กลุ่ม ปตท.เดินหน้าแผนลงทุนในอีอีซี


กรุงเทพฯ 2 ก.พ.-กลุ่ม ปตท.เดินหน้าขยายกิจการในพื้นที่อีอีซี ทั้งปิโตรเคมีและโรงกลั่น เร่งพัฒนายูโร 5 โดย รวมลงทุนเฉลี่ยปีละ 3-4 แสน ล้านบาท  ในช่วง 5 ปีนี้


นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่  บมจ.ปตท. เปิดเผยว่า กลุ่มปตท.มีแผนการลงทุนในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ต่อเนื่อง ซึ่งในช่วง 5 ปีนี้คาดว่าจะใช้เงินลงทุนปีละประมาณ 3-4 แสนล้านบาท โดยเฉพาะในส่วนของโครงการพื้นที่เขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EECi) พื้นที่วังจันทร์วัลเลย์ จ.ระยอง  จะเป็นการสร้างนวัตกรรมให้กับประเทศ รวมถึงยังศึกษาขยายไปสู่ธุรกิจโลจิสติกส์ คาดว่าจะแล้วเสร็จในกลางปีนี้ สำหรับเงินลงทุนของ ปตท.ในปีนี้จะอยู่ที่ราว 1.3 แสนล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในคลังก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ท่อส่งก๊าซธรรมชาติ รวมถึงการขยายงานในธุรกิจน้ำมันและการค้าปลีก  การดูแลระบบโลจีสติกส์และคลังเทอร์มินัล เนื่องจากมีความต้องการน้ำมันสำหรับใช้ภาคพื้นและน้ำมันอากาศยานเพิ่มขึ้นในภาคเหนือ อีสาน ภาคใต้และรวมถึงประเทศเพื่อนบ้าน.


“โครงการลงทุน อีอีซี ปตท.อยู่ระหว่างพิจารณา ว่าจะสอดรับการกลยุทธ์ของปตท.หรือไม่  เช่นโครงการสนามบินอู่ตะเภา โครงการท่าเรือมาบตาพุดระยะที่ 3 และโครงการท่าเรือแหลมฉบัง และจะนำเรื่องเสนอให้คณะกรรมการปตท.พิจารณาในเดือนกุมภาพันธ์นี้  การลงทุน จะเป็นไปตามหลักการทำงาน สร้างสมดุล 3 มิติ ได้แก่ People การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ชุมชน และสังคมอย่างมีส่วนร่วม, Planet การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และProsperity ที่เน้นด้านความมั่นคงทางพลังงานก่อน ”นายชาญศิลป์กล่าว  

นายอธิคม เติบศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ไทยออยล์ (TOP) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งงบลงทุนในช่วง 4 ปีนี้ที่ราว 5.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ ประมาณ ร้อยละ90 จะใช้ในโครงการพลังงานสะอาด (Clean Fuel Project :CFP) ปรับปรุงประสิทธิภาพโรงกลั่นและเพิ่มกำลังการกลั่นน้ำมันเป็น 4 แสนบาร์เรล/วัน จาก 2.75 แสนบาร์เรล/วันในปัจจุบัน ซึ่งจะแล้วเสร็จพร้อมดำเนินการในปี 66 สำหรับในปีนี้จะใช้เงินรวมปีนี้ราว 4 หมื่นล้านบาท จะสามารถรองรับการปรับคุณภาพน้ำมันได้ตามมาตรฐาน EURO V และก็พร้อมจะเร่งรัดให้เร็วขึ้นมาแล้วเสร็จในปี 65 ได้ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้คุณภาพอากาศดีขึ้น 

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) เปิดเผยว่า บริษัทมีการลงทุนขนาดใหญ่  ได้แก่ โครงการปรับปรุงกระบวนการผลิตโอเลฟินส์ (ORP: Olefins Reconfiguration Project) เป็นการก่อสร้างโครงการโอเลฟินส์แห่งใหม่ เริ่มผลิตภายในปี 63 มูลค่าลงทุนราว 3.6 หมื่นล้านบาท ,โครงการผลิตสารโพรพิลีน ออกไซด์ (Propylene Oxide Project) และ โครงการผลิตสารโพลีออลส์ (Polyols Project) หรือโครงการ PO/Polyols เป็นโครงการในสายโพลียูริเทน โดยทั้ง 2 โครงการมีมูลค่าลงทุนรวมกันประมาณ 3.2 หมื่นล้านบาทคาดว่าจะเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ปี 63 

สำหรับปีนี้คาดว่าจะใช้เงินลงทุนราว 5 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น การลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ต่อเนื่อง ราว 4 หมื่นล้านบาท  ,การลงทุนในโรงงานรีไซเคิลขนาดราว 4 หมื่นตัน/ปี ใช้เงินลงทุนราว 3 พันล้านบาท และใช้ลงทุนในโครงการร่วมลงทุนกับพันธมิตร ราว 0.5-1 หมื่นล้านบาท

นายนพดล ปิ่นสุภา เป็น กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ไออาร์พีซี (IRPC) เปิดเผยว่า บริษัทจะเดินหน้าแผนยุทธศาสตร์ภายใต้ชื่อ GDP (Power of Growth Power of Digital และ Power of People) มีเป้าหมายใช้งบลงทุนในช่วง 5 ปีที่ราว 7 หมื่นล้านบาท ใช้ในโครงการโครงการ Maximum Aromatics (MARS) ประมาณ 3 หมื่นล้านบาท เพื่อผลิตพาราไซลีน 1.1-1.3 ล้านตันต่อปี และผลิตเบนซีน 3-5 แสนตันต่อปี , โครงการลงทุนซื้อกิจการ (M&A) เพื่อต่อยอดธุรกิจ, โครงการ Ultra Clean Fuel Project (UCF) การลงทุนรองรับการประกาศใช้น้ำมันดีเซลมาตรฐาน Euro V เป็นต้น

นายชวลิต ทิพพาวนิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC)  กล่าวว่า บริษัทอยู่ระหว่างทบทวนแผนการลงทุน หลังจะมีการลงทุนขนาดใหญ่ด้วยการจะเข้าซื้อกิจการ บมจ.โกลว์ พลังงาน (GLOW) มูลค่าไม่เกิน 1.4 แสนล้านบาทในปีนี้ เพื่อจะพิจารณาให้มีความสมดุลทั้งในส่วนรายได้และหนี้สิน เพื่อรองรับทิศทางการลงทุนใหม่ๆในอนาคต

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย ของปตท. ในฐานะประธานกรรมการ บมจ.ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก (PTTOR) เปิดเผยว่า บริษัทยังไม่สามารถให้ข้อมูลแผนงานต่างๆได้มากนักเพราะอยู่ระหว่างเตรียมการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ 

นายพงศธร ทวีสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าหมายจะมีปริมาณขายปิโตรเลียมเติบโตเฉลี่ยปีละร้อยละ  5 ตั้งแต่ปีนี้จนถึงปี 2573 เพื่อให้การเติบโตของบริษัทเป็นไปอย่างสม่ำเสมอ และจะเพิ่มปริมาณสำรองปิโตรเลียมจากระดับ 5 ปี หรือระดับ 670 ล้านบาร์เรลในปัจจุบัน เพิ่มเป็น 7 ปี มาอยู่ที่ราว 900 ล้านบาร์เรล ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าหากได้ลงนามสัญญาเพื่อรับสิทธิเป็นผู้ดำเนินโครงการแหล่งบงกชและเอราวัณที่จะหมดอายุสัปทานในปี 65-66 ในช่วงปลายเดือนก.พ.นี้ก็คาดว่าจะสามารถเพิ่มปริมาณสำรองให้ขึ้นมาอยู่ในระดับ 7 ปีได้ 

นอกจากนี้บริษัทยังอยู่ระหว่างทำดีลการซื้อกิจการ (M&A) ในภูมิภาค อย่างเมียนมา มาเลเซีย โอมาน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็ว ๆ นี้ รวมถึงในช่วง 2-3 เดือนข้างหน้ายังจะมีความคืบหน้าที่เป็นข่าวดีในธุรกิจโรงไฟฟ้า (Gas to Power) ในเมียนมา ซึ่งบริษัทจะมีโอกาสขยายกำลังการผลิตปิโตรเลียมในแหล่งผลิตเดิมที่มีอยู่ และต่อท่อก๊าซธรรมชาติเพื่อส่งก๊าซฯไปใช้ผลิตไฟฟ้า โดยการดำเนินงานในส่วนธุรกิจไฟฟ้าก็จะเป็นความร่วมมือกับGPSC –สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

เชิญชวนร่วมงาน “มหานคร คัลเลอร์ฟูล ปาร์ตี้ 2025”

“กำภู-รัชนีย์” พาทัวร์งาน “มหานคร คัลเลอร์ฟูล ปาร์ตี้ 2025” ณ ลานจอดรถ บมจ.อสมท พบปะผู้ประกาศ ดีเจ และอินฟลูเอนเซอร์ รวมไปถึงศิลปินที่จะมาร่วมสนุกในงาน “มหานคร คัลเลอร์ฟู ปาร์ตี้ 2025”

วัยรุ่นซิ่งเบนซ์เสียหลักพุ่งเหินฟ้าคารถ 6 ล้อ

รอดตายปาฏิหาริย์! วัยรุ่นซิ่งเบนซ์เสียหลัก ก่อนพุ่งเหินฟ้าติดคาบนรถ 6 ล้อ พลเมืองดีเข้าช่วยเหลือออกมาจากรถ ปลอดภัย

แม่คะนิ้งโผล่ภูกระดึง เตรียมเปิดอุทยานฯ พรุ่งนี้

จังหวัดเลย อุณหภูมิลดลง 1-2 องศาฯ “แม่คะนิ้ง” โผล่ภูกระดึง เตรียมเปิดให้ท่องเที่ยวพรุ่งนี้ (23 ธ.ค.) หลังปิดมา 9 วัน จากเหตุช้างป่า