร์ นักแสดงสาว เป็นผู้ขับขี่ และมีนายอัศม์กรณ์ โดยสารมาด้วย ซึ่งนั่งข้างหน้า และมีผู้หญิงมาด้วยอีก 2 คน เมื่อขอตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ นายอัศม์กรณ์ กลับโวยวาย ขัดขวางไม่ให้ตรวจ และมีการด่าทอด้วยคำที่หยาบคาย แต่ไม่ได้มีการทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ ในที่สุดตำรวจได้คุมตัวทั้งหมดมายัง สน.วังทองหลาง พร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหาเมาแล้วขับ กับนางสาวมารี เนื่องจากนางสาวมารี ไม่ยินยอมเป่าเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์ จากนั้นนางสาวมารี ได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 20,000 บาท […]

“คาจิกิ” ทวีกำลังเป็นพายุไต้ฝุ่น ส่งผลให้ไทยฝนตกเพิ่มทุกภาค

กรุงเทพฯ 24 ส.ค.- กรมอุตุฯ ออกประกาศระบุ ช่วงเช้าที่ผ่านมา พายุโซนร้อน “คาจิกิ” ในทะเลจีนใต้ ได้ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น เตือน 57 จังหวัด เฝ้าระวังฝนตกหนักถึงหนักมาก ตั้งแต่วันที่ 24-27 ส.ค.68 นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า พายุโซนร้อน “คาจิกิ” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น “กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ค่อนไปทางเหนือเล็กน้อย และมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนเข้าสู่อ่าวตังเกี๋ย ก่อนจะขึ้นฝั่งตอนบนของ ประเทศเวียดนาม และ สปป.ลาว ในช่วงวันที่ 25–26 สิงหาคมนี้ ขอบด้านหน้าของพายุ เริ่มส่งผลกระทบต่อไทยตั้งแต่วันนี้ โดยเฉพาะพื้นที่ด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีเมฆฝนเพิ่มขึ้น จากนั้นจะมีฝนตก ก่อนขยายไปยังภาคกลาง รวมทั้ง กรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคตะวันออก และ ภาคใต้ ในช่วงวันถัดไป กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนว่า อิทธิพลของพายุ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่มีกำลังแรง จะทำให้มีฝนตกเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ […]

“จิรายุ” ย้ำคลิป “นั่งลงลูก” ในห้องพิจารณาคดี เป็นคลิปตกแต่งเสียง

ทำเนียบ 24 ส.ค.-“จิรายุ” ย้ำคลิป “นั่งลงลูก” ในห้องพิจารณาคดีศาล รธน. ที่ “ชวน” ได้ยินเป็นคลิปตกแต่งเสียง ฟังกี่รอบก็ชัดว่า “นั่งลงครับ” เตือนประชาชนบิดเบือนข้อมูลใส่ร้าย อย่าโพสต์ ไม่ชัวร์ อย่าแชร์ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี อดีตประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการฯ กล่าวถึง กรณีมีการบิดเบือนคำพูดในวันสืบพยานของนายกรัฐมนตรี โดยหลังจากนายกรัฐมนตรีกล่าวคำสาบานตนแล้ว ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญท่านหนึ่งได้กล่าวคำว่า “นั่งลงครับ” แต่กลับมีกระบวนการนำไปบิดเบือนและตกแต่งเสียง โดยกล่าวหาว่า ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญพูดว่า “นั่งลงลูก“ ซึ่งเป็นการบิดเบือน ขณะเดียวกัน ยังพบว่าอดีตประธานรัฐสภา นายชวน หลีกภัย ได้สัมภาษณ์ให้ความเห็นในกรณีดังกล่าวหลายประเด็น ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่า นายชวน หลีกภัย อาจจะยังไม่ได้ฟังคลิปเต็มๆ จริงๆ ในวันดังกล่าว หรือไม่ก็อาจจะได้ฟังจากคลิปที่ถูกบิดเบือนและตกแต่ง ซึ่งความเป็นจริงการบันทึกเสียงทั้งหมดหรือการกล่าวบนบัลลังก์ คนที่นั่งอยู่ในห้องพิจารณาก็ได้ยินตรงกันว่า “นั่งลงครับ” ทั้งสิ้น นายจิรายุ กล่าว ตนในฐานะเคยดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาลองค์กรอิสระ องค์กรอัยการฯ ติดตามการทำงานกระบวนการยุติธรรมมาโดยตลอด ไม่มีเหตุผลใดๆ ในกระบวนการยุติธรรมที่จะใช้คำพูดในลักษณะเช่นนี้ […]

ข่าวแนะนำ

จับตา “คาจิกิ” หลายจังหวัดภาคเหนือเตรียมรับมือน้ำท่วมดินถล่ม

25 ส.ค. – หลายจังหวัดทางภาคเหนือ โดยเฉพาะพื้นที่ซึ่งเคยเผชิญน้ำท่วมครั้งใหญ่ทั้งน่าน ชายแดนแม่สาย เชียงราย และเชียงใหม่ ต่างเร่งเตรียมรับมือพายุคาจิกิ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบชัดเจนตั้งแต่พรุ่งนี้ นอกจากเสี่ยงจะเกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลากแล้ว บางพื้นที่ยังเสี่ยงดินโคลนถล่มด้วย โดยเฉพาะหมู่บ้านใกล้เชิงเขาที่จังหวัดน่าน ซึ่งเกิดดินสไลด์จนกระทบบ้านเรือนนับสิบหลังก่อนหน้านี้ ตอนนี้ต้องอพยพชาวบ้านกว่า 20 ครอบครัวออกจากพื้นที่เพื่อความปลอดภัยแล้ว .-สำนักข่าวไทย

“บ้านหนองจาน” วุ่น เขมรบุกรื้อรั้วลวดหนาม-ปาของใส่ทหารไทย

สระแก้ว 25 ส.ค. – ชายแดนสระแก้วตึงเครียด ชาวกัมพูชาบุกรื้อรั้วลวดหนาม-ปาของใส่เจ้าหน้าที่ ในพื้นที่บ้านหนองจาน ทหารไทยเจ็บ 1 นาย ด้านกองทัพภาคที่ 1 แจงเป็นความเข้าใจผิดของฝ่ายกัมพูชา สถานการณ์บริเวณแนวชายแดนไทย–กัมพูชา พื้นที่บ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ยังคงเกิดความตึงเครียดอย่างต่อเนื่อง หลังจากทางฝั่งกัมพูชาได้ประกาศเสียงตามสาย เรียกระดมชาวบ้านให้ออกมารวมตัวกันยังพื้นที่พิพาทติดแนวชายแดน โดยมีเจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่ฝ่ายป่าไม้ และที่ดินของกัมพูชา เข้าร่วมอยู่ในพื้นที่ด้วย เมื่อชาวบ้านจำนวนหนึ่งเดินทางมาถึง เกิดเหตุเหตุจราจลขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากกลุ่มชาวกัมพูชาบางส่วนพากันบุกเข้ามารื้อรั้วลวดหนามที่ฝ่ายไทยขึงกั้นไว้เพื่อป้องกันการรุกล้ำ นอกจากนี้ ยังมีการขว้างปาสิ่งของเข้าใส่เจ้าหน้าที่ฝั่งไทยอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บแล้ว 1 นาย ขณะปฏิบัติหน้าที่ควบคุมสถานการณ์ ขณะเดียวกัน มีรายงานว่าประชาชนจากฝั่งกัมพูชายังคงทยอยเดินทางเข้ามาสมทบเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้บรรยากาศตึงเครียดยิ่งขึ้น ด้านกองกำลังทหารไทยจึงได้เสริมกำลังเข้าตรึงพื้นที่เพื่อควบคุมสถานการณ์และป้องกันการบานปลาย ที่น่าสังเกตคือ ฝั่งกัมพูชาได้เปิดเพลงเสียงดังสนั่น คาดว่าเป็นเพลงปลุกใจ เพื่อสร้างขวัญและกระตุ้นให้ชาวบ้านในพื้นที่มีความฮึกเหิมมากขึ้น เสียงเพลงดังกล่าวได้ถูกเปิดก้องไปทั่วบริเวณแนวชายแดน สร้างความกดดันให้กับเจ้าหน้าที่ฝั่งไทยที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ สถานการณ์ล่าสุดยังคงมีการเผชิญหน้ากันระหว่างประชาชนและเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย โดยทหารไทยยังคงตรึงกำลังแน่นหนา เพื่อเฝ้าระวังการปะทะที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ขณะที่ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ได้ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับส่วนกลางเพื่อรายงานความคืบหน้าและเตรียมมาตรการรองรับ กองทัพภาคที่ 1 แจงแล้ว ปมชาวบ้านเขมรรื้อรั้วหนาม ล่าสุด กองทัพภาคที่ […]

ไทย-สวีเดน ลงนามซื้อ “กริพเพน” เฟสแรก 4 ลำ

สวีเดน 25 ส.ค.-ไทย-สวีเดน ลงนามซื้อ “กริพเพน” เฟสแรก 4 ลำ “มาริษ-ผบ.ทอ.” ร่วมเป็นสักขีพยาน ชูเป็นเขี้ยวเล็บป้องกันตัว พ่วง Offset Policy พัฒนาอุตสาหกรรม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.20 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งตรงกับเวลา 17.20 น. ตามเวลาในประเทศไทย รัฐบาลไทยและสวีเดน ได้บรรลุข้อตกลงครั้งประวัติศาสตร์ในการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่โจมตี Gripen E/F ระยะที่ 1 จำนวน 4 เครื่อง วงเงิน 19,500 ล้านบาท โดยมี พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) เป็นผู้ลงนามฝ่ายไทย มีนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และ ดร.พอล ยอนซอน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสวีเดน ร่วมเป็นสักขีพยาน นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังพิธีว่า ข้อตกลงครั้งนี้ไม่เพียงแต่จะเสริมสร้าง “เขี้ยวเล็บ” […]

มทภ.2 ชี้หากพบกัมพูชารุกล้ำ-ลอบวางทุ่นระเบิด พร้อมใช้กำลังพลตอบโต้

เกษตรศาสตร์ 25 ส.ค.- แม่ทัพภาค 2 ชี้หากพบทหารกัมพูชารุกล้ำ-ลอบวางทุ่นระเบิด พร้อมใช้กำลังพลตอบโต้ แต่ยิงแจ้งเตือนก่อน หากยังขัดขืนสั่งยิงทันที เชื่อประชุม RBC 27 ส.ค.นี้ ราบรื่นดี มองหากกัมพูชาไม่รับเงื่อนไขเก็บทุ่นระเบิด เตรียมเก็บหลักฐานฟ้อง UN วันนี้ (25 ส.ค. 68) ที่ห้องประชุมสุธรรม อารีกุล อาคารสารนิเทศ 50 ปี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค ไทย – กัมพูชา (RBC) ในวันที่ 27 ส.ค.นี้ หากฝ่ายกัมพูชาไม่ตกลงที่จะเก็บกู้ทุ่นระเบิด ว่า ถ้าไม่เก็บกู้ก็จะรายงานไปที่ UN และทำบันทึกไว้เพื่อเป็นการประท้วง ส่วนการประชุม RBC ที่พื้นที่กองทัพภาคที่ 1 มีการตอบรับเรื่องเก็บกู้ระเบิดร่วมกัน ในส่วนของกองทัพภาคที่ 2 ควรจะมีการตอบรับด้วยหรือไม่เพื่อแสดงถึงความจริงใจ นั้น พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า […]