ขนส่งออกมาตรการเร่งด่วนแก้รถควันดำ

กรุงเทพฯ 3 ก.พ. – กรมการขนส่งทางบกตั้งด่าน 2 วัน พบรถควันดำ 130 คัน ออกมาตรการเร่งด่วน รถบรรทุก-รถโดยสารตรวจสภาพก่อนกำหนด เริ่ม 4 ก.พ.นี้


นายพีระพล ถาวรสุภเจริญ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า กรมการขนส่งทางบกดำเนินการตามมาตรการ “One Transport ปลอดฝุ่น PM2.5” ของกระทรวงคมนาคม เพื่อลดปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2562 กรมการขนส่งทางบกตั้งจุดตรวจควันดำรถบรรทุกและรถโดยสารรวม 31 จุด ใน 15 จังหวัด ซึ่งเป็นรอยต่อบนถนนสายหลักและสายรองทุกเส้นทางที่มีรถบรรทุกและรถโดยสารมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพมหานคร หากพบรถที่มีค่าควันดำเกินร้อยละ 45 ซึ่งเป็นเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด สั่งเปรียบเทียบปรับ 5,000 บาท และพ่น “ห้ามใช้” ทันที โดยจะไม่สามารถใช้งานรถได้จนกว่าจะแก้ไขปัญหาเรียบร้อยและนำรถเข้าตรวจสภาพที่สำนักงานขนส่งเท่านั้น ส่วนรถที่ตรวจพบค่าควันดำระหว่างร้อยละ 30-45 ให้ผู้ตรวจการออกใบเตือน เพื่อให้เจ้าของรถแก้ไขให้ค่าควันดำลดลง 


นอกจากนี้ กรมการขนส่งทางบกขอความร่วมมือผู้ประกอบการขนส่งทั้งรถบรรทุกและรถโดยสารทั่วประเทศนำรถเข้ารับการตรวจสภาพก่อนถึงกำหนดรอบชำระภาษีรถ เพื่อตรวจสอบประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องยนต์ป้องกันสาเหตุการเกิดควันดำและก่อให้เกิดฝุ่นละออง PM2.5 โดยขอให้ผู้ประกอบการนำรถเข้าตรวจสอบได้ที่สำนักงานขนส่งจังหวัดและสำนักงานขนส่งสาขาทั่วประเทศ ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ 2562 เป็นต้นไป ซึ่งเป็นมาตรการเร่งด่วนที่จะดำเนินการต่อเนื่องจนกว่าปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 จะคลี่คลาย 

ทั้งนี้ ในส่วนของผลการดำเนินการตรวจควันดำรถบรรทุกและรถโดยสารสาธารณะทั้งขาเข้าและขาออก รวมทั้งบนมอเตอร์เวย์ขาเข้า ณ ด่านลาดกระบัง รวม 31 จุด ใน 15 จังหวัด ระหว่างวันที่ 1-2 กุมภาพันธ์ 2562 รวม 2  วัน ดำเนินการตรวจรถ 3,280 คัน พบรถควันดำ 130 คัน เป็นรถบรรทุก 113 คัน และเป็นรถโดยสาร 17 คัน ดำเนินการตามมาตรการอย่างเข้มงวดทุกราย นอกจากนี้ ยังมอบหมายให้สำนักงานขนส่งจังหวัดทั่วประเทศตรวจวัดควันดำรถโดยสารสาธารณะและรถอื่น ๆ ณ สถานีขนส่งผู้โดยสารบนถนนสายต่าง ๆ ในเขตพื้นที่รับผิดชอบ และเข้มงวดตรวจสอบการดำเนินการของสถานตรวจสภาพรถ (ตรอ.) โดยได้สั่งการให้สำนักงานขนส่งจังหวัดทั่วประเทศจัดส่งเจ้าหน้าที่ลงสุ่มตรวจการดำเนินการของสถานตรวจสภาพรถเอกชนในเขตพื้นที่ หากพบสถานตรวจสภาพรถใดละเลยไม่ตรวจสภาพรถให้เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด พิจารณาสั่งพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตประกอบการ.-สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าจะเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน

นาทีประวัติศาสตร์! นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา

นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา ฉบับแรกไทยกับยุโรป ความสำเร็จรัฐบาลแพทองธาร สร้างโอกาสยุคทองการค้า-ลงทุน ทำเงินเข้าประเทศ

ตำรวจ ปปป.ซ้อนแผนบุกจับนายช่างโยธา เรียกรับเงิน 4 แสน

ตำรวจ ปปป. บุกจับนายช่างโยธาปฏิบัติงาน ฝ่ายโยธา สำนักงานเขตพระโขนง เรียกรับเงินค่าออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร 400,000 บาท

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม