พาณิชย์ย้ำไม่ต่ออายุปกป้องเหล็กแผ่นรีดร้อน

นนทบุรี 3 ก.พ. – พาณิชย์ย้ำไม่ขยายเวลาบังคับใช้มาตรการปกป้องสินค้าเหล็กแผ่นรีดร้อนเจืออื่น ๆ หลังครบกำหนด 


น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการและรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และในฐานะประธานคณะกรรมการพิจารณามาตรการปกป้อง (คปป.) เปิดเผยกรณีอุตสาหกรรมภายในขอให้ขยายเวลาการใช้มาตรการปกป้อง หรือ Safeguard (SG) สินค้าเหล็กแผ่นรีดร้อนเจืออื่น ๆ ต่อไปอีก 3 ปี มีข้อเท็จจริงว่าอุตสาหกรรมเหล็กรีดร้อนได้รับการคุ้มครองจากมาตรการของรัฐตลอด ซึ่งทุกมาตรการยังมีผลบังคับใช้ในปัจจุบัน ทั้งมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด (AD) สินค้าเหล็กแผ่นรีดร้อนรวม 19 ประเทศ โดยใช้มาตรการมาตั้งแต่ปี 2546 – 2565 อัตราสูงสุดถึง 109.25% และสินค้าเหล็กแผ่นรีดร้อนเจือโบรอนจากจีน มีมาตรการ AD ตั้งแต่ปี 2555 – 2566 อัตรา 14.28 – 19.47% และยังมีมาตรการ SG สินค้าเหล็กแผ่นรีดร้อนไม่เจือที่มีมาตรการตั้งแต่เดือนมิถุนายน  2557 จนถึงมิถุนายน  2563

สำหรับประเด็นที่เรียกร้องให้ต่ออายุมาตรการ SG อีก 3 ปี หลังจากใช้จะครบ 6 ปี คือ ตั้งแต่ 27 กุมภาพันธ์ 2556 – 26 กุมภาพันธ์ 2562 ที่ประชุมคณะกรรมการพิจารณามาตรการปกป้องได้พิจารณาร่างผลการทบทวนความจำเป็นในการขยายเวลาการบังคับใช้มาตรการปกป้องแล้วมีมติไม่ให้ขยายเวลาการบังคับใช้มาตรการปกป้องต่อไป เนื่องจากข้อมูลจากผลการไต่สวนไม่แสดงให้เห็นความเสียหายอย่างร้ายแรงที่เกิดแก่อุตสาหกรรมภายใน เนื่องมาจากการนำเข้าเพิ่มขึ้น โดยพบว่าสถานะของอุตสาหกรรมภายในดีขึ้นมากจากการใช้มาตรการปกป้องที่ผ่านมา ทั้งปริมาณการนำเข้ามีแนวโน้มลดลง ส่วนแบ่งตลาดสินค้านำเข้าลดลงมียอดขาย และการใช้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้น มีผลการขาดทุนลดลง และมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น ด้านการปรับตัวของอุตสาหกรรมภายใน 4 ราย มีผลปรากฏว่าบางรายสามารถปรับตัวได้ตามแผนที่เสนอต่อคณะกรรมการฯ แต่บางรายไม่สามารถทำตามแผนได้ 


ทั้งนี้ ที่ประชุมพิจารณาตามข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายโดยละเอียดรอบคอบแล้วเห็นว่าไม่มีความจำเป็นที่ต้องใช้มาตรการต่อไป เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายตามมาตรา 36 ของ พ.ร.บ. มาตรการปกป้องจากการนำเข้าสินค้าที่เพิ่มขึ้น พ.ศ. 2550 นอกจากนี้ ยังได้พิจารณาถึงผลกระทบที่อาจเกิดจากการที่ประเทศผู้ส่งออกที่ได้รับผลกระทบจากการใช้มาตรการ SG ของไทยสามารถขอให้ไทยชดเชยความเสียหายและสามารถใช้มาตรการตอบโต้ทางการค้ากับสินค้าที่ประเทศนั้นมีการนำเข้าจากไทยตามมาตรา 39 ของ พ.ร.บ. มาตรการปกป้องฯ ได้ ซึ่งปัญหานี้เคยเกิดขึ้นกับสินค้าเครื่องปรับอากาศของไทยที่ส่งออกไปยังตุรกีในกรณีของการขยายเวลาการใช้ SG สินค้าเหล็กแผ่นรีดร้อนไม่เจือ  ทำให้กลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศได้รับความเดือดร้อนทั้งที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งกลุ่มผู้ผลิตเหล็กรีดร้อนไม่สามารถช่วยเยียวยาผลกระทบใด ๆ ต่ออุตสาหกรรมที่ถูกตอบโต้ทางการค้าได้ ซึ่งกรณีของการขอต่ออายุมาตรการ SG สินค้าเหล็กแผ่นรีดร้อนเจืออื่น ๆ รัฐบาลเกาหลีใต้แสดงเจตนาชัดเจนในการขอเจรจา เพื่อให้ไทยชดเชยทางการค้าและสงวนสิทธิ์ในการตอบโต้ทางการค้าไว้แล้ว และไทยมีโอกาสที่จะถูกตอบโต้ทางการค้าจากประเทศอื่นอีก ได้แก่ ตุรกี อียิปต์ และจีน ซึ่งมีผลให้สินค้าจากไทยหลายกลุ่มที่มีการส่งออกไปยังประเทศเหล่านี้มีความเสี่ยงสูงที่จะได้รับความเดือดร้อนเสียหายหากมีการขยายเวลาการบังคับใช้มาตรการปกป้อง

อย่างไรก็ตาม ในการเปิดรับฟังความคิดเห็นเมื่อวันที่ 29 มกราคมที่ผ่านมาผู้มีส่วนได้เสียเข้าร่วม 86 ราย ทั้งสถานทูต ผู้ผลิตต่างประเทศ สมาคมผู้ใช้ อุตสาหกรรมต่อนื่อง และผู้นำเข้า ซึ่งกลุ่มผู้ผลิตเหล็กไม่เห็นด้วยกับมติ เพราะกังวลถึงสถานการณ์ของสงครามการค้าและผลกระทบต่ออุตสาหกรรมผู้ผลิตเหล็กอื่น ๆ ในห่วงโซ่อุปทาน ส่วนผู้ที่เห็นด้วยกับมติไม่ให้ขยายเวลา คือ กลุ่มผู้ใช้ในอุตสาหกรรมต่อเนื่อง เช่น ยานยนต์ ต่อเรือ ผู้ผลิตเครื่องมือเครื่องจักรกลการเกษตร รวมถึงผู้ประกอบการที่เป็นเอสเอ็มอีจำนวนมาก ซึ่งมีการจ้างงานหลายแสนคนที่จำเป็นต้องใช้สินค้าเหล็กเจืออื่น ๆ เป็นวัตถุดิบในการผลิต เห็นว่าการพิจารณาของคณะกรรมการฯ ถูกต้องตามข้อกฎหมาย เพราะอุตสาหกรรมภายในดีขึ้นจากการที่รัฐช่วยให้มีเวลาในการปรับตัวด้วยมาตรการปกป้องมา 6 ปี และยังมีมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดคุ้มครองอยู่ ซึ่งความเห็นจากการ Hearing ดังกล่าวจะนำไปพิจารณาผลการทบทวนชั้นที่สุดต่อไป

ทั้งนี้ การพิจารณาร่างผลการทบทวนไม่ให้ขยายเวลาการใช้มาตรการปกป้องต่อไปของคณะกรรมการฯ เป็นไปด้วยความรอบคอบ โปร่งใส และชัดเจนภายใต้กรอบของกฎหมายไทยและความตกลงของ WTO ที่มีเจตนารมณ์ให้ใช้มาตรการเป็นการชั่วคราวเพียงเท่าที่จำเป็น เพื่อเยียวยาความเสียหายอันเกิดจากการนำเข้าสินค้าที่เพิ่มขึ้นเป็นหลัก ไม่ใช่มาตรการที่จะสามารถเยียวยาความเสียหายเกิดจากเหตุอื่น เช่น โครงสร้างที่ไม่เหมาะสมของอุตสาหกรรม แผนการลงทุนหรือการบริหารจัดการที่ผิดพลาด ซึ่งต้องพิจารณาแนวทางแก้ไขโดยหามาตรการอื่นที่เหมาะสมกับแต่ละปัญหาต่อไป.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

“วัดพระบาทน้ำพุ” แจงเงินวัด เข้าแล้วออกไปไหน

ลพบุรี 8 ส.ค. – หลังจากมีกระแสข่าวเกี่ยวกับวัดพระบาทน้ำพุ ก็มีเสียงสะท้อนออกมาหลายแง่มุม ขณะที่บางส่วนตั้งคำถามเกี่ยวกับเงินวัดที่มีการเปิดรับบริจาค และการดูแลผู้ป่วยเอชไอวี ว่ายังมีความจำเป็นหรือไม่.-สำนักข่าวไทย

บุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.-กำนัน ทุจริตที่ดินเอื้อนายทุน

สระบุรี 8 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” นำกำลังบุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.สระบุรี-กำนัน ร่วมกันทุจริตออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 600-700 ไร่ เอื้อประโยชน์นายทุนสร้างบ้านพักหรู พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วย นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายฯ รมว.เกษตรและสหกรณ์ นำกำลังเข้าจับกุมนายวิชยุตม์ อายุ 42 ปี นายช่างสำรวจชำนาญงาน ขณะกำลังนั่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ในห้องทำงาน ที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดสระบุรี และนายสิปปกร อายุ 57 ปี กำนัน ต.หนองย่างเสือ อ.หมวกเหล็ก ตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าหน้าที่รัฐร่วมกันปฏิบัติหรือเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าพนักงานแต่กลับร่วมกันกระทำการรับรองเอกสารอันเป็นเท็จ หลังพบใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุนเข้าบุกรุกหรือครอบครองที่ป่าไม้ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้มีการตรวจสอบพบคาเฟ่ รีสอร์ตหรูแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ก่อสร้างบุกรุกผืนป่า จึงเร่งขยายตรวจสอบที่ไปที่มาของการเข้าครอบครองที่ดินดังกล่าว กระทั่งพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วนใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้กับนายทุน ด้วยการออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 เพื่อใช้อ้างสิทธิเข้าครอบครอง […]

ยิงกำนันเล้น

ออกหมายจับ “ไอ้ ด.” มือปืนขาเป๋ ยิงถล่มกำนันเล้น ตร.ไล่ล่ากระชั้นชิด

ตรัง 8 ส.ค. – ออกหมายจับ ไอ้ ด. มือปืนขาเป๋ ยิง M16 ถล่มดับกำนันเล้น จ.ตรัง เผยปมสังหารจากคนเคยช่วยเหลือกลับขัดแย้ง-ขู่ฆ่า ผู้การตรังเผยแกะรอยเบาะแสไล่ล่าเป็นประโยชน์ ติดตามตัวแบบหายใจรดต้นคอ ลั่นต้องจับให้ได้ ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรังเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 ว่า จากกรณีคนร้ายชายในชุดดำสวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า ใช้อาวุธสงคราม M16 ยิงถล่มนายบัณฑิต รองพล หรือ กำนันเล้น อายุ 57 ปี กำนันตำบลนาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง และประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด จนเสียชีวิต กระสุนเจาะประตูรถฝั่งคนขับพรุน 15 นัด ปลอกกระสุนขนาด 5.56 ตกกระจายเกลื่อน เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. วันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา บริเวณหน้าบ้านของนายบัณฑิต พื้นที่หมู่ 9 ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งเป็นช่วงระหว่างที่นายบัณฑิตเดินทางกลับจากงานเลี้ยงงานแต่งงาน […]

“บุ๋ม ปนัดดา” พร้อมชน “มาลี”

กรุงเทพฯ 8 ส.ค. – ฮือฮาและเป็นที่พูดถึงอย่างมาก สำหรับการแต่งตั้ง “ดร.บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” นั่งโฆษก ศบ.ทก.จิตอาสา ด้าน “บุ๋ม” เปิดใจ เป็นคนชัดเจน ตรงไปตรงมา พร้อมชน “มาลี” ลั่นไม่กลัวเฟคนิวส์.-สำนักข่าวไทย