‘นพ.อุดม’ห่วง ม.เอกชน ปิดตัว แนะปรับหลักสูตรตอบโจทย์4.0

กทม.28 ม.ค.-รมช.ศึกษาฯชี้อุดมศึกษาต้องปรับหลักสูตร-การเรียนการสอน เพื่อคุณภาพเเละตอบโจทย์ไทยแลนด์ 4.0 หลังพบ ม.เอกชนปิดตัวจำนวนมาก เชื่อหากการศึกษาดี ไทยจะก้าวข้ามประเทศรายได้ปานกลางได้ แต่ปัจจุบันค่าจีดีพีวัดจากเงินเดือนยังไม่ถึงครึ่ง


นพ.อุดม คชินทร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานเปิดงานประชุมวิชาการระดับชาติด้านการประกันคุณภาพการศึกษาครั้งที่ 1(Thailand Quality Education Forum 2019) ที่มหาวิทยาลัยมหิดลร่วมกับ 5 มหาวิทยาลัยจัดขึ้น เพื่อเป็นเวทีเเลกเปลี่ยนเรียนรู้ในระดับชาติระหว่างบุคลากรด้านการประกันคุณภาพในสถาบัน อุดมศึกษาไทยเพื่อขับเคลื่อนการประกันคุณภาพการศึกษาตามมาตรฐานการศึกษาของชาติเเละสร้างเครือข่ายของนักประกันคุณภาพเเละนักพัฒนาคุณภาพการศึกษา รวมทั้งเป็นการร่วมเฉลิมฉลอง 50 ปีเเห่งวันพระราชทานนามเเละ 131 ปีมหาวิทยาลัยมหิดลในวันที่ 2 มีนาคมนี้ โดยมีผู้บริหารมหาวิทยาลัยเเละบุคลากรด้านการประกันคุณภาพในสถาบัน อุดมศึกษาเข้าร่วมกว่า 400 คน


รมช.ศึกษาฯ กล่าวบรรยายพิเศษเรื่อง ฝ่าวิกฤตอุดมศึกษาไทยด้วยคุณภาพว่า ประเทศไทยเดินหน้าด้วยยุทธศาสตร์ไทยแลนด์ 4.0 ดังนั้นคนในประเทศ ก็ต้องเป็นคนไทย 4.0 ด้วย มหาวิทยาลัยมีหน้าที่หลัก 2 หน้าที่ คือให้การศึกษาเพื่อสร้างคนที่มีคุณภาพและการวิจัยเเละพัฒนาเพื่อสร้างนวัตกรรม ปัจจุบันประเทศมีกำลังคนที่เก่งด้าน 4.0 หรือทักษะที่จำเป็นจำนวนไม่มากพอ สถาบันอุดมศึกษาซึ่งถือเป็นหัวรถจักรด้านการศึกษา   ที่จะพัฒนาเศรษฐกิจเเละศักยภาพการแข่งขันของประเทศ ต้องปรับหลักสูตรให้ตอบโจทย์ 

ขณะนี้มหาวิทยาลัยเอกชนมีบางส่วนเริ่มทยอยปิดตัวลงเพราะไม่มีผู้เรียน จึงควรปรับปรุงหลักสูตรเเละการเรียนการสอน เป้าหมายใหม่ของการเรียนรู้ไม่ใช่เเค่เข้าไปเป็นแรงงานเเต่ต้องเป็นผู้ประกอบการ สร้างนวัตกรรมใหม่ ซึ่งนี่เป็นหน้าที่ครู หน้าที่สถาบันการศึกษา ต้องใช้เด็กเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้เพื่อตอบโจทย์เเละดึงศักยภาพของเด็กออกมา โดยคุณภาพการเรียนรู้ในยุค4.0 ต้องเน้นการวิจัย การพัฒนาวิชาชีพหรือสมรรถนะเเละการฝึกอบรมหรือทักษะ เน้นการพัฒนาอาชีพยึดตัวผู้เรียนเป็นสำคัญ จากเดิมยึดหลักสูตรเเละมห้ครูสำคัญ เน้นเติมเต็มสิ่งที่ขาดทั้งความรู้เเละทักษะจำเป็น การเรียนต้องตอบโจทย์บุคคล ไม่ใช่เเค่เรียนให้ครบตามหลักสูตร เรียนรู้เพื่อสร้างประสบการณ์ เน้นเรียนรู้นอกห้องเรียนนอกระบบ เน้นทุกช่วงอายุ มหาวิทยาลัยไม่ใช่เเค่สำหรับการเรียนต่อของเด็กมัธยมศึกษาเท่านั้น สถานศึกษาต้องเป็นเเหล่งเรียนรู้ แหล่งรวมจินตนาการสร้างนวัตกรรมสำหรับคนทุกช่วงวัย เเละเน้นหลักสูตรที่ไม่มีประกาศนียบัตรเเละปริญญา เพราะปัจจุบันสถานประกอบการต้องการคนที่มีทักษะมากกว่าจะประเมินเเค่ใบปริญญา ครูต้องเปลี่ยนบทบาทในการสอนต้องเป็นโค้ชดูเเลการเรียนของเด็ก 


ส่วนเรื่องคุณภาพการศึกษาคำสอนของสมเด็จพระบรมราชชนกที่ว่า ความสำเร็จที่เเท้จริงของการเรียนรู้คือต้องนำความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อมวลมนุษยชาติ มหาวิทยาลัยถูกคาดหวังว่าจะผลิตบัณฑิตที่มีคุณภาพ เเละเป็น Global Professional คือต้องรู้ลึกในศาสตร์หรืออาชีพของตนเอง มีความรู้กว้าง สร้างองค์ความรู้ใหม่เเละนวัตกรรมเพราะนวัตกรรมมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศ ดังนั้นเป้าหมายใหม่ของคุณภาพการศึกษาคือการสร้างนวัตกรรม การประกันคุณภาพจึงต้องเกิดขึ้น เพื่อให้การศึกษามีมาตรฐาน มีความเหมาะสมเเละสร้างความพึงพอใจกับผู้ใช้งานจากตัวบุคคลหรือนักศึกษาเพื่อจะได้นำพาประเทศก้าวข้ามประเทศที่ติดกับดักรายได้ปานกลาง ซึ่งการจะก้าวพ้นไปได้ค่าจีดีพีของคนในประเทศคือต้องมีเงินเดือน 32,000 บาทแต่ประเทศไทยยังไม่ถึงครึ่ง

รมช.ศึกษาฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า วิกฤติที่มหาวิทยาลัยพบในปีนี้ คือจำนวนนักเรียนใหม่เข้าเรียนลดลง ในภาพรวมร้อยละ10-15 ที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดคือ มหาวิทยาลัยเอกชน ซึ่งแบ่งเป็น2 กลุ่ม กลุ่มแรกคือ มหาวิทยาลัยเอกชนขนาดใหญ่ นักศึกษาลดลงร้อยละ20-30 กลุ่มที่2 คือมหาวิทยาลัยเอชกนขนาดเล็กลดลงร้อยละ 50-70 ซึ่งน่าเป็นห่วงมากว่าจะอยู่ได้อย่างไร ที่ผ่านมามีอธิการบดีมหาวิทยาลัยเอกชนบางแห่งมาพบเพื่อหารือกับตนว่า รัฐบาลจะมีทางใดที่จะช่วยเหลือมหาวิทยาลัยเอกชนขนาดเล็กเหล่านี้ได้บ้าง ซึ่งตนให้คำตอบว่าคงเป็นไปได้ยาก ซึ่งมหาวิทยาลัยเอกชนจะรอดได้ ต้องมีคุณภาพ โดยมหาวิทยาลัยจะต้องพัฒนาคณะที่เป็นจุดแข็งของตนเอง 1-2 คณะเท่านั้น และทำให้มีคุณภาพสูง ส่วนคณะที่เหลือก็คงต้องปิดตัวไป เพราะไม่มีมหาวิทยาลัยใดที่จะเก่งทุกคณะ ทั้งหาความร่วมมือระหว่างคณะและมหาวิทยาลัย ที่นำทรัพยากรทั้งอาจารย์ อุปกรณ์ ของมหาวิทยาลัยมาช่วยกันยกระดับคุณภาพ ไม่เช่นนั้นจะอยู๋ไม่ได้ ซึ่งขณะนี้รัฐบาลก็ทำอยู่ก็คือหลักสูตรบัณฑิตพันธุ์ใหม่ ที่รัฐบาลเห็นแล้วว่าน่าจะเป็นคำตอบในการพัฒนาประเทศรัฐถึงจะกล้าลงทุนสนับสนุนงบประมาณ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ทูน” แจ้งความถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะซื้อของย่านคลองถม

สน.พลับพลาไชย1 11 มิ.ย.- “ทูน หิรัญทรัพย์” อดีตนักแสดงรุ่นใหญ่ แจ้งความ สน.พลับพลาไชย 1 ถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะเดินซื้อของย่านคลองถม อีกฝ่ายอ้างป้องกันตัว นายทูน หิรัญทรัพย์ หรือ นายสพัชญ์นนทน์ อายุ 69 ปี อดีตดารานักแสดงรุ่นใหญ่ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.พลับพลาไชย 1 กรณีถูกวัยรุ่น 2 คน รุมทำร้ายร่างกาย ได้รับบาดเจ็บ ขณะไปเดินซื้อของในซอยข้างคลองถมพลาซ่า เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ที่ผ่านมา นายทูน เล่าเหตุการณ์ว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองและครอบครัวได้ไปเดินหาซื้อไฟในย่านคลองถม ระหว่างนั้นก็มีผู้คนมาทักทายเพราะเห็นว่าตัวเองเป็นดารา แต่มีวัยรุ่นคนหนึ่งพูดจาไม่น่าฟังบอกว่าดาราอะไรเคยไม่รู้จัก จึงตักเตือนในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ ว่า จะพูดจาอะไรก็ต้องให้เกียรติคนอื่นโดยเฉพาะคนที่อาวุโสกว่า จนเกิดมีปากเสียงกัน จากนั้นวัยรุ่นดังกล่าวก็ชกเข้าที่เบ้าตาขวา ซึ่งเป็นตาข้างที่บอดอยู่ จึงไม่เห็นหมัด ก่อนจะมีตำรวจเข้ามาระงับเหตุ แต่วัยรุ่นคู่กรณีก็ยังทำท่าไม่พอใจฮึดฮัดใส่อยู่ ก่อนจะถูกควบคุมตัวไปที่ สน.พลับพลาไชย ซึ่งตัวเองก็ได้เดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีด้วยเช่นกัน นายทูน กล่าวว่า ตลอดชีวิตที่เป็นนักแสดงนั้นเคยแต่เจอผู้คนเข้ามาทักทาย ขอถ่ายรูป ด้วยความมีมิตรไมตรี […]

พายุ “หวู่ติบ” ไม่เข้าไทย แต่เสริมมรสุม ฝนเพิ่ม คลื่นแรง เตือนระวังน้ำหลาก

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย.-ไทยมีฝนตกเพิ่ม โดยพายุ​ “หวู่ติบ” จะส่งอิทธิพลให้ร่องมรสุมพาดผ่านและลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น กรมอุตุฯ เตือนประชาชนเฝ้าระวังภัยน้ำหลากและคลื่นลมแรงอย่างใกล้ชิด นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ช่วงวันที่ 12–13 มิถุนายน 2568 ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งอันดามัน ได้แก่ ระนอง พังงา จันทบุรี และตราด ซึ่งได้รับอิทธิพลจากร่องมรสุมที่พาดผ่านตอนบนของประเทศ และลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรง กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศแจ้ง​เตือน​ว่า พายุโซนร้อน “หวู่ติบ” บริเวณทะเลอันดามันตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ห่างจากเกาะไหหลำของจีนไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 160 กิโลเมตร มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เคลื่อนตัวทางตะวันตกเฉียงเหนือ คาดว่า​ จะขึ้นฝั่งประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 13-14 มิ.ย.68 และจะอ่อนกำลังลงตามลำดับ แม้ศูนย์กลางพายุจะไม่เข้าสู่ประเทศไทยโดยตรง แต่พายุนี้เป็นอีกปัจจัยที่เสริมให้ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้หลายพื้นที่มีฝนตกหนัก คลื่นลมในทะเลอันดามันตอนบนสูง 2–3 เมตร และในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองอาจสูงมากกว่า 3 […]

ผลแล็บพบข้าวมันไก่ติดเชื้อ ทำครู-นร.ท้องเสีย 23 คน

ปราจีนบุรี 12 มิ.ย. – แม่ค้ามือเป็นแผล! ครู-นักเรียน กินข้าวมันไก่ ท้องเสียยกชั้น หามส่ง รพ. แพทย์ชี้ชัดผลแล็บ พบเชื้อสตาฟิโลคอคคัส ออเรียส ต้นเหตุทำอาหารเป็นพิษ จากกรณีที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมือง จ.ปราจีนบุรี ต้องระดมทั้งรถตู้โรงเรียน และรถฉุกเฉิน เร่งนำตัวนักเรียนและคุณครู ส่งโรงพยาบาล จำนวน 23 คน หลังทุกคนกินข้าวมันไก่ในช่วงพักกลางวัน พอตกบ่ายก็มีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ และอาเจียน บางรายเป็นไข้หนาวสั่น คาดสาเหตุมาจากอาหารเป็นพิษ ผู้ป่วยถูกนำตัวส่งรักษาอาการที่ห้องผู้ป่วยฉุกเฉิน รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร รวม 16 คน (นักเรียน 15 คน ครู 1 คน) เบื้องต้น แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้วบางส่วนเหลือคุณครูที่ต้องดูอาการเนื่องจากมีอาการช็อก ส่วนนักเรียน ยังคงต้องดูอาการอีก 9 คน ซึ่งคาดว่าแพทย์น่าจะอนุญาตให้กลับบ้านได้ภายในวันนี้ ส่วนที่ รพ.ค่ายจักรพงษ์ มีจำนวน 7 คน (เป็นนักเรียนทั้งหมด) เบื้องต้น […]

หลุดภาพ​ “ชาดา-สันติ-​นายกด๊อยซ์” สะพัดขน 6 สส. ​ซบ ​“ภท.”

กทม. 11​ มิ.ย. – “ชาดา-สันติ-นายกด๊อยซ์” ร่วมวงกินข้าว หลังสะพัดขน “6 สส.มะขามหวาน” เด็กลุงป้อม ย้ายซบ “ภูมิใจไทย” ผู้สื่อข่าวรายงานว่า​ ภายหลัง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) มีคำสั่งเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.68 แต่งตั้ง นางจิตรา หมีทอง ซึ่งเป็นทีมงานนายสันติ พร้อมพัฒน์ แกนนำ 6 สส. เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ เป็นคณะที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (นายอนุทิน ชาญวีรกูล) และ รมว.มหาดไทย ล่าสุดช่วงเย็น วันที่ 11 มิ.ย. ได้ปรากฏภาพนายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี แกนนำพรรคภูมิใจไทย ได้รับประทานอาหารเย็น ร่วมกับ นายสันติ และ นายอัครเดช ทองใจสด นายก อบจ.เพชรบูรณ์ ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง […]

ข่าวแนะนำ

สยบรอยร้าว “พีระพันธุ์” โพสต์ภาพคู่ “เอกนัฏ” ยัน รทสช.ไปต่อ

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย. – “พีระพันธุ์” โพสต์ภาพโชว์ปึก “เอกนัฏ” สยบรอยร้าว ขอบคุณร่วมอดทนต่อสู้ทุนใหญ่ ยัน รทสช.ไปต่อแน่ ป้อง “ทีมสุดซอย” ถูกใส่ร้าย เมื่อเวลา 21.00 น. วันนี้ (12 มิ.ย.68) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ โพสต์ภาพถ่ายคู่กับนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมข้อความระบุว่า “ผูกพันและเชื่อใจ การที่มีคนกล่าวหาขิงว่าจะไปขอให้มาโค่นทำลายผมจากหัวหน้าพรรค ผมได้แต่ขำ ขิงกับผม เราผ่านร้อนผ่านหนาวด้วยกันมามาก คำพูดแบบนี้จึงเป็นเรื่องขำๆ ของคนที่คิดคำแก้ตัวไม่ออก ผมกับท่านเลขาฯ ขิง เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เรารู้จักกันมานาน ตั้งแต่ขิงยังไม่เข้ามาวงการเมือง จนมาทำงานการเมืองร่วมกัน ขิงเป็นคนหนุ่มที่มุ่งมั่นทำงานการเมืองเพื่อประชาชน ไม่ใช่มาเล่นการเมือง เป็นคนซื่อสัตย์ ตรงไปตรงมา เมื่อผมจะทำพรรคการเมือง คนแรกที่ผมคิดถึงจึงเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก ‘ขิง’ ผมหารือกับขิงว่าอยากชวนเขามาทำพรรคการเมืองตามแนวทางที่เราอยากทำอยากให้เป็น คือเป็นพรรคการเมืองที่ทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองและประชาชน เข้ามาแก้ไขปัญหาทุกอย่างเพื่อประชาชน ไม่ใช่เพื่อจะมีสถานะหรือมีตำแหน่งทางการเมือง […]

จับตานายกฯ ถกหัวหน้าพรรคร่วมบางพรรค ปรับ ครม.

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย. – จับตา “นายกฯ แพทองธาร” ถกหัวหน้าพรรคร่วมบางพรรค ปรับ ครม. หลังเลื่อนประชุม ครม.สัญจร จ.พิษณุโลก 23-24 มิ.ย.นี้ คาดรอ ครม.ใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันพรุ่งนี้ (13 มิ.ย.) ที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้แจ้งลาราชการในเวลา 11.30-13.00 น. หลังจบภารกิจเป็นประธานในพิธีปิดการประชุมเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ทั่วโลก ประจำปี 2568 และมีรายงานว่านายกฯ มีภารกิจร่วมประชุมผู้ปกครอง จากนั้นจะกลับมาปฏิบัติงานที่ทำเนียบรัฐบาลในช่วงบ่าย ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายกฯ จะเชิญหัวหน้าพรรคร่วมบางพรรค หารือถึงการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ท่ามกลางกระแสข่าวการต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรีระหว่างพรรคเพื่อไทยและภูมิใจไทย และปัญหาภายในของพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้เกิดความชัดเจน นอกจากนั้นยังมีรายงานว่า สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ได้แจ้งเลื่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร ) ระหว่างวันที่ 23-24 มิ.ย.นี้ ที่ จ.พิษณุโลก ออกไปก่อน […]

เสียงจากช่องบก รอวันสันติภาพ

อุบลราชธานี 12 มิ.ย. – ผ่านมาแล้ว 15 วัน นับตั้งแต่เหตุการณ์ปะทะที่ช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี พื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังคงตึงเครียด แต่ชาวบ้านในพื้นที่ต่างตั้งความหวังว่าการประชุม JBC วันที่ 14 มิ.ย.นี้ จะหาทางออกได้โดยสันติ เพื่อให้ประชาชนทั้งสองประเทศได้กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ.-สำนักข่าวไทย

แอร์อินเดียพร้อมผู้โดยสาร 242 คน ตกที่สนามบินอาห์เมดาบัด

นิวเดลี 12 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์ อินเดีย ที่กำลังมุ่งหน้าไปยังกรุงลอนดอน ของอังกฤษ พร้อมด้วยผู้โดยสาร 242 คน เกิดอุบัติเหตุตก หลังจากที่เพิ่งออกเดินทางจากสนามบินเมืองอาห์เมดาบัด ทางตะวันตกของอินเดีย เพียงไม่กี่นาที แอร์อินเดีย กล่าวว่า เครื่องบินลำดังกล่าวมีกำหนดเดินทางไปยังสนามบินแก็ตวิก ในอังกฤษ ขณะที่ตำรวจกล่าวว่า เครื่องบินตกในบริเวณพื้นที่พลเรือนใกล้กับสนามบิน ไฟลท์เรดาร์ 24 ซึ่งติดตามความเคลื่อนไหวทางอากาศ กล่าวว่า เครื่องบินลำนี้เป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลเนอร์ ซึ่งเป็นเครื่องบินโดยสารที่ทันสมัยมาก ๆ ที่ให้บริการอยู่ในขณะนี้ โทรทัศน์ของอินเดีย รายงานว่า อุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นในขณะที่เครื่องบินกำลังทะยานขึ้นจากสนามบิน ภาพจากโทรทัศน์ช่องหนึ่ง แสดงให้เห็นภาพเครื่องบินออกจากสนามบินและบินอยู่เหนือพื้นที่ย่านพักอาศัยของประชาชน จากนั้นเครื่องบินก็หายไปจากจอ ก่อนที่จะเห็นควันไฟขนาดใหญ่ลอยจากบ้านเรือนประชาชนขึ้นไปบนท้องฟ้า นอกจากนั้น ยังมีภาพประชาชนถูกเคลื่อนย้ายด้วยเปลไปยังรถพยาบาลที่นำผู้ได้รับบาดเจ็บไปโรงพยาบาล ช้อมูลการควบคุมการจราจรทางอากาศที่สนามบินอาห์เมดาบัด ระบุว่า เครื่องบินออกเดินทางเมื่อเวลา 13.39 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกับ 15.09 น. ตามเวลาในประเทศไทย จากทางวิ่งหมายเลข 23 เครื่องบินส่งสัญญาณฉุกเฉินขอความช่วยเหลือ แต่หลังจากนั้นก็ติดต่อนักบินไม่ได้อีกเลย.-813.-สำนักข่าวไทย