ตรวจควันดำ 12 วันพบเกินมาตรฐานกว่า 1 หมื่นคัน

กทม. 7 ก.พ.- ผลตรวจจับควันดำ 12 วัน ย่านลาดกระบัง พบรถปล่อยควันดำกว่าหมื่นคัน 


ตำรวจจราจร ร่วมกับกรมการขนส่งทางบก ,กรมควบคุมมลพิษ ลงพื้นที่ตั้งด่านตรวจมลภาวะ  หรือด่านตรวจจับควันดำบนถนนลาดกระบัง แขวงทับยาว เขตลาดกระบัง ตรวจควันดำจากท่อไอเสียรถรับจ้างสาธารณะไม่ประจำทาง รถบรรทุกขนส่ง เครื่องยนต์ดีเซลอาจมีค่าควันดำเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ซึ่งเป็นสาเหตุของปัญหามลภาวะฝุ่นละออง PM 2.5 เนื่องจากเส้นถนนลาดกระบังเป็นเส้นทางที่มีรถบรรทุกและรถขนส่งเป็นจำนวนมาก


นายสมชาย ราชแก้ว หัวหน้าฝ่ายตรวจการ กองตรวจการขนส่ง กรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า จากการตั้งด่านตรวจค่าควันดำในกลุ่มรถที่จดทะเบียนไว้กับกรมการขนส่งทางบก (รถป้ายเหลือง) ตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้(7 ก.พ.) พบรถโดยสารไม่ประจำทาง มีค่าควันดำเกินมาตรฐาน คือ ค่าทึบแสงเกินร้อยละ 45 ขึ้นไป จำนวน 1 คัน  ได้พ่นสีสัญลักษณ์ห้ามใช้รถจนกว่าจะมีการปรับปรุงแก้ไข  พร้อมเปรียบเทียบปรับผู้ประกอบการในอัตราตั้งแต่ 5,000 – 50,000 บาท หลังจากนี้เจ้าของรถ จะต้องนำรถไปดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้อง และนำไปตรวจสภาพที่กรมการขนส่งทางบก หากผู้ขับขี่ลบสัญลักษณ์ดังกล่าวออกเอง จะถือว่ามีคำผิด ฝ่าฝืนคำสั่งผู้ตรวจการ มีโทษปรับไม่เกิน 50,000 บาท ส่วนรถยนต์ส่วนบุคคลที่ควันดำเดินค่ามาตรฐาน จำนวน 10 คัน เฉพาะช่วงเช้า ตำรวจจราจรได้เปรียบเทียบปรับจำนวน 1,000 บาท และสั่งให้แก้ไขปรับปรุง ขณะที่วันนี้ยังมีการตั้งด่านตรวจวัดควันดำของกรมการขนส่งทั่วกรุงเทพฯและปริมณฑล ร่วมกับตำรวจจราจร อีก 13 จุด จากการตั้งด่านตรวจควันดำ ตั้งแต่วันที่ 27 มกราคมจนถึงปัจจุบันพบรถปล่อยควันดำเกินค่ามาตรฐาน กว่า 10,000 คันในพื้นที่กรุงเทพฯ กรณีประชาชนตั้งข้อสังเกตถูกตรวจรถที่ด่านตรวจควันดำไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน แต่ไปตรวจที่กรมการขนส่งทางบกแล้วผ่านเกณฑ์นั้น นายสมชาย ยืนยันว่าการตรวจค่าควันที่ด่านตรวจและโรงตรวจสภาพในกรมการขนส่งทางบก เป็นมาตรฐานเดียวกัน  ใช้เครื่องมือเดียวกัน แต่อาจมีหลายปัจจัยที่ส่งผลให้ค่าวัดควันดำเปลี่ยนไป เช่น การสันดาปของเครื่องยนต์ขณะนั้น และน้ำหนักที่บรรทุกระหว่างวิ่งกับจอดอยู่กับที่ไม่เท่ากัน ส่วนกรณีโซเชียลโพสต์คลิปรถทหารปล่อยควันดำนั้น   นายสมชายชี้แจงว่า ตลอดสัปดาห์ทีผ่านมาทางกรมการขนส่งทางบกได้ตรวจค่าควันดำรถทหารแล้ว พบว่าบางคันค่าเกินเกณฑ์มาตรฐาน ซึ่งได้แจ้งให้แก้ไขปรับปรุงแล้ว.-สำนักข่าวไทย

  


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มพาลูก-เมียกลับจากฉลองวันเกิด รถยางระเบิดเสียหลักชนเสาไฟ ดับ 3 สาหัส 2

พ่อแม่ลูก 5 คน กลับจากฉลองวันเกิด รถกระบะยางระเบิดเสียหลักหมุนชนอัดเสาไฟฟ้า พ่อและแม่พร้อมลูกคนโตเสียชีวิตคาที่ ส่วนลูกคนกลางและคนเล็กอาการสาหัส

สุดโหด! ไล่แทงหนุ่มดับปมขัดแย้งยาเสพติด

วงจรปิดจับภาพชัด คนร้ายวิ่งข้ามถนนไล่แทงหนุ่มเสียชีวิต ชาวบ้านแตกตื่น ขณะที่ตำรวจรวบตัวทันควัน คาดปมขัดแย้งยาเสพติด

กยศ.เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน พ.ค.-มิ.ย.68

กยศ. เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน ช่วยเหลือชั่วคราว พ.ค.-มิ.ย.68 ให้นายจ้างลดยอดการหักเงินเดือน ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อเริ่มผ่อนชำระใหม่เป็นรายเดือนในอัตราลดลง

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนไทยตอนบนฝนฟ้าคะนอง-ลมแรง

กรมอุตุฯ เตือนไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรง ส่วนภาคใต้มีฝนลดลง ภาคเหนืออากาศร้อนจัด ด้านกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนโดยทั่วไป โดยมีฝนฟ้าคะนอง 30%

หมายจับแก๊งไทใหญ่

ออกหมายจับ 2 คนร้ายแก๊งไทใหญ่ 999 ยกพวกไล่ฟันเพื่อนร่วมชาติ

ออกหมายจับ 2 คนร้ายแก๊งไทใหญ่ 999 ยกพวกบุกใช้มีดไล่ฟันเพื่อนร่วมชาติย่านประชาสงเคราะห์ เร่งตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

การประชุมเลือกพระสันตะปาปาองค์ใหม่เริ่มแล้ว

การประชุมลับเพื่อเลือกสมเด็จพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่ ที่จะเป็นพระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ที่นครรัฐวาติกัน ได้เริ่มขึ้นต้นแล้วในวันนี้

ระอุอีกครั้ง KNLA ร่วม KNDO โจมตีทหารเมียนมา

ชายแดนไทย-เมียนมา ด้านตรงข้าม จ.ตาก กลับมาระอุอีกครั้ง กองกำลัง KNLA ร่วมกองกำลัง KNDO โจมตีทหารเมียนมา ฐานเรปะนาดิ ผู้อพยพทะลักข้ามฝั่งเข้าไทยกว่า 100 คน