อนาคตใหม่ แถลงเรียกร้องนายกรัฐมนตรี ลาออกจากตำแหน่ง

อาคารไทยซัมมิททาวเวอร์ 8 ก.พ.-พรรคอนาคตใหม่แถลงการณ์ เรียกร้อง นายกรัฐมนตรี ลาออกจากตำแหน่ง เหตุมีผลประโยชน์ทับซ้อน


นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค พร้อมด้วยแกนนำพรรค ร่วมแถลงจุดยืนของพรรคอนาคตใหม่ จากกรณีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐและพรรคไทยรักษาชาติ ณ ที่ทำการพรรคอนาคตใหม่ ชั้น 7 อาคารไทยซัมมิททาวเวอร์


นายธนาธร กล่าวว่า พรรคได้ประชุมกันเพื่อหาทางเลือกในการแถลงจุดยืนที่ดีที่สุดแล้วในวันนี้ ด้านนายปิยบุตร อ่านแถลงการณ์ว่า เรียกร้องให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ลาออกจากตำแหน่ง ด้วยเหตุผลการดำรงตำแหน่งทั้งสองตำแหน่งไม่สามารถเทียบได้กับบรรทัดฐานสากล เนื่องจากรัฐธรรมนูญฉบับ คสช. ยังคงให้มีอำนาจเต็ม และใช้ ม.44 ไม่ใช่รัฐบาลเฉพาะกาลที่มีอำนาจจำกัด นอกจากนี้หัวหน้า คสช. ยังมีอำนาจต่อรัฐสภา แต่งตั้ง ส.ว. ที่ส่งผลต่อการลงคะแนนเลือกนายกรัฐมนตรี ในรัฐสภาหลังการเลือกตั้ง จึงมองว่า พลเอกประยุทธ์ มีผลประโยชน์ทับซ้อน ทำให้การเลือกตั้งไม่สามารถดำเนินไปได้อย่างเสรีและเป็นธรรม

2. พรรคอนาคตใหม่ ยืนยันเสนอชื่อ นายธนาธร หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เป็นบัญชีรายชื่ออันดับที่ 1 ของพรรคเพื่อเป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อหยุดการสืบทอดอำนาจ คสช., แก้รัฐธรรมนูญปี 2560, ลบล้างผลพวงจากอำนาจรัฐประหาร และพรรคอนาคตใหม่เชื่อว่าการเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบอบประชาธิปไตย และบรรลุข้อเสนอทั้ง 3 ข้อ จะเป็นไปได้โดยแนวทางที่มั่นคงในหลักการประชาธิปไตยที่ประชาชนต้องถูกรวมเข้าไปในกระบวนการตัดสินใจทางการเมือง, ผลประโยชน์ของประชาชนจะต้องไม่ถูกลืมและสิทธิเสรีภาพของประชาชนต้องได้รับการค้ำประกัน ซึ่งจากประสบการณ์ที่ผ่านมา พิสูจน์แล้วว่าการตกลงรอมชอมกันเองระหว่างชนชั้นนำ ไม่สามารถแก้ไขปัญหาทางการเมืองได้

3. ผลพวงของการทำรัฐประหารเป็นการ ปูทางไปสู่การ สืบทอดอำนาจของคณะของคณะรัฐประหารผ่านรัฐธรรมนูญปี 2560 ที่เปิดช่องให้พรรคการเมือง สามารถเสนอชื่อบุคคลที่ไม่ได้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นนายกรัฐมนตรีได้ พรรคอนาคตใหม่เห็นว่าพรรคการเมืองที่ยืนหยัดกับหลักการประชาธิปไตยจะต้องยึดถือหลักการนายกรัฐมนตรีต้องเป็น ส.ส.


4. การเลือกตั้งครั้งนี้จะต้องดำเนินไปอย่างเสรี เป็นธรรมและแข่งขันกันอย่างเสมอภาคเท่าเทียม ทั้งบุคคล สื่อมวลชน ผู้สมัครการเลือกตั้งและพรรคการเมืองทุกพรรค ต้องมีเสรีภาพในการแสดงออก ซึ่งความคิดเห็นอย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องเผชิญกับอุปสรรคขัดขวางในทางกฎหมายและในทางประเพณี ค่านิยม เพื่อให้การเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นกระบวนการสำคัญในการเปลี่ยนผ่านไปสู่ประชาธิปไตย 

5. พรรคอนาคตใหม่ มีความพร้อมกับการเลือกตั้งวันที่ 24 มีนาคม 2562 ทั้งในด้านบุคคลที่เหมาะสมเป็นนายกรัฐมนตรี, บุคคลที่เหมาะสมเป็นรัฐมนตรีผู้สมัคร ส.ส. ตลอดจนนโยบายของพรรค ที่มุ่งแก้ปัญหาโครงสร้างทั้งระบบ เรายืนยันว่า หากพรรคอนาคตใหม่ได้เสียงข้างมากเพียงพอ พร้อมจะเป็นรัฐบาล และนายธนาธร ก็พร้อมเป็นนายกรัฐมนตรี แต่หากเกิดกรณีจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติที่รวบรวมทุกพรรคการเมืองเข้าด้วยกันพรรคอนาคตใหม่ก็พร้อมเป็นฝ่ายค้านไม่ใช่เพียงเพราะว่ารัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 106 บังคับให้ต้องมีผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรเท่านั้น แต่ประชาธิปไตยในระบบรัฐสภา จำเป็นต้องมีฝ่ายค้านที่คอยตรวจสอบการใช้อำนาจของรัฐบาลด้วย

จากนั้นเป็นช่วงตอบคำถามของสื่อมวลชน เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีหากเสียงทั้งสองฝ่ายสูสีกัน พรรคอนาคตใหม่ต้องเลือกระหว่างพรรคไทยรักษาชาติ และพรรคพลังประชารัฐ จะร่วมงานกับพรรคใด นายปิยบุตร กล่าวว่า พรรคขอยืนยันในจุดยืนทั้ง 3 ข้อ ที่จะเป็นปัจจัยหลักในการจะร่วมรัฐบาลกับพรรคใดในอนาคต

“หลักการคือยุติการสืบทอดอำนาจ คสช.และการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ลบล้างผลพวงรัฐประหาร หลักการนี้อยู่ในแถลงการณ์จะเป็นการตัดสินใจในอนาคต โดยยึดหลัก จาก 3 ข้อนี้ และเรายังมั่นใจว่าเราจะได้เสียงในสภามากเพียงพอ” นายปิยบุตร กล่าว

เมื่อถามถึงการเสนอชื่อแคนดิเดตของพรรคไทยรักษาชาติ จะแสดงถึงมีความไม่เสมอภาคในการแข่งขันหรือไม่ นายปิยบุตร กล่าวย้ำว่า ได้ยืนยันในแถลงการณ์ไปแล้วว่าการแข่งขันต้องเท่าเทียม เสรีและเสมอภาค บุคคลที่เข้าสู่แวดวงทางการเมือง ก็จะถูกอภิปราย มีการโต้เถียงโต้แย้งและถกเถียงกันได้ในสภาตามระบอบประชาธิปไตย ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่ายินดี ที่ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯ เขียนในไอจี ว่า ไม่นิยมชมชอบระบบอภิสิทธิ์ ซึ่งถือว่าเป็นการแสดงให้เห็นว่าจะเป็นการแข่งขันที่เสรีและเป็นธรรม ทุกคนต้องถูกวิพากษ์วิจารณ์ เมื่อเข้าสู่การแข่งขันที่เป็นระบอบประชาธิปไตย เมื่อถามว่าสามารถร่วมงานกับพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ นายปิยบุตร กล่าวอย่ากังวลในส่วนของพรรค แต่มองว่าพรรคประชาธิปัตย์จะสามารถร่วมงานกับพรรคอนาคตใหม่ได้หรือไม่

เมื่อถามว่าจะสามารถร่วมงานกับพรรคที่มีการเสนอคนนอกมาเป็นนายกรัฐมนตรีได้หรือไม่ นายปิยบุตร กล่าวว่า พรรคอนาคตใหม่ จะยืนอยู่บนหลักทั้ง 3 ข้อ มั่นใจจะได้เสียงในสภา และเสนอหัวหน้าพรรคเป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมยืนยันว่านายกรัฐมนตรีจะต้องเป็นส.ส.

เมื่อถามว่ากรณีแคนดิเดตไทยรักษาชาติ เสนอนายกรัฐมนตรีคนนอก จะสามารถร่วมงานกันได้หรือไม่ นายปิยบุตร กล่าวว่าคำตอบของคำถามนี้ง่ายมาก คือเลือกพรรคอนาคตใหม่

เมื่อถามว่ามองอย่างไรที่ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯ ตอบรับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี ถือเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่หรือไม่ นายธนาธร กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในเช้าวันนี้ คือการเซตซีโร่ และการแบ่งสีเสื้อในอดีต ไม่สามารถอธิบายถึงความขัดแย้งได้อีกต่อไปแล้ว 

การเซตซีโร่ คือ การเปิดโอกาสให้ประชาชนได้เลือกการเมืองใหม่ๆ ส่วนการเซตซีโร่จะนำไปสู่การปรองดองได้หรือไม่นั้น ตนไม่เชื่อว่า ประชาธิปไตย จะสามารถสร้างได้โดยการพูดคุยเจรจาต่อรองกันระหว่างชนชั้นนำ แต่เชื่อว่าประชาธิปไตยที่เข้มแข็งและยังยืนต้องมีประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม ร่วมกันออกแบบ จะสามารถหาทางออกให้กับประเทศไทยได้

นายธนาธร ยังกล่าวยืนยันว่า ตนไม่ทราบว่า จณะนี้มีการต่อรองเรื่องผลประโยชน์กันระหว่างกลุ่มคนชั้นนำหรือไม่ แต่พรรคยืนยันว่าไม่เคยมีการเจรจาต่อรองใดๆ กับพลเอกประยุทธ์ นายทักษิณ คุณหญิงสุดารัตน์ และนายสุริยะ แต่อย่างใด ส่วนคนอื่นตนไม่สามารถรู้ได้ว่ามีการหารือกันหรือไม่ เมื่อถามถึงการหาเสียงหลังจากนี้ นายปิยะบุตร กล่าวเสริมว่า พรรคได้แถลงจุดยืนไปแล้ว มองว่า แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ควรเสมอภาคกัน ทั้งต่อหน้ากฎหมาย ควรเสมอภาคกันต่อประชาชน และขอให้มองแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ให้เป็นเรื่องปกติ ที่ทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎกติกาเดียวกันในการเลือกตั้ง ซึ่งเชื่อว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะทำให้ประเทศเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตย ในสภาวะปกติ 

ทั้งนี้มองว่าทุกคนไม่ควรพูดถึงเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลในตอนนี้ เพราะจะเป็นการดูถูกประชาชน ขอให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจ และในส่วนของพรรคมั่นใจว่าจะได้เสียงสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Cambodia PM Hun Manet in military uniform

กัมพูชาเสนอศาลโลกตัดสินดินแดนพิพาทกับไทย

พนมเปญ 2 มิ.ย.- ผู้นำกัมพูชาเสนอให้นำข้อพิพาททางดินแดนกับไทยให้ศาลโลกตัดสิน และได้สั่งการให้เจบีซีเร่งจัดการหารือกับไทยเรื่องปักปันเขตแดน ด้านกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงไทยเรื่องเหตุปะทะที่มีทหารกัมพูชาเสียชีวิต เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้โพสต์ถ้อยแถลงในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า เขาได้ตัดสินใจตามที่รับฟังรายงานสรุปจากนายทหารที่ประจำการตามแนวชายแดนไทย หลังจากที่เขากลับจากการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ โดยได้สั่งการให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมกัมพูชา-ไทยหรือเจบีซี (JBC) เร่งจัดการประชุมกับฝ่ายไทยเพื่อเดินหน้าการสำรวจและปักปันเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศ ถ้อยแถลงระบุด้วยว่า กัมพูชากำลังเตรียมบรรจุประเด็นใหม่ไว้ในวาระการประชุมเจบีซี คือ การเสนอให้นำข้อพิพาทยาวนานเรื่องปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาเมือนควาย และพื้นที่มอมเบ เข้าสู่การตัดสินชี้ขาดของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกที่กรุงเฮกในเนเธอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเตือนว่า การยั่วยุเมื่อไม่นานมานี้ของกลุ่มสุดโต่งเล็ก ๆ ได้จุดชนวนความตึงเครียดและโหมกระพือกระแสรักชาติขึ้นใน 2 ประเทศ เขาหวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุทางออกสุดท้ายให้แก่พื้นที่พิพาทอ่อนไหวเหล่านี้ กัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาชายแดนด้วยกลไกทางเทคนิคและหลักการทางกฎหมาย แต่ก็สงวนสิทธิที่จะปกป้องบูรณภาพทางดินแดนด้วยทุกวิถีทาง รวมถึงการใช้อาวุธ หากมีความพยายามใช้กำลังทหารรุกรานดินแดนของกัมพูชา ด้านกระทรวงกิจการต่างประเทศและความร่วมมือสากลของกัมพูชาได้ยื่นหนังสือทางการทูตประท้วงไทย ซึ่งมีการเปิดเผยเนื้อหาเมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า กองทัพไทยเปิดฉากยิงทั้งที่ไม่มีการยั่วยุจากที่ตั้งทางทหารของกัมพูชาในหมู่บ้านเตโชมรกต อำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหารเมื่อราวเวลา 05.30 น.วันที่ 28 มีนาคม ส่งผลให้ทหารกัมพูชาถูกสังหารอย่างไม่เป็นธรรม 1 นาย และเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของกัมพูชา กระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำดังกล่าวว่า ผิดกฎหมาย รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องให้สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทันทีและถี่ถ้วน และต้องนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ.-814.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ กัมพูชา สั่งระดมทหารประชิดชายแดนไทย

1 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งระดมกำลังทหารประชิดชายแเดนไทย ขณะเดินทางเยือนญี่ปุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนติดกับไทยอย่างใกล้ชิด หนังสือพิมพ์ขะแมร์ ไทมส์ รายงานว่า ฌอง-ฟรองซัว ตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ ระบุว่านับตั้งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งตามมแนวชายแดนระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนญี่ปุ่น ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเดินทางกลับมายังกัมพูชา เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้สั่งการด้วยตัวเองให้ระดมกำลังทหารเพิ่มเติมเข้าประชิดชายแดนด้านที่ติดกับไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยและพรมแดนกัมพูชา พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย กลับมาสงบเรียบร้อยตามปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยังได้ติดต่อและสั่งการตามสายงานลงไปยังรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเสนาธิการกองทัพบก ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย พร้อมกับเรียกร้องประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา ในการปกป้องดินแดน และหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งบริเวณชายแดนติดกับไทย โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และหลังจากนี้ คณะกรรมการพรมแดนของกัมพูชา มีกำหนดพบหารือในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดข้อขัดแย้ง และนำเสนอเพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

“โอปอล สุชาตา” คว้ามงกุฎ Miss World 2025

อินเดีย 1 มิ.ย.-“โอปอล สุชาตา” สาวงามตัวแทนจากไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎ Miss World 2025 มาครองได้สำเร็จ เวทีการประกวด Miss World 2025 ครั้งที่ 72 ณ HITEX Convention Center เมืองไฮเดอราบัด รัฐเตลังคานา ประเทศอินเดีย โดย “โอปอล สุชาตา ช่วงศรี” สาวงามตัวแทนจากประเทศไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎมิสเวิลด์มาครองได้สำเร็จ โดยการประกวดในปีนี้มีนางงามจาก 108 ประเทศทั่วโลก เข้าร่วม ทั้งนี้ในรอบ 8 คนสุดท้าย มีนางงามที่ผ่านเข้ารอบได้แก่ บราซิล มาร์ตินีก เอธิโอเปีย นามิเบีย โปแลนด์ ยูเครน ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย ซึ่งจนกระทั่ง รอบ 4 คนสุดสุดท้าย มาร์ตีนิก เอธิโอเปีย และ โปแลนด์ ทั้ง 4 […]

ข่าวแนะนำ

จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล

นายกฯ เป็นประธานถวายเครื่องราชสักการะ-จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี

สนามหลวง 3 มิ.ย.-นายกรัฐมนตรี และคู่สมรส เป็นประธานพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568 เวลา 19. 49 น. ณ เวทีใหญ่ ท้องสนามหลวง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายปิฎก สุขสวัสดิ์ คู่สมรส เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568 โดยมีผู้แทนประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญพร้อมคู่สมรส คณะรัฐมนตรีพร้อมคู่สมรส ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทหาร ตำรวจ พลเรือน ภาคเอกชน และภาคประชาชน เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อนายกรัฐมนตรีและคู่สมรสเดินทางถึงพิธีท้องสนามหลวง ขึ้นสู่เวที นายกรัฐมนตรี ผู้แทนประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ทำวันทยหัตถ์หน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี แล้ววางพุ่มทอง พุ่มเงิน จากนั้นนายกรัฐมนตรีถวายธูปเทียนแพ จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล […]

ตรวจความพร้อมรบ

แม่ทัพภาค 1 ตรวจความพร้อมรบ พล.ร.9 พร้อมเสริมกำลังทัพภาค 2

กาญจนบุรี 3 มิ.ย.- แม่ทัพภาคที่ 1 ตรวจความพร้อมรบ พล.ร.9 กองกำลังสุรสีห์ ตามแผนเผชิญเหตุ ทบ. พร้อมเสริมกำลังทัพภาค 2 ชายแดนไทย-กัมพูชา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเย็นที่ผ่านมา ที่สนามฝึกทางยุทธวิธี พล.ร.9 จ.กาญจนบุรี พล.ท.อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาค 1 เดินทางไปตรวจความพร้อมหน่วย ตามแผนเผชิญเหตุของกองทัพบก ทั้งหน่วย กรมทหารราบเฉพาะกิจ กองทัพภาคที่ 1 และกองพันพร้อมรบเคลื่อนที่เร็ว RDF กองทัพภาคที่ 1 โดยมี พล.ต.อัษฎาวุธ ปันยารชุน ผบ.พล.ร.9 ให้ต้อนรับ พล.ร.9 ได้รับมอบหมายจากกองทัพบก ให้จัดกำลังเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติของกองทัพบก ในการใช้กำลังตามแผนเผชิญเหตุของกองทัพบก เข้าในพื้นที่ที่รับผิดชอบ และให้การสนับสนุนเสริมกำลังรบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่รับผิดชอบกองทัพภาคที่ 1 โดยหน่วยเตรียมกำลังได้ตรวจสภาพความพร้อมรบตามขั้นตอน เพื่อตรวจสอบความพร้อมของกำลังพลและยุทโธปกรณ์ในการปฏิบัติภารกิจในทุกพื้นที่ที่ได้รับมอบภารกิจจากกองทัพบก ทั้งนี้ แม่ทัพภาคที่ 1 ได้ให้โอวาสกำลังพล ในการเตรียมความพร้อมในทุกภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากกองทัพบก โดยขอให้มีความพร้อมอยู่ตลอดเวลา ในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ และพร้อมดูแลพี่น้องประชาชน […]

หลวงปู่ศิลา

“หลวงปู่ศิลา” มอบเงินบริจาคให้ มทภ.2 สนับสนุนภารกิจกองกำลังชายแดน

นครราชสีมา 3 มิ.ย.-“หลวงปู่ศิลา” มอบเงินบริจาคให้ มทภ.2 สร้างที่พักในฐานตามแนวชายแดน พร้อมอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ ในการดูแลประเทศชาติ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระราชวัชรธรรมโสภณ (หลวงปู่ศิลา สิริจันโท) เจ้าอาวาสวัดพระธาตุหมื่นหิน จ.กาฬสินธุ์ และคณะศิษย์และมูลนิธิธรรมะอุทยาน พร้อมทั้งคณะศิษยานุศิษย์ มอบเงินบริจาค จำนวน 2,017,860 บาท และข้าวสารจำนวน 1,500 กิโลกรัม ให้กับกองทัพภาคที่ 2 เพื่อสนับสนุนช่วยเหลือกองกำลังทหารชายแดน โดย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เป็นผู้รับมอบ ที่กองบัญชาการ ค่ายสุรนารี จ.นครราชสีมา สำหรับเงินทั้งหมดนี้ จะได้นำไปจัดสร้างที่พักในฐานที่มั่นของกองกำลังสุรนารี ที่ปฏิบัติภารกิจอยู่ตามแนวชายแดน รวมถึงจัดซื้ออุปกรณ์และยุทโธปกรณ์ต่างๆ ที่ยังขาดอยู่ ในการปกป้องอธิปไตยของประเทศ รวมถึงการจัดหาเครื่องมือต่างๆที่สามารถใช้ได้ภายในฐานปฏิบัติการเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับทหาร ที่ปฏิบัติภารกิจอยู่แถวชายแดน. -313 สำนักข่าวไทย

Thai drone illegally enters Cambodian airspace, intercepted by Cambodian troops

กัมพูชาอ้างสกัดโดรนที่ส่งจากฝั่งไทย

พนมเปญ 3 มิ.ย.- สื่อกัมพูชารายงานว่า ทหารกัมพูชาสกัดอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนที่อ้างว่าส่งจากฝั่งไทยเข้าไปสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์รายงานวันนี้ว่า กองทัพไทยยังคงละเมิดดินแดนของกัมพูชา โดยล่าสุดได้ส่งโดรนไปบินเหนือพื้นที่แนวหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา และถูกกำลังพลกัมพูชาสกัดไว้ได้ แขมร์ไทมส์อ้างรายงานจากชายแดนว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 2 มิถุนายน ทหารกัมพูชาที่ประจำการอยู่บริเวณแนวหน้าในจังหวัดพระวิหารสามารถสกัดโดรนลำหนึ่งที่เข้ามาในน่านฟ้ากัมพูชาเพื่อวัตถุประสงค์ในการสอดแนม ผลการประเมินเบื้องต้นชี้ว่า โดรนลำนี้ถูกส่งโดยกองทัพไทย เพื่อเก็บข้อมูลข่าวกรองเรื่องการประจำการและการเคลื่อนย้ายกำลังพลของกองทัพกัมพูชา.-814.-สำนักข่าวไทย