fbpx

‘นพ.อุดม’ห่วง ม.เอกชน ปิดตัว แนะปรับหลักสูตรตอบโจทย์4.0

กทม.28 ม.ค.-รมช.ศึกษาฯชี้อุดมศึกษาต้องปรับหลักสูตร-การเรียนการสอน เพื่อคุณภาพเเละตอบโจทย์ไทยแลนด์ 4.0 หลังพบ ม.เอกชนปิดตัวจำนวนมาก เชื่อหากการศึกษาดี ไทยจะก้าวข้ามประเทศรายได้ปานกลางได้ แต่ปัจจุบันค่าจีดีพีวัดจากเงินเดือนยังไม่ถึงครึ่ง


นพ.อุดม คชินทร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานเปิดงานประชุมวิชาการระดับชาติด้านการประกันคุณภาพการศึกษาครั้งที่ 1(Thailand Quality Education Forum 2019) ที่มหาวิทยาลัยมหิดลร่วมกับ 5 มหาวิทยาลัยจัดขึ้น เพื่อเป็นเวทีเเลกเปลี่ยนเรียนรู้ในระดับชาติระหว่างบุคลากรด้านการประกันคุณภาพในสถาบัน อุดมศึกษาไทยเพื่อขับเคลื่อนการประกันคุณภาพการศึกษาตามมาตรฐานการศึกษาของชาติเเละสร้างเครือข่ายของนักประกันคุณภาพเเละนักพัฒนาคุณภาพการศึกษา รวมทั้งเป็นการร่วมเฉลิมฉลอง 50 ปีเเห่งวันพระราชทานนามเเละ 131 ปีมหาวิทยาลัยมหิดลในวันที่ 2 มีนาคมนี้ โดยมีผู้บริหารมหาวิทยาลัยเเละบุคลากรด้านการประกันคุณภาพในสถาบัน อุดมศึกษาเข้าร่วมกว่า 400 คน


รมช.ศึกษาฯ กล่าวบรรยายพิเศษเรื่อง ฝ่าวิกฤตอุดมศึกษาไทยด้วยคุณภาพว่า ประเทศไทยเดินหน้าด้วยยุทธศาสตร์ไทยแลนด์ 4.0 ดังนั้นคนในประเทศ ก็ต้องเป็นคนไทย 4.0 ด้วย มหาวิทยาลัยมีหน้าที่หลัก 2 หน้าที่ คือให้การศึกษาเพื่อสร้างคนที่มีคุณภาพและการวิจัยเเละพัฒนาเพื่อสร้างนวัตกรรม ปัจจุบันประเทศมีกำลังคนที่เก่งด้าน 4.0 หรือทักษะที่จำเป็นจำนวนไม่มากพอ สถาบันอุดมศึกษาซึ่งถือเป็นหัวรถจักรด้านการศึกษา   ที่จะพัฒนาเศรษฐกิจเเละศักยภาพการแข่งขันของประเทศ ต้องปรับหลักสูตรให้ตอบโจทย์ 

ขณะนี้มหาวิทยาลัยเอกชนมีบางส่วนเริ่มทยอยปิดตัวลงเพราะไม่มีผู้เรียน จึงควรปรับปรุงหลักสูตรเเละการเรียนการสอน เป้าหมายใหม่ของการเรียนรู้ไม่ใช่เเค่เข้าไปเป็นแรงงานเเต่ต้องเป็นผู้ประกอบการ สร้างนวัตกรรมใหม่ ซึ่งนี่เป็นหน้าที่ครู หน้าที่สถาบันการศึกษา ต้องใช้เด็กเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้เพื่อตอบโจทย์เเละดึงศักยภาพของเด็กออกมา โดยคุณภาพการเรียนรู้ในยุค4.0 ต้องเน้นการวิจัย การพัฒนาวิชาชีพหรือสมรรถนะเเละการฝึกอบรมหรือทักษะ เน้นการพัฒนาอาชีพยึดตัวผู้เรียนเป็นสำคัญ จากเดิมยึดหลักสูตรเเละมห้ครูสำคัญ เน้นเติมเต็มสิ่งที่ขาดทั้งความรู้เเละทักษะจำเป็น การเรียนต้องตอบโจทย์บุคคล ไม่ใช่เเค่เรียนให้ครบตามหลักสูตร เรียนรู้เพื่อสร้างประสบการณ์ เน้นเรียนรู้นอกห้องเรียนนอกระบบ เน้นทุกช่วงอายุ มหาวิทยาลัยไม่ใช่เเค่สำหรับการเรียนต่อของเด็กมัธยมศึกษาเท่านั้น สถานศึกษาต้องเป็นเเหล่งเรียนรู้ แหล่งรวมจินตนาการสร้างนวัตกรรมสำหรับคนทุกช่วงวัย เเละเน้นหลักสูตรที่ไม่มีประกาศนียบัตรเเละปริญญา เพราะปัจจุบันสถานประกอบการต้องการคนที่มีทักษะมากกว่าจะประเมินเเค่ใบปริญญา ครูต้องเปลี่ยนบทบาทในการสอนต้องเป็นโค้ชดูเเลการเรียนของเด็ก 


ส่วนเรื่องคุณภาพการศึกษาคำสอนของสมเด็จพระบรมราชชนกที่ว่า ความสำเร็จที่เเท้จริงของการเรียนรู้คือต้องนำความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อมวลมนุษยชาติ มหาวิทยาลัยถูกคาดหวังว่าจะผลิตบัณฑิตที่มีคุณภาพ เเละเป็น Global Professional คือต้องรู้ลึกในศาสตร์หรืออาชีพของตนเอง มีความรู้กว้าง สร้างองค์ความรู้ใหม่เเละนวัตกรรมเพราะนวัตกรรมมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศ ดังนั้นเป้าหมายใหม่ของคุณภาพการศึกษาคือการสร้างนวัตกรรม การประกันคุณภาพจึงต้องเกิดขึ้น เพื่อให้การศึกษามีมาตรฐาน มีความเหมาะสมเเละสร้างความพึงพอใจกับผู้ใช้งานจากตัวบุคคลหรือนักศึกษาเพื่อจะได้นำพาประเทศก้าวข้ามประเทศที่ติดกับดักรายได้ปานกลาง ซึ่งการจะก้าวพ้นไปได้ค่าจีดีพีของคนในประเทศคือต้องมีเงินเดือน 32,000 บาทแต่ประเทศไทยยังไม่ถึงครึ่ง

รมช.ศึกษาฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า วิกฤติที่มหาวิทยาลัยพบในปีนี้ คือจำนวนนักเรียนใหม่เข้าเรียนลดลง ในภาพรวมร้อยละ10-15 ที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดคือ มหาวิทยาลัยเอกชน ซึ่งแบ่งเป็น2 กลุ่ม กลุ่มแรกคือ มหาวิทยาลัยเอกชนขนาดใหญ่ นักศึกษาลดลงร้อยละ20-30 กลุ่มที่2 คือมหาวิทยาลัยเอชกนขนาดเล็กลดลงร้อยละ 50-70 ซึ่งน่าเป็นห่วงมากว่าจะอยู่ได้อย่างไร ที่ผ่านมามีอธิการบดีมหาวิทยาลัยเอกชนบางแห่งมาพบเพื่อหารือกับตนว่า รัฐบาลจะมีทางใดที่จะช่วยเหลือมหาวิทยาลัยเอกชนขนาดเล็กเหล่านี้ได้บ้าง ซึ่งตนให้คำตอบว่าคงเป็นไปได้ยาก ซึ่งมหาวิทยาลัยเอกชนจะรอดได้ ต้องมีคุณภาพ โดยมหาวิทยาลัยจะต้องพัฒนาคณะที่เป็นจุดแข็งของตนเอง 1-2 คณะเท่านั้น และทำให้มีคุณภาพสูง ส่วนคณะที่เหลือก็คงต้องปิดตัวไป เพราะไม่มีมหาวิทยาลัยใดที่จะเก่งทุกคณะ ทั้งหาความร่วมมือระหว่างคณะและมหาวิทยาลัย ที่นำทรัพยากรทั้งอาจารย์ อุปกรณ์ ของมหาวิทยาลัยมาช่วยกันยกระดับคุณภาพ ไม่เช่นนั้นจะอยู๋ไม่ได้ ซึ่งขณะนี้รัฐบาลก็ทำอยู่ก็คือหลักสูตรบัณฑิตพันธุ์ใหม่ ที่รัฐบาลเห็นแล้วว่าน่าจะเป็นคำตอบในการพัฒนาประเทศรัฐถึงจะกล้าลงทุนสนับสนุนงบประมาณ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบภัย

“นายกฯ แพทองธาร” ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบอุทกภัย หวัง ศปช.รับมือ-ช่วยเหลือรวดเร็วทันท่วงที รวมถึงการเยียวยาหลังจากนี้

ฟื้นฟูชายแดนแม่สาย-เร่งกู้ตลาดสายลมจอย

เจ้าหน้าที่เร่งฟื้นฟูชุมชนชายแดนแม่สายที่ถูกน้ำท่วมและจมโคลนมานาน 10 วัน รวมทั้งเร่งกู้ตลาดสายลมจอยแหล่งจำหน่ายสินค้าชายแดนที่เสียหายอย่างหนัก

ฆ่ารัดคอขับโบลท์

รวบ “ไอ้แม็ก” ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ พบเคยถูกจับคดีโหด

จับแล้ว “ไอ้แม็ก” เดนคุก ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ ทิ้งร่างอำพราง ริมถนนห้วยพลู จ.นครปฐม ก่อนเอารถไปขาย สอบประวัติ พบเพิ่งพ้นโทษ คดีล่ามโซ่ล่วงละเมิดเด็กวัย 13 ปี นาน 1 สัปดาห์ เมื่อปี 2553