กาตาร์ ลุ้นคว้าแชมป์สมัยแรก ดวล ญี่ปุ่น ศึกฟุตบอลเอเชียนคัพ 2019

สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 1 ก.พ. – กาตาร์ ลุ้นแชมป์สมัยแรก ดวลกับ ญี่ปุ่น นัดชิงชนะเลิศฟุตบอลเอเชียนคัพ 2019 คืนนี้


กาตาร์ ลุ้นคว้าแชมป์สมัยแรก และมีโอกาสทำสถิติเป็นทีมที่ 2 ในประวัติศาสตร์คว้าแชมป์เอเชียน คัพ มาครองแบบไม่เสียประตู ขณะที่ญี่ปุ่นหวังคว้าแชมป์สมัยที่ 5



หลังจากฝ่าฟันกันมาเกือบ 1 เดือนเศษ สำหรับฟุตบอลเอเชียน คัพ 2019 คืนนี้มาถึงคู่ชิงชนะเลิศ ที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดย “ซามูไรบลู” ทีมชาติญี่ปุ่น แชมป์ 4 สมัย จะพบกับ กาตาร์ ที่ลุ้นทำสถิติคว้าแชมป์ครั้งแรก และลุ้นเป็นชาติที่ 2 ที่ไม่เสียประตูให้กับคู่แข่ง ซึ่งจะแข่งขันกันในคืนนี้เวลา 21.00 น.

ย้อนไปดูผลงานทีมญี่ปุ่นกันก่อนตั้งแต่รอบแรก ชนะ เติร์กเมนิสถาน 3-2 ชนะ โอมาน 1-0 ชนะ อุซเบกิสถาน 2-1 รอบ 16 ทีม ชนะ ซาอุดิอาระเบีย 1-0 รอบ 8 ทีม ชนะเวียดนาม 1-0

ก่อนที่รอบรองชนะเลิศ ญี่ปุ่น จะโชว์ฟอร์มเยี่ยมถล่มชนะทีมอิหร่าน ไปได้ขาดลอย 3-0 ซึ่งถือว่าเป็นผลงานที่ยิงคู่ต่อสู้ขาดที่สุดในเอเชียน คัพ ครั้งนี้ ก่อนที่จะเข้ามาชิงชนะเลิศในคืนนี้กับกาตาร์

สำหรับเกมนี้ ฮาจิเมะ โมริยาสุ กุนซือของทีมญี่ปุ่น จะส่งมายะ โยชิดะ กัปตันทีมจากสโมสรเซาท์แฮมป์ตัน คุมแผงหลัง โดยมี ริตสึ โดอัน จากสโมสรโกรนิงเก้น และ เกนกิ ฮารากูชิ จากฮันโนเวอร์ สองปีกตัวเก่งลากเลื้อยริมเส้นเช่นเดิม ส่วนแดนหน้าเป็นหน้าที่ของ ทาคุมิ มินามิโนะ กับ ยูยะ โอซาโกะ ที่เพิ่งเหมายิงคนเดียว 2 ประตูในเกมที่ผ่านมา ล่าตาข่าย

คาดว่าทีมชาติญี่ปุ่น จะใช้ระบบ (4-4-2) : ผู้รักษาประตู ชูอิจิ กอนดะ-แนวรับมี ฮิโรกิ ซากาอิ, มายะ โยชิดะ, ทาเคฮิโระ โทมิยาสุ, ยูโตะ นากาโตโมะ-แผงมิดฟิลด์ใช้  ริตสึ โดอัน, กาคุ ชิบาซากิ, วาตารุ เอนโดะ, เกนกิ ฮารากูชิ-คู่กองหน้าวาง  ยูยะ โอซาโกะ, ทาคุมิ มินามิโนะ

โดย มายะ โยชิดะ กองหลังกัปตันทีมชาติญี่ปุ่น ยอมรับคงไร้ความหมาย หากไม่สามารถพาทีมคว้าแชมป์เอเชียนคัพ เป็นสมัยที่ 5 ได้ เพราะมองกว่าอาจจะเป็นก้าวสำคัญของวงการลูกหนังแดนอาทิตย์อุทัย โดยระบุว่า เขาต้องการพาญี่ปุ่นคว้าแชมป์ เพราะเราเป็นทีมที่ดีภายใต้โค้ชที่ยอดเยี่ยมและเพื่อนร่วมทีมที่ยอดเยี่ยม

มาดูผลงานของทีมกาตาร์กันบ้าง รอบแรก ชนะ เลบานอน 2-0 ชนะ เกาหลีเหนือ 6-0 ชนะ ซาอุดิอาระเบีย 2-0 รอบ 16 ทีม ชนะ อิรัก 1-0 รอบ 8 ทีม ชนะ เกาหลีใต้ 1-0

ก่อนที่รอบรองชนะเลิศ ยังรักษาฟอร์มการเล่นที่ได้มาตรฐาน เอาชนะ ยูเออี.เจ้าภาพไปขาดลอย 4-0  ผ่านเข้ามาชิงชนะเลิศด้วยผลงานที่ยอดเยี่ยมไม่เสียประตูให้กับทีมใดในทัวร์นาเม้นท์นี้ ยิงไปถึง 16 ประตู และลุ้นเป็นทีมแรกในรอบ 43 ปีที่คว้าแชมป์แบบไม่เสียประตู ต่อจาก อิหร่าน ที่เคยทำได้เมื่อปี 1976 โดยครั้งนั้นมีแข่ง 6 ทีมลงเล่นทั้งหมด 4 นัด และหากคว้าแชมป์มาครองได้ จะกลายเป็นทีมที่ 4 ในประวัติศาสตร์ ที่เก็บชัยได้ทุกนัด ต่อจาก เกาหลีใต้, อิสราเอล และ อิหร่าน

โดยกาตาร์ กลายเป็นทีมม้ามืดเพราะมีโอกาสลุ้นคว้าแชมป์ครั้งแรกในรอบ 43 ปี เกมนี้ เฟลิกซ์ ซานเชส กุนซือชาวสเปน พร้อมใช้ 11 ผู้เล่นชุดเดิมที่ถล่มเจ้าภาพ ยูเออี มา 4-0 ลงสนามต่อไป โดยจะวาง อัคราม อาฟิฟ และ คาริม บูดิอัฟ ทำเกมให้ อัลโมอัซ อาลี ล่าตาข่ายเช่นเดิม

โดยคาดว่าทีมชาติกาตาร์ จะใช้ระบบ (4-2-3-1) : ผู้รักษาประตูใช้ ซาอัด อัล ชีบ แนวรับวาง เปโดร กอร์เรอา, บูอาเรม คูกี้, ตาเร็ก ซัลมาน 2 มิดฟิลด์ตัวรับใช้ อัสซิม มาดิโบ้, ซาเรม อัล ฮายิรี่ 3 ประสานแนวรุกใช้  ฮัสซัน อัล เฮดอส, คาริม บูดิอัฟ, อัฟราม อาฟิฟ โดยหน้าเป้าเป็น อัลโมอัซ อาลี

ส่วนฮัสซัน ไฮดูซ กองกลางกัปตันทีมชาติกาตาร์ ยอมรับว่าทีมชาติญี่ปุ่นแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตามตนเองพร้อมพาทีมลงเล่นรอบชิงชนะเลิศศึกเอเชียนคัพ 2019 และคว้าแชมป์เพื่อแฟนบอล โดยระบุว่า สิ่งที่จะสร้างความแตกต่างคือ ความพร้อมทางร่างกายและจิตใจของทั้งสองทีม

โดย ชาบี้ เอร์นานเดซ อดีตมิดฟิลด์ทีมชาติสเปน และบาร์เซโลน่า วัย 38 ปี ที่ปัจจุบันค้าแข้งกับ อัล ซาดด์ ในลีกกาตาร์ เคยออกมาทำนายการแข่งขันรายการนี้ตั้งแต่รอบแรกจนถึงรอบชิงชนะเลิศว่า ญี่ปุ่น กับ กาตาร์ จะเข้ามาชิงชนะเลิศ และยังระบุด้วยว่าสุดท้ายแล้ว กาตาร์ จะเป็นแชมป์รายการนี้ ซึ่งชาบี้ ได้ทายทีมที่เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายพลาดไปแค่สองทีม ส่วนรอบ 8 ทีม เขาทายผิดเพียงแค่ 1 ทีม ขณะที่รอบรองชนะเลิศนั้น ยังคงรักษามาตรฐานความแม่น ผิดแค่ ออสเตรเลีย แชมป์เก่า ที่กลายเป็น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เข้ามาในรอบรองชนะเลิศแทน

มาดูสถิติของทั้งคู่กันบ้างเคยพบกับ 9 ครั้งหลังสุด ปรากฏว่า ทีมญี่ปุ่น ทำผลงานที่ดีกว่า เอาชนะไปได้ 3 ครั้ง กาตาร์ เอาชนะไปได้ 2 ครั้ง และเสมอ 4 ครั้ง ซึ่งครั้งล่าสุดที่พบกันในศึกเอเชียน คัพ 2011 เป็นญี่ปุ่น ที่เฉือนชนะกาตาร์ เจ้าภาพครั้งนั้น ไปได้ 3-2 ก่อนที่ญี่ปุ่นจะคว้าแชมป์สมัยที่ 4 ไปครอง

ส่วนคืนนี้ใครจะคว้าแชมป์ต้องลุ้นกันเวลา 21.00 น. ที่สนามซายิด สปอร์ต ซิตี้ ว่า ใครจะคว้าแชมป์ระหว่างทีมชาติญี่ปุ่น หรือ ทีมชาติกาตาร์ ที่ลุ้นสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์สมัยแรก รวมถึงยังมีโอกาสสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์เป็นชาติที่ 2 ที่ไม่เสียประตูในรอบ 43 ปี และยังลุ้นเป็นชาติที่ 4 ที่คว้าแชมป์โดยไม่แพ้ใคร .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ลิณธิภรณ์” แจงปมสะกดคำผิด ยอมรับผิดพลาดพร้อมแก้ไข

กระทรวงวัฒนธรรม 4 ก.ค.- “ลิณธิภรณ์” ยอมรับดรามาใช้ภาษาไทยสะกดคำผิด พร้อมแก้ไขปรับปรุงตัว รับปากจะไม่ให้เกิดขึ้นอีก บอก บางครั้งรีบพิมพ์ไม่ได้ตรวจทาน ทำเกิดผลเสียทุกวันนี้ แจงมีปัญหาสุขภาพ อาจทำให้ออกเสียงควบกล้ำไม่ได้ น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ให้สัมภาษณ์ถึงดรามาเรื่องการใช้ภาษาไทยในโซเชียลมีเดีย ว่า ตนขอยอมรับอย่างซื่อตรง ว่าบางครั้งในการสะกดคำของตนเองก็มีความผิดพลาด ซึ่งบางครั้งใช้การพิมพ์ด้วยเสียงผ่านโทรศัพท์มือถือ และได้โพสต์ข้อความไปแล้ว ก่อนจะมารู้ตัวอีกทีก็ผ่านไป 2-3 ชั่วโมง มันเป็นความผิดพลาด อันนี้ตนยอมรับด้วยความจริงใจ และวันนี้ตนก็เข้าใจดีว่าเมื่อมานั่งตำแหน่งตรงนี้ สิ่งที่จำเป็นต้องทำ คือต้องปรับปรุง และคิดว่าหลังจากนี้ความผิดพลาดเหล่านี้ก็จะไม่เกิดขึ้น เพราะตนก็อยากเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเด็กและเยาวชน ของประเทศเหมือนกัน รวมถึงอีกสิ่งที่ตนอยากจะบอกคือการออกเสียงควบกล้ำ ซึ่งเป็นผลกระทบ จากปัญหาสุขภาพ แต่ส่วนหนึ่งตนก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าวว่า วันนี้ตนเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในภาพนโยบายใหญ่ คงต้องขึ้นอยู่กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาฯ ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยใน รายละเอียดที่ชัดเจน และจะเข้ากระทรวงพร้อมกันในวันที่ 8 กรกฎาคม สำหรับตนหากใครที่เคยติดตาม ก็เคยเป็นคนหนึ่งที่ พูดเรื่องการศึกษาในส่วนของพรรคเพื่อไทยมาโดยตลอด ตั้งแต่เป็นโฆษกพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะเรื่องการลดค่าสอบทีแคส (TCAS) รวมถึงเรื่องการทำโครงการ ด้านสุขภาพภาวะจิต และอาจจะเป็นโครงการหนึ่งที่ตนจะสานต่อ […]

มอบ “จิราพร” เข้าร่วมประชุมผู้นำ BRICS ที่บราซิล

ทำเนียบ 3 ก.ค.-มอบ “จิราพร” เข้าร่วมประชุมผู้นำ BRICS ครั้งที่ 17 ที่บราซิล 6-7 ก.ค.นี้ นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมผู้นำกลุ่ม BRICS ครั้งที่ 17 ระหว่างวันที่ 6 – 7 กรกฎาคม 2568 ร่วมกับผู้นำจาก 10 ประเทศสมาชิกกลุ่ม BRICS และประเทศหุ้นส่วนจากหลากหลายประเทศ ที่นครรีโอเดจาเนโร สหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล โดยไทยเข้าร่วมในฐานะประเทศหุ้นส่วนของกลุ่ม BRICS (Partner Country) สำหรับการประชุมผู้นำกลุ่ม BRICS จะจัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “เสริมสร้างความร่วมมือโลกใต้เพื่อการสร้างธรรมาภิบาลที่ครอบคลุมและยั่งยืนยิ่งขึ้น โดยบราซิลในฐานะประธานกลุ่ม BRICS ปีนี้ ให้ความสำคัญกับประเด็นหลัก 6 ด้าน ได้แก่ (1) สาธารณสุข (2) การค้า การลงทุน และการเงิน (3) การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (4) ธรรมาภิบาลของปัญญาประดิษฐ์ […]

Hun Sen, at event marking ruling party's 74th founding anniversary

ฮุน เซน เรียกร้องปั๊ม ปตท. งดนำเข้าน้ำมันจากไทย

พนมเปญ 3 ก.ค.- นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ยังคงเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเรียกร้องให้เจ้าของปั๊ม ปตท.เลิกนำเข้าน้ำมันจากไทย และหันไปนำเข้าจากประเทศอื่นแทน สื่อของกัมพูชารายงานว่า นายฮุน เซน พูดถึงเรื่องนี้ในระหว่างการประชุมกับครูและนักเรียนที่ศูนย์การศึกษาและฝึกอบรมในจังหวัดไพรแวงในวันนี้ เรียกร้องให้เจ้าของปั๊มน้ำมัน ปตท.ทุกแห่งในกัมพูชาเลิกนำเข้าน้ำมันจากไทย และหันไปนำเข้าน้ำมันจากประเทศอื่น ๆ แทน ไม่ว่าจะเป็นจากเวียดนาม  มาเลเซีย หรือสิงคโปร์ โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนชื่อปั๊ม แม้ว่า ปตท.จะเป็นรัฐวิสาหกิจของไทยก็ตาม นอกจากนี้นายฮุน เซนยังพูดถึงเรื่องที่ไทยเคยขู่ว่าจะตัดไฟฟ้า ตัดอินเทอร์เน็ต ห้ามขายเชื้อเพลิง และอื่นๆ ให้กัมพูชาด้วยว่า เมื่อไทยขู่มากัมพูชาก็ตอบโต้ทันที กัมพูชาต้องพึ่งพาตนเองให้ได้เพื่อรับมือกับภัยคุกคามในอนาคตเหมือนกับที่กำลังเผชิญจากไทยในเวลานี้ แม้ว่าจะมีแรงกดดันจากไทย แต่กัมพูชาก็ได้ดำเนินการไปแล้ว ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและความสามารถในการพึ่งพาตนเองได้ของกัมพูชา ประธานวุฒิสภากัมพูชาเน้นย้ำว่า มาตรการทั้งหมดที่กัมพูชาได้ดำเนินไปนั้นเป็นการตอบโต้โดยตรงกับภัยคุกคามจากฝ่ายไทย รวมทั้งการที่ไทยปิดด่านพรมแดนแต่เพียงฝ่ายเดียว เขาแสดงท่าทีอย่างชัดเจนว่า การเจรจากับไทยจะเริ่มขึ้นได้ ต่อเมื่อฝ่ายไทยจะต้องยอมเปิดด่านทุกจุดอย่างเต็มรูปแบบเหมือนที่เคยทำก่อนวันที่ 7 มิถุนายนแล้วเท่านั้น.-816(814).-สำนักข่าวไทย

เปิด 7 จุดยืน “ปชน.” ทางออกประเทศหาก “แพทองธาร” พ้นเก้าอี้

กรุงเทพฯ 4 ก.ค. – พรรคประชาชนโพสต์เฟซบุ๊กแสดง 7 จุดยืน หาก “แพทองธาร” พ้นตำแหน่ง เปิดเงื่อนไขโหวตนายกฯ คนใหม่ พรรคประชาชนโพสต์เฟซบุ๊กแสดง 7 จุดยืน หาก “นายกฯ แพทองธาร” พ้นจากตำแหน่ง เพื่อนำพาประเทศไปสู่ทางออกที่จะเป็นประโยชน์ที่สุดสำหรับประชาชนทุกคน ดังนี้ 1.สิ่งที่ประเทศต้องการมากที่สุด คือรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ มีความชอบธรรม และสามารถตั้งทีมบริหารจากความรู้ความสามารถ ไม่ใช่จากการต่อรองผลประโยชน์ทางการเมือง2.รัฐบาลที่จะมีคุณสมบัติดังกล่าวจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้จากสภาชุดปัจจุบัน ทางออกสำหรับประเทศจึงเป็นการจัดให้มี “การเลือกตั้งใหม่” โดยเร็ว3.รักษาการนายกฯ ควรประกาศให้ชัดเจนว่าจะใช้อำนาจที่ตนเองมี ในการเดินหน้าสู่การยุบสภา เพื่อคืนอำนาจให้กับประชาชนผ่านคูหาเลือกตั้ง4.หากรักษาการนายกฯ ไม่ทำ และมีเหตุใดที่ทำให้นายกรัฐมนตรีแพทองธาร พ้นจากตำแหน่ง กระบวนการในการเลือกนายกฯ คนใหม่ จะต้องนำไปสู่การได้มาซึ่งนายกฯ ที่พร้อมเดินหน้าสู่การยุบสภา5.เพื่อให้ประเทศไม่ถูกบีบไปสู่ทางตันหรือการใช้อำนาจนอกครรลองประชาธิปไตย เราพร้อมจะพิจารณาลงมติให้กับผู้เสนอตัวเป็นนายกฯ คนใหม่คนใดก็ตาม ที่ยอมรับ “เงื่อนไข” ในการเป็นรัฐบาลชั่วคราว โดยทางพรรคประชาชนจะไม่เข้าร่วมรัฐบาลและจะไม่มีใครจากพรรคประชาชนไปเป็นรัฐมนตรี 6.“เงื่อนไข” ในการเดินหน้าสู่การยุบสภา สำหรับนายกฯ คนใหม่ จะต้องประกอบไปด้วยอย่างน้อย6.1 การประกาศเส้นตายว่าจะยุบสภาภายในสิ้นปี6.2 การยืนยันภารกิจเฉพาะหน้าที่จะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาดังกล่าว (เช่น การดำเนินการให้มีการจัดประชามติพร้อมกับการเลือกตั้ง เพื่อถามประชาชนเรื่องการมี […]

ข่าวแนะนำ

“แพทองธาร” หารือผู้บริหาร ก.วัฒนธรรม

ก.วัฒนธรรม 4 ก.ค.-“แพทองธาร” หารือผู้บริหาร ก.วัฒนธรรม แจงข่าวปลอมไทยคืนวัตถุโบราณ 20 รายการ ให้กัมพูชาไม่จริง ชี้ทำตั้งแต่ “รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์” พร้อมสั่งเบรกจัดสรรงบฯ คืนวัตถุโบราณกัมพูชา จ่อแจ้งความคนปล่อยเฟกนิวส์ ปลุกปั่น “กลุ่มปราสาทตาเมือน” ยันอยู่ใต้อำนาจอธิปไตยไทย ช่วงบ่ายวันนี้ (4 ก.ค.) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานการประชุมหารือร่วมกับผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม โดย น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า วันนี้ถือเป็นการประชุมครั้งแรก มีข้อที่อยากจะฝากเอาไว้ และอยากจะให้ช่วยกันผลักดัน รวมถึงอยากจะอัปเดตข้อมูลให้ฟัง ซึ่งวันนี้ตนได้ทำการบ้านมาเล็กน้อย และรู้สึกดีใจที่จะได้ฟังจากทุกคนว่า แต่ละหน่วยงานแต่ละฝ่ายทำอะไรกันอยู่บ้าง และในกระทรวงฯ มีอะไรที่อยากให้ดำเนินการเพิ่มเติมบ้าง ประเด็นแรก อยากจะขอชี้แจงเรื่องข่าวปลอม เรื่องการส่งคืนวัตถุโบราณ จำนวน 20 รายการ ให้กับประเทศกัมพูชา ตนขอยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง เพราะการคืนวัตถุโบราณให้กับประเทศกัมพูชา มีมาตั้งแต่สมัย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี ในปี พ.ศ. 2558 ซึ่งประเทศไทยได้คืนไปแล้ว […]

“สุชัชวีร์” ไขก๊อก “ปชป.” เล็งรวมคนตั้งพรรคใหม่

พรรคประชาธิปัตย์ 4 ก.ค.- “สุชัชวีร์” ไขก๊อก ลาออก “ปชป.” เตรียมรวมคนตั้งพรรคใหม่ ทำการเมืองระดับประเทศ เน้นพัฒนาคนจากการศึกษา ลั่นถ้าการศึกษาเปลี่ยนไม่ได้ อย่าหวังว่าประเทศไทยจะมีอนาคต ส่อไม่ลงผู้ว่าฯ กทม.ต่อ ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หรือ ดร.เอ้ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เดินทางมาที่พรรคประชาธิปัตย์ในเวลา 10.00 น. เพื่อกราบไหว้พระแม่ธรณีบีบมวยผม สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำพรรค ดร.สุชัชวีร์ เปิดเผยว่า ในช่วงเช้าได้ให้เลขานุการส่วนตัวยื่นหนังสือลาจากเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ต่อนายทะเบียนพรรคการเมืองของคณะกรรมการการเลือกตั้งและนายทะเบียนพรรคประชาธิปัตย์เรียบร้อยแล้ว และต้องขอกราบขอบคุณสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ และหัวหน้าพรรคซึ่งตนได้โทรศัพท์เรียนให้ทราบถึงการตัดสินใจไปแล้ว รวมทั้งขอบคุณกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ที่ให้เกียรติ ทำงานกับพรรคการเมืองที่มีประวัติศาสตร์มายาวนาน ขอยืนยันชัดเจนว่าไม่ได้เกิดจากความขัดแย้งใด ๆ แต่มาจากอุดมการณ์และความฝันของตนที่ออกมาทำงานการเมือง ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงในประเทศจริง ๆ เพราะวันนี้ประเทศไทยกำลังอยู่ในภาวะที่วิกฤติ และสถานการณ์ขณะนี้รอไม่ได้ ดังนั้นด้วยความมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาของประเทศที่เริ่มต้นจากการพัฒนาคนเรื่องการศึกษา ถือเป็นความตั้งใจอันแน่วแน่และเป็นการตัดสินใจอย่างรอบคอบว่าจากนี้เป็นต้นไปจะใช้ความรู้ความสามารถ ประสบการณ์ทั้งหมด มาใช้ในการเปลี่ยนแปลงประเทศ และเริ่มต้นจากการเปลี่ยนเรื่องของการศึกษา ถ้าเราไม่เปลี่ยนเราแพ้เวียดนามแน่นอน ซึ่งเรื่องนี้ตนยอมไม่ได้ เมื่อถามว่าส่วนหนึ่งในเหตุผลการลาออกคือ พรรคประชาธิปัตย์ยังตัดสินใจร่วมรัฐบาลอยู่ใช่หรือไม่ นายสุชัชวีร์ กล่าวว่า นั่นเป็นการตัดสินใจของพรรค ตนให้เกียรติหัวหน้าพรรคและผู้ใหญ่ในพรรค และไม่ใช่เหตุผลที่ตัดสินใจลาออก เพราะตนมีเหตุผลชัดเจนอย่างที่กล่าวมา ซึ่งสถานการณ์ในประเทศไทยตอนนี้ วิกฤติทางการเมือง […]

ปิดลงทะเบียน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ย้ายไปแอปฯ “ทางรัฐ”

4 ก.ค.- “สรวงศ์” รมว.ท่องเที่ยวฯ สั่งปิดลงทะเบียน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ชั่วคราว หลังพบปัญหาต่อเนื่อง เตรียมย้ายไปเปิดใหม่ผ่านแอปฯ “ทางรัฐ” ยันไม่กระทบผู้ที่ลงทะเบียนรับสิทธิแล้ว นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาการลงทะเบียน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ที่เริ่มเปิดเมื่อวันที่ 1 ก.ค. ที่ผ่านมา ก่อนเกิดปัญหาต่อเนื่องจนถึงขณะนี้ เพื่อให้เกิดความสะดวกและรวดเร็วขึ้น การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) รายงานว่าอยู่ระหว่างพิจารณา 2 แนวทาง คือ ล่าสุดเช้าวันนี้ นายสรวงศ์ ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวไทย ว่า ล่าสุดยังได้รับรายงานถึงปัญหาการลงทะเบียนมาอย่างต่อเนื่อง จึงสั่งการให้หยุดการลงทะเบียน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ผ่านทางเว็บไซต์ www.เที่ยวไทยคนละครึ่ง หรือแอปฯ Amazing Thailand ตั้งแต่บัดนี้ทันที แล้วให้ย้ายไปลงทะเบียนที่แอปฯ “ทางรัฐ” เพราะมีระบบยืนยันตัวตนในแอปฯ อยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องเพิ่มขั้นตอน ส่วนจะเริ่มได้เมื่อใด ณ เวลานี้ยังตอบชัดเจนไม่ได้ แต่วันนี้ (4 ก.ค.) จะหารือกับทีมเทคนิค ฝ่ายไอทีว่าจะสามารถย้ายระบบมาลงทะเบียนได้เร็วที่สุดเมื่อใด ยืนยันจะรีบดำเนินการให้เร็วที่สุด […]

ต้อนรับอบอุ่น “ภูมิธรรม-เดชอิศม์” เข้ามหาดไทยวันแรก

กระทรวงมหาดไทย 4 ก.ค.- “ภูมิธรรม” พร้อม “เดชอิศม์” เข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระสังฆราช ก่อนเข้า ก.มหาดไทย วันแรก สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และมอบนโยบาย โดยมีข้าราชการและเจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เดินทางเข้าปฏิบัติหน้าที่เป็นวันแรก โดยมี น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย คณะผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย อธิบดี หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน ร่วมให้การต้อนรับ โอกาสนี้ นายภูมิธรรม นำคณะเข้าถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว บริเวณหน้าพระอุโบสถ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ราชวรวิหาร และเข้าเฝ้าถวายเครื่องสักการะสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ณ พระตำหนัก และเข้าสักการะสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ เลขานุการสมเด็จพระสังฆราช ณ อาคารสัมฤทธิ์วิทยากร ภายในวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ราชวรวิหาร จากนั้น นายภูมิธรรม และคณะ […]