กทม. 4 ก.พ. – Amazing Thailand Marathon 2019 ต้นแบบวิ่งมาราธอน-สมาคมกรีฑาแนะเจ้าภาพดูค่าฝุ่นก่อนจัดเพื่อสุขภาพของนักวิ่ง
การจัดการแข่งขัน Amazing Thailand Marathon 2019 งานวิ่งระดับ International ของไทย เมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 กุมภาพันธ์ ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีที่ 2 มีนักวิ่งราว 30,000 คนเข้าร่วม มีนักวิ่งจากต่างชาติร่วมกว่า 4,000 คน
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ต้องการยกระดับการจัดการแข่งขันวิ่งของประเทศไทย ให้มีมาตรฐานระดับสากล สามารถดึงนักท่องเที่ยวเข้าสู่ประเทศไทยเป็นจำนวนมาก คณะผู้จัดงานเล็งเห็นความสำคัญของนักวิ่งที่มาร่วมแข่งขัน 30,000 คนซึ่งในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมาก็มีกระแสเรื่องของมลภาวะทางอากาศเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจเกิดผลกระทบกับผู้แข่งขัน แต่เราคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นอันดับแรก และได้เตรียมความพร้อมเฝ้าระวังตรวจวัดค่า PM 2.5 ตลอดเส้นทาง และยังมีการขอความร่วมมือกับหลายหน่วยงาน เช่น กทม.ให้มีการฉีดล้างและดูดถนนในเส้นทางตลอดทั้งสัปดาห์ก่อนการแข่งขัน โดยมีการเตรียมทีมแพทย์ พยาบาลกว่า 100 คน ในทุกจุดให้น้ำ มีถังออกซิเจนในทุกจุดเป็นจำนวนมาก
ผู้ว่าการ ททท. กล่าวอีกว่า ยังมีการติดตั้งเครื่องวัดค่าฝุ่น PM 2.5 และแจ้งให้นักวิ่งทราบในทุกจุดให้น้ำ มีฟองน้ำแช่น้ำเย็นไว้หากเกิดการระคายเคืองขึ้น ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้ถือว่าเป็นส่วนช่วยทำให้มลภาวะทางอากาศในกรุงเทพมหานครดีขึ้น เมื่อเทียบกับการใช้จราจรของวันอาทิตย์ตามปกติ โดยสามารถวัดได้จากค่าในเครื่องตรวจวัดฝุ่นละอองขนาดเล็ก เป็นค่าสีเขียวทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีนักวิ่งเป็นจำนวนมากสามารถทำลายสถิติของตัวเองได้อีกด้วย ถือว่าการจัดงานประสบความสำเร็จ และได้สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยเป็นอย่างมาก
ก่อนหน้านี้ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แสดงความเป็นห่วง จากสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ทำให้ กทม.ต้องประกาศเป็นพื้นที่ควบคุมมลพิษทางอากาศ แต่กิจกรรมการวิ่งอะเมซซิ่ง ไทยแลนด์ มาราธอน แบงคอก ก็ขอให้ประชาชนที่จะร่วมวิ่ง พิจารณาตามดุลยพินิจว่าวิ่งไหวหรือไม่
อย่างไรก็ตามมีข้อแนะนำจากสมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดย “โค้ชแฝดเล็ก” พล.ต.ต.สุรพงษ์ อริยะมงคล อุปนายกและเลขาธิการสมาคมฯ ฝากถึงผู้จัดมาราธอนทุกแห่ง ว่า ควรคำนึงถึงผลดี ผลเสีย ต่อผู้เข้าร่วมกิจกรรม รวมทั้งจัดเตรียมอุปกรณ์ทางการแพทย์ อุปกรณ์กู้ชีพ น้ำดื่ม ให้พร้อม ส่วนนักวิ่งต้องประเมินตัวเอง ว่าควรวิ่ง หรือควรหลีกเลี่ยง ในภาวะฝุ่น PM 2.5 ทางที่ดีควรยื่นขออนุญาตจัดจากสมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทยด้วย
ไปดูผลการแข่งขันกันบ้าง Amazing Thailand Marathon 2019 แบ่งออกเป็น ระยะมาราธอน (42.195 กม.) และ ฮาล์ฟมาราธอน (21.1 กม.) มีจุดปล่อยตัวพร้อมกันที่ ราชมังคลากีฬาสถาน การกีฬาแห่งประเทศไทย หัวหมาก ในเวลา 03.00 น. สิ้นสุดที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ส่วนระยะ 10 กม.และ 3.5 กม.ปล่อยตัว บริเวณหน้าโลหะปราสาท ถนนราชดำเนิน สิ้นสุดที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยมีผู้เข้าแข่งขันราว 30,000 คน แยกเป็นระยะมาราธอน 6,000 คน / ฮาล์ฟมาราธอน 9,500 คน / 10 กม. 12,000 คน และ 3.5 กม. Family Run 2,500 คน
สำหรับแชมป์วิ่งมาราธอนชายตกเป็นของ เคมบอย โรติช เคนเน็ธ จากเคนยา เวลา 02.16.07 ชั่วโมง รับเงินรางวัลไป 200,000 บาท ส่วนนักวิ่งไทยที่ทำเวลาดีที่สุดได้แก่ สัญชัย นามเขต ที่เข้ามาเป็นอันดับ 10 ของทั้งหมด ทำเวลาได้ 02.23.02 ชั่วโมง รับเงินรางวัล 50,000 บาท
ขณะที่แชมป์มาราธอนหญิงได้แก่ มาร์กาเร็ต วันกุย เอ็นจูกูน่า เป็นนักวิ่งจากเคนยาเช่นกัน สถิติ 02.44.06 ชั่วโมง รับเงินรางวัล 200,000 บาท ส่วนสาวไทยที่ทำเวลาดีที่สุดโดยเข้ามาเป็นอันดับ 10 ของทั้งหมด ได้แก่ พิชชานันท์ มหาโชติ เวลา 03.27.59 ชั่วโมง รับเงินรางวัล 50,000 บาท
ผู้จัดมาราธอน ควรคำนึงถึงผลกระทบต่อสุขภาพผู้เข้าร่วมกิจกรรมเป็นหลัก ส่วนนักวิ่งต้องประเมินตัวเอง ว่าควรวิ่ง หรือควรหลีกเลี่ยง ในภาวะฝุ่น PM 2.5 “วิ่งเพื่อสุขภาพที่ดี แต่ถ้ามีฝุ่นควันก็ไม่ใหว เดี๋ยวจะหายใจไม่ออก” .- สำนักข่าวไทย