กาตาร์ ลุ้นคว้าแชมป์สมัยแรก ดวล ญี่ปุ่น ศึกฟุตบอลเอเชียนคัพ 2019

สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 1 ก.พ. – กาตาร์ ลุ้นแชมป์สมัยแรก ดวลกับ ญี่ปุ่น นัดชิงชนะเลิศฟุตบอลเอเชียนคัพ 2019 คืนนี้


กาตาร์ ลุ้นคว้าแชมป์สมัยแรก และมีโอกาสทำสถิติเป็นทีมที่ 2 ในประวัติศาสตร์คว้าแชมป์เอเชียน คัพ มาครองแบบไม่เสียประตู ขณะที่ญี่ปุ่นหวังคว้าแชมป์สมัยที่ 5



หลังจากฝ่าฟันกันมาเกือบ 1 เดือนเศษ สำหรับฟุตบอลเอเชียน คัพ 2019 คืนนี้มาถึงคู่ชิงชนะเลิศ ที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดย “ซามูไรบลู” ทีมชาติญี่ปุ่น แชมป์ 4 สมัย จะพบกับ กาตาร์ ที่ลุ้นทำสถิติคว้าแชมป์ครั้งแรก และลุ้นเป็นชาติที่ 2 ที่ไม่เสียประตูให้กับคู่แข่ง ซึ่งจะแข่งขันกันในคืนนี้เวลา 21.00 น.

ย้อนไปดูผลงานทีมญี่ปุ่นกันก่อนตั้งแต่รอบแรก ชนะ เติร์กเมนิสถาน 3-2 ชนะ โอมาน 1-0 ชนะ อุซเบกิสถาน 2-1 รอบ 16 ทีม ชนะ ซาอุดิอาระเบีย 1-0 รอบ 8 ทีม ชนะเวียดนาม 1-0

ก่อนที่รอบรองชนะเลิศ ญี่ปุ่น จะโชว์ฟอร์มเยี่ยมถล่มชนะทีมอิหร่าน ไปได้ขาดลอย 3-0 ซึ่งถือว่าเป็นผลงานที่ยิงคู่ต่อสู้ขาดที่สุดในเอเชียน คัพ ครั้งนี้ ก่อนที่จะเข้ามาชิงชนะเลิศในคืนนี้กับกาตาร์

สำหรับเกมนี้ ฮาจิเมะ โมริยาสุ กุนซือของทีมญี่ปุ่น จะส่งมายะ โยชิดะ กัปตันทีมจากสโมสรเซาท์แฮมป์ตัน คุมแผงหลัง โดยมี ริตสึ โดอัน จากสโมสรโกรนิงเก้น และ เกนกิ ฮารากูชิ จากฮันโนเวอร์ สองปีกตัวเก่งลากเลื้อยริมเส้นเช่นเดิม ส่วนแดนหน้าเป็นหน้าที่ของ ทาคุมิ มินามิโนะ กับ ยูยะ โอซาโกะ ที่เพิ่งเหมายิงคนเดียว 2 ประตูในเกมที่ผ่านมา ล่าตาข่าย

คาดว่าทีมชาติญี่ปุ่น จะใช้ระบบ (4-4-2) : ผู้รักษาประตู ชูอิจิ กอนดะ-แนวรับมี ฮิโรกิ ซากาอิ, มายะ โยชิดะ, ทาเคฮิโระ โทมิยาสุ, ยูโตะ นากาโตโมะ-แผงมิดฟิลด์ใช้  ริตสึ โดอัน, กาคุ ชิบาซากิ, วาตารุ เอนโดะ, เกนกิ ฮารากูชิ-คู่กองหน้าวาง  ยูยะ โอซาโกะ, ทาคุมิ มินามิโนะ

โดย มายะ โยชิดะ กองหลังกัปตันทีมชาติญี่ปุ่น ยอมรับคงไร้ความหมาย หากไม่สามารถพาทีมคว้าแชมป์เอเชียนคัพ เป็นสมัยที่ 5 ได้ เพราะมองกว่าอาจจะเป็นก้าวสำคัญของวงการลูกหนังแดนอาทิตย์อุทัย โดยระบุว่า เขาต้องการพาญี่ปุ่นคว้าแชมป์ เพราะเราเป็นทีมที่ดีภายใต้โค้ชที่ยอดเยี่ยมและเพื่อนร่วมทีมที่ยอดเยี่ยม

มาดูผลงานของทีมกาตาร์กันบ้าง รอบแรก ชนะ เลบานอน 2-0 ชนะ เกาหลีเหนือ 6-0 ชนะ ซาอุดิอาระเบีย 2-0 รอบ 16 ทีม ชนะ อิรัก 1-0 รอบ 8 ทีม ชนะ เกาหลีใต้ 1-0

ก่อนที่รอบรองชนะเลิศ ยังรักษาฟอร์มการเล่นที่ได้มาตรฐาน เอาชนะ ยูเออี.เจ้าภาพไปขาดลอย 4-0  ผ่านเข้ามาชิงชนะเลิศด้วยผลงานที่ยอดเยี่ยมไม่เสียประตูให้กับทีมใดในทัวร์นาเม้นท์นี้ ยิงไปถึง 16 ประตู และลุ้นเป็นทีมแรกในรอบ 43 ปีที่คว้าแชมป์แบบไม่เสียประตู ต่อจาก อิหร่าน ที่เคยทำได้เมื่อปี 1976 โดยครั้งนั้นมีแข่ง 6 ทีมลงเล่นทั้งหมด 4 นัด และหากคว้าแชมป์มาครองได้ จะกลายเป็นทีมที่ 4 ในประวัติศาสตร์ ที่เก็บชัยได้ทุกนัด ต่อจาก เกาหลีใต้, อิสราเอล และ อิหร่าน

โดยกาตาร์ กลายเป็นทีมม้ามืดเพราะมีโอกาสลุ้นคว้าแชมป์ครั้งแรกในรอบ 43 ปี เกมนี้ เฟลิกซ์ ซานเชส กุนซือชาวสเปน พร้อมใช้ 11 ผู้เล่นชุดเดิมที่ถล่มเจ้าภาพ ยูเออี มา 4-0 ลงสนามต่อไป โดยจะวาง อัคราม อาฟิฟ และ คาริม บูดิอัฟ ทำเกมให้ อัลโมอัซ อาลี ล่าตาข่ายเช่นเดิม

โดยคาดว่าทีมชาติกาตาร์ จะใช้ระบบ (4-2-3-1) : ผู้รักษาประตูใช้ ซาอัด อัล ชีบ แนวรับวาง เปโดร กอร์เรอา, บูอาเรม คูกี้, ตาเร็ก ซัลมาน 2 มิดฟิลด์ตัวรับใช้ อัสซิม มาดิโบ้, ซาเรม อัล ฮายิรี่ 3 ประสานแนวรุกใช้  ฮัสซัน อัล เฮดอส, คาริม บูดิอัฟ, อัฟราม อาฟิฟ โดยหน้าเป้าเป็น อัลโมอัซ อาลี

ส่วนฮัสซัน ไฮดูซ กองกลางกัปตันทีมชาติกาตาร์ ยอมรับว่าทีมชาติญี่ปุ่นแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตามตนเองพร้อมพาทีมลงเล่นรอบชิงชนะเลิศศึกเอเชียนคัพ 2019 และคว้าแชมป์เพื่อแฟนบอล โดยระบุว่า สิ่งที่จะสร้างความแตกต่างคือ ความพร้อมทางร่างกายและจิตใจของทั้งสองทีม

โดย ชาบี้ เอร์นานเดซ อดีตมิดฟิลด์ทีมชาติสเปน และบาร์เซโลน่า วัย 38 ปี ที่ปัจจุบันค้าแข้งกับ อัล ซาดด์ ในลีกกาตาร์ เคยออกมาทำนายการแข่งขันรายการนี้ตั้งแต่รอบแรกจนถึงรอบชิงชนะเลิศว่า ญี่ปุ่น กับ กาตาร์ จะเข้ามาชิงชนะเลิศ และยังระบุด้วยว่าสุดท้ายแล้ว กาตาร์ จะเป็นแชมป์รายการนี้ ซึ่งชาบี้ ได้ทายทีมที่เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายพลาดไปแค่สองทีม ส่วนรอบ 8 ทีม เขาทายผิดเพียงแค่ 1 ทีม ขณะที่รอบรองชนะเลิศนั้น ยังคงรักษามาตรฐานความแม่น ผิดแค่ ออสเตรเลีย แชมป์เก่า ที่กลายเป็น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เข้ามาในรอบรองชนะเลิศแทน

มาดูสถิติของทั้งคู่กันบ้างเคยพบกับ 9 ครั้งหลังสุด ปรากฏว่า ทีมญี่ปุ่น ทำผลงานที่ดีกว่า เอาชนะไปได้ 3 ครั้ง กาตาร์ เอาชนะไปได้ 2 ครั้ง และเสมอ 4 ครั้ง ซึ่งครั้งล่าสุดที่พบกันในศึกเอเชียน คัพ 2011 เป็นญี่ปุ่น ที่เฉือนชนะกาตาร์ เจ้าภาพครั้งนั้น ไปได้ 3-2 ก่อนที่ญี่ปุ่นจะคว้าแชมป์สมัยที่ 4 ไปครอง

ส่วนคืนนี้ใครจะคว้าแชมป์ต้องลุ้นกันเวลา 21.00 น. ที่สนามซายิด สปอร์ต ซิตี้ ว่า ใครจะคว้าแชมป์ระหว่างทีมชาติญี่ปุ่น หรือ ทีมชาติกาตาร์ ที่ลุ้นสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์สมัยแรก รวมถึงยังมีโอกาสสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์เป็นชาติที่ 2 ที่ไม่เสียประตูในรอบ 43 ปี และยังลุ้นเป็นชาติที่ 4 ที่คว้าแชมป์โดยไม่แพ้ใคร .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ พล.ท.บุญสิน เป็นทหารราชองครักษ์พิเศษ

กทม. 27 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายทหาร-นายตำรวจ เป็นราชองครักษ์พิเศษ 38 นาย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 อยู่ในลำดับที่ 20 เมื่อวันที่ 27 ก.ย.2568 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ จำนวน 38 นาย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติการถวายความปลอดภัย พ.ศ. 2560 มาตรา 6 มาตรา 7 และมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติราชองครักษ์ พุทธศักราช 2480 มาตรา 4 มาตรา 5 และมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัตินายตำรวจราชสำนัก พ.ศ. 2495 และข้อ 6 ของระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการแต่งตั้งราชองครักษ์ พ.ศ.2559 .-313.-สำนักข่าวไทย

ไฟไหม้ จยย. ลามวอดทั้งลานจอด

กทม. 27 ก.ย.-วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟไหม้รถจักรยานยนต์ที่ลานจอด ก่อนลุกลามระเบิดวอดรถจักรยานยนต์ 29 คัน รถยนต์ 3 คัน และจักรยาน 3 คัน วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟเริ่มลุกไหม้รถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ด้านในสุด ก่อนจะลุกลามมาคันข้างๆ และระเบิด จนควันปกคลุมไปทั่ว แล้วไฟได้ลุกลามไปอย่างรวดเร็ว ทำให้รถจักรยายนต์ที่จอดอยู่เสียหายถึง 29 คัน รถยนต์ 2 คัน รถกระบะ 1 คัน และจักรยานอีก 3 คัน เหตุการณ์เกิดขึ้นเวลาประมาณ 01.40 น. เช้าวันนี้ (27 กย.68) ที่ลานจอดรถ ของพี.อาร์.เค แมนชั่น ใกล้ปากซอยสุขสวัสดิ์ 17 เเขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ ตำรวจพร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเร่งเข้าช่วยเหลือฉีดน้ำสกัดท่ามกลางเปวดพลิงที่และกำลังลุกลามต่อเนื่องไปยังลานจอดรถยนต์ด้านในอาคาร โดยใช้เวลานานกว่า 20 นาที จึงควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ ซึ่งรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่เสียหายทั้งหมด เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุ ต้องรอให้เจ้าหน้าส่วนเกี่ยวข้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง แต่โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย

กัมพูชาเปิดฉากยิงป่วน 2 พื้นที่ ปราสาทตาควาย-ช่องบก

26 ก.ย. – กัมพูชาเปิดฉากยิงไทยแล้ว 2 จุด บริเวณพื้นที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ และเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี เวลาประมาณ 16.40 น. รับแจ้งจากหน่วยทหารในพื้นที่ ระบุว่า บริเวณเนิน 350 พื้นที่ประสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ได้ยินเสียงระเบิด 1 ครั้ง และพื้นที่ “จุ๊บอั่งกุย” ได้ยินเสียงปืนเล็ก 5-6 นัด คาดว่าเป็นการก่อเหตุยั่วยุจากทางฝั่งกัมพูชา ล่าสุดเหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติ อยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมจากหน่วยทหารในพื้นที่ ขณะที่บริเวณเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยอมรับว่า ไทยถูกกัมพูชายิงระเบิดใส่จริง ขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบ เก็บหลักฐานไปประท้วง พร้อมขอให้ประชาชนช่วยรักษาความลับราชการ ไม่เผยแพร่ภาพพิกัดยุทโธปกรณ์ของทหาร.-สำนักข่าวไทย

กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกช่วยงานประธานรัฐสภา

กทม 26 ก.ย.- กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกไปช่วยงานประธานรัฐสภา ชี้นโยบายชัด ปลัดอำเภอใหม่ต้องปฏิบัติงานในพื้นที่จริง เพื่อสั่งสมประสบการณ์ นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ รองอธิบดี ปฏิบัติราชการแทน อธิบดีกรมการปกครอง ทำหนังที่ มท 302.13481 ถึงเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เรื่องขอยืมตัวข้าราชการช่วยราชการ โดย อ้างถึง หนังสือสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ด่วนที่สุด ที่ สผ001.02/479 ลงวันที่ 25 กันยายน 2568 โดยมีรายละเอียดว่า ตามหนังสือที่อ้างถึง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร แจ้งว่า มีความประสงค์ขอยืมตัวข้าราชการสังกัดกรมการปกครองราย ร้อยตำรวจเอกหญิง อาทิติยา เบ็ญจะปัก ตำแหน่ง นักประชาสัมพันธ์ปฏิบัติการ ส่วนประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมการปกครอง มาช่วยราชการที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในส่วนงานของประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย อีกหน้าที่หนึ่ง โดยไม่ขาดจากตำแหน่งหน้าที่เดิม ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่1ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป นั้น กรมการปกครอง ขอเรียนว่า […]

ข่าวแนะนำ

กองทัพภาคที่ 2 ซัดเขมรใช้แผนยั่วยุซ้ำแล้วซ้ำเล่า

อุบลราชธานี 27 ก.ย.-กองทัพภาคที่2 ซัดเขมรใช้แผนยั่วยุซ้ำแล้วซ้ำเล่า ย้ำรู้ทันแผนโฆษณาชวนเชื่อต่อนานาชาติ เมื่อเวลา 14.40 น. วันที่ 27 ก.ย. 68 ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ได้สรุปสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ประจำวันที่ 27 ก.ย. ณ เวลา 14.00 น. ว่าสถานการณ์โดยรวมเมื่อเวลา 12.02 น. ฝ่ายกัมพูชาได้พยายามสร้างสถานการณ์ความตึงเครียด ขึ้นอีกครั้งบริเวณพื้นที่ช่องอานม้า อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี โดยใช้อาวุธสงครามยิงเข้ามายังพื้นที่ ของฝ่ายไทยจากบริเวณเนิน 677 มายังเนิน 600 และ เนิน 527 พร้อมทั้งใช้อาวุธปืนเล็กยิงปะทะเป็นระยะ ก่อนที่สถานการณ์จะยุติลง ทั้งนี้ การปะทะจำกัดวงอยู่เฉพาะบริเวณดังกล่าว แต่ทั้งสองฝ่ายยังคงตรึงกำลังควบคุมพื้นที่อย่างใกล้ชิด ต่อมาในช่วงบ่ายวันเดียวกัน ฝ่ายไทยได้รับแจ้งจากกัมพูชา ว่า คณะสังเกตการณ์ระหว่างประเทศ (IOT) ของกัมพูชา จะเดินทางเข้าพื้นที่ช่องอานม้า กองทัพภาคที่ 2 ประเมินว่าเป็นความพยายามของกัมพูชา ในการสร้างเงื่อนไขและยั่วยุให้เกิดสถานการณ์ เพื่อให้สอดคล้องกับช่วงเวลาที่คณะ IOT […]

นายกฯ ลงพื้นที่ตรวจน้ำท่วมอยุธยาฯ

พระนครศรีอยุธยา 27 ก.ย.-นายกฯ ลงพื้นที่พระนครศรีอยุธยา ตรวจน้ำท่วม เร่งเยียวยาแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน เดินหน้าบูรณาการหน่วยงานใช้งบแสนล้านบาท พัฒนาระบบชลประทานและการจัดการน้ำ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ สส.ของพรรค ให้การต้อนรับ และในโอกาสนี้ นายทวิวงศ์ โตทวิวงศ์ สส.พรรคประชาชน เขต1 ที่มาร่วมงานด้วย ทันทีที่นายกรัฐมนตรีได้เดินทางมาถึงบริเวณวัดโคกหิรัญ มีประชาชนมารอให้การต้อนรับ มอบดอกกุหลาบให้กำลังใจ พร้อมร้องเพลง มาร์ช อสม.ต้อนรับนายกรัฐมนตรี พร้อมกับถ่ายรูปเซลฟี่ อย่างเป็นกันเอง ก่อนที่จะรับฟังการรายงานสถานการณ์น้ำในพื้นที่จากผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยผู้ว่าราชการจังหวัดยืนยันว่า พื้นที่แห่งนี้เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ ไม่ใช่พื้นที่ทุ่งรับน้ำ พื้นที่มีโฉนดที่ดินทั้งหมด ไม่ใช่ที่สาธารณะ หรือแก้มลิง พร้อมขอให้มีการพิจารณาจ่ายเงินเยียวยาเพื่อบรรเทาปัญหาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย เนื่องจากไม่ได้รับความสะดวกในการประกอบอาชีพ นายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณที่ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น มาในสถานะนายกรัฐมนตรี ถือว่าสามารถที่จะมาตอบสนองความต้องการของประชาชนในทุกๆ มิติ รัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลที่ทำงานร่วมกันเป็นทีมเดียวกัน กับพรรคร่วมรัฐบาล เป้าหมายคือประโยชน์สูงสุดของประชาชน นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า ทราบดีอยู่แล้วว่าจังหวัดพระนครศรีอยุธยาแห่งนี้ มีน้ำท่วมทุกปี น้ำท่วมซ้ำซาก […]

น้ำเซาะใต้วิหารสมเด็จโต หวั่นทรุด

อ่างทอง 27 ก.ย.-น้ำแม่น้ำเจ้าพระยา เซาะเขื่อนทะลุใต้วิหารสมเด็จโต วัดดังอ่างทอง พระชาวบ้านหวั่นทรุด เร่งแก้ปัญหา ส่วนอุบลราชธานี เร่งสูบน้ำในชุมชนวารินชำราบ รักษาพื้นที่ชั้นใน บริเวณพื้นใต้วิหารสมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี วัดไชโยวรวิหาร อ.ไชโย จ.อ่างทอง ที่อยู่ติดกับเขื่อนริมแม่น้ำเจ้าพระยา พบว่ามีน้ำไหลเซาะแนวเขื่อนเข้ามาขังอยู่ด้านล่างความสูงกว่า 50 ซม. และเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ทางวัดแก้ไขเบื้องต้น ด้วยการนำเครื่องสูบน้ำขนาดเล็กเร่งสูบน้ำออก เนื่องจากเกรงว่าจะทำให้โครงสร้างเกิดความเสียหาย หรือวิหารทรุดตัวลงได้ แม้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาจะทรงตัวหลังเขื่อนเจ้าพระยาลดการระบายน้ำมาอยู่ที่ 2,100 ลบ.เมตร/วินาที เป็นวันที่ 3 แต่ยังคงมีระดับสูง จนทำให้ไหลทะลุแนวเขื่อนเข้ามาหลายจุด และเพิ่มปริมาณขึ้นเรื่อยๆ ส่วนที่จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับพายุบัวลอย ประกอบกับ ระดับน้ำแม่น้ำมูลอยู่ในภาวะวิกฤต เจ้าหน้าที่เร่งระดมเดินเครื่องสูบน้ำ ระบายน้ำออกจากจากชุมชนริมแม่น้ำมูล ฝั่งอำเภอวารินชำราบ ทั้งอพยพประชาชนในพื้นที่ลุ่มต่ำกว่า 75 ครัวเรือน ให้ไปอยู่ในพื้นที่ที่จัดเตรียมไว้ ขณะที่เทศบาลเมือวารินชำราบได้ปิดประตูน้ำ ไม่ให้แม่น้ำมูลไหลเข้าสู่พื้นที่ชั้นใน ซึ่งปัจจุบันระดับน้ำยังอยู่ในภาวะที่บริหารจัดการได้ อย่างไรก็ตาม เทศบาลได้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 16 นิ้ว 2 เครื่อง เดินเครื่องสูบตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึง 24.00 […]

กองทัพบก ย้ำกัมพูชาเจตนาสร้างปัญหาเพื่อผลประโยชน์

สุรินทร์ 27 ก.ย.-เกาะติดสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังวานนี้ได้ยินเสียงระเบิดและเสียงปืน ด้านกองทัพบกย้ำ กัมพูชาเจตนาสร้างปัญหาเพื่อผลประโยชน์ สถานการณ์ล่าสุดหลังจากเมื่อวานนี้เวลาประมาณ 16.40 น. หน่วยทหารในพื้นที่ชายแดน จ.สุรินทร์ แจ้งว่า บริเวณเนิน 350 พื้นที่ประสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ พบเสียงระเบิด 1 ครั้ง และพื้นที่ “จุ๊บอั่งกุย” ได้ยินเสียงปืนเล็ก 5-6 นัด เบื้องต้นคาดว่าเป็นการก่อเหตุยั่วยุจากทางฝั่งกัมพูชา แต่เหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติแล้ว ซึ่งหลังจากนั้น เพจกองทัพบก ทันกระแส ได้ออกมาโพสต์ว่า ยืนยันไม่มีการปะทะ เสียงระเบิดที่ได้ยิน เพราะกัมพูชาเหยียบกับระเบิดตัวเอง แต่ก็ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมจากหน่วยทหารในพื้นที่เตือนประชาชนอย่าเพิ่งตื่นตระหนก นอกจากสถานการณ์ในฝั่งไทยแล้ว กองทัพบกได้กล่าวถึงการที่ ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับการปักปันเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ในพื้นที่ จ.สระแก้ว โดยในหลายประเด็นพบว่ามีการกล่าวอ้างและตอบโต้ต่อคำชี้แจงของฝ่ายไทยด้วยข้อมูลที่ไม่ถูกต้องและอาจทำให้สาธารณชนเกิดความสับสน พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้ออกมาชี้แจงว่า ข้อมูลที่ ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ออกมาเปิดเผยนั้น มีทั้งส่วนที่เป็นข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง และก็มีอีกหลายส่วนที่ยังเป็นลักษณะของการกล่าวอ้างเฉพาะในมุมที่ต้องการของตัวเองฝ่ายเดียว […]