อนาคตใหม่ แถลงเรียกร้องนายกรัฐมนตรี ลาออกจากตำแหน่ง

อาคารไทยซัมมิททาวเวอร์ 8 ก.พ.-พรรคอนาคตใหม่แถลงการณ์ เรียกร้อง นายกรัฐมนตรี ลาออกจากตำแหน่ง เหตุมีผลประโยชน์ทับซ้อน


นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค พร้อมด้วยแกนนำพรรค ร่วมแถลงจุดยืนของพรรคอนาคตใหม่ จากกรณีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐและพรรคไทยรักษาชาติ ณ ที่ทำการพรรคอนาคตใหม่ ชั้น 7 อาคารไทยซัมมิททาวเวอร์


นายธนาธร กล่าวว่า พรรคได้ประชุมกันเพื่อหาทางเลือกในการแถลงจุดยืนที่ดีที่สุดแล้วในวันนี้ ด้านนายปิยบุตร อ่านแถลงการณ์ว่า เรียกร้องให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ลาออกจากตำแหน่ง ด้วยเหตุผลการดำรงตำแหน่งทั้งสองตำแหน่งไม่สามารถเทียบได้กับบรรทัดฐานสากล เนื่องจากรัฐธรรมนูญฉบับ คสช. ยังคงให้มีอำนาจเต็ม และใช้ ม.44 ไม่ใช่รัฐบาลเฉพาะกาลที่มีอำนาจจำกัด นอกจากนี้หัวหน้า คสช. ยังมีอำนาจต่อรัฐสภา แต่งตั้ง ส.ว. ที่ส่งผลต่อการลงคะแนนเลือกนายกรัฐมนตรี ในรัฐสภาหลังการเลือกตั้ง จึงมองว่า พลเอกประยุทธ์ มีผลประโยชน์ทับซ้อน ทำให้การเลือกตั้งไม่สามารถดำเนินไปได้อย่างเสรีและเป็นธรรม

2. พรรคอนาคตใหม่ ยืนยันเสนอชื่อ นายธนาธร หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เป็นบัญชีรายชื่ออันดับที่ 1 ของพรรคเพื่อเป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อหยุดการสืบทอดอำนาจ คสช., แก้รัฐธรรมนูญปี 2560, ลบล้างผลพวงจากอำนาจรัฐประหาร และพรรคอนาคตใหม่เชื่อว่าการเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบอบประชาธิปไตย และบรรลุข้อเสนอทั้ง 3 ข้อ จะเป็นไปได้โดยแนวทางที่มั่นคงในหลักการประชาธิปไตยที่ประชาชนต้องถูกรวมเข้าไปในกระบวนการตัดสินใจทางการเมือง, ผลประโยชน์ของประชาชนจะต้องไม่ถูกลืมและสิทธิเสรีภาพของประชาชนต้องได้รับการค้ำประกัน ซึ่งจากประสบการณ์ที่ผ่านมา พิสูจน์แล้วว่าการตกลงรอมชอมกันเองระหว่างชนชั้นนำ ไม่สามารถแก้ไขปัญหาทางการเมืองได้

3. ผลพวงของการทำรัฐประหารเป็นการ ปูทางไปสู่การ สืบทอดอำนาจของคณะของคณะรัฐประหารผ่านรัฐธรรมนูญปี 2560 ที่เปิดช่องให้พรรคการเมือง สามารถเสนอชื่อบุคคลที่ไม่ได้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นนายกรัฐมนตรีได้ พรรคอนาคตใหม่เห็นว่าพรรคการเมืองที่ยืนหยัดกับหลักการประชาธิปไตยจะต้องยึดถือหลักการนายกรัฐมนตรีต้องเป็น ส.ส.


4. การเลือกตั้งครั้งนี้จะต้องดำเนินไปอย่างเสรี เป็นธรรมและแข่งขันกันอย่างเสมอภาคเท่าเทียม ทั้งบุคคล สื่อมวลชน ผู้สมัครการเลือกตั้งและพรรคการเมืองทุกพรรค ต้องมีเสรีภาพในการแสดงออก ซึ่งความคิดเห็นอย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องเผชิญกับอุปสรรคขัดขวางในทางกฎหมายและในทางประเพณี ค่านิยม เพื่อให้การเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นกระบวนการสำคัญในการเปลี่ยนผ่านไปสู่ประชาธิปไตย 

5. พรรคอนาคตใหม่ มีความพร้อมกับการเลือกตั้งวันที่ 24 มีนาคม 2562 ทั้งในด้านบุคคลที่เหมาะสมเป็นนายกรัฐมนตรี, บุคคลที่เหมาะสมเป็นรัฐมนตรีผู้สมัคร ส.ส. ตลอดจนนโยบายของพรรค ที่มุ่งแก้ปัญหาโครงสร้างทั้งระบบ เรายืนยันว่า หากพรรคอนาคตใหม่ได้เสียงข้างมากเพียงพอ พร้อมจะเป็นรัฐบาล และนายธนาธร ก็พร้อมเป็นนายกรัฐมนตรี แต่หากเกิดกรณีจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติที่รวบรวมทุกพรรคการเมืองเข้าด้วยกันพรรคอนาคตใหม่ก็พร้อมเป็นฝ่ายค้านไม่ใช่เพียงเพราะว่ารัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 106 บังคับให้ต้องมีผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรเท่านั้น แต่ประชาธิปไตยในระบบรัฐสภา จำเป็นต้องมีฝ่ายค้านที่คอยตรวจสอบการใช้อำนาจของรัฐบาลด้วย

จากนั้นเป็นช่วงตอบคำถามของสื่อมวลชน เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีหากเสียงทั้งสองฝ่ายสูสีกัน พรรคอนาคตใหม่ต้องเลือกระหว่างพรรคไทยรักษาชาติ และพรรคพลังประชารัฐ จะร่วมงานกับพรรคใด นายปิยบุตร กล่าวว่า พรรคขอยืนยันในจุดยืนทั้ง 3 ข้อ ที่จะเป็นปัจจัยหลักในการจะร่วมรัฐบาลกับพรรคใดในอนาคต

“หลักการคือยุติการสืบทอดอำนาจ คสช.และการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ลบล้างผลพวงรัฐประหาร หลักการนี้อยู่ในแถลงการณ์จะเป็นการตัดสินใจในอนาคต โดยยึดหลัก จาก 3 ข้อนี้ และเรายังมั่นใจว่าเราจะได้เสียงในสภามากเพียงพอ” นายปิยบุตร กล่าว

เมื่อถามถึงการเสนอชื่อแคนดิเดตของพรรคไทยรักษาชาติ จะแสดงถึงมีความไม่เสมอภาคในการแข่งขันหรือไม่ นายปิยบุตร กล่าวย้ำว่า ได้ยืนยันในแถลงการณ์ไปแล้วว่าการแข่งขันต้องเท่าเทียม เสรีและเสมอภาค บุคคลที่เข้าสู่แวดวงทางการเมือง ก็จะถูกอภิปราย มีการโต้เถียงโต้แย้งและถกเถียงกันได้ในสภาตามระบอบประชาธิปไตย ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่ายินดี ที่ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯ เขียนในไอจี ว่า ไม่นิยมชมชอบระบบอภิสิทธิ์ ซึ่งถือว่าเป็นการแสดงให้เห็นว่าจะเป็นการแข่งขันที่เสรีและเป็นธรรม ทุกคนต้องถูกวิพากษ์วิจารณ์ เมื่อเข้าสู่การแข่งขันที่เป็นระบอบประชาธิปไตย เมื่อถามว่าสามารถร่วมงานกับพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ นายปิยบุตร กล่าวอย่ากังวลในส่วนของพรรค แต่มองว่าพรรคประชาธิปัตย์จะสามารถร่วมงานกับพรรคอนาคตใหม่ได้หรือไม่

เมื่อถามว่าจะสามารถร่วมงานกับพรรคที่มีการเสนอคนนอกมาเป็นนายกรัฐมนตรีได้หรือไม่ นายปิยบุตร กล่าวว่า พรรคอนาคตใหม่ จะยืนอยู่บนหลักทั้ง 3 ข้อ มั่นใจจะได้เสียงในสภา และเสนอหัวหน้าพรรคเป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมยืนยันว่านายกรัฐมนตรีจะต้องเป็นส.ส.

เมื่อถามว่ากรณีแคนดิเดตไทยรักษาชาติ เสนอนายกรัฐมนตรีคนนอก จะสามารถร่วมงานกันได้หรือไม่ นายปิยบุตร กล่าวว่าคำตอบของคำถามนี้ง่ายมาก คือเลือกพรรคอนาคตใหม่

เมื่อถามว่ามองอย่างไรที่ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯ ตอบรับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี ถือเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่หรือไม่ นายธนาธร กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในเช้าวันนี้ คือการเซตซีโร่ และการแบ่งสีเสื้อในอดีต ไม่สามารถอธิบายถึงความขัดแย้งได้อีกต่อไปแล้ว 

การเซตซีโร่ คือ การเปิดโอกาสให้ประชาชนได้เลือกการเมืองใหม่ๆ ส่วนการเซตซีโร่จะนำไปสู่การปรองดองได้หรือไม่นั้น ตนไม่เชื่อว่า ประชาธิปไตย จะสามารถสร้างได้โดยการพูดคุยเจรจาต่อรองกันระหว่างชนชั้นนำ แต่เชื่อว่าประชาธิปไตยที่เข้มแข็งและยังยืนต้องมีประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม ร่วมกันออกแบบ จะสามารถหาทางออกให้กับประเทศไทยได้

นายธนาธร ยังกล่าวยืนยันว่า ตนไม่ทราบว่า จณะนี้มีการต่อรองเรื่องผลประโยชน์กันระหว่างกลุ่มคนชั้นนำหรือไม่ แต่พรรคยืนยันว่าไม่เคยมีการเจรจาต่อรองใดๆ กับพลเอกประยุทธ์ นายทักษิณ คุณหญิงสุดารัตน์ และนายสุริยะ แต่อย่างใด ส่วนคนอื่นตนไม่สามารถรู้ได้ว่ามีการหารือกันหรือไม่ เมื่อถามถึงการหาเสียงหลังจากนี้ นายปิยะบุตร กล่าวเสริมว่า พรรคได้แถลงจุดยืนไปแล้ว มองว่า แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ควรเสมอภาคกัน ทั้งต่อหน้ากฎหมาย ควรเสมอภาคกันต่อประชาชน และขอให้มองแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ให้เป็นเรื่องปกติ ที่ทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎกติกาเดียวกันในการเลือกตั้ง ซึ่งเชื่อว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะทำให้ประเทศเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตย ในสภาวะปกติ 

ทั้งนี้มองว่าทุกคนไม่ควรพูดถึงเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลในตอนนี้ เพราะจะเป็นการดูถูกประชาชน ขอให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจ และในส่วนของพรรคมั่นใจว่าจะได้เสียงสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดเนื้อหาหนังสือแจง UNSC กัมพูชาวางทุ่นระเบิด-เริ่มยิงก่อน

25 ก.ค.- เปิดเนื้อหาหนังสือจากผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติที่นิวยอร์ก เพื่อชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทย ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ส่งหนังสือชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุว่า ขอแจ้งให้ท่านและสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติทุกท่านทราบ ถึงสถานการณ์อันร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย อันเป็นผลจากการรุกรานทางทหารของประเทศกัมพูชา โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1.     เมื่อวันที่ 16 และ 23 กรกฎาคม ค.ศ. 2025 ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารไทยกำลังลาดตระเวนตามเส้นทางปกติที่กำหนดไว้ ซึ่งอยู่ภายในอาณาเขตของประเทศไทย ทหารได้เหยียบทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 ส่งผลให้ทหาร 2 นาย ได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสส่งผลถึงขั้นพิการถาวร ขณะที่ทหารนายอื่น ๆ ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทุ่นระเบิด PMN-2 ทั้งหมดที่พบอยู่ในสภาพใหม่ ยังมีเครื่องหมายที่มองเห็นได้ชัดเจน หลักฐานบ่งชี้ว่าทุ่นระเบิดเหล่านี้เพิ่งถูกวางใหม่ ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ไทยได้ยื่นรายงานประจำปีเกี่ยวกับความโปร่งใสในการดำเนินการตามพันธกรณีในอนุสัญญาดังกล่าว ตามมาตรา 7 ของอนุสัญญาฯ อย่างต่อเนื่อง รายงานดังกล่าวระบุว่าประเทศไทยได้ทำลายทุ่นระเบิดในคลังทั้งหมดแล้วตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003 และต่อมา ได้ทำลายทุ่นระเบิดทั้งหมดที่เก็บไว้เพื่อการฝึกอบรมและการวิจัยในปี ค.ศ. […]

“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน”

ก.มหาดไทย 25 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน” ชี้รับฟังทุกความไม่พอใจ แต่ทุกอย่างเป็นไปตามยุทธวิธี ให้ทหารมีอิสระในการทำงาน มอง “ก่อแก้ว” ขอศาล รธน. คืนอำนาจให้ “แพทองธาร” เป็นความเห็นเหมือนประชาชนจำนวนมาก แต่ให้เป็นตามกระบวนการยุติธรรม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ ระบุถึง อยากให้กองทัพสั่งสอนความเจ้าเล่ห์ของฮุนเซนก่อน ว่า ก็เหมือนประชาชนทั่วไป ที่เวลานี้มีความรู้สึกเช่นนั้น หลายคนแสดงความเห็นให้ทำแบบนู้นแบบนี้ เราก็รับฟังความห่วงใยความไม่พอใจที่เราถูกกระทำ ตนเข้าใจความรู้สึกเหล่านั้น และเห็นว่าเป็นจุดมุ่งหมายเดียวกัน เพราะเรื่องอธิปไตยของประเทศ การรุกล้ำเข้ามา กระทบประชาชนเรายอมไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมาทุกฝ่ายจะเห็นว่าเราประนีประนอม (Compromise) ให้มากที่สุด แต่เมื่อสิ่งดังกล่าวไม่เกิดขึ้น และเป็นปัญหา วันนี้จึงได้สั่งการให้ทหารมีอิสระในพื้นที่ โดยผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นผู้คุมยุทธการ ปฏิบัติได้ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงได้มีการทำความเข้าใจกับ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีการโทรคุยกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด […]

เข้าสู่วันที่ 2 กัมพูชาเปิดฉากตั้งแต่เช้ามืด ที่ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 25 ก.ค.-เข้าสู่วันที่ 2 เหตุปะทะไทย-กัมพูชา เริ่มเปิดฉากยิงกันตั้งแต่เช้ามืด บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ขณะนี้เสียงยังดังต่อเนื่อง ก่อนขยายการสู้รบไปตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอีสานใต้ อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เป็นพื้นที่แรกที่ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อนด้านปราสาทตาเมือนครับ เช้ามืดวันนี้ ราวตี 5 ครึ่ง ก็เริ่มปะทะกันอีก ขณะนี้ก็มีเสียงดังอย่างต่อเนื่อง เส้นทางจากอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เข้าสู่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ แม้สายแล้ว ก็มีรถสัญจรไปมาค่อนข้างน้อย เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยการสู้รบ โดยอำเภอพนมดงรักเป็นหนึ่งใน 4 อำเภอ ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ประกาศให้ผู้ที่ไม่มีความจำเป็นเข้าพื้นที่ร่วมกับอำเภอกาบเชิง บัวเชดและสังขะ โดยตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ในพื้นที่ตามแนวชายแดนได้ยินเสียงการปะทะด้วยกระสุนปืนใหญ่ดังอย่างต่อเนื่อง ผู้นำหมู่บ้านบันทึกสถิติเฉพาะฝั่งไทยตอบโต้เกินกว่า 100 ลูกแล้ว บ้านหนองแรด ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ที่จรวดหลายลำกล้อง BM 21 ตกเยอะสุด 10 ลูก วานนี้โดยรอบหมู่บ้าน โชคดีไม่ลงบ้านเรือน มีกระจกแตกเล็กน้อยจากแรงอัดลูกจรวดเท่านั้น วันนี้ ยังมีชาวบ้านอยู่นับร้อยคนหลบอยู่ในหลุมหลบภัย จากทั้งหมด […]

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

“แพทองธาร” ย้ำชัดเขมรเริ่มก่อน 100% ไม่พอใจเข้มปราบแก๊งคอลฯ

กระทรวงวัฒนธรรม 26 ก.ค.- “แพทองธาร” เปิดใจ ขอคนไทยรักกัน หันไปทะเลาะกับคนนอกประเทศก่อน ชี้ขัดแย้งกันเองยังรอได้ แฉกัมพูชาไม่พอใจไทยร่วมมือลาว – เมียนมา ปราบคอลเซ็นเตอร์ เผยสื่อนอกยังตั้งข้อสังเกต “กพช.” สั่งปิด รร.ยิงวันแรก เหมือนรู้ล่วงหน้าจะมีการรบ ย้ำชัดเขมรเริ่มก่อน 100% นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมติดตามมาตรการการรับมือ และช่วยช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ และผู้เสียชีวิตในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ 4 จังหวัด ที่กระทรวงวัฒนธรรม โดยนางสาวแพทองธารได้ยืนยันแถลงการณ์ของรัฐบาล ตามที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้แถลงไปเมื่อวานนี้ ที่ระบุว่ากัมพูชาถือว่าเป็นอาชญากรรมสงครามขั้นรุนแรง วิธีการต่าง ๆ ขัดต่อหลักสันติวิธีของกฎหมายระหว่างประเทศ และขัดหลักมนุษยธรรมที่ได้ปฏิบัติมาตลอด สถานการณ์ความรุนแรง เป็นสิ่งที่รัฐบาลได้ย้ำตลอดว่าไม่อยากให้เกิดขึ้น สิ่งสำคัญที่สุด คือชีวิตของประชาชน เป็นสิ่งที่เรายึดถือ และพยายามไม่ให้เกิดการเสียเลือดเสียเนื้อ จนฝ่ายกัมพูชาได้ยิงก่อน ตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา นางสาวแพทองธารยังกล่าวว่า มีสำนักข่าวต่างประเทศตั้งข้อสังเกตว่า จริงๆ แล้วเรามีหลักฐาน มีดิจิทัลฟุตปริ้นท์ที่สามารถทำให้เห็นว่าใครเป็นคนเริ่มก่อน และมีการตั้งข้อสังเกตว่าในวันนั้นนักเรียนของเราที่อยู่ชายแดนไปโรงเรียนตามปกติ […]

“เสธ.เบิร์ด” ชี้เขมรขู่ขยับ “ขีปนาวุธ PHL-03” ถือเป็นภัยคุกคาม

26 ก.ค.- “เสธ.เบิร์ด” ชี้ เขมรขู่ขยับ “ขีปนาวุธ PHL-03” วิถีไกล 130 กม. ถือเป็นภัยคุกคาม มองไทยใช้การทำลายทางลึกถือว่าเหมาะสม จากกรณีกองทัพภาคที่ 2 เตือนเฝ้าระวังกัมพูชายิงขีปนาวุธ PHL-03 วิถีไกล 130 กม. เพื่อพุ่งเป้าหมายพื้นที่ยุทธศาสตร์และที่ตั้งทหารนั้น ล่าสุด พล.ต.วันชนะ สวัสดี ผู้อำนวยการสำนักงานประสานภารกิจด้านความมั่นคงกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กรมยุทธการทหาร กล่าวว่า การขยับขีปนาวุธ PHL-03 เป็นการขู่ และถือเป็นภัยคุกคาม ดังนั้นถ้าไทยใช้การทำลายทางลึกถือว่าเหมาะสม จากการที่กัมพูชากล่าวหาว่า ไทยใช้ปฏิบัติการทางอากาศเกินกว่าเหตุนั้น เราไม่ทำเกินกว่าเหตุ แต่สิ่งที่เราทำนี้เป็นเหตุผล เพราะฝ่ายกัมพูชา เคลื่อนกำลังจำนวนมากมาประชิดชายแดน ใช้อาวุธยิงระยะไกลทำร้ายประชาชนของไทย ทั้งโรงพยาบาล โรงเรียน สถานีบริการน้ำมัน ทำให้ประชาชนชาวไทยบาดเจ็บ และเสียชีวิต จากการมีภาพข่าวการเคลื่อนอาวุธยิงระยะไกล ถือว่าเป็นการข่มขู่คุกคามความมั่นคงของไทยอย่างชัดเจน ดังนั้นการปฏิบัติการทางอากาศ เพื่อลดการสูญเสีย สถานการณ์คลี่คลายโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้การปฏิบัติการทางอากาศของไทยทำลายเป้าหมายทางทหารเท่านั้น และมีความแม่นยำ -สำนักข่าวไทย

น้ำท่วมน่านลดต่อเนื่อง ชาวบ้านเริ่มสำรวจความเสียหาย

น่าน 26 ก.ค.- สถานการณ์น้ำท่วมตัวเมืองน่าน ลดลงต่อเนื่อง ส่วนอีกหลายจุดยังอ่วม ท่วมสูงกว่า 1 เมตร ชาวบ้านเริ่มสำรวจความเสียหาย ย่านการค้าและเศรษฐกิจสำคัญของเมืองน่าน บริเวณถนนสุมณเทวราช ซึ่งเคยน้ำท่วมสูงเกือบถึงคอ แต่ตอนนี้น้ำลดลงเหลือประมาณหน้าขา เท่ากับลดไปราว 1 เมตร แต่บริเวณโดยรอบยังมีน้ำท่วมเต็มพื้นที่ โดยเฉพาะที่ลุ่มต่ำ ยังท่วมสูงกว่า 1 เมตร ทีมข่าวได้เข้าไปสำรวจความเสียหายของโรงแรงแห่งหนึ่งกลางเมืองน่าน ซึ่งสภาพภายในเต็มไปด้วยคราบโคลน รถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ ที่จอดไว้เสียหายจำนวนมาก ขณะที่เจ้าของร้านค้าย่านนี้ เริ่มสำรวจความเสียหายจากน้ำท่วม อีกจุดหนึ่งที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักคือที่โรงพยาบาลน่านที่ถูกน้ำท่วมสูงเต็มพื้นที่ 40 ไร่ บางจุดท่วมเกือบมิดหัว ตอนนี้น้ำลดแล้ว แต่ตามอาคารต่างๆ น้ำทะลักท่วมยาเวชภัณฑ์และอุปกรณ์การแพทย์ได้รับความเสียหาย แต่ผู้ป่วยใน ราว 3 ร้อยคน ยังปลอดภัย คุณหมอ พยาบาลและเจ้าหน้าที่เร่งช่วยกันเก็บกวาดทำความสะอาด เพื่อให้โรงพยาบาลกลับมาเปิดบริการตามปกติให้เร็วที่สุด ช่วงสายที่ผ่านมา นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายใจกลางเขตเศรษฐกิจเมืองน่านด้วย -สำนักข่าวไทย